กิลด์พวกนี้มันก็ออกแนวรับจ้างสารพัดแหละครับ รับทำทุกอย่างที่มีคนขอเข้ามา เก็บสมุนไพร ฆ่ามอน ล้างท่อ คุ้มกัน ทำมันทุกอย่างที่มีคนออกเควสให้แล้วได้ค่าตอบแทน ระบบนี้ดีไหม ดีในระดับนึงครับ เพราะส่วนใหญ่จะเซ็ตโลกเป็นยุคกลางกันหมด ซึ่งอำนาจจะบริหารจะอยู่ที่ขุนนางกับราชาเป็นส่วนใหญ่ อารมณ์นักผจญภัยมันก็คงคล้ายๆกับพวกนายพรานนี่แหละ มีหมูป่ามาก่อกวนที่ไร่จะให้ไปเรียกทหารมาจัดการก็คงไม่มีขุนนางที่ไหนยอมส่งทหารไปทำแน่ครับ เพราะงั้นจึงต้องไปจ้างคนพวกนี้แหละมาจัดการ เพราะตามตรรกะแล้วทหารคือกำลังพลสำคัญของพวกขุนนางการจะเคลื่อนพลหรือส่งคนออกไปไหนมาไหนง่ายๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ดินแดนข้างๆหวาดระแวงได้ว่าจะมาตีเมืองตัวเองหรือเปล่า ดังนั้นการมีพวกกิลด์นักผจญภัยก็จึงเป็นคำตอบครับ
อีกอย่างทหารยุคกลางถ้าจำไม่ผิดคือทหารอาชีพมีเงินประจำ ดังนั้นจะรับจำนวนจำกัดในกรณีที่ไม่มีสงครามเพราะต้องคุมเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเพราะมันมีต้นทุนเช่น ค่าฝึก ค่าอุปกรณ์ต่างๆอีก ดังนั้นจะส่งคนของตัวเองไปทำงานเสี่ยงๆบ่อยๆไม่ได้ครับ
ปล.ส่วนพวกบัคอย่างนักผจญภัยแรงค์ S ที่เก่งขนาดล้มประเทศได้ส่วนมากก็จะมีเรื่องละไม่กี่คนแล้วแต่ละคนก็จะโดนยัดนิสัยแปลกๆเข้าไปทำให้ชอบความเป็นอิสระไม่อยากถูกผูกมัดทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองทุกคน ดังนั้น ถ้าจะให้กิลด์ก่อการล้มประเทศได้ก็ต้องให้พวกแรงค์ S สักคนยอมร่วมมือนั้นแหละถึงจะสำเร็จ ส่วนพวกแรงค์ A ผมมองว่าก็น่าจะพอๆกับระดับท็อปของพวกทหารแหละครับปล2.อย่างเรื่อง"มนุษย์ธรรมดาๆแต่มีเมียเป็นกอริล่า" นักผจญภัยเมืองหลวงแต่ละคนอย่างเก่งแต่ทหารในเรื่องก็ไม่ใช่กระจอกเหมือนกัน ส่วนพวกแรงค์ S แต่ละคนก็.........
ผมว่า ระดับ S มันเป็นบุคคลแบบที่ว่า "ไม่มีกิลด์ก็ไม่ต่างไป"คือคนที่เก่งพออยู่แล้วที่จะสร้างตำนานของตนเอง
จะว่าkonosuba ทำได้สมจริงที่สุดใสจุดนี้ก็ได้มั้ง
ว่าราชวงศ์ใช้แผนแต่งงานกับเชื้อสายผู้กล้าที่มีสกิลโกงมาตลอด
ทำให้จะมีสกิลโกงในสายเลือดและของโกงของบรรพบุรุษ
ผมเจอ GM พูดว่า ทำแฟนตาซีให้สมจริง ว่าไม่ใช่แบบ game of throne เสียทีเดียว
หากในตำนานบอกว่า ราชามีเขื้อสายเทพเจ้า ก็แปลว่ามีเชื้อสายเทพเจ้าจริงๆ
อยู่เหนือกว่าประชากรที่อยู่ในปกครอง
ในอีกแง่หนึ่ง หลุยส์ศูนย์สนิท ค่อนข้างสมจริงกว่าแนวนี้ในตามความเห็นผมว่า เมจจะกลายเป็นขุนนางและเขื้อพระวงศ์
ชาวบ้านทำอะไรขุนนาง ไม่ได้
ไม่ใช่การดูถูก แต่คือข้อเท็จจริง
ไซโตะ ที่เห็นก็ไม่ใช่ชาวบ้าน แต่คือคนที่มีรูนพลังโกงต่างหาก
โลกแฟนตาซีต่างโลก ให้เหมือนกับว่า หลายคนใข้เวทย์ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นขุนนาง
และขุนนางยังกระจอก ไม่เก่งเท่านักผจญภัยอีกต่างหาก
...
คิดว่าจะพอเอาเทียบกับแนว เมสเตอร์หรือแบล็กบราเทอร์ได้มั้ง?
ที่นักผจญภัยต้องไม่ข้องเกี่ยวกับ การเมืองและสงครามของอาณาจักร
แต่มันมีปัญหาในแนว กำลังภายในปัจจุบัน แบบหวงอี้ว่า
"คนเราฝึกวิชายุทธก็เพื่ออำนาจวาสนา คนที่เก่งจึงไปอยู่ในวงการเมือง" ในแนวนิยายปัจจุบัน
แต่เราจะเห็นว่าจริงๆแล้วไม่ใช่
คนที่เทพจริงๆ เขาใส่ใจกับการทำให้ตนเองเทพขึ้นต่างหาก
คนที่อยู่ในวงการเมือง ต้องใส่ใจกับสถานการณ์ทางการเมือง ไม่สามารถทุ่มเทกับการฝึกสิชาหรือมีเวลาเพียงพอได้
ใจไม่สงบและจะฝึกวิชาก้าวหน้าได้อย่างไร?
กลับมาที่นักผจญภัย
ทางเทคนิค การผจญภัยคือ high risk,high return
ดาบที่ข้างเอว หรือชุดเกราะดีดี ซื้อวัวได้สองตัว อุปกรณ์เวทย์ สามารถขายไปซื้อปราสาทและคนรับใช้ได้ทีเดียว
ทำไมต้องรับใช้ราชา ในเมื่อสามารถใช้เงินซื้อตำแหน่งและปราสาท อย่างสบายมีคนรับใช้ได้เมื่อรีไทร์?