เรื่องไม่เข้ากันผมก็ไม่รู้ครับ น่าจะเป็นมุกประวัติศาสตร์
แต่พูดกันจริงๆ นิยายจีนที่คนจีนเขียน
จะต่างกับนิยายจีน ที่ตะวันตกเขียนจริงๆนะ
เคยไปอ่านนิยายจีนในเวปตะวันตกโดยดูจาก แทค
พออ่านไปซักพักรู้สึกแปลกๆ ทำนองเข้าไม่ถึงเหมือนมือสมัครเล่นเขียน
เลยไปดูชื่อคนแต่งแล้วอ่านพวกคนโพสข้อความ
เลยรู้ว่าเป็นคนที่เล่นเวปนั้นแต่งเลยเลิกอ่าน
คือคนโพสคอมเม้นก็ว่าสนุกนะ แต่ผมรู้สึกอ่านแล้วแปลกๆทั้งชื่อทั้งการดำเนินเรื่อง
คือจะแต่งอิงเบสแนวคิดตะวันตกก็ไม่ว่านะถ้ามันสนุก
แต่ก็ต้องระวังเรื่องคนอ่านด้วย
เพราะเวลาคนที่เข้ามาอ่านเค้ามีแนวที่ชอบในใจอยู่ถึงเข้ามาอ่าน
เช่น คนที่ดูหนังบู้ฮีโร่ค่าย มิกกี้เมาส์ เขาก็กะมาดูแบบไม่เครียด
ถ้าชอบเครียดคงไปดูหนัง นกมีหูหนูมีเงิน
แต่ก็ใช่ว่าภาค จบเกมจะไม่เครียด
แต่เขาดูให้จบๆ เพราะมันโดนปูเรื่องมานานละ
ส่วนใครที่ดูเรื่องแรกคือภาคสงครามไร้จำกัด คงดูไม่รู้เรื่อง
เพราะงั้นในทุกเรื่องมันจะมีเฟสของเนื้อเรื่องอยู่ คือ
ปูเรื่อง ดึงคนดู ซึมซับบท แล้วขมวดปม แล้วเข้าบทจบภาค
พอจบภาคก็จะวนลูบมาชิวๆปูเรื่องภาคใหม่ต่อ
ถ้าปรุงดีๆคนก็อ่านได้เรื่อยๆ
ถ้าใส่น้ำมากไปก็ไม่อร่อย ถ้ามีแต่เนื้อก็เคี้ยวยากย่อยยาก
เขียนนิยายจีนก็ให้เขียนให้รู้สึกว่ายังเป็นนิยายจีนด้วยแล้วกัน
ระวังใส่เรื่องปรุงมากจะรสเพี้ยน อย่างกระเพราใส่แครอท รึถั่วไรงี้
คนที่สั่งกระเพราคืออยากกินกระเพรา เนื้อ แล้วก็ออกไปทางเผ็ด
ถ้าใส่พริกไทย ซีอิ้ว โชยุ อะไรพวกนี้คนคงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่
แต่ถ้าใส่ซอสมะเขือเทศ รึซอสพริกแทนพริกสด
ไม่ว่าจะอร่อยรึไม่ หลายคนจะไม่ชิมเลย
เพราะงั้น เวลาแต่งอะไรที่จะแหวกแนว ก็อย่าเพิ่งรีบๆใส่ลงไปมาก
ค่อยๆหยอดลงไป ให้แนวเรื่องไม่หลุดมาก
เช่นเนื้อเรื่อง 4 ตอน บรรยาย 3 ตอน ฟาร์ม 3 ตอน
แต่ถ้าไปบรรยาย 6 ตอน ฟาร์ม 2 ตอน เนื้อเรื่อง 2 ตอนอันนี้คนบ่นว่าน้ำเยอะแน่ๆ
นิยายจีนส่วนใหญ่ขายตามจำนวนตัวอักษร
เขาก็อยากใส่น้ำลงไปเยอะๆ แต่ใส่มากคนด่าแน่ๆ
เพราะงั้น เขาเลยใช้วิธีแทรกน้ำลงในเนื้อแทน
คือทุกตอนเนื้อเรื่องต้องเดิน จะมากจะน้อยอีกเรื่อง
แบบพล่าม 7 ส่วน เนื้อเรื่องเดิน 3 ส่วนก็ช่าง
แต่ห้ามมีตอนที่เป็นฉากบรรยายเพียวๆ
ไม่ก็ใส่เควสไม่สำคัญลงไปเพื่อยืดเรื่อง