ตามแนวคิดศาสนาคริสตร์ ส่วนใหญ่ คนที่ปีศาจจะมาหลอกล่อให้ทำสัญญาด้วยคือคนที่มีจิตใจดี ที่จะได้ขึ้นสวรรค์
ให้ขายวิญญาณให้ แลกกับผลประโยชน์เล็กๆ น้อยพอตาย ปีศาจก็จะได้วิญญาณคนนั้นไปลงนรก ซึ่งคนชั่วที่
ต้องลงนรกอยู่แล้วจะขาย วิญญาณไม่ได้ เรื่อง Bedazzled นี่แหละตัวอย่างดีที่สุดในคอนเซปต์ของการขายวิญญาณให้ปีศาจ
ที่ขายวิญญาณแลก Big Mac นั่นแหละ
ส่วน ใน DnD Warlock เป็นพ่อมดผู้ชั่วร้ายที่ขายวิญญาณให้ปีศาจ แลกกับพลังอำนาจ ตามคอนเซ็ปต์ความเชื่อของพ่อมด แม่มดในยุคกลาง
ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ เราต้องไปล่าวิญญาณผู้บริสุทธ์ มาจ่ายให้ปีศาจสะสมแต้ม แบบแชร์ลูกโซ่ ซึ่งก็ตามสไตล์พ่อมดแม่มดที่จะหาสารพัดวิธีโกงปีศาจ
มายุคนี้ ปีศาจส่วนใหญ่ก็เลยต้องบ่นๆว่าโดนมนุษย์โกงบ่อยเลยเลิกแลกเปลี่ยนวิญญาณ แต่เป็นขอ คอลเลคชั่น Warhammer แทน
ฮาเรื่อง Bezaddle ไม่ได้ดูมาตั้งนานแล้วแต่ผมคิดว่าน่าสนใจครับเรื่องคนดีจะได้โอกาส
มามุกเดียวแบบชานะหรือมาโดกะคือ
"คนที่ทำสัญยาได้คือคนที่มีความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่"
ชานะมีการอธิบายว่าอาจจะเป็นมหาจักรพรรดิที่สำคัญของโลกรหือภริยาหรือแม่ของจักรพรรดิที่สำคัญนั้นแต่มาทำสัญญาเป้นเฟลมเฮซว่างั้น
อย่างเรื่อง Bezaddle เราก็จะเห็นว่าในเรื่องปีศาจกับเทพเล่นหมากรุกโดยเอาเราเป็นหมากว่างั้น
(1) ต้องการวิญญาณใครก็ได้ไปทำนี่นั่นนู่น ?
(2) ต้องการใครก็ได้เยอะๆมาเป็นมือเป็นเท้า ? แบบเดียวกับที่มุซันในดาบพิฆาตอสูรได้สร้างอสูรกระจอกมาเยอะๆเพื่อช่วยหาดอกฮิกันสีน้ำเงิน
เดามั่วนะเออ
ผมไม่รู้
ตอนเล่น Warlock ใน BG3 (เกมใช้ระบบ DND 5th Edition) ก็ไม่เคยเลือก The Fiend เพราะมันดูชั่ว+ต้องขายวิญญาณ (traded their souls to these dark forces in exchange for power)
เลือกแต่ Archfey เพราะเขียนไว้ว่า "ได้รับการอวยพรจากมหาภูต" (Graced by a lady or lord of the fey)
- ได้รับการอวยพร... แปลว่าอาจจะไม่ต้องหาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับพลังเหมือน Fiend กับ Great Old One
- ดูชั่วน้อยสุด
- ได้จินตนาการแบบจูนิเบียวว่าเป็น "เด็กผู้เป็นที่รักของมหาภูติ" (妖精の愛し子) แบบมังงะแนว Otome Isekai (จนป่านนี้ก็ยังติดมังงะแนวนางร้าย/สตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น)
นั่นล่ะครับ
แต่ทางเทคนิคคนเราเลือกที่จะทำกับปีศาจมากกว่าภูตนะครับเพราะการตีความสัญยาของภูตให้ตีความแบบเดียวกับก็อบลินในเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์แต่ยากกว่า
ว่าการตีความตามตัวอักษรไม่คิดจะให้เราได้ประโยชน์แต่อย่างใดแม้แต่นิดเดียว
นึกถึงตำนานอุราชิม่าทาโร่นั่นล่ะครับ
ที่เปิดกล่องออกมามีของขวัญแต่ก็ทำให้เรากลายเป้นคนชราไปด้วยนยั่นล่ะคือ "ของขวัญ" จากพวกภูตล่ะ
ผลเลยกลทยเป็น พอมองแบบเป็นตรรกะแล้ว กลายเป็นพระเจ้าไม่ใช่สิ่งสูงสุดที่มีอำนาจเหนือทุกสิ่ง
จะให้พระเจ้ารู้เห็นทุกสรรพสิ่งบนโลกก็กลาย เป็นสิ่งชั่วร้าย ก็ต้องเป็นประสงค์ของพระเจ้า
จะให้เป็นตัวเเทนของความดีงาม ความรักเมตตาทั้งหมด สิ่งชั่วร้านที่เกิดขึ้นเป็นของอีฝั่ง ก็เท่ากะ ไม่มีอำนาจเด็ดขาดเหนือทุกสิ่งล
คอนเซปพระเจ้ามันเลยลักๆลั่นๆ ก้ำๆกึ่งๆ ไม่สุดสักทาง
พวกสายศาสนามองว่าให้ย้อนกลับไปอ่านแถวเจเนซิสครับพระเจ้าคือต้นกำเนิดทุกอย่างแม้แต่ความชั่วด้วยหากเราไม่ลืมกัน
แต่อย่างที่ว่ายุคปัจจุบันศีลธรรมสำคัญมากขึ้นแม้แต่มุสลิมยังแก้ตัวว่า"การฆ่าล้างเมืองนั้นเป็นแค่ครั้งเดียวที่พระเจ้าสั่งในครั้งนั้น แต่โดยหลักแล้วห้ามเอาไว้"เพื่อพยายามแถหรือแก้ตัวแทน
ส่วนการตีความวว่าพระเจ้าพันธสัญยาเดิมกับพันธสัญยาใหม่เป้นคนละคนนั้นคือแนวคิดนอกรีตตั้งแต่กำเนิดสษสนาคริสต์เลยน่ะครับ
เพระาหากตีความกันจริงๆ
พระเยซูคือแรบไบของชาวยิว
จอห์น เดอะแบบติสที่ทำศีลจุ่ให้พระเยซู อ่านมารู้สึกได้ความประมาณฤาษีของอินเดียเลย
ทานน้ำผึ้งกับแมลงใส่เสือ้ผ้าขนอูฐ
เทพกรีซบอกว่าความชั่วร้ายทั้งหลายในโลกทำเองกับมือครับท่าน
คิดว่าปัญหาของเรื่องคือ ช่วงทีเปลี่ยน จากพหุเทวนิยมมาเป็นเอกเทวนิยม
ทำให้ศักดิเทพทั้งหมด โดน Merge รวมมาด้วย ซึ่งในยุคยิว ไม่มีปํญหา เพราะพระเจ้าคล้าย
เทพสูงสุด ที่บงการทุกอย่างแต่ยุคพัฒนาเป็นศาสนาคริสตร์ที่ลดความโหดร้ายของพระเจ้าลง
ยกสถานะพระเจ้าเป็นสิ่งบริสุทธ์ ตัวแทนของความดีงามเลยเกิดการลักลั่นทางคอนเซปต์และตรรกะ
อย่างของฮินดูพรหมเป็นผู้สร้างแล้วก็ไม่ยุ่งอะไรกับโลก สร้าง + แจกอย่างเดียว
เรื่องแก้ปัญหาเป็นหน้าที่เทพองค์อื่น
แต่คริสตร์ ทำแบบนั้นไม่ได้ จะให้เป็นเทพบริสุทธ เมตตา ก็ติดภาพความโหดร้าย ของพระเจ้ายิว
จะให้ คงความโหดร้ายของพระเจ้ายิว ก็ผิดคอนเซ็ปต์ ความรักและเมตตา ของคริสตร์อีก
เรื่องดีชั่วเจเนซิสบอกไว้แล้วครับว่าสร้างทั้งหมดนั่นล่ะ
แค่ปัจจตุบันแบบเดียวกับทุกสาสนาเราแกล้งลืมๆบางอย่างที่ไม่สะดวกใจนักในยุคปัจจุบันไป
อย่างผมแซวศาสนาพุทธเหมือนกันว่าพระไตรปิฏกก็มีคาถาอะไรต่างๆเหมือนกันอย่ามาแกล้งลืมพระเยซุก็ไล่ผีออกจากตัวของชีเปลือยที่อยู่ในสุสสานได้ในกาลีลีอย่าแกล้งลืมกันไป
การไล่ผีทำได้และมีอยู่ีจริงในไบเบิ้ล
ลูปโฮลชอง พล็อต วิญญาณคือ
ถ้าคนดี ได้ไปอยู่กะ พระเจ้า บนสวรรค์ ตลอดนิรันดร์กาล
คนชั่ว ขายวิญญาณ ต้องไปอยู่ในนรก ชั่วกับชั่วกัล
แล้ววิญญาณมันจากมาจากไหน ?
งอกได้แบบเห็ดหน้าฝน โผล่ๆ กันขึ้นมาเอง,?
ถ้าบอกว่าพระเจ้าสร้างขึ้นมาแล้วล่ะก็ ทำไมไม่ไปสร้างบนสวรรค์ไปเลย สร้างบนโลกปล่อย.ห้ปีศาจมาแย่งวิญญาณเอาไปเพิ่มพลังหรือพรรคพวกตัวเอง เพื่ออะไร
วิญญาณไม่ใช่ของที่หมุนเวียนไปๆมาๆ แต่เป็นของที่เกิดได้เอง?
แต่สายศาสนามักจะบอกว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกอย่าง?
หรือแบบสายพุทธ ที่บุตด้าเคยตั้งคำถามว่า หากพระเจ่าเป็นผู้สร้างผู้กำหนดทุกสิ่ง พระเจ้สก็ต้องเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายมากเช่นกัน
เพราะ สิ่งเลวร้ายสารพัดที่เกิดบนโลก พระเจ้าเป็นผู้กำหนดให้เกิด
เรื่องนี้ ฮานิดหน่อยครับ
โทลคีนพยายามจะแก้เรื่องนี้เอาสษสนาคริสต์มาผสมกับเรื่องนักรบชอวยุโรปกลายเป้ฯอภินิหาริย์แหวนครองพิภพ
ว่าพระเจ้า เอรูมีบทเพลงอะไรทุกอย่างพร้อมไว้หมดแล้วทุกยอ่างที่เกิดขึ้นอยู่ในแผนการของพระเจ้าแล้วทั้งนั้นว่างั้น
หากเจอรเื่องทุกข์ทรมานให้ไปอ่านคัมภีร์ในส่วนของจ็อบ
ที่พระเจ้าทดสอบศรัทธาของจ็อบกับซาตานว่าจ็อบยยังคงศรัทธาอยู่เสมอแม้ลุกเมียจะตายอนาถก็ตาม
"ขายวิญญาณให้ปัศาจ" หรือ "ทำสัญญากับปีศาจ"
ชายคนหนึ่ง แอบบขุดศพขึ้นมาผ่าเพื่อศึกษากายวิภาค เขาถูกคริสตจักร์สมัยนั้นกล่าวหา "ขายวิญญาณให้ปัศาจ"
ชายคนหนึ่ง เดินเรือ ดูดาว และศึกษาคณิตศาตร์ เขาพยายามบอกกับผู้คนว่า แท้จริงแล้วโลกนั้นกลม "ขายวิญญาณให้ปัศาจ"
หญิงเลี้ยงผึ่งคนหนึ่ง รักษาบาดแผลของชาวบ้านได้ด้วยการสัมผัส(ทายา) "ทำสัญญากับปีศาจ"
--------------------------------
สมัยก่อนมีความเชื่อว่า แวมไพร์ เป็นผู้หญิง จะล่อสวงผู้ชายตองกลางคืน เพื่อสูบเอาพลังชีวิตด้วยการร่วมเพศ
ในยุคที่โบราณมากๆ จะมีผู้หญิงที่ไม่แต่งงาน อุทิศตนให้เป็นผู้รับใช้เหล่าทวยเทพ ลูกของพวกเธอจะถูกเรียกว่าลูกแห่งเทพ
แต่จริงๆแล้วหน้าที่ของพวกเธอคือมีลูกกับยรรดาฮีโร่ที่มีความแข้งแกร่งและชื่อเสียง
---------------------------------
ในบริบทโบราณ การสูบเอาพลังชีวิตไปจากฮีโร่ หมายถึงการรับเอา DNA ไป
ใบยุคมืด การทำสัญญากับปีศาจ หมายถึงการขัดกับคำสอนหรือขัดผลประโยชน์กับทางศาสนาจักร
ในแง่มุมทางศาสนา ซาตานต้องการเพิ่มจำนวนดงวิญญาณที่หันหลังให้กับพระเจ้า (เพิ่มพันธมิตรหรือเพิ่มลูกสมุน)
----------------------------------
ในนิยาย
บ้างก็ว่า เอาวิญญาณ ไปทำเครื่องมือ/อาวูธ
บ้างก็ว่า เอาพลังชีวิตไปเปลี่ยนเป็นมานา
บ้างก็ว่า เอาวิญญาณไปสร้างฟาร์มผลิตอาหาร
บ้างก็ว่า เอาวิญญาณไปเปลี่ยนเป็นปีศาจ
ขอบคุณครับ
ผมไปเจอมาว่าแบบคาถาแต่ละคาถาเราจะได้มาจากพวกปีศาจที่จะบอกเรามานั่นล่ะครับ
ช่วงนี้ทางตะวันออกกลางกำลังเครียดและมีการว่าเรื่องพะรผู่ไถ่ตัวปลอมตามคำทำนายอะไรต่างๆ
ว่าไปแล้วมีมุมมองคือคนที่มีเวทย์คนอื่นคือปีศาจทั้งนั้นคนใช้เวทย์ได้มาจากพระเจ้าเท่านั้น
แต่เราก็อาจจะบอกว่าตูไม่ใช่สาย priest ผู้ศรัทธา