แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: วิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง กับศาสนาโดนยกเลิกจริงๆ นะเหรอ  (อ่าน 4723 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,406
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]


อ้าว ถ้ารัฐคุม แสดงว่าศาสนาและพระสงฆ์จะไม่เป็นกลางทางการเมืองนะครับ ยิ่งกลายเป็นการตอกย้ำให้ศาสนาเป็นเครื่องมือทางการเมืองยิ่งไปกว่าเดิม
เพราะรัฐสามารถใช้กฎหมายควบคุมพระสงฆ์ได้โดยสมบูรณ์ซ้ายหันขวาหันได้ตามต้องการ
แล้วอีกอย่างผมตั้งข้อสงสัยทำไมต้องให้ศักดิ์กฎหมายสูงถึงพรบ.ด้วยครับ ทั้งที่มีกฎหมายชั้นต่ำกว่า เช่น พรฎ หรือ กฎกระทรวง หรือแม้แต่ระเบียบองค์กร


คุณ@Rumia เข้าใจคำว่า "ศักดิ์ของกฎหมาย" หรือเปล่าครับ เข้าใจหรือเปล่าว่าศักดิ์กฎหมายพรบ.สูงเท่ากับประมวลกฎหมายอาญาและแพ่ง ทราบมั้ยครับว่ามันหมายความว่าอะไร?
นั่นหมายความว่ากฎของพระสงฆ์มีอำนาจสูงเท่ากับประมวลกฎหมายอาญาและแพ่ง ทำให้ประมวลกฎหมายเอาผิดพระไม่ได้ ให้ใช้พรบ.สงฆ์แทน สรุปทุกคนไม่ได้อยู่ในกฎหมายเดียวกันเหรอครับ?
มันถึงเกิดเหตุการณ์ที่ต้องบังคับให้สึกก่อนถึงค่อยเอาผิดขึ้นศาลไงครับ


แล้วถ้าจะลงโทษพระสงฆ์ที่ละเมิดธรรมวินัยอะไร ถามว่าจำเป็นต้องใช้อำนาจสูงถึงพระราชบัญญัติเลยเหรอครับ? แค่ระเบียบองค์กรไม่พอใช้บังคับเหรอ?
คุณรู้เปล่าว่าศักดิ์ของพรบ. มันสูงกว่า พระราชกฤษฎีกา และ กฎกระทรวง แล้วมันต่างอะไรกับกฎชารีอะห์ ที่รัฐอิสลามส่วนใหญ่หัวรุนแรงก็กำหนดกฎชารีอะห์มีสถานะเท่ากับพรบ.
ผมกำลังบอกว่าไทยเองก็ไม่ได้ต่างจากรัฐอิสลามหัวรุนแรงเลย ในเมื่อโครงสร้างของกฎหมายมันเหมือนกันคืออยู่ชั้นพรบ. ที่สามารถควบคุมคนทุกคน ไม่ใช่แค่กลุ่มคน

ผมถึงไม่แปลกใจว่ามันคือเจตนาจงใจบรรจุศาสนาพุทธในหลักสูตรสามัญขณะที่ศาสนาอื่นบรรจุเป็นวิชาหลักไม่ได้ เพราะพรบ.มีศักดิ์กฎหมายเหนือกว่ากฎกระทรวง


คุณทราบหรือเปล่าว่า พรบ.มันมีศักดิ์สูงขนาดไหน การผ่านกฎหมายพรบ.คือต้องผ่านสภานะ จะแก้อะไรแต่ละทีให้เหมาะสมกับยุคสมัย มันแก้ยากกว่ามากนะ


คือผมไม่ติดใจเรื่องว่าทุกศาสนาก็มีกฎศาสนาควบคุมกลุ่มคนและสาวกของตัวเอง แต่ผมถามว่าทำไมคุณต้องเอามายุ่งการเมืองด้วยการเอากฎแค่กลุ่มคนเล็กๆไปอยู่สูงถึงศักดิ์กฎหมายพรบ. มันโครตไม่มีเหตุผลเลยนะ ทั้งที่ระเบียบองค์กรก็พอแล้ว ทุกคนรู้ว่ากฎหมายคือเครื่องมือหนึ่งของการเมือง แล้วการเอากฎพระมาเป็นกฎหมายนั่นหมายความว่าคุณเปิดโอกาสให้การเมืองใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ เหมือนกับที่รัฐอิสลามหลายรัฐทำ เพราะคุณแยกไม่ได้เพราะมันระบุเป็นกฎหมายชั้นสูงสุดรองจากรัฐธรรมนูญไงล่ะ
[img/]


ผมทำงานบริษัทก่อสร้างเอกชนที่ต่างชาติ มันก็มีกฎระเบียบเหมือนกันว่าจะ สั่งของอย่างไร ทำเอกสารอย่างไร บลาๆๆ ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่ระเบียบองค์กรที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับราชการ คุณเข้าใจ Point ผมมั้ย
แต่ผมกำลังตั้งคำถามให้คุณ@Rumia ฉุกคิดว่าทำไมกฎกลุ่มคนเล็กๆอย่างสงฆ์ ถึงถูกบรรจุกลายเป็นพรบ.ที่เป็นกฎหมายบังคับใช้กับคนหมู่มาก


คุณดูแผนผังดีๆนะ จะเห็นได้ว่ายิ่งอยู่บนสุดคือบังคับใช้กับคนทั้งประเทศ แต่ถ้าอยู่ล่างๆคือบังคับใช้เฉพาะบางบุคคลและบางกลุ่ม คุณต้องเข้าใจศักดิ์กฎหมายก่อนนะครับ
ผมจะบอกว่าศาสนามันคือการเมืองตังแต่แรกอย่างแยกไม่ออกครับอย่างน้อยก็ที่ไทย การที่รัฐออกพรบ.สงค์มาควบคุมเพื่อควบคุมทางการเมืองอยู่แล้วครับ เพื่อไม่ไห้มีอำนาจเหนือรัฐและไห้รัฐควบคุมพระได้มันเป็นแบบนี้ตังแต่แรก เพราะพระมันควบคุมคนหมู่มากได้ระดับหนึ่งไงครับประเทศอื่นอาจไห้อิสระแต่ประเทศไทยไม่ไห้ครับ ที่ศาสนาอื่นๆไม่มีพรบ.ควบคุมเพราะมันไม่ได้ชี้นำคนไทยได้มากเเบบพุทธครับ และประเทศอื่นๆไม่มีกฏหมายควบคุมศาสนาเพราะศาสนาไม่มีอิทธพลในการชี้นำคนขนาดไทย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2021, 06:00:21 PM โดย Rumia »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,593
  • ถูกใจแล้ว: 3454 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
[quote/]
ผมจะบอกว่าศาสนามันคือการเมืองตังแต่แรกอย่างแยกไม่ออกครับอย่างน้อยก็ที่ไทย การที่รัฐออกพรบ.สงค์มาควบคุมเพื่อควบคุมทางการเมืองอยู่แล้วครับ เพื่อไม่ไห้มีอำนาจเหนือรัฐและไห้รัฐควบคุมพระได้มันเป็นแบบนี้ตังแต่แรก เพราะพระมันควบคุมคนหมู่มากได้ระดับหนึ่งไงครับประเทศอื่นอาจไห้อิสระแต่ประเทศไทยไม่ไห้ครับ ที่ศาสนาอื่นๆไม่มีพรบ.ควบคุมเพราะมันไม่ได้ชี้นำคนไทยได้มากเเบบพุทธครับ และประเทศอื่นๆไม่มีกฏหมายควบคุมศาสนาเพราะศาสนาไม่มีอิทธพลในการชี้นำคนขนาดไทย


ยุคใหม่มันแยกได้ครับ อย่างหลายประเทศปัจจุบันก็เป็นรัฐฆราวาส ก็แค่อย่าบรรจุกฎศาสนาเป็นกฎหมายของรัฐ มันจะไปยากอะไร
เราเห็นตัวอย่างรัฐอิสลามที่ใช้กฎชารีอะห์ที่ทำให้ประเทศล้าหลังลงกว่าเดิม เพียงเพื่อจะควบคุมคน สุดท้ายผลร้ายมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง


อย่าง 6 ตุลา 2519 วลี "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" ท้ายสุดเป็นไงครับ สุดท้ายคนชาติพันธุ์เดียวกันก็ทำสงครามอันไร้ความหมายขึ้นเพื่อลดประชากรตัวเองอย่างสูญเปล่า
ไม่ใช่ว่าเราไม่มีตัวอย่าง เรามีตัวอย่างหลายครั้งแล้วเรื่องการเอาศาสนาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง สุดท้ายเละกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครได้อะไร แล้วก็มานิรโทษกรรมตัวเอง ปี 2522 กันอย่างน่าสมเพช


เราเคยทำมาแล้วหลายยุคหลายสมัยแล้ว 6 ตุลา 2519 ก็ไม่ใช่ครั้งแรก มีหลายครั้งรัตนโกสินทร์ กรุงธนบุรี ไปจนถึงอยุธยา


ญี่ปุ่นเองทราบมั้ยครับว่าไดเมียวเบี้ยวการจ่ายภาษีโชกุนด้วยวิธีไหน ด้วยการบอกว่าตัวเองเป็นพระไงครับ พ่อของโอดะ โนบุนางะก็มีอีกอาชีพเป็นพระ ทาเคดะ ชินเง็นก็เป็นพระ อุเอสึงิ เคนชินก็พระ Everyone แม่งเป็นพระหมดเพื่อจะเบี้ยวภาษี จะได้เอาเงินที่เบี้ยวภาษีที่ควรส่งส่วนกลางมาสะสมกองทัพของตัวเองเพื่อขยายอาณาเขต ไหนจะกบฏพระอิกโกะอิกกิอีก นี่ไงครับเซนโกคุจิได Everyone พร้อมใจกันโหนศาสนา เพราะศาสนามีอำนาจการเมือง ทุกคนต่างชี้นิ้วแล้วบอกว่าเอ็งน่ะมันมารศาสนา(โอดะ โนบุนางะถูกตราหน้าเป็นมารศาสนา จอมมารฟ้าแห่งสวรรค์ชั้นที่ 6) ถามหน่อยเหอะต่างอะไรกับการชี้นิ้วแล้วบอกคนอื่นว่าชังชาติ?


เชื่อผมเถอะพุทธเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าอิสลามเอง จนท้ายสุดหลายประเทศได้ปฏิรูปมันถึงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่หลังจากเซนโกคุจิไดก็ได้แยกศาสนาออกจากการเมืองอย่างชัดเจนขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ให้ไดเมียวมีอาชีพพระนักบวชซ้อนเพื่อหนีภาษี และใช้เงินสะสมกองกำลังของตัวเองขึ้นมา


ของบ้านเราก็มีครับ ก๊กพระฝางแห่งภาคเหนือ ที่พระดำรงตำแหน่งผู้ปกครองก๊ก และก็ทำศึกกับพระเจ้ากรุงธนบุรี เละเทะมากๆ สุดท้ายผลร้ายย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองทั้งนั้นครับ


ดังนั้นความเชื่อ ค่านิยมของคนกลุ่มหนึ่งไม่อาจเอามาตราเป็นกฎหมายได้ครับ และก็ไม่ควรให้สูงถึงขั้นพระราชบัญญัติด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2021, 05:30:28 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,406
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]


ยุคใหม่มันแยกได้ครับ อย่างหลายประเทศปัจจุบันก็เป็นรัฐฆราวาส ก็แค่อย่าบรรจุกฎศาสนาเป็นกฎหมายของรัฐ มันจะไปยากอะไร
เราเห็นตัวอย่างรัฐอิสลามที่ใช้กฎชารีอะห์ที่ทำให้ประเทศล้าหลังลงกว่าเดิม เพียงเพื่อจะควบคุมคน สุดท้ายผลร้ายมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง


อย่าง 6 ตุลา 2519 วลี "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" ท้ายสุดเป็นไงครับ สุดท้ายคนชาติพันธุ์เดียวกันก็ทำสงครามอันไร้ความหมายขึ้นเพื่อลดประชากรตัวเองอย่างสูญเปล่า
ไม่ใช่ว่าเราไม่มีตัวอย่าง เรามีตัวอย่างหลายครั้งแล้วเรื่องการเอาศาสนาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง สุดท้ายเละกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครได้อะไร แล้วก็มานิรโทษกรรมตัวเอง ปี 2522 กันอย่างน่าสมเพช


เราเคยทำมาแล้วหลายยุคหลายสมัยแล้ว 6 ตุลา 2519 ก็ไม่ใช่ครั้งแรก มีหลายครั้งรัตนโกสินทร์ กรุงธนบุรี ไปจนถึงอยุธยา


ญี่ปุ่นเองทราบมั้ยครับว่าไดเมียวเบี้ยวการจ่ายภาษีโชกุนด้วยวิธีไหน ด้วยการบอกว่าตัวเองเป็นพระไงครับ พ่อของโอดะ โนบุนางะก็มีอีกอาชีพเป็นพระ ทาเคดะ ชินเง็นก็เป็นพระ อุเอสึงิ เคนชินก็พระ Everyone แม่งเป็นพระหมดเพื่อจะเบี้ยวภาษี จะได้เอาเงินที่เบี้ยวภาษีที่ควรส่งส่วนกลางมาสะสมกองทัพของตัวเองเพื่อขยายอาณาเขต ไหนจะกบฏพระอิกโกะอิกกิอีก นี่ไงครับเซนโกคุจิได Everyone พร้อมใจกันโหนศาสนา เพราะศาสนามีอำนาจการเมือง ทุกคนต่างชี้นิ้วแล้วบอกว่าเอ็งน่ะมันมารศาสนา(โอดะ โนบุนางะถูกตราหน้าเป็นมารศาสนา จอมมารฟ้าแห่งสวรรค์ชั้นที่ 6) ถามหน่อยเหอะต่างอะไรกับการชี้นิ้วแล้วบอกคนอื่นว่าชังชาติ?


เชื่อผมเถอะพุทธเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าอิสลามเอง จนท้ายสุดหลายประเทศได้ปฏิรูปมันถึงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่หลังจากเซนโกคุจิไดก็ได้แยกศาสนาออกจากการเมืองอย่างชัดเจนขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ให้ไดเมียวมีอาชีพพระนักบวชซ้อนเพื่อหนีภาษี และใช้เงินสะสมกองกำลังของตัวเองขึ้นมา


ของบ้านเราก็มีครับ ก๊กพระฝางแห่งภาคเหนือ ที่พระดำรงตำแหน่งผู้ปกครองก๊ก และก็ทำศึกกับพระเจ้ากรุงธนบุรี เละเทะมากๆ สุดท้ายผลร้ายย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองทั้งนั้นครับ


ดังนั้นความเชื่อ ค่านิยมของคนกลุ่มหนึ่งไม่อาจเอามาตราเป็นกฎหมายได้ครับ และก็ไม่ควรให้สูงถึงขั้นพระราชบัญญัติด้วย
คำถามคือแล้วไงครับมีบทเรียนแล้วไงก็จะทำแบบนี้อยู่ดีไช่ว่าไม่รู้จักไดโนเสาร์ไทยสักหน่อย ประเด็นคือควบคุมนะดีแล้วที่ไม่ดีคือควบคุมได้เเย่มากต่างหาก บวกกับปล่อยศาสนาอื่นๆแบบตามสบายเกินไปต่างหาก ที่รัฐควบคุมแค่ผลประโยชน์ไช้จริงๆเท่าไหรกันมีพรบ.ไว้เล่นฝ่ายตรงข้ามแค่นั้นนี่ต่างหากที่เป็นปัณหา

ออฟไลน์ boss28225

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 13
  • ถูกใจแล้ว: 2 ครั้ง
  • ความนิยม: +0/-0
ประวัติศาสตร์อาจจะไม่ต้องยกเลิกก็ได้
แต่พวกวรรณกรรม ศาสนา หน้าที่พลเมืองอ่ะมีทำไม
เรื่องพวกนี้ควรเป็นความสนใจส่วนบุคคลถ้าอยากรู้ก็หาเอง
จะจุมาให้สอนเยอะทำไม ละก็ยัดเวลาเรียนเด็กเยอะ
ควรให้เค้าไปหาสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ควรทำดีกว่านะ
เรียนมาเยอะสุดท้ายไม่ได้ใช้ มันเสียเวลา
 

ออฟไลน์ maotrade

  • พ่อค้าทาสผู้ลุ่มหลงเอลฟ์อ๊ปไป
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,051
  • ถูกใจแล้ว: 17751 ครั้ง
  • ความนิยม: +774/-109
  • เพศ: ชาย
  • เหตุผลและความรู้สึก
ประวัติศาสตร์ควรเรียนแบบรวมๆของสากลด้วยไม่ใช่เน้นแต่มหากษัตริย์ไทย เน้นพัฒนาการบ้านเมืองก็ดี ประวัติศาสตร์ชาติมหาอำนาจต่างๆก็ด้วย
ศาสนา สอนให้หมดแค่ขั้นต้นพอ ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ ยัดมันทุกปี ศาสนาพุทธ ขนาดโรงเรียนคริสต์ยังบังคับเลย่ผมเคยเรียนโดนมาแล้ว ???


หน้าที่พลเมืองสอนแต่อย่ายึดติดมันเปลี่ยนตามกาลเวลา
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,593
  • ถูกใจแล้ว: 3454 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
การเรียนประวัติศาสตร์ที่ดี ไม่ใช่เรียนประวัติศาสตร์ไทยอย่างเดียวครับ แต่ต้องเรียนประวัติศาสตร์โลกเป็นหลักครับ เพราะ บริบทของสังคมโลกเป็นตัวแปรกำหนดการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยของไทย
ยกตัวอย่างเช่น ประวัติศาสตร์สุโขทัย กับ อยุธยา ที่กระทรวงศึกษาชอบใส่ความรักชาตินิยมแบบรัฐชาติสมัยใหม่ลงในสองอาณาจักรเก่า ทั้งที่บริบทสังคมของ 2 อาณาจักรเก่ามันยังไม่รู้จักเส้นเขตแดนแผนที่และอำนาจอธิปไตยเลย ดังนั้นจะไปมีบริบทของชาตินิยมรัฐชาติสมัยใหม่ได้อย่างไร


อย่างการปกครองของอยุธยา คือ ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์(Feudalism) ที่เขาให้ความสำคัญคือบรรณาการในรูปของทรัพยากร มีเจ้าผู้ปกครองหลายคน และเจ้าผู้ปกครองนั้นก็ปกครองกันเองอีกทีแบบปิรามิด ใครนึกระบอบนี้ไม่ออกไปดูอนิเมะที่พึ่งฉายตอนนี้เลย "ยุทธศาสตร์กู้ชาติของราชามือใหม่" หรือ "ราชาทาสโซมะ" ระบบ 3 ดยุคในเรื่องนี่แหละคือระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ที่เจ้าผู้ครองแคว้นแต่ละคน(Duchy) แต่ละคนมีอำนาจบริหารแคว้นและมีกำลังทหารเป็นของตนเอง


ส่วนการปกครองสุโขทัยมันยิ่งแล้วใหญ่เลย การปกครองช่วงสุโขทัยตอนต้นแบบพ่อปกครองลูก อันที่จริงถ้าพูดกันตรงๆคือ ระบอบอนาธิปไตย หรือ ระบอบชนเผ่า หรือภาษาอังกฤษเรียก Chiefdom ถ้าใครนึกไม่ออกว่า Chiefdom หน้าตาเป็นอย่างไรก็ให้นึกภาพแบบชนเผ่ากอลล์ที่จูเลียส ซีซาร์บุกตีน่ะครับ หรือง่ายๆใครเล่น Skyrim จะรู้ว่าตำแหน่งเจ้าเมืองเจ้าแคว้น ที่เรียกว่า Jarl นั่นแหละคือระบบ Chiefdom ส่วนภายหลังพอเมืองขยายตัวขึ้นก็กลายเป็นศักดินาสวามิภักดิ์


อีกเรื่องหนึ่งที่คนเข้าใจผิดคือ Timeline ของสุโขทัยกับอยุธยาจริงๆมันไม่ได้จบสุโขทัยแล้วไปอยุธยา แต่เป็นสุโขทัยวิ่งไปพร้อมกับอยุธยา สุโขทัยถือเป็นประเทศราชย์หรือเมืองขึ้นของอยุธยา


ซึ่งสมัยอยุธยาตอนต้น-กลางทั้งไทย อาเซียนและยุโรปยังเป็นระบอบศักดินาสวามิภักดิ์หมด จนกระทั่งอยุธยาตอนปลายที่ยุโรปพัฒนาเปลี่ยนเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศษ สเปน หรือที่เรียกกันว่าจักรวรรดินิยม(Empirism) ที่จะยกเลิกระบบเจ้าแคว้นไปให้หมดให้เหลือแต่เจ้าผู้ปกครองเพียงเจ้าเดียว และไทยก็มาเปลี่ยนในสมัยร.5 และร.7 ก็กลายเป็นระบอบรัฐสมัยใหม่ในที่สุด


หนังสือเรียนชอบทำให้ตีความสับสน เอาบริบทหลังร.7 มาใช้กับอยุธยากับสุโขทัย อย่างนี้ไม่ถูกครับ มันไม่ตรงกับบริบทของโลก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2021, 08:29:46 AM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ patcharapon

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 502
  • ถูกใจแล้ว: 136 ครั้ง
  • ความนิยม: +7/-13
ผมชอบเรียนประวัติศาสตร์นะ ครูโรงเรียนผมแซบมาก ปากนะชอบเล่านอกเรื่องมาผสมแบบพาเสี่ยงคุกตลอด ทำให้สนุกไปอีกแบบ ผมจำไม่ค่อยได้แล้วครูเล่าส่วนไหนอะไรไปบ้าง เพราะผมรู้ว่าหนังสือประวัติศาสตร์ของพม่าเขียนคนละแบบกับเรา คือเขียนอวยของใครของมันกันเลย
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: maotrade, Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,593
  • ถูกใจแล้ว: 3454 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
ผมชอบเรียนประวัติศาสตร์นะ ครูโรงเรียนผมแซบมาก ปากนะชอบเล่านอกเรื่องมาผสมแบบพาเสี่ยงคุกตลอด ทำให้สนุกไปอีกแบบ ผมจำไม่ค่อยได้แล้วครูเล่าส่วนไหนอะไรไปบ้าง เพราะผมรู้ว่าหนังสือประวัติศาสตร์ของพม่าเขียนคนละแบบกับเรา คือเขียนอวยของใครของมันกันเลย


การเรียนประวัติศาตร์ที่ดีจะต้องตั้งคำถามในเรื่องเหตุผลการตัดสินใจของผู้ปกครองว่าทำไมถึงต้องดำเนินนโยบายในลักษณะนั้น ในลักษณะนี้ ถึงแม้คนโบราณจะไม่ได้มีการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เท่ากับคนสมัยเรายุคปัจจุบัน แต่พวกเขาไม่ได้โง่นะ บางครั้งการตัดสินใจอาจจะฉลาดกว่าบางเหตุการณ์ของคนยุคปัจจุบันในบริบทสังคมแบบโบราณด้วยซ้ำ


ยกตัวอย่างประวัติศาตร์โรมัน
1.ถ้าใครศึกษาประวัติของจูเลียส ซีซาร์ จะเข้าใจว่าจูเลียส ซีซาร์นอกจากเป็นแม่ทัพโรมันที่เก่งกาจ ยังเป็นนักการเมืองที่เก่งมาก เห็นได้จากตอนที่แย่งตำแหน่งกงศุลซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐโรมันระหว่าง Crassus กับ Pompey


Pompey ต้องการผ่านกฎหมายที่ดินเพื่อเป็นรางวัลตอบแทนให้แก่ทหารของเขาที่รบที่ชายแดนโรมันตะวันออก ขณะที่ Crassus ต้องการผ่านกฎหมายภาษีเพื่อให้ตนเองและกลุ่มพ่อค้าจ่ายภาษีน้อยลง แต่สมาชิกสภานั้นแบ่งออกเป็นครึ่งต่อครึ่งสนับสนุนแต่ละฝ่ายทำให้ในที่สุดไม่มีใครได้อะไรเพราะยกมือผ่านกฎหมายไม่ผ่านเลยซักฉบับ ซึ่งถ้าเวลาผ่านไปก็ต้องเกิดสงครามกลางเมืองเป็นแน่ และตอนนั้นเองที่จูเลียส ซีซาร์ได้ปรากฎตัวออกมาและได้ขอเป็นคนกลาง โดยจะทำทีเป็นหุ่นเชิดตรายางปั้มผ่านกฎหมายให้แก่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ทั้งคู่ ทำให้ทั้ง Crassus และ Pompey ตัดสินใจให้คนในสภาของตนเองโหวตให้ซีซาร์ได้ตำแหน่งกงศุลและเป็นคนกลางทั้งสองคนในการผ่านกฎหมาย นี่เป็นจุดเริ่มต้นอำนาจทางการเมืองของจูเลียส ซีซาร์ และเป็นบันไดก้าวสำคัญที่ทำให้ซีซาร์มีอำนาจมากที่สุด


2.ใครศึกษาประวัติของจักรพรรดิ Constantin จะทราบว่าทำไมศาสนาคริสต์ที่เคยถูกปราบปรามในยุคก่อนๆของโรมัน(รวมถึงจับเยซูสำเร็จโทษแขวนกางเขนจนเสียชีวิต) กลับสามารถรุ่งเรืองได้ นั่นเพราะในมุมมองของจักรพรรดิ Constantine เล็งเห็นว่าโรมันนั้นเปิดกว้างทางด้านศาสนามากเกินไป ทำให้มีศาสนาท้องถิ่นมากมายจนเกิดความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมและศาสนา จักรพรรดิ Constantine ก็เลยสนับสนุนศาสนาคริสต์เพื่อให้คนโรมันนับถือศาสนาเดียว และรวมถึงชำระคำสอนเยซูกับนักบุญเปาโลที่เล่าต่อๆกันมาให้เป็นรูปเล่ม จนเรียกว่า "คัมภีร์พันธสัญญาใหม่" หรือ New Testament


หลายคนอาจจะงงว่า พันธสัญญาเก่า กับ พันธสัญญาใหม่ต่างกันอย่างไร


พันธสัญญาเก่าจะว่าด้วยเรื่องของ ประวัติศาสตร์ชนชาติยิวเช่นกษัตริย์ดาวิด วันสิ้นโลก เรือโนอาร์ เป็นต้น สำคัญที่สุดคือกล่าวถึงการอพยพของคนยิวด้วยการนำของผู้นำยิวคือโมเสส เรียกว่า Exodus และบัญญัติ 10 ประการ


ส่วนพันธสัญญาใหม่จะว่าด้วยเรื่องของ เยซู เพียงอย่างเดียว ทั้งประวัติ การสนทนากับคนอื่นและคำสอนของเยซู


ดังนั้นถ้าอิงจากพันธสัญญาเก่า จะเห็นได้ว่าถ้ามองดีๆ ก็คือประวัติศาตร์การปลดแอกชาวยิวจากการเป็นทาส ชาวยิวภาคภูมิใจกับการปลดแอกตนเองจากการเป็นทาสมาก
ขณะที่เยซูก็คือผู้ที่เป็นอาจารย์สอนศาสนาแก่ชาวยิวเช่นกัน แต่เป็นนิกายที่สอนเรื่องให้ชาวยิวทำตามบัญญัติ 10 ประการ เพราะกลัววันสิ้นโลก เป็นนิกายวันสิ้นโลกอย่างหนึ่ง


ส่วนการกำเนิดศาสนาคริสต์นั้นเครดิตนี้ให้นักบุญเปาโลเลยครับ เนื่องจากแกตีความใหม่ว่า เยซูไม่ใช่แค่อาจารย์สอนศาสนา แต่เป็นพระบุตรที่เป็น Messiah(ผู้ส่งสารจากพระเจ้า) และเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ผู้นับถือยูดายจะต้องเป็นแค่กลุ่มคนชาวยิว แต่กระจายเผยแพร่ไปทุกชาติพันธุ์ผ่านการตีความใหม่ของนักบุญเปาโล(St.Paul)
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก