จริงๆเหตุผลบางอย่างก็ไม่ต้องไปสนมากครับ ขอแค่อ่านแล้วไม่รู้สึกว่ามากไปจนไม่สนุกก็พอ
เช่นถ้าพระเอกโกงมากๆ ก็ปูบทให้ตัวร้ายโครตโกงยิ่งกว่า
อย่างนิยายบางเรื่องที่อ่าน ตัวร้ายมีก็อก 2-3 เอาจริงแล้ว
ก็ยังมีดูดพลังตัวประกอป มีพลังช่วยเหลือจากบอสอีกตัว
มีสกิลของคนที่ดูดมา
รึบอสอีกตัว
พระเอกบู้ชิงเอาที่ 1 จากประลอง 1 ต่อ 1 เปลี่ยนกฏไปมา
เปลี่ยนเป็นลงไปสู้พร้อมกัน ใครรอดก็ชนะ คนมันก็รุมที่ 1 สิ
พอพระเอกชนะได้แบบยากลำบาก นึกว่าจะได้ที่ 1 ละ
บอสแม่มลงมาไล่ฆ่าเองเลย แถมมาจากมิติอื่น พลังเกินสเกลโลกพระเอกไปเยอะ
สุดท้ายพระเอกรอดมาได้ก็หลับไป 5 ปี
พลังพระเอกโกงแล้วไง ตัวร้ายสิโกงกว่า
คือต้องพยายามให้คนอ่านคิดว่าพระเอกทุ่มหมดหน้าตักแล้ว
แต่ก็ให้มีไพ่ในกองที่คนอ่านนึกไม่ถึงมาเรื่อยๆ เวลาบู้ก็จะสนุก
อย่างคนเขียน soul land คอมโบสกิลกันสนุกเลย
มีทั้งแปลงร่าง รวมร่างนู่นนี่นั่น ที่โผล่มาทั้งฝั่งตัวเอกทั้งศัตรู
คือวิชาโหดๆที่ทีมพระเอกมี ฝั่งตรงข้ามบางทีมก็มี
นึกว่าจะชนะแล้วที่ไหนได้ ต่างฝ่ายต่างเก็บไพ่ตายทั้งคู่
บางทีกว่าจะสู้จนเกือบชนะก็หือขึ้นคอ
ตอนกำลังจะชนะอยู่ละ แม่มเข้าโหมดเบอร์เซิก
ฝั่งพระเอกไม่มีใครรับกระบวนท่าได้เลย
ก็เลยต้องหนีไปบนฟ้า รอโหมดนี้หมดพลัง
คือผมนึกถึงอุนสุยอัน
ที่เล่นมุกว่า
"หา เจ้าเปลี่ยนตัวก็ต้องฝ่าด่านอันตราย"
ประมาณว่าฝ่ายธรรรมะที่จะส่งคนลงประลองเสียชีวิตตามกติกาต้องส่งคนฝ่าด่านเพื่อเป็นการลงโทษไม่ให้เปลี่ยนตัวกลางคัน
แต่ปัญหาคือ ฝ่ายตรงข้ามมันก็ตายเหมือนกันทำไมใช้กฎแต่พระเอกคนเดียว?
ที่ผมเจออีกเคสคือพยายบามให้แฟร์ทั้งสองฝ่ายคือพระเอกมองเห็นเป็นเกมส์และค่าพลัง
แต่คนธรรมดาทั่วไปนั้นยังไม่มีค่า hp แบบพระเอก
ก็เป็นความได้เปรียบอีกอย่าหนึ่งของระบบเกมส์
[quote/]
พวกนิยายที่ดูไม่ใช่มือใหม่ ส่วนใหญ่เค้าจะมีเกรดบอสครับ เช่น
รองบอส บอสใหญ่ บอสจบภาค
ถ้าเป็นบอสจบภาคจะเก่ง แล้วก็ฉลาด ส่วนบอสรองจะฉลาดแต่โง่
เช่น วางแผนฆ่าพระเอกเป็นฉากๆ แต่สุดท้ายทำได้แค่ส่งเบ้ให้พระเอกฟาร์ม
นึกถึงมุกที่ชอบล้อเลียนแนวนี้น่ะครับ
หนังฝรั่งล้อว่า
คุณเอาชนะนักฆ่าระดับโลก วินเตอร์โซลเยอร์ แบล็กวิโดว์ได้
คนสุดท้ายที่คุณเจอคือ
"นักธุรกิจอเมริกันวัยกลางคน"
ว่านักธุรกิจอเมริกันไม่ควรจะเก่งกว่าวินเตอร์โลเยอร์ แต่มีความสามารถในการวางแผนและการเป็นผู้นำ
แต่เป็นแค่ตาลุงวัยกลางคนธรรมดาที่พระเอกชกทีเดียวก็สลบแล้วน่ะครับ
เหมือนจำได้ว่า เปลวฟ้าผ่าปฐพี ก็ต้องอัพเกรดให้ตัวร้ายจากนักธรกิจตาลุงวัยกลางคน เป็นคนที่รวมร่างกับบอสใหญ่เพื่อให้มันมีลุ้นบ้าง
มีแนวอเมริกัน หักมุมล่ะครับ
ประมาณว่า "หวู" คือคนหลบหนีจากเกาหลีเหนือ มือสังหารของเจ้าพ่อระดับครองนิวยอร์ก
กิติศักดิ์ครั่นคร้าม
แต่ข้ามฉากไปตอนที่เจ้าพ่อคนนั้นโดนยิงแสกหน้า ด้วยฝีมือพ่อนางเอก
หวู นักฆ่าที่ว่าก็โดนตำรวจจับได้อย่างง่ายดายเพราะไม่มีเจ้าพ่อคนนั้นคอยปกป้องคุ้มครองอีกแล้ว
จำได้ว่ามาเฟียบู๊ลิ้ม พยายามเอาแนวคิดนี้มาใช้ในกำลังภายใน
ว่าประมุขพรรคเป็นแค่ตาแก่ธรรมดาเหมือนกัน ซึ่งผมว่ามันไปไม่รอดในแนวที่คนมีพลังเหนือธรรมชาติ
ว่าแนวมีพลฃังเหนือธรรมชาติ แมกนีโต้ ไม่ใช่คนมีพลังกระัจอกงอกง่อย ไม่อย่างนั้นจะคุมพวดเทพๆคนอื่นไม่อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ผมพยายามมองว่าแนวมาเฟียคือ รดับปฏิบัติการณ์ นักฆ่ามองงานเป็น รูทีน
คิดว่าทำแล้วจบกลับบ้านไวๆไม่คิดอะไรมาก
ระดับเหนือขึ้นมาก็เหมือนผู้บริหารระดับกลางและซีอีโอตามลำดับ แนวคิดการมองจะค่อนข้างต่างกันระดับหนึ่ง
ข้อสำคัญที่สุดของบอสก็คือความฉลาดครับ. ให้ดูแล้วมีสมองหน่อยบอสบางคนดูแล้วโง๊-โง่จนสงสัยว่าเเกเป็นบอสได้ยังไงฟะ? แล้วมันก็ทำให้ค่าพลังไม่เฟ้อเหมือนดราก้อนบอล. บางครั้งบอสใหญ่อาจจะพลังน้อยกว่าลูกน้องก็ยังได้แต่พี่แกใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดก็ประมาณคาซึมะในโคโนสึบะไง
คนที่คุมได้พลังน้อยกว่าก็อิาจเป็นไปได้ครับ
อย่างโลกความจริงหลายๆอย่าง
แต่ในแนวทางแฟนตาซีคือคนที่ต้องมีพลังมากกว่าชาวบ้านในระดับหนึ่งหรือต้องมีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดใจผู้คน
อย่าง ฮิตเลอร์ที่รุ่นหลังเขียนว่าไม่มีชิ้นดี
หรือเป็นนักรบที่ไม่ได้เรื่อง
แต่ทักษาะการพูดจูงใจผู้ฟังของเขานั้นสูงมาก
people person ประมาณว่าระดับผู้นำจะเป็นคนที่พูดจาได้ยิ้มแย้มแจ่มใส เข้ากับคนได้ง่ายน่ะครับ
นิยายจีนนี่ระบบปลอมนี่มีเยอะครับ
คือเหมือนพวกหลอกขายสินค้าล่อให้ซื้อก่อนพอติดแล้วก็เลิกไม่ได้แล้วต้องเป็นทาสระบบ
ที่ว่าระบบปลอมเพราะช่วงแรกๆ อัพไวจริงแต่พอสักพักมันจะเริ่มช้าลง จนถึงขั้นไปฝึกแบบคนอื่นทั่วๆ ไปยังเร็วกว่าเยอะ
ทั้งจำนวนคนที่ต้องฆ่าทั้งทรัพยากรเทพที่ต้องหามาเพิ่ม ถ้าคนอื่นใช้จำนวนเท่าที่พระเอกใช้นี่บรรลุไปไกลจนตบพระเอกทีเดียวตายแล้วมั้ง
พวกวิธีการดูดพลังคนอื่นๆ พวกนิยายมีเห็นกันเยอะแถมอัพไวกว่าพระเอกเยอะ
ถึงไม่ใช้การดูดพลังคนอื่นๆ ได้ของเทพๆ หน่อยก็อัพพลังทีพลวดพลาดกันเลยทีเดียว
แบบว่าตอนแรกระบบจัดโปรลดราคาแถมมีแจกฟรี พอตอนหลังก็หักหัวคิวแบบสุดโหดจะเลิกไม่เอาระบบก็ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่พอใจก็ไปฝึกใหม่ตั้งต้น เหมือนกับว่าระบบหลอกตัวเอกให้หาทรัพยากรให้เลยไหมหละ
ผมไปเจอของฝรั่งกลายเป็นระบบล้างสมองคนใช้ ปรับความทรงจำทำให้คนอ่านโมโหมากครับ
เพราะเหมือนกับดูแนวต่อสู้กลายมาเป็นแนวทริลเลอร์สยบองขวัญเสียอย่างนั้น
เรื่องการชดใช้ ผมก็เจอของฝรั่งมั้งที่ME้หนี้ยืมพลังปีศาจและต้องชดใช้ที่ดอกเบี้ยมหาศาลทำให้ต้องกู้หนีมาเพิ่มอีกเรื่อยๆไร้ที่สิ้นสุดล่ะครับ
ผมว่ามาแนวสนั้นก็แก้ปัญหาได้ง่ายนะ
ก็แค่ฝึกใหม่ตั้งแต่ต้นไปไล่เก็บของตามลำดับขั้นได้จังหวะก็มิ้งพลังไปและกลืนกินของดีๆ
แต่อย่างว่าล่ะ มันอาจจะมีเงื่อนไขที่ว่าทำให้ใช้เคล้ดวิชาที่ซื้อมาจากระบบไม่ได้ก็ว่าได้
แต่เรื่องนั้นก็แดก้ปัญหาได้โดยการที่มีพลังสุงไปตบหัวสำนักที่พลังต่ำกว่าและเก็บตัวฝึกวิชา
อย่างที่ผมว่าครับ มันก้ทำให้สนุกได้อยู่ แต่บางทีก็ทำเกินไปเพื่อเนิร์ฟพลังเพราะคนเขียนคงรู้ตัวว่าให้เพิ่มพลังไปตามตัวเลข
แค่พระเอกที่มีระบบเก็บเลเวลอยู่แตจ่ในภูเขาไม่ไปไหน ก็คงเก่งที่สุดในเรื่องนั่นล่ะ
จึงต้องมีการแก้ให้เรื่องเดินไปได้ เช่นเป็นระบบที่ต้องเป้นอาจารย์ถึงจะได้แต้ม ต้องทำให้คนเกลียดถึงได้แต้ม ต้องมีอะไรกับผู้หญิงถึงได้แต้มฯลฯ
เพื่อไม่ให้พระเอกของเรื่องหมกมุ่นแต่การเก็บค่าพลังเพียงอย่างเดียว
ผมว่าอิงวิทยาศาสตร์นะง่ายสุดแล้วนา บอกไปเลยจะเก่งก็ต้องใช้ทรัพยากรเยอะ เหมือนการพัฒนาเทคโนโลยีในโลกจริง คนเก่งๆก็จะใช้ทรัพยากรได้คุ้มกว่าตัวประกอบ อแต่ใช่ว่าสร้างสิ่งต่างๆจากความว่างเปล่าได้
ผมจะเล่นประมาณว่า ระบบก็มีควงามรู้หรืออะไรมากนั่นล่ะ
แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเลียบนแบบเคล้ดวิชาหรือใช้เคล็ดวิชาที่ระบบมีไม่ได้
มันก็มีคนที่ค่าสถานะเว่อๆอยู่่นกันในจักรวาลนั้นๆ