ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
ถ้าให้พูดในฐานะผู้หญิวทันก็ไม่ต่างจากผู้ชายที่ชอบผู้หญิงแตกต่างกันไปหรอกค่ะ แต่ถ้าให้พูดกันจริง แนวแบด ๆ มันถือเป็นของใหม่ ที่จัดว่าน่าสนใจสำหรับหลาย ๆ คน ขณะที่แนวเจ้าสั่ว มาเฟีย ที่จบมีลูก ถึงบ้างจังหวะจะดูซาดิสท์ไปหน่อยแต่ส่วนมากพวกนี้รักครอบครัว หรือง่ายก็แอบมีโมเม้นอบอุ่น จะบอกว่าผสม ปนเประหว่างแบดและผู้ชอบอุ่นเหมาะสำหรับ คนมีอายุที่อยู่กึ่งกะลา ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชายแนวแบดไม่ได้นิยมในเมื่อก่อนแต่พอมาเล่นมุขนี้มันก็ทำให้กลายเป็นที่นิยมและเข้าถึงตัวพวกคนมีอายุได้ค่ะ
ถึงจะว่างั้น ใครแนวไหนชอบอ่านแบบไหนอายุก็ไม่เกี่ยว เซก็อ่านแนวแบดบอย กับ เจ้าพ่อ และ แจ่มใส (า ๆ ที) น่ะค่ะ
ที่ผมกำลังวิเคราะห์คือที่จริงแล้วผมมอง เจ้าสัว ท่านชีค วง xyz เป็รแค่ผิวหน้าน่ะครับ
กำลังพยายามหาแนวคิดที่ฝัุงลึกมากกว่านั้นว่าอะไรคือที่มา
ซาดิสม์ นั่นคือจุดให้สนใจ แต่ผู้หญิงชอบอะไำรที่ขัดกัน ทั้งเจ้าชู้และเป็นแฟมิลี่แมนในคนเดียวซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
[quote/]
เวปนี้ผู้ชายไม่เคยมโนตัวเองเป็นผู้หญิง ==" ทั้งๆที่ผมคิดเสมอนะว่า เออมันไม่น่าจะยากอะไรในการทำ
ความเข้าใจเพศตรงข้าม ยิ่งหลายอย่างยิ่งฉุนกึกแบบประมาณว่า อ้าวแล้วทีตัวเองถ้าโดนบ้างหล่ะ ถ้าเกิด
เหตุการณ์แบบนี้ทำไมชายทำโอเคหญิงทำเลวซะงั้น ผู้หญิงชอบผู้ชายเจ้าชู้ ฮา ถ้ารู้ก่อนรักมันหล่ะก็ อาจมี
หนทางให้ถอยหนี แต่ต่อให้รู้หลังรัก มันก็รักไปแล้วอ่ะ ทำไงได้ ทางเลือกคือทนอยู่ ถอยหนี หรือไม่ก็สู้
ยิ่งถ้ามารู้หลังมีลูกยิ่งแล้วใหญ่ ก็เหมือนการ์ตูนผู้ชายที่มีรูทนี้ ไปหลงรักผู้หญิง ถ้ารู้ก่อนหน้าว่าเธอเป็นแม่บ้าน
อาจถอยหนี แต่ถ้าหลงรักแล้วทำไงหล่ะ หนึ่งทนต่อไป สองถอยหนี สามหักดิบเอามาครอบครอง
บางทีหลายๆความรู้สึกผมว่าถ้าจินตนาการตัวเองโดนบ้าง มันก็จะเข้าใจได้ระดับนึงแม้ไม่ทั้งหมดก็เถอะ
ไม่ได้ว่าใครนะ เรื่องนี้ถกกันสนุกดี แต่บางทีขอมีอารมณ์บ้าง
สำหรับผม ณ ความรู้สึกปัจจุบันช่วงพิมพ์นี้เท่านั้นนะ ถ้าเกิดมีแฟนแล้วแฟนจำต้องมีผู้หญิงมากกว่าสอง
ถ้าเหตุผลจำเป็นพอ ผมอาจโลเลแล้วเซย์เยสให้ ขอเพียงยังคงให้ความสำคัญกับผม อาจอึดอัดหน่อย
แต่บางทีผมอาจเข้ากันได้ดีกับเหล่าพวกเธอ บางครั้งก็อยู่ที่การบริหารของเขาหล่ะมั้ง?
ปล.คิดอีกทีไม่ดีกว่า ทำไมต้องหาเหาใส่หัวด้วย ถ้าผัวเดียวเมียเดียวไม่ได้ก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นที่พร้อม
จะเซย์เยสในกรณีนี้เถอะ ความคิดเห็นไม่ตรงกันในชีวิตคู่ อยู่ไปก็รังแต่จะอึดอัด
ผมพยายามทำความเข้าในผู้หยิงจากแง่มุมของแนวคิดพื้นฐานน่ะครับ
อย่างที่ท่านว่าเรื่องให้ความสำคัญกีับครอบครัววหรือส่วนตัวมากกว่า
อ่านบทความมาสมัยโรมัน ก็คิดคล้ายๆกันแต่ดดนพวกแฟมินิสม์ว่าเป็นแนวความคิดยุคเก่า
คือการไมี่ให้ผู้หญิงยุ่งการเมืองเพราะจะให้ความสำคัญครอบครัวตนเองมากกว่าประเทศชาติ
สังคมจึงให้ผู้ชายทำงานการเมือง สงครามว่ากันไป ส่วนผู้หญิงไม่มีการเก็บภาษีเลยให้ดูแลสินทรัพย์ของครอบครัว
แตแนวความคิดสมัยใหม่ ไม่ควรจะมีแนวความคิดอย่างนี้
ในเมิื่อต้องการแนวทางของรัฐสมัยใหม่ที่มองว่าทุกคนควรมีสี่วนร่วม ก็ไม่ควรใช้สัญชาตญาณดิบแนวคิดยุคหิน มาใช้ในการตัดสินใจ
แต่น่าเสียดาย ลิงไร้ขนก็ยังคงเป็นลิงไร้ขน
อันนี้ขอพูดในฐานะผู้หญิงที่นิสัยไม่ค่อยสมหญิงแล้วกันนะคะ 5555 เพราะงั้นข้อมูลส่วนใหญ่คือเก็บๆ จากคนใกล้ตัวมากกว่า
คือผู้หญิงเราเนี่ยเป็นเพศที่ย้อนแย้งในตัวเองสูง ชอบที่จะเป็นผู้ปกครอง และผู้ถูกปกครองในเวลาเดียวกันค่ะ ชอบที่จะไม่ต้องทำอะไรเขาก็มาหาเราเอง ชอบที่จะเห็นผู้ชายหึงหวง เพราะมันแสดงว่าผู้ชายรักเราจริง รักมากถึงขั้นจะไม่ยอมเสียเราให้คนอื่น และเรามีค่ามากพอที่จะมาเียดายเมื่อยามหลุดมือไปแล้ว อธิบายง่ายๆ ก็... ถ้าคุณโยนหินก้อนนึงทิ้งไป แล้วเพิ่งรู้ว่ามันมีเพชรซ่อนอยู่ คุณจะเสียดายไหมล่ะ มันก็ประมาณนั้น
ดังนั้นในนิยายวัยรุ่นเกือบทั้งหมด (นิยายแนวชีคนั่นไม่เคยแตะ ไม่พูดถึงละกันค่ะ) มันจะต้องมีฉากขายอยู่สองสามอย่าง ฉากเฝ้าไข้ (ไม่ก็เมา) ฉากเลิฟซีน แล้วก็ฉากหึงนี่แหละค่ะ เราไม่ได้มองว่าการคบคนอื่นเพื่อยั่วให้หึงเป็น ntr เพราะส่วนใหญ่แล้วก็แค่ไปเดท ถึงขั้นคบจริงน้อย ไม่ผิดดดด
ยิ่งพูดถึงเรื่องแนวแบดบอย (ชีค มาเฟีย จับยัดเข้าหมวดนี้ให้หมด) มันเหมือนกับว่า ต่อให้ผู้ชายคนนี้จะร้ายกับคนทั้งโลก แต่เขาดีกับเรานะ ค่ะ มโนเพ้อฝันแฟนตาซีแบบสาวๆ พอๆ กับที่พวกผู้ชายชอบผู้หญิงที่เชื่อฟัง หุ่นดี เป็นกุลสตรี บลาๆๆๆ นั่นแหละค่ะ มันคือการตอบสนองความต้องการที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีวันเป็นจริง เหมือนอย่างสายซึนที่ผู้ชายชอบ สำหรับผู้หญิงเราถ้าต้องเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้คือขอหมั่นไส้แรงๆ สักที มีอะไรไม่พูดไม่พอ พูดตรงข้ามอีก ไม่ได้ว่างมานั่งแปลสารนะยะ มันคือมายด์เซ็ทที่แต่ละเพศมองไม่ตรงกันแค่นั้นเอง
ส่วนแนวชีคนี่ ที่บอกว่าตอนจบด้วยการท้อง มีลูก มีความสุข ก็คือนิยายกลุ่มนี้ทำมาขายวัยผู้ใหญ่มากๆ (ไม่ถึงขั้นชรา แต่ก็เอ่อ... มีวัยวุฒิละกัน) คงเพราะหลักคำสอนการเป็นผู้หญิงที่ดีในยุคนั้นคือผู้หญิงเราจะมีความสุขได้ด้วยการแต่งงานกับคนดีๆ มีลูก ส่งลูกเรียนสูงๆ แล้วกลับมาดูแลตอนแก่ (เฟมินิสต์กลอกตากันเป็นแถว) ดังนั้นมันก็คือการย้ำสิ่งที่ถูกสอนว่าดีงามแล้วในตัวนิยายนันแหละค่ะ
เฟมินิสม์จะลงเอยด้วยการเป็น cat lady อย่างที่ว่าล่ะครับ
คือความจริงตั้งแต่สมัยก่อน การมีบุตรคือการสร้างหลักประกันยามแก่เฒ่า
มีหน้าที่การงานตอนนี้ แต่ไม่มีครอบครัว แล้วคิดวง่าตนเองจะลงเอยอย่างไรได้อีก?
เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวปลอบใจตนเอง เอาสัตว์เลี้ยงแต่งตัวและเรียกว่าลูก
หลักๆผมพอเข้าใจนะว่าทำไมต้องการมีครอบครับ
เพราะมันดูสมบูรณ์แบบ ในการตอบสนองความต้องการ สัญชาตญาณดิบของลิงไร้ขน พวกมนุษย์เรานี้
เรื่องทำให้ผู้ชายหึงหวงนี่
ถ้าไปอยู่ในแนวโชวเน็นล่ะก็ คนอ่านชายได้ส่งจดหมายขู่เผาบ้านคนเขียนแน่นอนครับถ้านางเอกมีพฤติกรรมเช่นนั้น
ผมมองว่ามันมีที่มาจากการที่ ท่านบอกล่ะครัลบว่าขัดแย้งกัน
แต่ให้ลึกไปกว่านั้น ผู้หญิงต้องการชายกลาง หรือคนที่มีึความสามารถสูง
อย่างที่บอกแนวคิดเรื่องการตีปราสาท ตัดคนไร้ความสามารถออกจากตัวเลิือกทั้งหลาย
มันคือ กลยุทธในการผสมพันธุ์
แต่ตรงนี้ผู้ชายถูกสอนมาต่างกัน ซึ่งหากปฏิบัติตามนั้นจะโดนผู้หญิงตัดออกไปเป็นตัวเลือกแรกๆ แล้วก็มานั่งบ่นว่าทำไมผู้ชายเลวเหทือนกันหมด
หากให้ผมตอบคือ กลยุทธในการผสมพันธุ์ของผู้หญิงคนนั้นได้คัดสรรแต่ผู้ชายที่มีลักษณะเด่นอย่างเดียวกัน
เช่น ตามแนวแฟมินิสม์ที่บอกว่าให้ต้อง consent ตลอดเวลา
ผมขออนุญาตจับมือคุณได้ไหมครับ ผมขออนุญาตจูบคุณได้ไหมครับ ผมขออนุญาต...
ซึ่งถามอย่างนั้นได้เกิดอาการหมดอารมณืและถีบผู้ชายคนนั้นออกมาแน่นอน
ซึ่งจากเงื่อนไขทั้งหมด หากมองเป็นกติกาที่ผู้หญิงสร้างขึ้นมา
เป็นเกมที่จะ encourage ให้ผู้เล่นที่ต้องการชนะเกมสืมีพฤติการณือย่างใดอย่างหนึ่งที่จะสร้างดอกาสประสบความสำเร็จสุงสุด
คือกลายเป็นคนเจ้าชู้ ปากว่ามือถึง ไม่ใส่ใจพวกเธอมากเกินไป ไปดูคนอื่นบ้างเพราะผู้หญิงจะคิดว่าการคบอีกคนเผื่อเลือกเป็นการทำให้หึงและน่าสนใจมากกว่าคนที่รักเดียวใจเดียว
ได้คนที่มีหลายคนจะน่าสนใจมากกว่า
อย่างที่ชอบมีการบ่นว่า พอไม่มีแฟนไม่มีใครมาจีบ พอมีแฟน มีผู้หญิงมาทอดสะพาน หรือตอนแต่งงานนี่มีคนมาชอบอีกเพียบ
แนวความคิดตีปราสาทน่ะสวยงามในจินตนาการ
แต่ผู้หญิงลืมตระหนักถึงว่า แนวความคิดของพวกเธอน่ะ ทำให้พฤติืกรรมแบบไหนเกิดขึ้นบ้าง
ผมเป็นสายเล่นเกมส์ที่มี GM และเรียนกฎหมาย
ทำให้ผมสนใจเรื่องพฤติกรรมและกฎเกณฑ์
แนวความคิดตีปราสาทที่ท่านว่า ทำให้สังคมเป็นอย่างทุกวันนี้ล่ะครับ
blind leading the blind คนตาบอดนำคนตาบอด ทั้งสองเพศไม่รู้ตัวว่าตนเองทำอะไรอยู่ และพฤติกรรมของตนเองทำให้เกิดผลอย่างไรในภาพรวม