.....ในที่สุดก็มีเวลาว่างมานั่งเล่นท่านพ่อตาภาคแรกจบเสียทีจำได้ว่าสมัยเล่นแรกๆนี่โคตรยากแต่พออัพสกิลถูกจุดเท่านั้นแหละ
ใช้เวลาแค่1วันLV Maxอย่างรวดเร็วทั้งพ่อตาและบรรดาฮาเร็ม(เพิ่งเห็นว่ามีสกิลLVเพิ่มเร็วด้วย...เออสะดวกดี)
ในส่วนของเนื้อเรื่องว่าด้วยนักผจญภัยวัยเก๋า(แก่แล้ว)ที่ชื่อจริงผมก็จำไม่ได้เพราะมันยาวและขนาดเจ้าตัวยังไม่อยากให้ใครเรียก
แต่ทุกคนให้ฉายาเขาว่า"ดาร์ค"อาจจะด้วยความกะล่อนและฉลาดแกมโกงที่ทำให้ศัตรูเพลี้ยงพล้ำหรืออะไรก็ว่าไปแต่ฉายานี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่ๆล่ะ
ในรูปคนขวาคือ"ดาร์ค"พระเอกของซีรี่ย์นี้
ส่วนคนซ้ายในรูปที่เป็นเผ่าปีศาจไว้ผมทรงแอฟโฟร่คืออดีตจอมทัพอันดับ1ของเผ่าปีศาจที่มีชื่อ"คูบาว์ล"แต่เจ้าตัวมีนิสัยเฟรนลี่และชอบให้ทุกคนเรียกเขาว่า"ไมเคิล"
ที่เก่งจนเลเวลอัพขึ้นมาเป็นจอมมารคนใหม่ได้ซึ่งระบบจะเหมือนจำพวกมดที่จอมมารคนใหม่ต้องแยกตัวไปสร้างรังหรืออาณานิคมใหม่ของตัวเอง(เรื่องของเจ้าไมเคิลเดี๋ยวจะเล่าที่หลัง)
ซึ่งจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมาจากการที่ ดาร์ค บุกไปปราบจอมมารแห่งพงไพรแต่สุดท้ายก็ถูกจอมมารตบตายและชุบชีวิต ดาร์ค ขึ้นมาแถมยังกลับเป็นหนุ่มอีกครั้งแต่ต้องสูญเสียพลังทั้งหมดที่มีมา
โดยจอมมารบอกว่าเธอเป็นจอมมารผู้ใจดีแต่จริงๆมีจุดประสงค์คือใช้ ดาร์ค ไม่ต่างจากถังE ไว้คอยดูดพลังเวทย์
ซึ่งจอมมารก็ยืนข้อเสนอให้เลือก2ข้อคือ
1.เป็นลูกน้องตูซะดีๆ
2.ตาย
ด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรีดาร์คปฏิเสธที่จะเป็นลูกน้องจอมมารแต่ยังไม่ทันจะถึง5วิก่อนจะโดนจอมมารตบตายก็ก้มกราบขอเป็นลูกน้องแต่โดยดี
หลังจากนั้นท่านจอมมารก็อธิบายว่าดาร์คจะมีพลังเวทย์มหาศาลไหลเวียนอยู่ในร่างซึ่งถ้าเก็บไว้มันจะมีโทษต่อร่างกายถึงตายได้
จึงจำเป็นต้องระบายออกซึ่งวิธีก็ง่ายแค่ไปมีเซ็กส์กับใครก็ได้พลังก็จะถูกระบายออกไปและในตอนนั้นเองที่จอมมารได้จับตัวเชลย
เป็นอัศวินสาว1นางเอาไว้และบอกให้ดาร์คใช้เธอในการระบายพลังออกมาซะ
ซึ่งเมื่อดาร์คเห็นสาวนางนั้นก็รู้สึกคุ้นๆหน้าแต่ก็จำไม่ได้ที่พอจะจำได้คือเหมือนเคยเรียกเธอว่า"เซีย"
ส่วนสาวเจ้าก็ไม่ยอมบอกชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงดาร์คจึงเรียกเธอเอาเองว่า เซีย
ซึ่งสาวในรูปเธอมีชื่อจริงว่า เอเลเซีย มีศักดิ์เป็นถึงเจ้าหญิง แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้ศักดิ์ศรีของราชวงค์แปดเปื้อนหลังถูกจับตัวก็เลยไม่เปิดเผยตัวว่าเป็นใคร
และเซียนั้นถือว่าเป็นเมียคนแรกของดาร์คเลยก็ว่าได้ แรกๆเธอมีความรู้สึกเกลียดดาร์คเข้าไส้เพราะถูกข่มเหงทุกวัน ส่วนดาร์ครู้ว่าสาวเกลียดก็ค่อยๆคอยเอาใจ
ทำอาหารให้กิน หาเสื้อผ้าสวยๆให้ใส่ เวลาผ่านไปก็เริ่มเปิดใจยอมคุยกันดีๆก็ได้รู้ความจริงว่าที่ดาร์คมันต้องคอยมีอะไรกับเธอเพราะพลังเวทย์อัดแน่นอยู่ในตัว(แต่จริงๆเจ้าตัวก็แค่หื่น)
ด้วยความที่เป็นเจ้าหญิงมาก่อน เซีย จึงทำอะไรไม่เป็นเลยและเป็นที่มาของฉากกุ๊กกิ๊กที่ดาร์คจะต้องคอยสอนทุกอย่างตั้งแต่ ทำอาหาร ซักผ้า กวาดถูบ้าน ล้างจาน
และจะมีฉากฮาๆอย่างเวลาที่เจ้าตัวกวาดบ้านแล้วชอบลักไก่โกยขยะไว้ใต้เตียงแล้วโดนดาร์คจับได้ หรือตอนที่ขอออกไปทำงานพิเศษที่ร้านเหล้าของพวกปีศาจ
เธอก็จะกลับมาคุยฟุ้งกับดาร์คว่าเธอดูแลตัวเองได้แล้วนะแต่พอดาร์คขอตามไปดูเมียรักถึงที่ทำงานก็ไม่ยอมให้ไปเพราะกลัวรู้ว่าที่คุยฟุ้งว่าทำงานได้ดีนั้นโม้ทั้งเพ
เธอมักจะงอนทุกครั้งที่ดาร์คพาผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้านดาร์คจึงบอกความจริงว่าถ้าเขามีเซ็กส์กับเซียคนเดียวไปเรื่อยๆ
จะทำให้เซียตายได้เพราะเซียเป็นมนุษย์การที่ถูกถ่ายพลังเข้าไปบ่อยๆไม่เว้นช่วงจะเป็นพิษต่อร่างกายจนถึงชีวิต
เซียรู้แบบนั้น+กับที่ตัวเองก็ซึนว่าตัวเองไม่ได้ชอบดาร์คจึงปล่อยเลยตามเลยไป จนมาถึงช่วงท้ายดาร์ครับรู้แล้วว่าเซียคือเจ้าหญิงในประเทศเขา(ถึงว่าหน้าคุ้นๆ)
และก็ได้เกิดการยึดอำนาจของจอมมารคนใหม่ดาร์ครับรู้ได้ว่าเซียจะต้องมีอันตรายถ้ายังอยู่ที่เผ่าปีศาจเขาจึงจำใจให้ลูกน้องพาเธอกลับไปที่วังของเธอ
แต่เเซียก็ไม่ยอมกลับเพราะเธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาจากดาร์คและเธอคิดว่าเธอมีความสุขกับตรงนี้จึงอยากที่จะเป็นภรรยาอยู่เคียงข้างเขา
ทว่าดาร์คก็รับรู้ว่าเธอท้องแล้วจึงไม่สามารถเอาชีวิตของแม่และลูกมาเสี่ยงได้จึงต้องจำใจส่งเธอกลับไปและหวังว่าเมื่อเหตุการณ์สงบเขาจะได้มีโอกาศกลับไปพบเธออีกครั้ง...และรูทของเธอก็จบตรงนี้
สาวคนต่อไป เธอมีชื่อว่า เมริล เธอมีตำแหน่งผู้รับใช้ข้างกายจอมมารแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้มีฝีมือเก่งกาจอะไรถ้าจะเรียกให้ถูกก็เหมือนตำแหน่งเลขานั่นแหละ
เมริล เป็นปีศาจที่เรียกได้ว่าภายนอกดูเก่งกาจแต่จริงๆก็ไม่ค่อยจะได้ความที่เห็นเก่งอยู่อย่างเดียวคือพวกงานจิปาถะ
เรื่องราวของเธอค่อนข้างจะน่าสงสารเพราะถูกดาร์คแกล้งให้อับอายและใช้เธอเป็นที่ระบายแบบวิตถารบ่อยๆต่างจากเซียที่จะอ่อนโยนเอาอกเอาใจ
ตอนเจอกันครั้งแรกดาร์คมีศักดิ์แค่ทหารเลวระดับล่างสุดและเมริลที่มีระดับสูงกว่าก็มักจะพูดจาอวดเก่งใส่ดาร์คบ่อยๆ
แต่เพราะความปากเก่งของเธอนี่แหละเลยโดนดาร์คระบายใส่ปากตลอด...แต่จริงๆคือทรวดทรงองค์เอวของเธอจัดอยู่ในระดับม.ต้น
ทั้งอก ทั้งก้น ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย มาติดใจไอ้ตรงปากนี่แหละ
ความอาภัพของเธอมันเริ่มจากที่เธอดันไปทำผิดพลาดครั้งใหญ่คือปล่อยให้ของไอเทมสำคัญที่อาจจะย้อนกลับมาทำอันตรายท่านจอมมารถูกขโมยไปโดยนักผจญภัย
เมื่อจอมมารรู้เข้าก็โกรธเป็นอย่างมากและตัดสินใจที่จะประหารเธอทันทีเดือดร้อนถึงดาร์คที่ถึงจะหมันไส้เธอหน่อยๆแต่ก็เห็นแก่ว่าเธอเคยช่วยแนะนำอะไรหลายๆอย่างอยู่
จึงรีบออกไปจัดการนักผจญภัยและนำไอเทมกลับมาคืนจอมมารได้ทันก่อนที่เมริลจะถูกประหารซึ่งจอมมารก็พอใจในผลงานของดาร์คมากแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะประหารเมริลอยู่ดี
ดาร์คจึงยื่นข้อเสนอไปว่าเขาขอรางวัลตอบแทนจากงานนี้เป็นการรับตัว เมริล มาเป็นทาสก็แล้วกัน แต่ดูเหมือนจอมมารจะไม่พอใจที่เหมือนเป็นการช่วยเหลือเมริล
ดาร์คจึงต้องโชว์ข่มขืนเมริลต่อหน้าจอมมาร(เป็นที่มาของการติดใจปากของเธอนี่แหละ)และบอกจอมมารว่าถ้าจะฆ่ามันสบายไปสู่เก็บไว้ทรมานเล่นดีกว่า จอมมารเห็นเข้าท่าดีจึงยอมยกให้
และบังคับสั่งให้เมริลทำพันธสัญญากับดาร์คเพื่อที่จะได้ตกเป็นทาสดาร์คโดยสมบูรณ์ แต่พอลับหลังดาร์คก็บอกเมริลว่าไม่ต้องทำสัญญาและให้เก็บเป็นความลับอย่าไปบอกจอมมาร
เมริลก็ถามเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ทำเพราะนี่เป็นโอกาสที่ดาร์คจะได้เอาคืนเธอโดยที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แต่ดาร์คก็บอกว่า ผู้หญิงที่ต้องยอมก้มหน้าก้มตาเป็นทาสเขาน่ะมันไม่สนุกหรอก สู้ปล่อยให้ซึนปากเก่งแบบนี้ดีกว่าเร้าใจดี
หลังจากนั้นเธอก็ตกหลุมรักดาร์คและคอยติดตามดาร์คตลอดเพื่อไม่ให้เรื่องที่ไม่ได้ทำสัญญาแตกไปถึงหูจอมมาร
และก็เป็นที่มาให้โดนแกล้งเรื่อยๆอย่างที่บอกไปข้างต้น ฉากที่ฮาคือตอนที่เธอโดนเรียกใช้บริการ(ปาก)บ่อยๆ
จนเธอบ่นว่า "เจอกันทีเอ็งไม่คิดจะมองหน้าตูหน่อยหรอเรียกมากี่ทีกี่ทีก็69ตลอด" แต่ก็มีซีนซึ้งๆเหมือนกัน
เพราะเธอเองก็เคยน้อยใจว่าตัวเองเป็นแค่นางบำเรอรึเปล่าแต่ดาร์คก็แสดงให้เธอเห็นว่าเธอก็เป็นเมียคนหนึ่งที่สำคัญของเขาและถ้าใครทำอันตรายเธอมันคนนั้นไม่ได้ตายดีแน่
ซึ่งในช่วงท้ายที่ดาร์คได้ขึ้นเป็นจอมมารคนต่อไปเธอก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพของดันเจี้ยน(แต่เธอก็บ่นว่าก็แค่ยกงานยุ่งยากมาให้เธอทำเท่านั้นเอง)
สาวคนต่อไป เธอมีชื่อว่า เอคาเต้ ทำตัวติดดินแต่เก่งจริงอะไรจริงระดับถ้าภาษาRPGทั่วๆไปก็จตุรเทพนี่แหละ
ตอนเจอกับดาร์คครั้งแรกถึงจะคุยกันสนิทสนมดีแต่เอาจริงๆเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวดาร์คเลยแม้ว่าบางครั้งจะเจอกันในดันเจี๊ยน
แต่เอคาเต้ก็จะออกแนวจริงจังกับงานปกป้องดันเจี๊ยนแม้ดาร์คจะพยายามคุยพยายมจีบแค่ไหนเธอก็ไม่ได้สนใจและปฏิเสธแบบธรรมชาติจนเสือผู้หญิงอย่างดาร์คไปไม่เป็นเหมือนกัน
จนกระทั้งเกิดเหตุการณ์นักผจญภัยที่เป็นอดีตเพื่อนของดาร์คได้ไปพบจุดอ่อนของเธอเขาซึ่งก็คือหนังสือลับที่ถ้าใครอ่านมันได้ก็จะสามารถควบคุมเอคาเต้ได้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง
จากนั้นมันก็ใช้เธอบุกถล่มเผามารพวกลูกน้องของเอคาเต้เป็นห่วงว่าถ้าเรื่องถึงจอมมารเธอต้องโดนฆ่าทิ้งแน่ๆก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากดาร์คซึ่งฮาตรงที่....
เหล่าหัวหน้าดันฯ : ขอร้องล่ะ ช่วยปราบเธอให้ได้สติก่อนที่ทุกอย่างจะสายที
ดาร์ค : พวกเอ็งเก่งกว่าตูแท้ๆแล้วมาบอกให้ตูที่อ่อนกว่าพวกเอ็งไปปราบแล้วตูจะรอดไหมล่ะ
เหล่าหัวหน้าดันฯ : แต่ผู้หญิงที่เก่งขนาดนั้นพวกตูก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่เขาว่าถ้าเป็นเสือผู้หญิงก็ไม่แน่
ดาร์ค : แล้วถ้าตูไป(ตู๊ด)กับไอดอลของพวกเอ็งแล้วจะด่าตูป่ะ
เหล่าหัวหน้าดันฯ : ถ้าทำได้ก็เอาดิ
ดาร์ค : โอเคๆ ลองดู
หลังดาร์ครู้ว่าจุดอ่อนอยู่ที่หนังสือก็ปราบเธอได้พอเธอได้สติก็กะจะฆ่าเพื่อนดาร์คด้วยความแค้นแต่ดาร์คห้ามไว้และปล่อยไป
เพราะจริงๆไอ้หมอนี่ก็เป็นคนดีแต่พอได้พลังมาก็เริ่มหน้ามืดตามัวจะล้างบางจอมมารเพื่อชื่อเสียงแต่พอโดนตบเกรียนก็หูตาสว่างกลับเป็นคนดีเหมือนเดิม
ส่วนเอคาเต้ก็แอบเคืองๆดาร์คที่ปล่อยหมอนี่แต่ก็เริ่มรู้สึกแปลกที่ตัวเองสนใจดาร์คจึงแวะไปหาที่บ้านพอคุยกันก็รู้ความจริงว่าจริงๆไม่ใช่ว่าเธอไม่สนผู้ชาย
แต่เธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชายหญิงต่างหากเมื่อเรียนเพศศึกษากับดาร์คก็คิดว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์เพราะคิดว่าตอนตัวเองโดนควบคุมไม่เห็นจะถูกลวนลามอะไรเลย
ดาร์คก็บอกว่าหมอนั่นมันเห็นเธอเป็นแค่เครื่องมือในการศึกษามากกว่าจะเห็นเป็นผู้หญิงหลังจากนั้นดาร์คก็สอนให้เธอรู้ว่าเธอมีเสน่ห์ร้อนแรงแค่ไหน
แน่นอนว่าจากนั้นเอคาเต้ก็หลงดาร์คจนโงหัวไม่ขึ้นคราวนี้งานการไม่ทำเลยจนเหล่าหัวหน้าดันฯต้องมาขอร้องดาร์คให้ช่วยเตือนๆเธอหน่อยว่าให้ใส่ใจงานด้วย
แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเอคาเต้เรียกว่าย้ายมาอยู่กับดาร์คตลอด24ชม.เลยก็ว่าได้ส่วนงานก็แวะทำลวกๆเอาจนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ให้ ไอ้ไมเคิล(จอมมารหัวแอฟโฟร่)
มันมาวางอาคมดัดหลังจอมมารปัจจุบันจนเกิดการยึดอำนาจขึ้นนี่แหละ ซึ่งเธอก็โดนเขกกะโหลกสั่งสอนไปหลังจากเหตุการณ์นี้
แม้ไอ้ไมเคิลจะขึ้นมาเป็นจอมมารตนใหม่แต่เอคาเต้ก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วก็ไม่กลัวด้วย เธอรู้แค่ว่าเธอมีหน้าที่ปกป้องดาร์คก็พอ
ซึ่งในช่วงท้ายเธอก็ได้ยึดตำแหน่งเมียและบอร์ดี้การ์ดไปพร้อมกันอย่างมีความสุขนั่นแหละ
และจตุรเมียหลวงคนสุดท้าย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านจอมมารนามว่า โฟเซลอตเต้
ช่วงต้นเกมส์โหดและเย็นชามากบทก็ไม่ค่อยมีเพราะพวกบรรดาลูกจ๊อกปีศาจต่างก็แปลกใจว่าทำไมดาร์คคุยเล่นหัวกับท่านจอมมารได้
ดาร์คก็บอกว่าที่เห็นคุยกันตอนโดนชุบชีวิตก็ไม่เห็นเธอจะโหดอะไรนี่นะแต่พวกลูกจ๊อกก็บอกว่านั่นแหละที่สุดยอดเพราะถ้าเป็นพวกมันนะโดนฆ่าไปแล้ว
พอได้ยินแบบนั้นดาร์คก็เลยอยากไปลองของดูว่าจะเป็นอย่างที่ว่ารึเปล่าซึ่งพอเข้าไปห้องจอมมารโดยพลการก็เจอรังสีกดดันทันที
ต่างจากตอนแรกที่เจอกันมากแถมจอมมารดูจะอารมณ์ไม่ดีสุดๆขนาดที่เธอขู่ดาร์คว่าถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญจริงๆโดนฆ่าทิ้งแน่
ดาร์คก็ทำใจดีสู้เสือบอกไปว่าเห็นพวกลูกน้องลือกันว่าเธอโหดจริงรึเปล่า จอมมารได้ยินก็หัวเสียบอกว่าไร้สาระ
เพราะมันเป็นเรื่องจริงซะยิ่งกว่าจริงและถ้าไม่รีบไปให้พ้นๆหน้าตอนนี้ล่ะก็โดนฆ่าแน่...
จากนั้นดาร์คก็เผ่นหนีและเข็ดชนิดที่ว่าไม่ไปหาถ้าไม่จำเป็นจนท่านจอมมารแทบไม่มีบทเลย
จนกระทั้งเธอโดนยึดอำนาจโดยไอ้จอมมารไมเคิลที่วางแผ่นมานานแกล้งทำตัวเฟรนลี่กับทุกคนไม่ยอมไปสร้างอาณาจักรใหม่อ้างว่าผูกพันกับที่นี่
แต่จริงๆเป็นเพราะดันเจี๊ยนแห่งนี้เป็นที่ซ่อนคุมพลังมหาศาลที่มันกะฮุบไว้คนเดียวตะหากแล้วระหว่างที่ตีเนียนทำตัวสนิทสนมกับทุกคนก็แอบวางอาคมเพื่อทำให้จอมมารอ่อนพลังลงไว้
หลังจากโฟเซลอตเต้โดนวางยาจนกลายเป็นโลลิแต่ไมเคิลก็ไม่สามารถฆ่าจอมมารได้อยู่ดีเพราะพลังที่แท้จริงของจอมมารเรียกว่าไร้พ่าย
เพราะถ้าหากศัตรูเข้าใกล้เธอก็จะถูกดูดพลังแบบออโต้จนแห้งตายยกเว้นก็แต่ดาร์คที่เป็นเหมือนถังEของจอมมาร
ซึ่งไมเคิลก็รู้ดีจึงได้วางยาดาร์คไว้โดยสะกดดาร์คจนสูญเสียความเป็นตัวเองและกลายเป็นสัตว์ป่าจากนั้นก็ปล่อยให้ดาร์คข่มขืนจอมมารในร่างโลลิเป็นเวลา10วันติด...
10วันต่อมาเมื่อดาร์คได้สติก็ตีเนียนยอมเป็นลูกน้องไมเคิลและยื่นข้อเสนอว่าจะปราบพวกที่คิดต่อต้านไมเคิลให้หมดโดยแลกกับการห้ามลงมือกับว่าที่เมียๆของดาร์คทุกคน
ไมเคิลที่คิดว่าดาร์คเป็นประเภทนกสองหัวเหมือนตนก็ถูกใจยอมรับข้อเสนอจากนั้นดาร์คก็ตีเนียนออกปราบกบฎไปพร้อมกับหาทางลบอาคมที่สะกดพลังของจอมมารไปด้วย
ระหว่างนั้นก็แวะไปหาจอมมารโลลิโดยตั้งชื่อเธอให้ใหม่ว่า โคเซลอต(จอมมารจิ๋ว) แรกๆจอมมารก็ยังแค้นและคิดจะฆ่าทิ้งทั้งดาร์คและไมเคิลอยู่หากได้พลังกลับมา
แต่ดาร์คก็แวะมาหาและหยอดคำหวานไปเรื่อยๆจนจอมมารที่อยู่ในสภาพขัดขืนไม่ได้ก็เริ่มใจอ่อน
หลังจากที่ดาร์คทำลายอาคมจนหมดแน่นอนว่าไอ้ไมเคิลก็.....ไม่เหลือซาก
ส่วนดาร์คก็หลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด(ร้องไห้จริงจังมาก).....เพราะคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอจอมมารโลลิ(โคเซลอต)อีกแล้ว
เมื่อเหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติท่านจอมมารโฟเซลอตเต้ก็บำเหน็จบำนาญให้เหล่าลูกน้องที่ไม่คิดทรยศกันถ้วนหน้า
จะเหลือก็แต่ดาร์คที่ยืนใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆว่าตูจะรอดไม่รอดก็ไอ้ที่แวะไปหยอดคำหวานเอาไว้นี่แหละ(ก็เล่นไปข่มขืนจอมมารนี่นะ)
จากนั้นจอมมารก็ถามดาร์คว่าเตรียมใจไว้รึยังส่วนดาร์คก็คิดว่าได้จัดหนักจอมมารในร่างโลลิไปแล้วถึงจะถูกฆ่าก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแล้วล่ะ
แต่กลายเป็นว่าจอมมารได้บอกถึงสาเหตุที่ชุบชีวิตเพราะดาร์คเป็นผู้ชายคนแรกที่ปฏิเสธเธอเพราะเมื่อตอนที่ทั้งคู่สู้กัน
จอมมารจะไว้ชีวิตดาร์คหากเชื่อฟังเธอแต่ดาร์คกลับปฏิเสธและใช้พลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าไปบีบนมเธอก่อนตาย
ทำให้จอมมารคิดว่าไอ้ผู้ชายคนนี้มันบ้าบอดีจะให้ตายไปทั้งอย่างนี้ก็น่าเสียดายเลยชุบมาดูเล่น...
ในช่วงท้าย...วันเวลาผ่านไปพอรู้ตัวอีกทีดาร์คก็ได้ขึ้นมาเป็นจอมมารแทนโฟเซลอตเต้นั่นก็เพราะโฟเซลอตเต้ต้องเอาเวลาไปเลี้ยงลูก
ส่วนดาร์คก็ดีใจที่ได้เห็น"โคเซลอต"อีกครั้งซึ่งไม่ใช่จอมมารในร่างโลิลแต่เป็นลูกสาวที่ถอดพิมพ์แม่มาเลยทีเดียว
ท่านจอมมารเห็นดาร์คปลื้มลูกสาวขนาดนี้ก็เกิดอาการกลัวว่าสักวันดาร์คอาจจลงมือกับลูกสาวตัวเองจนนอนไม่หลับเฝ้าลูกสาวไม่ยอมห่าง
(กลัวตั้งแต่ที่ตั้งชื่อลูกสาวว่าโคเซลอตเหมือนกับฉายาตัวเองร่างโลลิตอนโดนข่มขืนแล้ว)
โฟเซลออเต้ : สักวันเจ้าอาจจะบุกเข้ามาปล้ำโคเซลอตก็เป็นได้เพราะแบบนี้แหละข้าถึงข่มตาหลับไม่ลงยังไงล่ะ
ดาร์ค : ปล้ำเลยเรอะ!!(ลูกสาวนะเฮ้ย)
โคเซลอต : เอ๋...แล้วจะไม่ปล้ำหนูรอ
โฟเซลอตเต้ : หยาบคาย.....ใครกันบังอาจมาสอนให้ลูกสาวข้าพูดจาหยาบโลนแบบนี้
ดาร์ค : ก็ไอ้คนที่เพิ่งจะพ่นคำพูดหยาบโลแบบนี้ต่อหน้าลูกสาวยังไงล่ะ
โฟเซลอตเต้ : งืออออออ
แต่ก็ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกเพราะถึงเวลาจริงๆก็เรียกหาโฟเซลอตเต้ในร่างประหยัดพลังงานก็จบ(จอมมารโลิลินั่นแหละ)
และในช่วงท้ายสุดจะมีกองทัพอัศวินบุกเข้ามาซึ่งไม่ใช่ใครอื่น เซีย บุกมาทวงผัวคืนนั่นเอง
ปล. จตุรเมียหลวงหมดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อเหล่าอนุภรรยาอีกที