แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: อลิสจังคือผู้เดือดร้อนเกี่ยวกับโครงการเส้นทาง  (อ่าน 2062 ครั้ง)

ออฟไลน์ Alice-chan

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,636
  • ถูกใจแล้ว: 328 ครั้ง
  • ความนิยม: +302/-1746
  • ยังไงก็ไม่ละกิเลสหรอก อยากกลับไปเป็นเด็ก
อลิสจังคิดถูกไหมเจ้าคะ?

การเพิ่มช่องจราจร ทำให้ข้ามถนนยากขึ้น

และ เพิ่มความเสี่ยง ให้กับคนเดินข้ามถนนมากขึ้น

นั่นทำให้อลิสจังต้องการจะเร่งโครงการทางพิเศษ ให้มีระยะการก่อสร้างที่เร็วขึ้นกว่าเดิม

แต่โครงการเกี่ยวกับถนนทั้งหมดรวมถึงทางด่วนหรือทางพิเศษ อลิสจังต้องการให้ให้ความสำคัญกับโครงการนี้น้อยกว่ารถไฟอยู่ดีล่ะเจ้าค่ะ

เพราะโครงการถนนไม่ได้ให้ประโยชน์กับอลิสจัง และยิ่งขยายยิ่งซ้ำร้ายอลิสจังขึ้นไปเท่านั้น

อลิสจังมองว่าโครงการถนนนั้นให้ประโยชน์เฉพาะคนกลุ่มหนึ่ง นั่นก็คือกลุ่มคนที่ขับรถได้และมีใบขับขี่เท่านั้น

แต่โครงการรถไฟนั้นให้ประโยชน์กับทุกๆ คนล่ะเจ้าค่ะ

คำถามของอลิสจังก็คือ

ตลาดนัดจะอยู่ด้านซ้ายมือของภาพ อลิสจังลงรถประจำทางด้านขวามือ

คำถามก็คือ จะให้อลิสจังข้ามถนนยังไงล่ะเจ้าคะ?

อีกด้านหนึ่ง


พวกเขาน่ะ เวลาเขาวางโครงการ เขาเห็นใจคนที่ขับรถไม่เป็นไหม

คนกลุ่มนี้นั้นเคยได้รับความช่วยเหลืออะไรจากโครงการของรัฐหรือไม่เจ้าคะ?

และถ้าหาจุดข้ามถนนให้อลิสจัง ตามที่ถามมาไม่ได้จริงๆ

ข้อเสนอของอลิสจังคือ "รื้อถอนทางทิ้งไปเส้นหนึ่งเถอะเจ้าค่ะ"

ถนนตรงกลาง จากที่เป็นทางหลัก อลิสจังจะให้ดัดแปลงเป็นที่จอดรถล่ะเจ้าค่ะ (สำหรับจุดนี้)


ส่วนจุดอื่นๆ อลิสจังก็อยากให้เป็นแบบนี้เจ้าค่ะ ถือว่าบริหารที่ดินได้ดีเลยล่ะเจ้าค่ะ


เหลือถนนแคบๆ ให้ใช้ความเร็วได้น้อยลง แล้วอลิสจังก็อยากจะเพิ่มสัญญาณไฟ แบบนี้แหละเจ้าค่ะ


แล้วก็
แทนที่จะขยายถนนเอาใจคนที่ขับรถเองได้นี่
เอางบมาจัดรถประจำทางให้เข้าถึงครบทุกหมู่บ้านจะดีกว่าไหม
อย่างน้อยๆ ก็ประมาณนี้


อลิสจัง
2019.10.4
​(๑╹ᆺ╹)ぬんぬん
 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,380
  • ถูกใจแล้ว: 2055 ครั้ง
  • ความนิยม: +191/-398
  • เพศ: ชาย
เอาเป็นว่าตอนข้ามก็ดูรถดีๆ ไม่มีใครช่วยเหลือได้หรอก
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,203
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
บ้านเรามันไม่มีตังครับการไช้ตังก็เป็นอีกเรื่องที่มีปัณหาและที่แย่ที่สุดคือการนำความรู้จากนอกมาแบบครึ่งๆกลางๆและไอ้ครึ่งๆที่เอามาดันเป็นส่วนที่แย่ที่สุดอีกต่างหาก อย่างที่รู้กันว่ารถติดเพราะมีรถเยอะก็แก้ด้วยการขยายเส้นทางไห้กว้างขึ้นจุดกลับรถไกลขึ้นเพื่อไห้รถอยู่บนถนนนานยิ่งขึ้น ทังๆที่รู้ว่าประเทศที่แก้ปัณหารถติดได้ ไม่ได้ไช้วิธีนี้ไอ้การขยายเส้นทางมันคือทางแก้เมื่อร้อยกว่าปีก่อนที่เส้นทางคับแทบจนรถแทบจะสวนทางกันไม่ได้ การแก้มันมีตัวอย่างอยู่แล้วและต้องทำจริงจังอย่างแรกคือระบบขนส่งสาธรถะต้องพร้อมไช้งานจริงไม่ไช่รอกันเป็นชัวโมง การไช้งานกฎหมายเรื่องที่จอดรถทังที่บ้านที่ทำงานและตามร้านค้าต่างๆต้องมีที่จอดไม่งันห้ามซื้อรถหรือสร้างร้านค้าถ้าที่จอดรถไม่พอเพียงต่อจำนวนคนไช้งาน และภาษีรถการซื้อรถไม่ควรเก็บภาษีซื้อแพงแต่ควรเก็บมากขึ้นเมื่อรถเก่าขึ้นไม่ไช่ต่อภาษีเเล้วเอารถไปเช็กอู่ที่ขับวนสักสิบเมตรเร่งเครื่องสามวิไช้ตาดูควันดำแล้วออกใบไห้เมื่อเราจ่ายตังเมื่อรถอายุการไช้งานเกินก็ถีบภาษีไปอีกส่วนนี้จะไช้แค่รถส่วนบุคลก็ได้งดเว้นรถค้าขายแล้วแต่บริบทของประเทศ เพื่อจูงใจคนธรรมดาไม่ซื้อรถและหันมาไช้รถสาธรถะ แต่การทำแบบนี้มันเห็นผลช้าและโกงกินได้น้อยสู้ตัดงบมาสร้างทางไวกว่าเบิกง่ายโกงง่าย

ออฟไลน์ Kookkai

  • หมีฝึกหัด
  • *
  • กระทู้: 6
  • ถูกใจแล้ว: 3 ครั้ง
  • ความนิยม: +1/-0
อย่างน้อยที่สุดนะครับ ถ้าหากรัฐบาลหรือคนที่เกี่ยวข้องจริงๆเขาเป็นห่วงเป็ยใยภาคประชาชน ไอ้ต้นไม้พวกนั้นน่ะตัดทิ้งไปเถอะ อันตรายสุดๆ ส่วนวิธีการแก้ปัญหานั้นผมมองว่ามันไม่มีทางที่จะแก้ได้อย่างน้อยก็ 20-30ปีเลยทีเดียวครับ เป็นปัญหาการวางโครงสร้างการคมนาคมที่ผิดพยาดมาตั้งแต่แรกยากที่จะแก้ไข ไม่สีแทบเป็นไปไม่ได้เลยต่างหาก ถ้าไม่ออกกฏหมายบังคับใช้ให้คนเลิกซื้อรถ แล้วมาสนับสนุนภาคขนส่งมวลชน รวมทั้งต้องปรับปรุงสภาพถนนตลอดทั่วประเทศให้มีทางสำหรับจักรยานและมอไซที่เหมาะสม การไปเพิ่มเลนถนนเพิ่มผมมองว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนะครับ ถ้าจะให้พูดสั้นๆง่ายๆคือ ปรากฏการณ์คอขวด นะครับ

ปล_ตอนข้ามก็มองดีๆละกัน
ปล2_นุ้งลาติน่าน่ารักมากเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2019, 07:47:32 AM โดย Kookkai »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,208
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
ปัญหาคือระบบราชการที่รวมศูนย์กลางและต้องมาจากรุงเทพเท่านั้นแหละคือปัญหา ต่างจังหวัดไม่มีงบประมาณเพราะต้องรอจากกรุงเทพฯ และทุกโครงการต้องคิดจากคนในกรุงเทพหรือเห็นชอบจากกรุงเทพฯ


ต่างจังหวัดจึงไม่มีงบประมาณที่จะทำโครงการที่เหมาะกับคนจังหวัดนั้นเลย
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
ถ้าไม่กล้าเดินข้ามก็ลงรถเลยป้ายไปที่มีสะพานลอยแล้วข้ามสะพานลอย
แล้วนั่งรถกลับมาครับ ;D




ถ้ารู้สึกเดือดร้อนก็ไปร้องขอความช่วยเหลือหน่วยงานรัฐให้สร้างสะพานลอยครับ
ติดตลาดยังงั้นก็มีลุ้นอยู่ครับ
ถ้ารีบขอตอนนี้อาจมีลุ้นเข้างบปี 63 ได้ครับ แต่ถ้าช้าก็อาจจะเข้างบ 64 65 แทน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
ปัญหาคือระบบราชการที่รวมศูนย์กลางและต้องมาจากรุงเทพเท่านั้นแหละคือปัญหา ต่างจังหวัดไม่มีงบประมาณเพราะต้องรอจากกรุงเทพฯ และทุกโครงการต้องคิดจากคนในกรุงเทพหรือเห็นชอบจากกรุงเทพฯ


ต่างจังหวัดจึงไม่มีงบประมาณที่จะทำโครงการที่เหมาะกับคนจังหวัดนั้นเลย


เข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วครับ ระบอบประชาธิปไตย​ รับฟังเสียงของทุกภาคส่วนครับ
ใครเดือดร้อนก็ไปร้องเรียนได้หมดครับ
กว่าโครงการจะเสร็จก็ผ่านมาเป็นปีๆ มีเวนคืน มีปักป้าย ก่อสร้าง


ถ้าคิดว่าตัวเองโดนละเมิด ทุกคนก็ไปขอให้ศาลสั่งระงับโครงการได้ครับ
แต่ก็ขึ้นกับเหตุผลและดุลพินิจ ตามระเบียบและกฏหมายว่าจะระงับไหมนะครับ


อย่างเดือนก่อนๆ มีเทศบาลมาวัดที่จะสร้างโครงการบางอย่าง
แม่ผมก็ไปร้องเลยครับ ว่ามันเป็นที่ดินของแม่ผม
โครงการเขาก็หยุดแค่นั้นครับ ไม่ได้ดำเนินการต่อ




ส่วนเรื่องโครงการไม่สอดคล้อง ต้องฟังคนจากกทม ยิ่งไม่ใช่เลยครับ


คนจากส่วนกลาง แจกงบให้แล้ว จังหวัดอยากทำอะไรก็เสนอมา
ข้าราชการ รึการเมืองส่วนจังหวัด อยากทำอะไร ก็ทำไปตามงบที่ได้


ผมเคยทำงานร่วมกับหลายๆหน่วยงาน
ชาวบ้านอยากได้สระ ซัก 1 ไร่ ก็ขอให้หน่วยงานรัฐขุดให้ได้ครับ
แล้วหน่วยงานที่รับเรื่องเขาจะพิจารณาเองว่าคนที่ขอมีสิทธิรับไหม


ส่วนพวกได้รับภัยพิบัติต่างๆ ก็งบอันต่างหาก เรียกว่าหน่วยงานรัฐ
ทำตามความต้องการของประชาชนจะตายครับ


แต่ที่คนด่าๆกันว่าไม่ทำตามความต้องการของประชาชนน่ะ
ลองไปเสนอความต้องการให้รัฐรับรู้หรือยังครับ




อย่างล่าสุด มีพระรูปนึง เห็นว่าโครงการๆนึงดีมากสมควรทำทั่วประเทศ
ก็นำเสนอ รัฐาลก็ตอบสนอง เตรียมจัดงบให้ดำเนินการทั่วประเทศมากกว่า 5 พันล้าน
พอนักวิชาการรู้ข่าวก็แย้ง รบ.ก็สั่งชลอ เรียกว่าให้ไปวิเคราะห์ศึกษามาใหม่ก่อน




ระบบราชการ กับงบประมาณ คือมีเงินภาษีมาแบ่งจัดสรร
เป็นงบส่วนต่างๆ ตามหน้าที่การใช้งาน


แล้วมันจะมีงบส่วนนึงที่ทำตามความต้องการของประชาชนอยู่แล้วครับ


เช่นงบ อบต.
อยากให้ อบต.​ ทำอะไร ก็ไปขอได้ครับ เขาก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมเอง
งบไม่พอก็รอปีถัดๆไป ไม่ก็ไปขอจากที่อื่นมาเพิ่มตามความเร่งด่วน


ถ้าคนไม่ยอมไปขอเงินเหลือ อบต. ก็เอาไปซ่อมถนน รึจัดงานรึซื้ออะไรก็ได้
ให้งบหมดทุกปีๆ


หน้าที่ทำงานเพื่อนผมที่ทำงานส่วนกลาง ม็อบ มาทุกปีเลยครับ ขอให้ช่วยนู่นนี่นั่น



เพราะงั้นถ้ารู้สึกว่า รัฐ ไม่ทำโครงการตามที่ประชาชนต้องการจริงๆ ก็ไปยื่นเรื่องได้ครับ
เขาก็จะพิจารณาเป็นเรื่องๆไป
ถ้าเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อาจถึงขั้นโดนไล่ออกเลยครับ


ส่วนเรื่องไม่มีงบให้ทำโครงการที่เหมาะสมให้คนต่างจังหวัด
ก็ต้องถามว่างบแค่ไหนล่ะที่ต้องการ
อย่างพื้นที่ๆเก็บภาษีได้ 100 ล้าน จะให้ไปลงทุนให้ 1000 ล้าน
มันก็ได้ครับแต่ทุกพื้นที่เขาก็ต้องการเช่นกัน
ก็ต้องไปแข่งขันไปนำเสนอกันเอาเองว่าทำไมต้องให้ทำก่อนพื้นที่อื่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2019, 08:54:47 AM โดย deaddy »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: maotrade, Diamos

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,208
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
[quote/]


เข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วครับ ระบอบประชาธิปไตย​ รับฟังเสียงของทุกภาคส่วนครับ
ใครเดือดร้อนก็ไปร้องเรียนได้หมดครับ
กว่าโครงการจะเสร็จก็ผ่านมาเป็นปีๆ มีเวนคืน มีปักป้าย ก่อสร้าง


ถ้าคิดว่าตัวเองโดนละเมิด ทุกคนก็ไปขอให้ศาลสั่งระงับโครงการได้ครับ
แต่ก็ขึ้นกับเหตุผลและดุลพินิจ ตามระเบียบและกฏหมายว่าจะระงับไหมนะครับ


อย่างเดือนก่อนๆ มีเทศบาลมาวัดที่จะสร้างโครงการบางอย่าง
แม่ผมก็ไปร้องเลยครับ ว่ามันเป็นที่ดินของแม่ผม
โครงการเขาก็หยุดแค่นั้นครับ ไม่ได้ดำเนินการต่อ




ส่วนเรื่องโครงการไม่สอดคล้อง ต้องฟังคนจากกทม ยิ่งไม่ใช่เลยครับ


คนจากส่วนกลาง แจกงบให้แล้ว จังหวัดอยากทำอะไรก็เสนอมา
ข้าราชการ รึการเมืองส่วนจังหวัด อยากทำอะไร ก็ทำไปตามงบที่ได้


ผมเคยทำงานร่วมกับหลายๆหน่วยงาน
ชาวบ้านอยากได้สระ ซัก 1 ไร่ ก็ขอให้หน่วยงานรัฐขุดให้ได้ครับ
แล้วหน่วยงานที่รับเรื่องเขาจะพิจารณาเองว่าคนที่ขอมีสิทธิรับไหม


ส่วนพวกได้รับภัยพิบัติต่างๆ ก็งบอันต่างหาก เรียกว่าหน่วยงานรัฐ
ทำตามความต้องการของประชาชนจะตายครับ


แต่ที่คนด่าๆกันว่าไม่ทำตามความต้องการของประชาชนน่ะ
ลองไปเสนอความต้องการให้รัฐรับรู้หรือยังครับ




อย่างล่าสุด มีพระรูปนึง เห็นว่าโครงการๆนึงดีมากสมควรทำทั่วประเทศ
ก็นำเสนอ รัฐาลก็ตอบสนอง เตรียมจัดงบให้ดำเนินการทั่วประเทศมากกว่า 5 พันล้าน
พอนักวิชาการรู้ข่าวก็แย้ง รบ.ก็สั่งชลอ เรียกว่าให้ไปวิเคราะห์ศึกษามาใหม่ก่อน




ระบบราชการ กับงบประมาณ คือมีเงินภาษีมาแบ่งจัดสรร
เป็นงบส่วนต่างๆ ตามหน้าที่การใช้งาน


แล้วมันจะมีงบส่วนนึงที่ทำตามความต้องการของประชาชนอยู่แล้วครับ


เช่นงบ อบต.
อยากให้ อบต.​ ทำอะไร ก็ไปขอได้ครับ เขาก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมเอง
งบไม่พอก็รอปีถัดๆไป ไม่ก็ไปขอจากที่อื่นมาเพิ่มตามความเร่งด่วน


ถ้าคนไม่ยอมไปขอเงินเหลือ อบต. ก็เอาไปซ่อมถนน รึจัดงานรึซื้ออะไรก็ได้
ให้งบหมดทุกปีๆ


หน้าที่ทำงานเพื่อนผมที่ทำงานส่วนกลาง ม็อบ มาทุกปีเลยครับ ขอให้ช่วยนู่นนี่นั่น



เพราะงั้นถ้ารู้สึกว่า รัฐ ไม่ทำโครงการตามที่ประชาชนต้องการจริงๆ ก็ไปยื่นเรื่องได้ครับ
เขาก็จะพิจารณาเป็นเรื่องๆไป
ถ้าเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อาจถึงขั้นโดนไล่ออกเลยครับ


ส่วนเรื่องไม่มีงบให้ทำโครงการที่เหมาะสมให้คนต่างจังหวัด
ก็ต้องถามว่างบแค่ไหนล่ะที่ต้องการ
อย่างพื้นที่ๆเก็บภาษีได้ 100 ล้าน จะให้ไปลงทุนให้ 1000 ล้าน
มันก็ได้ครับแต่ทุกพื้นที่เขาก็ต้องการเช่นกัน
ก็ต้องไปแข่งขันไปนำเสนอกันเอาเองว่าทำไมต้องให้ทำก่อนพื้นที่อื่น



ผมมองว่าราชการที่ดีมันมีครับแน่นอน ว่าน่าจะเยอะกว่าคนไม่ดี ไม่งั้นประเทศล่มจมไปแล้ว


แต่ปัญหาที่ราชการเหล่านั้นพูดตลอด งบไม่มี งบจากส่วนกลางไม่มา ของบส่วนกลางไปแล้วไม่ได้ ผมฟังคนรู้จักผมที่ทำงานราชการมาแล้วไม่รู้กี่ร้อยรอบ


คำถามสำคัญ ทำไมต่างจังหวัดไม่มีงบทำโครงการอะไร ผมคิดมาตลอดนะว่ามันเพราะอะไร ทำไมโครงการต่างๆถึงช้า และไม่สามารถตอบสนองประชาชนได้ในเวลาที่ต้องการ


คำตอบที่ผมมองเห็นหลังจากไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นและต่างประเทศก็คือระบบภาษีและการคลังของเรา


จะอธิบายคือระบบภาษีของญี่ปุ่นนั้น แตกต่างกับไทยอย่างสิ้นเชิง คือ จังหวัดของประเทศญี่ปุ่นสามารถจัดเก็บภาษีของตัวเองได้ และประชาชนมีสิทธิเลือกเสียภาษีให้จังหวัดไหนก็ได้ที่ตัวเองชอบ


ดังนั้นระบบของญี่ปุ่นจึงทำให้ต่างจังหวัดสามารถใช้เงินได้เร็ว โดยไม่ต้องนั่งรองบส่วนกลาง อยากทำโครงการขนาดเล็กหรือกลางที่ตอบสนองประชาชนก็สามารถทำได้เลย


อยากจะซ่อมแซมสาธารณูปโภคก็ทำได้เร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ และระบบนี้ที่ประชาชนเลือกเสียภาษีให้กับจังหวัดไหนก็ได้ ทำให้ราชการจะต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง เพื่องบประมาณ


ทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนมาเสียภาษีจังหวัดตัวเอง


พอเรามามองที่ประเทศไทย ภาษีทั้งหมดวิ่งเข้าสู่กรุงเทพฯ ท้ายที่สุดก็มีกรุงเทพฯจังหวัดเดียวที่เจริญที่สุด ไม่น่าแปลกใจเลย
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,203
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
[quote/]


ผมมองว่าราชการที่ดีมันมีครับแน่นอน ว่าน่าจะเยอะกว่าคนไม่ดี ไม่งั้นประเทศล่มจมไปแล้ว


แต่ปัญหาที่ราชการเหล่านั้นพูดตลอด งบไม่มี งบจากส่วนกลางไม่มา ของบส่วนกลางไปแล้วไม่ได้ ผมฟังคนรู้จักผมที่ทำงานราชการมาแล้วไม่รู้กี่ร้อยรอบ


คำถามสำคัญ ทำไมต่างจังหวัดไม่มีงบทำโครงการอะไร ผมคิดมาตลอดนะว่ามันเพราะอะไร ทำไมโครงการต่างๆถึงช้า และไม่สามารถตอบสนองประชาชนได้ในเวลาที่ต้องการ


คำตอบที่ผมมองเห็นหลังจากไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นและต่างประเทศก็คือระบบภาษีและการคลังของเรา


จะอธิบายคือระบบภาษีของญี่ปุ่นนั้น แตกต่างกับไทยอย่างสิ้นเชิง คือ จังหวัดของประเทศญี่ปุ่นสามารถจัดเก็บภาษีของตัวเองได้ และประชาชนมีสิทธิเลือกเสียภาษีให้จังหวัดไหนก็ได้ที่ตัวเองชอบ


ดังนั้นระบบของญี่ปุ่นจึงทำให้ต่างจังหวัดสามารถใช้เงินได้เร็ว โดยไม่ต้องนั่งรองบส่วนกลาง อยากทำโครงการขนาดเล็กหรือกลางที่ตอบสนองประชาชนก็สามารถทำได้เลย


อยากจะซ่อมแซมสาธารณูปโภคก็ทำได้เร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ และระบบนี้ที่ประชาชนเลือกเสียภาษีให้กับจังหวัดไหนก็ได้ ทำให้ราชการจะต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง เพื่องบประมาณ


ทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนมาเสียภาษีจังหวัดตัวเอง


พอเรามามองที่ประเทศไทย ภาษีทั้งหมดวิ่งเข้าสู่กรุงเทพฯ ท้ายที่สุดก็มีกรุงเทพฯจังหวัดเดียวที่เจริญที่สุด ไม่น่าแปลกใจเลย
ท่านผิดไปอย่างครับที่ไทยไม่ล่มสักที่เพราะภาษีมันได้เยอะครับเยอะมากชนิดไช้หนี้imfได้ชิวๆในสองปีถ้าไม่เอางบไปเทเล่น ราชวงค์ที่ไม่มีรายได้อะไรแค่ได้ส่วนแบ่งจากภาษีเล็กน้อยก็รวยติดท็อปสิบของโลก ใครบอกไทยไม่มีเงินเก็บภาษีน้อยความจริงมันเยอะแบบโคตรๆครับเยอะจนต่่างชาติยอมไห้ME้ได้เรื่อยๆถ้าเก็บเงินมาไช้ไม่ได้ใครที่ไหนจะยอมไห้ME้ ระบบไช้จ่ายเงินของระบบราชการคือความล้มเหลวอันดับหนึ่งของประเทศเลยครับ เช่นถ้าต้องการทำโครงการใดๆหนึ่งอย่างเสนองบ100ล้านแล้วทำสำเหร็จด้วยงบ90ล้านเงินที่เหลือต้องคืนรัฐและเมื่อต้องทำโครงการอีกครังด้วยงบเดิมเสนอไปด้วยงบ100ล้าน โครงการนั้นจะถูกประเมินว่าไช้แค่90ล้านก็พอ ดังนั้นราชการจึงหาทางละลายเงินที่ต้องคืนในหลายรูปแบบเช่นจัดเลื้ยงดูงานที่บ่อออนเซ็นออกใบสังซื้อเกินราคา ในขณะที่งานที่เสนอในงบ100ล้านแล้วทำไม่เสร็จต้องเบิกงบเพิ่มอีก50ล้านเมื่อจบงานและต้องทำอีกครัง การจะเสนอในงบ150ล้านจะง่ายมาก สรุบง่ายๆข้าราชการทำงานเก่งดำเนินการไวไช้งบน้อยทำไปก็เสมอตัวและถููกบีบไห้ทำดียิ่งขึ้นไช้งบน้อยยิ่งขึ้นโดยไม่ได้ผลตอบแทน แต่ข้าราชการที่ห่วยไช้งบเกินยิ่งเบิกงบมาละลายได้เรื่อยๆโดยไม่มีความผิด ท่านว่าระบบนี้มันไม่ล้มเหลว

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,208
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
[quote/]
ท่านผิดไปอย่างครับที่ไทยไม่ล่มสักที่เพราะภาษีมันได้เยอะครับเยอะมากชนิดไช้หนี้imfได้ชิวๆในสองปีถ้าไม่เอางบไปเทเล่น ราชวงค์ที่ไม่มีรายได้อะไรแค่ได้ส่วนแบ่งจากภาษีเล็กน้อยก็รวยติดท็อปสิบของโลก ใครบอกไทยไม่มีเงินเก็บภาษีน้อยความจริงมันเยอะแบบโคตรๆครับเยอะจนต่่างชาติยอมไห้กู้ได้เรื่อยๆถ้าเก็บเงินมาไช้ไม่ได้ใครที่ไหนจะยอมไห้กู้ ระบบไช้จ่ายเงินของระบบราชการคือความล้มเหลวอันดับหนึ่งของประเทศเลยครับ เช่นถ้าต้องการทำโครงการใดๆหนึ่งอย่างเสนองบ100ล้านแล้วทำสำเหร็จด้วยงบ90ล้านเงินที่เหลือต้องคืนรัฐและเมื่อต้องทำโครงการอีกครังด้วยงบเดิมเสนอไปด้วยงบ100ล้าน โครงการนั้นจะถูกประเมินว่าไช้แค่90ล้านก็พอ ดังนั้นราชการจึงหาทางละลายเงินที่ต้องคืนในหลายรูปแบบเช่นจัดเลื้ยงดูงานที่บ่อออนเซ็นออกใบสังซื้อเกินราคา ในขณะที่งานที่เสนอในงบ100ล้านแล้วทำไม่เสร็จต้องเบิกงบเพิ่มอีก50ล้านเมื่อจบงานและต้องทำอีกครัง การจะเสนอในงบ150ล้านจะง่ายมาก สรุบง่ายๆข้าราชการทำงานเก่งดำเนินการไวไช้งบน้อยทำไปก็เสมอตัวและถููกบีบไห้ทำดียิ่งขึ้นไช้งบน้อยยิ่งขึ้นโดยไม่ได้ผลตอบแทน แต่ข้าราชการที่ห่วยไช้งบเกินยิ่งเบิกงบมาละลายได้เรื่อยๆโดยไม่มีความผิด ท่านว่าระบบนี้มันไม่ล้มเหลว


ไทยเก็บภาษีได้เยอะ อันนี้จริง แต่ปัญหาคือขั้นตอนอันวุ่นวายเวลาจะขอตั้งเบิกไปใช้ต่างหากครับ เพราะมันเก็บและรวมที่กรุงเทพ ต่างจังหวัดนำมาใช้ก็ต้องทำเรื่องของบจากกรุงเทพ กว่าจะได้ทั้งนานและยาก


แต่ถ้าเก็บที่ต่างจังหวัดและแต่ละจังหวัดมีคลังเป็นของตัวเองแยกจากส่วนกลาง จังหวัดนั้นๆก็จะใช้งบง่าย และใช้ได้ตรงจุด เกิดประโยชน์กับชาวบ้านมากกว่า


คนกรุงเทพฯไม่มีทางทราบความต้องการแท้จรของต่างจังหวัดเท่ากับคนจังหวัดนั้นเองครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
[quote/]
ท่านผิดไปอย่างครับที่ไทยไม่ล่มสักที่เพราะภาษีมันได้เยอะครับเยอะมากชนิดไช้หนี้imfได้ชิวๆในสองปีถ้าไม่เอางบไปเทเล่น ราชวงค์ที่ไม่มีรายได้อะไรแค่ได้ส่วนแบ่งจากภาษีเล็กน้อยก็รวยติดท็อปสิบของโลก ใครบอกไทยไม่มีเงินเก็บภาษีน้อยความจริงมันเยอะแบบโคตรๆครับเยอะจนต่่างชาติยอมไห้กู้ได้เรื่อยๆถ้าเก็บเงินมาไช้ไม่ได้ใครที่ไหนจะยอมไห้กู้ ระบบไช้จ่ายเงินของระบบราชการคือความล้มเหลวอันดับหนึ่งของประเทศเลยครับ เช่นถ้าต้องการทำโครงการใดๆหนึ่งอย่างเสนองบ100ล้านแล้วทำสำเหร็จด้วยงบ90ล้านเงินที่เหลือต้องคืนรัฐและเมื่อต้องทำโครงการอีกครังด้วยงบเดิมเสนอไปด้วยงบ100ล้าน โครงการนั้นจะถูกประเมินว่าไช้แค่90ล้านก็พอ ดังนั้นราชการจึงหาทางละลายเงินที่ต้องคืนในหลายรูปแบบเช่นจัดเลื้ยงดูงานที่บ่อออนเซ็นออกใบสังซื้อเกินราคา ในขณะที่งานที่เสนอในงบ100ล้านแล้วทำไม่เสร็จต้องเบิกงบเพิ่มอีก50ล้านเมื่อจบงานและต้องทำอีกครัง การจะเสนอในงบ150ล้านจะง่ายมาก สรุบง่ายๆข้าราชการทำงานเก่งดำเนินการไวไช้งบน้อยทำไปก็เสมอตัวและถููกบีบไห้ทำดียิ่งขึ้นไช้งบน้อยยิ่งขึ้นโดยไม่ได้ผลตอบแทน แต่ข้าราชการที่ห่วยไช้งบเกินยิ่งเบิกงบมาละลายได้เรื่อยๆโดยไม่มีความผิด ท่านว่าระบบนี้มันไม่ล้มเหลว


ส่วนอื่นผมก็เห็นด้วยครับ
แต่เรื่องราชวงศ์ผมเห็นต่าง


1. รายได้ของราชวงศ์เยอะมาๆ ไอ้ทำงานน่ะได้ไม่เยอะ แต่ลองดูยอดบริจาคสิครับ แล้วยังมีทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้อีก


2. ที่รวยติดอันดับโลก ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ที่ดินทั้งประเทศเป็นของราชวงศ์มาก่อนครับ
ที่ต่างชาติจัดอันดับให้ติดอันดับโลกเพราะเขานับรวมมรดกทั้งหมด รวมทั้งส่วนที่โดนรัฐบาลยึดไปด้วยครับ
คือตระกูลที่รวยที่สุดในประเทศ ตลอด 200+ ปี ถ้าไม่โดนยึดทรัพย์ กับใช้มากเกินไป เอาแค่ที่ดินก็รวยสุดๆแล้วครับ


[quote/]


ไทยเก็บภาษีได้เยอะ อันนี้จริง แต่ปัญหาคือขั้นตอนอันวุ่นวายเวลาจะขอตั้งเบิกไปใช้ต่างหากครับ เพราะมันเก็บและรวมที่กรุงเทพ ต่างจังหวัดนำมาใช้ก็ต้องทำเรื่องของบจากกรุงเทพ กว่าจะได้ทั้งนานและยาก


แต่ถ้าเก็บที่ต่างจังหวัดและแต่ละจังหวัดมีคลังเป็นของตัวเองแยกจากส่วนกลาง จังหวัดนั้นๆก็จะใช้งบง่าย และใช้ได้ตรงจุด เกิดประโยชน์กับชาวบ้านมากกว่า


คนกรุงเทพฯไม่มีทางทราบความต้องการแท้จรของต่างจังหวัดเท่ากับคนจังหวัดนั้นเองครับ


ตามประสพการณ์ผม ผมกล้าพูดได้เลยว่า การแยกงบ อาจจะช่วยให้ทำงานไวขึ้น แต่ปัญหาที่จะเกิดจะหนักยิ่งกว่าเดิมครับ


1. คนหนีออกจากถิ่นกำเนิด ไปกระจุกตัวตามเมืองใหญ่มากขึ้น
หลายจังหวัดเก็บภาษีได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ จนต้องเอาเงินจากส่วนกลางไปคอยช่วยพัฒนา
ไม่ว่าจะสาธารณูปโภค รึการแพทย์


ไม่เชื่อลองนั่งรถไปจังหวัดต่างๆได้ครับ หลายจังหวัด อำเภอเมืองตัวเมืองเล็กกว่าบางอำเภอ ของพวกหัวเมืองในแต่ละภูมิภาคอีก
ถ้ามียัดงบช่วยเหลือสร้างงานให้คนก็ย้ายถิ่นหมดครับ


ลองคิดง่ายๆครับ ตัดถนนเส้นละ ล้าน/กม. แต่คนที่อาศัยในจังหวัดนั้น มีรายได้เฉลี่ยต่อต่อครัวเรือนต่อปี ต่ำหว่า 1.5 หมื่น


http://www.rd.go.th/publish/310.0.html


ปี 61
อำนาจเจริญ เก็บภาษีได้ 300+ ล้าน ประชากร 3 แสนกว่า
ยโสธร ได้ 500+ ล้าน


หมอ 1 คน เงินเดือน 1 แสน ปีละ 1.2 ล้าน
คิดที่หมอ 1 คนต่อคนไข้ 10000 คน
300000/10000 = 30 คน =36 ล้าน = 12% ของภาษี


อัตราครู ต่อ นักเรียน 1 : 25


คิดซะว่ามีเด็กวัยเรียน 15%
300000*0.15/25=1800 คน


เงินเดือน 1.5 หมื่น ปีละ 180,000
1800*180000= 324 ล้าน


ไม่ต้องไรมาก เอาแค่เงินเดือนครู ก็เกินภาษีที่เก็บได้ละ :o




----------
2. การป้องกันการโกงยากมาก
ใครรู้จัก พวก อบต. จะรู้ดี ว่าโครตแดกกันขนาดไหน เพราะงบอบต. มีอิสระกว่าราชการเยอะ


ยิ่งให้อิสระมากก็โกงได้มาก สุดท้ายภาษีก็โดนแดกเรียบอยู่ดี

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Alice-chan

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,208
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
[quote/]


ส่วนอื่นผมก็เห็นด้วยครับ
แต่เรื่องราชวงศ์ผมเห็นต่าง


1. รายได้ของราชวงศ์เยอะมาๆ ไอ้ทำงานน่ะได้ไม่เยอะ แต่ลองดูยอดบริจาคสิครับ แล้วยังมีทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้อีก


2. ที่รวยติดอันดับโลก ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ที่ดินทั้งประเทศเป็นของราชวงศ์มาก่อนครับ
ที่ต่างชาติจัดอันดับให้ติดอันดับโลกเพราะเขานับรวมมรดกทั้งหมด รวมทั้งส่วนที่โดนรัฐบาลยึดไปด้วยครับ
คือตระกูลที่รวยที่สุดในประเทศ ตลอด 200+ ปี ถ้าไม่โดนยึดทรัพย์ กับใช้มากเกินไป เอาแค่ที่ดินก็รวยสุดๆแล้วครับ


[quote/]


ตามประสพการณ์ผม ผมกล้าพูดได้เลยว่า การแยกงบ อาจจะช่วยให้ทำงานไวขึ้น แต่ปัญหาที่จะเกิดจะหนักยิ่งกว่าเดิมครับ


1. คนหนีออกจากถิ่นกำเนิด ไปกระจุกตัวตามเมืองใหญ่มากขึ้น
หลายจังหวัดเก็บภาษีได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ จนต้องเอาเงินจากส่วนกลางไปคอยช่วยพัฒนา
ไม่ว่าจะสาธารณูปโภค รึการแพทย์


ไม่เชื่อลองนั่งรถไปจังหวัดต่างๆได้ครับ หลายจังหวัด อำเภอเมืองตัวเมืองเล็กกว่าบางอำเภอ ของพวกหัวเมืองในแต่ละภูมิภาคอีก
ถ้ามียัดงบช่วยเหลือสร้างงานให้คนก็ย้ายถิ่นหมดครับ


ลองคิดง่ายๆครับ ตัดถนนเส้นละ ล้าน/กม. แต่คนที่อาศัยในจังหวัดนั้น มีรายได้เฉลี่ยต่อต่อครัวเรือนต่อปี ต่ำหว่า 1.5 หมื่น


http://www.rd.go.th/publish/310.0.html


ปี 61
อำนาจเจริญ เก็บภาษีได้ 300+ ล้าน ประชากร 3 แสนกว่า
ยโสธร ได้ 500+ ล้าน


หมอ 1 คน เงินเดือน 1 แสน ปีละ 1.2 ล้าน
คิดที่หมอ 1 คนต่อคนไข้ 10000 คน
300000/10000 = 30 คน =36 ล้าน = 12% ของภาษี


อัตราครู ต่อ นักเรียน 1 : 25


คิดซะว่ามีเด็กวัยเรียน 15%
300000*0.15/25=1800 คน


เงินเดือน 1.5 หมื่น ปีละ 180,000
1800*180000= 324 ล้าน


ไม่ต้องไรมาก เอาแค่เงินเดือนครู ก็เกินภาษีที่เก็บได้ละ :o




----------
2. การป้องกันการโกงยากมาก
ใครรู้จัก พวก อบต. จะรู้ดี ว่าโครตแดกกันขนาดไหน เพราะงบอบต. มีอิสระกว่าราชการเยอะ


ยิ่งให้อิสระมากก็โกงได้มาก สุดท้ายภาษีก็โดนแดกเรียบอยู่ดี




ก็อย่างที่ผมบอกไงครับ ให้ประชาชนเลือกเสียภาษีที่จังหวัดไหนก็ได้เหมือนญี่ปุ่น สมมุติผมเป็นคนเชียงใหม่ แต่ผมมาทำงานในกรุงเทพฯ ถึงมีนาผมก็เข้าไปเสียภาษีแต่เลือกเสียให้จังหวัดไหนก็ได้ ถ้าผมรักบ้านเกิด ผมก็เลือกเสียภาษีให้กับเชียงใหม่เป็นต้น หรือ ถ้าเกิดผมอยู่จังหวัดนนทบุรี แล้วผมประทับใจการทำงานของราชการนนทบุรี ผมก็เลือกจ่ายภาษีนนทบุรีแทน ผมว่ามันจะช่วยให้ประชาชนมีอิสระในการเลือกที่จะพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างอิสระ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Alice-chan

ออฟไลน์ Alice-chan

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,636
  • ถูกใจแล้ว: 328 ครั้ง
  • ความนิยม: +302/-1746
  • ยังไงก็ไม่ละกิเลสหรอก อยากกลับไปเป็นเด็ก
^^
เรื่องภาษีมันเกี่ยวกับการ Decentralization แหละเจ้าค่ะ

คิดว่ามากกว่าที่เป็นอยู่นี่ ผู้ใหญ่คงไม่กล้า
​(๑╹ᆺ╹)ぬんぬん
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
[quote/]


ก็อย่างที่ผมบอกไงครับ ให้ประชาชนเลือกเสียภาษีที่จังหวัดไหนก็ได้เหมือนญี่ปุ่น สมมุติผมเป็นคนเชียงใหม่ แต่ผมมาทำงานในกรุงเทพฯ ถึงมีนาผมก็เข้าไปเสียภาษีแต่เลือกเสียให้จังหวัดไหนก็ได้ ถ้าผมรักบ้านเกิด ผมก็เลือกเสียภาษีให้กับเชียงใหม่เป็นต้น หรือ ถ้าเกิดผมอยู่จังหวัดนนทบุรี แล้วผมประทับใจการทำงานของราชการนนทบุรี ผมก็เลือกจ่ายภาษีนนทบุรีแทน ผมว่ามันจะช่วยให้ประชาชนมีอิสระในการเลือกที่จะพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างอิสระ


คือจะสื่อว่าคนที่ย้ายภูมิลำเนาจะส่งภาษีให้บ้านเกิดงั้นหรอ ก็อาจจะได้บ้างแต่จะแน่ใจได้ยังไงว่างบที่จังหวัดเก็บภาษีได้มากอย่าง กทม. รึหัวเมือง จะไม่กลายเป็นมีงบมากกว่าเดิม


ลองคำนวนคร่าวๆ ตีซะว่า คน กทม. เป็นคน ตจว. 50% ส่งภาษีให้จังหวัดบ้านเกิด 50%


ภาษี กทม เก็บได้ 1.2 ล้านๆ
คิดเป็นภาษี เงินได้บุคคล ราว 20% เพราะ ภาษีอื่นๆ ไม่สามารถ ระบุตามใจได้


ภาษีถูกส่งออกไปช่วยเหลือต่างจังหวัด
1.2/2/2 *(0.2) = 6 หมื่นล้าน


ตีต่อหัว
60000/70 = 857 บาทต่อคน


จ. อำนาจ มี 3 แสนคน
= 0.3*857 = 257 ล้าน


รวมมี 557 ล้าน


แต่แค่ค่าการศึกษา กับ บุคลากรทางการแพทษ์ ก็น่าจะปาเข้าไป 400-500 ล้านละ
อาจจะมีเหลือ 100-150 ล้าน ไปจ่ายค่า ตร. ทหาร ดับเพลิง ศาล จนท. หน่วยงานต่างๆ


อาจจะมีงบเหลือ 50 ล้าน ไว้ซ่อมถนน ทั้ง จ. ขุดและปรับปรุงแหล่งน้ำ พัฒนาอาชีพ


ถ้าจำไม่ผิด ตัด ถนนลาดยาง กม.ละ ล้าน ลูกรัง 5 แสน ขึ้นกับขนาดถนนด้วย
ส่วนค่าซ่อมไม่แน่ใจ แต่งบที่เหลือคง ทำได้แค่ซ่อมถนน ไม่กี่สิบกิโลเมตร ต่อปี :o










---------------------
คือจริงอยู่ครับ คน กทม เป็นต่างจังหวัดเยอะที่เข้ามาทำงาน
แต่ส่วนใหญ่เป็นขาจร เงินเดือนต่ำ ส่วนใหญ่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งไม่ระบุที่อยู่คนซื้อ
ส่วนเจ้าของธุรกิจห้างร้านต่างๆ ถ้าระดับใหญ่ๆก็คงผ่านมา 1-2 รุ่นเป็นอย่างต่ำ ซึ่งกลายเป็นคนกทม.โดยกำเนิดกันไปแล้ว
ถ้าระดับ บ.มหาชน ก็ต้องทำตามมติ ถ้าประธานเป็นคน อีสาน แต่บอร์ดเป็นคน ภาคอื่นๆ
บอร์ดคงไม่ยอมให้ประธานเอาภาษีไปพัฒนาบ้านตัวเองหรอก


สุดท้ายเลยมีแต่ภาษี เงินได้ บุคคลธรรมดา ของคนที่เข้ามาทำงาน กทม. ซึ่งเผลอๆ ตัวเลขจริงน้อยกว่า ที่ผมคำนวนข้างบนอีก


เพราะอย่างตอนผมเรียนมหาลัย ชื่อดังแห่งนึงใน กทม. คณะวิศวะ
พวกที่ได้เกรดดี จบมาเงินเดือนสูงๆ ส่วนใหญ่เป็นคนภูมิลำเนา เป็นคน กรุงเทพและปริมณฑล กับหัวเมืองใหญ่ๆทั้งหมด


ส่วนคนที่อยู่ จ.เล็กๆ ส่วนใหญ่ เกรดต่ำกว่า 2.5
พวกเด็กเรียน เกียรตินิยม ที่ผมรู้จัก เกือบทั้งหมด เป็นคน ภาคกลาง
เพราะงั้นจบไปกลุ่มเงินเดือนสูงๆส่วนใหญ่เป็นคนจาก จ. ที่เจริญๆ ทั้งหมด


----------
เลยจะกลายเป็นว่า หลายๆจังหวัดที่ กันดาร ยากจน งบช่วยเหลือจะลดลงเยอะมาก
ส่วน จ. ที่งบไม่พอ ก็ได้งบช่วยเหลือลดลง
เพราะโดนเอาไปโป๊ะตาม จ.ต่างๆ ไปแล้ว


งบช่วยเหลือภัยพิบัติ อาจจะยังมี แต่งบพัฒนาคงไม่มีให้แน่ๆ




ส่วนภาษี ที่คนจะให้จังหวัดกันดารๆ เพระความสงสารน่ะ มันไม่จีรัง อาจจะขึ้นลงๆ ตามกระแสสื่อ
แต่งบพวกนี้มันเอาไปจ้างบุคลากรไม่ได้ เพราะมันไม่แน่นอน




สุดท้ายประเทศก็จะรวยกระจุกจนกระจายหนักยิ่งกว่าเดิม
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Diamos

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,208
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
[quote/]


คือจะสื่อว่าคนที่ย้ายภูมิลำเนาจะส่งภาษีให้บ้านเกิดงั้นหรอ ก็อาจจะได้บ้างแต่จะแน่ใจได้ยังไงว่างบที่จังหวัดเก็บภาษีได้มากอย่าง กทม. รึหัวเมือง จะไม่กลายเป็นมีงบมากกว่าเดิม


ลองคำนวนคร่าวๆ ตีซะว่า คน กทม. เป็นคน ตจว. 50% ส่งภาษีให้จังหวัดบ้านเกิด 50%


ภาษี กทม เก็บได้ 1.2 ล้านๆ
คิดเป็นภาษี เงินได้บุคคล ราว 20% เพราะ ภาษีอื่นๆ ไม่สามารถ ระบุตามใจได้


ภาษีถูกส่งออกไปช่วยเหลือต่างจังหวัด
1.2/2/2 *(0.2) = 6 หมื่นล้าน


ตีต่อหัว
60000/70 = 857 บาทต่อคน


จ. อำนาจ มี 3 แสนคน
= 0.3*857 = 257 ล้าน


รวมมี 557 ล้าน


แต่แค่ค่าการศึกษา กับ บุคลากรทางการแพทษ์ ก็น่าจะปาเข้าไป 400-500 ล้านละ
อาจจะมีเหลือ 100-150 ล้าน ไปจ่ายค่า ตร. ทหาร ดับเพลิง ศาล จนท. หน่วยงานต่างๆ


อาจจะมีงบเหลือ 50 ล้าน ไว้ซ่อมถนน ทั้ง จ. ขุดและปรับปรุงแหล่งน้ำ พัฒนาอาชีพ


ถ้าจำไม่ผิด ตัด ถนนลาดยาง กม.ละ ล้าน ลูกรัง 5 แสน ขึ้นกับขนาดถนนด้วย
ส่วนค่าซ่อมไม่แน่ใจ แต่งบที่เหลือคง ทำได้แค่ซ่อมถนน ไม่กี่สิบกิโลเมตร ต่อปี :o










---------------------
คือจริงอยู่ครับ คน กทม เป็นต่างจังหวัดเยอะที่เข้ามาทำงาน
แต่ส่วนใหญ่เป็นขาจร เงินเดือนต่ำ ส่วนใหญ่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งไม่ระบุที่อยู่คนซื้อ
ส่วนเจ้าของธุรกิจห้างร้านต่างๆ ถ้าระดับใหญ่ๆก็คงผ่านมา 1-2 รุ่นเป็นอย่างต่ำ ซึ่งกลายเป็นคนกทม.โดยกำเนิดกันไปแล้ว
ถ้าระดับ บ.มหาชน ก็ต้องทำตามมติ ถ้าประธานเป็นคน อีสาน แต่บอร์ดเป็นคน ภาคอื่นๆ
บอร์ดคงไม่ยอมให้ประธานเอาภาษีไปพัฒนาบ้านตัวเองหรอก


สุดท้ายเลยมีแต่ภาษี เงินได้ บุคคลธรรมดา ของคนที่เข้ามาทำงาน กทม. ซึ่งเผลอๆ ตัวเลขจริงน้อยกว่า ที่ผมคำนวนข้างบนอีก


เพราะอย่างตอนผมเรียนมหาลัย ชื่อดังแห่งนึงใน กทม. คณะวิศวะ
พวกที่ได้เกรดดี จบมาเงินเดือนสูงๆ ส่วนใหญ่เป็นคนภูมิลำเนา เป็นคน กรุงเทพและปริมณฑล กับหัวเมืองใหญ่ๆทั้งหมด


ส่วนคนที่อยู่ จ.เล็กๆ ส่วนใหญ่ เกรดต่ำกว่า 2.5
พวกเด็กเรียน เกียรตินิยม ที่ผมรู้จัก เกือบทั้งหมด เป็นคน ภาคกลาง
เพราะงั้นจบไปกลุ่มเงินเดือนสูงๆส่วนใหญ่เป็นคนจาก จ. ที่เจริญๆ ทั้งหมด


----------
เลยจะกลายเป็นว่า หลายๆจังหวัดที่ กันดาร ยากจน งบช่วยเหลือจะลดลงเยอะมาก
ส่วน จ. ที่งบไม่พอ ก็ได้งบช่วยเหลือลดลง
เพราะโดนเอาไปโป๊ะตาม จ.ต่างๆ ไปแล้ว


งบช่วยเหลือภัยพิบัติ อาจจะยังมี แต่งบพัฒนาคงไม่มีให้แน่ๆ




ส่วนภาษี ที่คนจะให้จังหวัดกันดารๆ เพระความสงสารน่ะ มันไม่จีรัง อาจจะขึ้นลงๆ ตามกระแสสื่อ
แต่งบพวกนี้มันเอาไปจ้างบุคลากรไม่ได้ เพราะมันไม่แน่นอน




สุดท้ายประเทศก็จะรวยกระจุกจนกระจายหนักยิ่งกว่าเดิม


เงินงบประมาณประเทศ ถ้าผมแบ่งออกเป็นหลักๆจะแบ่งเป็น
1.VAT
2.ภาษีบุคคลได้
3.ภาษีนิติบุคคล
4.ภาษีนำเข้า
5.ภาษีสินค้าฟุ้มเฟือย สรรพาสามิต
6.ภาษีกองทุนน้ำมัน
7.ภาษีพาหนะ
8.สัมปทาน


โดยแบ่งเงินงบเป็น
1.งบประมาณจังหวัด = เงินเก็บภาษีบุคคลได้+นิติบุคคล+VAT+พาหนะ(70-90% เก็บที่เข้าแต่ละจังหวัด อีก 10-30% ส่งเป็นงบประมาณกลาง) (ใช้ทำโครงการ Infrastructure ขนาดเล็กตอบสนองประชาชนได้เร็ว และทันเวลา หรือ เอาไปใช้กรณีเกิดเหตภัยธรรมชาติ เงินส่วนนี้จะช่วยได้เยอะ
2.งบประมาณเขตปกครองพิเศษ เช่น กรุงเทพ พัทยา เป็นต้น = เงินเก็บภาษีบุคคลได้+นิติบุคคล+VAT+พาหนะ(70-90% เก็บเข้าเขตตัวเอง อีกที่เหลือส่งเป็นงบประมาณกลาง)
3.งบประมาณกลาง = ภาษีนำเข้า, ภาษีฟุ้มเฟือย, สัมปทาน + เงินที่ทุกจังหวัดแบ่งสัดส่วนส่งมา โดยงบนี้จะให้รัฐนำเอาไปใช้ตามความเหมาะสม(Infrastructure ขนาดใหญ่ข้ามจังหวัด หรือมีผลหลายพื้นที่)


คำถามคือ ทำไมผมต้องแบ่งงบออกมา เนื่องจากปกติแล้วงบประมาณประเทศจะถูกจัดสรรต่อปี ดังนั้นทุกปีแต่ละหน่วยงานราชการ จังหวัดจะต้องใช้ให้หมด ดังนั้นมันจะไม่เหลือเงินเก็บ


ผมตระหนักว่า ถ้าเกิดแต่ละจังหวัดสามารถเก็บออมเงินงบประมาณเป็นของตัวเองได้ละ เก็บสะสมเป็นปีๆ เพื่อทำโครงการของตัวเองได้ เกิดเหตุภัยธรรมชาติก็ไม่ต้องง้องบส่วนกลางมาก


ยกตัวอย่าง ผมเป็นผู้ว่าจังหวัด A ผมมีงบประมาณปีละ 100 ล้านบาท การมีคลังเป็นของตัวเองทำให้ผมสามารถเก็บสะสมเงินงบประมาณเอาไว้ใช้เวลาจำเป็นได้ สมมุติว่าผมใช้ปีละ 60 ล้านบาท ผมก็จะเหลือเงินเก็บงบประมาณ 40 ล้านบาท ผมเก็บไปสามปีก็จะได้ 120 ล้านบาท พอเข้าปีที่สี่ปรากฎฝนแล้ง น้ำแล้ง ผมก็สามารถหยิบเอา 120 ล้านมาบรรเทาทุกข์ประชาชนได้ก่อน โดยที่ผมไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง แต่ในกรณีที่มีโครงการใหญ่ระดับหลายจังหวัด เช่น ตัดถนนทางหลวง มอเตอร์เวย์ สร้างทางรถไฟ ตรงส่วนนี้ก็ให้ใช้งบกลางของประเทศตามแต่ละนโยบายรัฐบาลนั้นๆ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
[quote/]


เงินงบประมาณประเทศ ถ้าผมแบ่งออกเป็นหลักๆจะแบ่งเป็น
1.VAT
2.ภาษีบุคคลได้
3.ภาษีนิติบุคคล
4.ภาษีนำเข้า
5.ภาษีสินค้าฟุ้มเฟือย สรรพาสามิต
6.ภาษีกองทุนน้ำมัน
7.ภาษีพาหนะ
8.สัมปทาน


โดยแบ่งเงินงบเป็น
1.งบประมาณจังหวัด = เงินเก็บภาษีบุคคลได้+นิติบุคคล+VAT+พาหนะ(70-90% เก็บที่เข้าแต่ละจังหวัด อีก 10-30% ส่งเป็นงบประมาณกลาง) (ใช้ทำโครงการ Infrastructure ขนาดเล็กตอบสนองประชาชนได้เร็ว และทันเวลา หรือ เอาไปใช้กรณีเกิดเหตภัยธรรมชาติ เงินส่วนนี้จะช่วยได้เยอะ
2.งบประมาณเขตปกครองพิเศษ เช่น กรุงเทพ พัทยา เป็นต้น = เงินเก็บภาษีบุคคลได้+นิติบุคคล+VAT+พาหนะ(70-90% เก็บเข้าเขตตัวเอง อีกที่เหลือส่งเป็นงบประมาณกลาง)
3.งบประมาณกลาง = ภาษีนำเข้า, ภาษีฟุ้มเฟือย, สัมปทาน + เงินที่ทุกจังหวัดแบ่งสัดส่วนส่งมา โดยงบนี้จะให้รัฐนำเอาไปใช้ตามความเหมาะสม(Infrastructure ขนาดใหญ่ข้ามจังหวัด หรือมีผลหลายพื้นที่)


คำถามคือ ทำไมผมต้องแบ่งงบออกมา เนื่องจากปกติแล้วงบประมาณประเทศจะถูกจัดสรรต่อปี ดังนั้นทุกปีแต่ละหน่วยงานราชการ จังหวัดจะต้องใช้ให้หมด ดังนั้นมันจะไม่เหลือเงินเก็บ


ผมตระหนักว่า ถ้าเกิดแต่ละจังหวัดสามารถเก็บออมเงินงบประมาณเป็นของตัวเองได้ละ เก็บสะสมเป็นปีๆ เพื่อทำโครงการของตัวเองได้ เกิดเหตุภัยธรรมชาติก็ไม่ต้องง้องบส่วนกลางมาก


ยกตัวอย่าง ผมเป็นผู้ว่าจังหวัด A ผมมีงบประมาณปีละ 100 ล้านบาท การมีคลังเป็นของตัวเองทำให้ผมสามารถเก็บสะสมเงินงบประมาณเอาไว้ใช้เวลาจำเป็นได้ สมมุติว่าผมใช้ปีละ 60 ล้านบาท ผมก็จะเหลือเงินเก็บงบประมาณ 40 ล้านบาท ผมเก็บไปสามปีก็จะได้ 120 ล้านบาท พอเข้าปีที่สี่ปรากฎฝนแล้ง น้ำแล้ง ผมก็สามารถหยิบเอา 120 ล้านมาบรรเทาทุกข์ประชาชนได้ก่อน โดยที่ผมไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง แต่ในกรณีที่มีโครงการใหญ่ระดับหลายจังหวัด เช่น ตัดถนนทางหลวง มอเตอร์เวย์ สร้างทางรถไฟ ตรงส่วนนี้ก็ให้ใช้งบกลางของประเทศตามแต่ละนโยบายรัฐบาลนั้นๆ


คือระบบแยกคลังเคยถูกใช้มานานแล้ว แต่มันไม่เวิค จากหลายๆปัญหา หลักๆคือการโกงกินกับหลายจังหวัด น่าจะ 70% ของทั้งหมดจะติดปัญหาตัวแดง
ไม่ก็กลายเป็น ล้าหลังกว่าจังหวัดอื่นๆ


ลองดู กทม. เก็บภาษีได้ 2/3 ของทั้งประเทศ
แล้วก็จังหวัดที่อยู่ในเขตปกครองพิเศษ นั่นแหล่ะที่ตังเยอะ


ถ้าแยกคลังจริงๆ อีสาน กับเหนือ จะกลายเป็นภาคที่ยากจนหนัก
ภาคที่เก็บภาษีได้เยอะๆ ก็มีภาคกลางกับภาคใต้


ทุกวันนี้ เขาเอาภาษีภาคที่เก็บได้เยอะไปช่วยเหลือจังหวัดที่ยากจน เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนย้ายออกจากถิ่นฐาน




ส่วนถามว่าทำไมต้องใช้เงินให้หมด
1 คืองบส่วนที่แจกจ่ายมันเป็นงบประมาณเพื่อพัฒนา ถ้าคุณไม่เอาไปใช้ประเทศก็ไม่พัฒนา
2 กระตุ้นการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ คือถ้าแต่ละจังหวัดเก็บเงินไว้ การจ้างงานก็จะต่ำ




เขาเลยใช้วิธี ให้ไปเขียนโครงการมา ถ้าคลังมีไม่พอ เขาก็จะกู้มาโปะ
ถ้าหน่วยงานไหน งานน้อย ไม่มีงานเร่งด่วน เขาก็จะหั่นงบ เอาาใช้หนี้ทีหลังแทน
คือในมุมมองเราๆ ส่วนย่อย เรารู้สึกทำไมเราได้งบน้อย ไม่พอ ทำงานไม่ได้ตามหวัง


แต่ในมุมมองส่วนกลาง หน่วยงานคุณ มีความสำคัญไม่เท่า เร่งด่วนไม่เท่า หน่วยงานอื่นๆ


อย่างหน่วยงานที่ผมอยู่ ขอบอกเลย ถ้าแยกการบริหารจัดการงบได้ แก้กฏหมายบางอย่างได้
จะกลายเป็นหน่วยงานที่คุมงบประมาณได้สูงขึ้น อย่างน้อย 10 เท่า ::)


คือหน่วยงานผม คุมพื้นที่ราวๆ 12% ของประเทศ แต่รายได้ทั้งหมด จัดเก็บเข้าส่วนกลางหมด
แล้วเขาก็จ่ายงบลงเป็นค่าต่างๆแทน ซึ่งต่ำมาก
แถมบอกงานซ้ำซ้อนกับ ท้องถิ่น ก็โอนงานให้ท้องถิ่นหมด


ทุกวันนี้ต้องทำงานภายใต้กฏหมายของราวๆ 35-40 ปีก่อน
ถกเถียงกันแทบทุกปี ว่ากฏหมายล้าสมัยแล้ว สังคมมันเปลี่ยนไปนานแล้ว
แต่ก็ยังต้องทนใช้ของเก่ามาตลอด


ถ้าแก้กฏหมายตามที่ ฝั่งต้องการเปลี่ยนนะ
ผมว่าเงินหมุนทันทีปีแรก น่าจะ ล้านๆบาท
ผมก็จะเอาด้วยเหมือนกัน คงลงทุนแบบไม่คิดชีวิตเลยแหล่ะ



 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Alice-chan

ออฟไลน์ Alice-chan

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,636
  • ถูกใจแล้ว: 328 ครั้ง
  • ความนิยม: +302/-1746
  • ยังไงก็ไม่ละกิเลสหรอก อยากกลับไปเป็นเด็ก
3 จังหวัดที่ตั้งปี 36 นี่เป็นจังหวัดที่มีรายได้ไม่ค่อยสูง แถมไม่ค่อยมีจุดเด่นนะ ตามความคิดของอลิสจัง

เหมือนตั้งมา Fail ไงไม่รู้
​(๑╹ᆺ╹)ぬんぬん
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก