อหิงสา หรือการประท้วงโดยสงบ อันนี้เราจำกันจากกรณีของคานธีที่พยายามประท้วงไล่อังกฤษเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งยุคต่อๆมาก็เริ่มเป็นแบบอย่างไปหลายๆกรณี เช่น ตอน กปปส ก็มีการใช้หลักตรงนี้มาอ้างถึง หรือปัจจุบัน กรณีเพนกวิ้น แกนนำผู้ปรท้วงคณะราษฎรยุคใหม่ก็ใช้วิธีนี้ประท้วงด้วยการอดอาหารในคุก
สิ่งที่ผมอยากจะบอก
อหิงสาไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ทุกเงื่อนไข สิ่งที่หลายๆคนเข้าใจผิดกันมากนั้นหลายจุดเลย ซึ่งผมจะขอยกมาตามที่เข้าใจ (หมีท่านอื่นๆรู้เพิ่มเติมก็เม้นบอกได้ครับ) คือความคิดที่ว่า
อังกฤษมีอารยะที่เห็นความเป็นมนุษย์มากพอ ความจริงสมัยนั้นอังกฤษก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นพ่อพระอะไรนักหนาหรอก แรกๆยิงผู้ประท้วงชาวอินเดียทิ้งเป็นพฤษภาทมิฬเลยด้วยซ้ำ แถมไม่ใช่ว่าคานธีเข้าคุกอดอาหารรอบเดียวจบ แต่เข้าๆ-ออกๆคุกหลายรอบอยู่เหมือนกัน บางครั้งอังกฤษปล่อยให้อดอาหารแบบไม่สนใจจนสุดท้ายคานธีต้องยอมกินก่อนเพื่อรักษาชีวิตด้วยซ้ำ
แต่ช่วงหลังๆนั้นอังกฤษอ่อนแอมากแล้ว เพราะเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ฝั่งยุโรปที่เป็นมาตุภูมิก็เยอรมัน ฝั่งเอเชียก็มีญี่ปุ่น แถมทหารที่ประจำการแถวเอเชียก็โดนฆ่าทิ้งเป็นเบือ โดนจับไปสร้างทางรถไฟสายหนองปลาดุก-เมืองกาญจน์-พม่าก็มี อีกทั้งตอนนั้นแนวคิดชาตินิยมก็แพร่หลาย คนอินเดียส่วนมากก็ร่วมใจกันไล่อังกฤษ
ด้วยเงื่อนไขตอนนั้น ต่อให้ไม่มีคานธี อังกฤษก็ต้องถอยเหมือนเดิม อีกอันนึงเลย ระบบบูชาบุคคล ที่บูชาท่านผู้นั้นไม่พอยังบูชากันข้ามประเทศ
คานธีทำเพื่อคนทั้งชาติ ถ้าเป็นขวาไทยยังพอเข้าใจนะ แต่ฝ่ายซ้ายบ้านเราดันเป็นไปกับเขาด้วย คือเอ็งยังไม่เข็ดกับท่านผู้นั้นอีกรึไง เอาจริงๆคานธีวีรกรรมก็ไม่ได้น่ายกย่องนักหนาหรอก เพราะหลังไล่อังกฤษสำเร็จก็พยายามจะรักษาระบบวรรณะให้มีต่อไป (เรื่องของเรื่อง คือถ้ามองในมุมจัณฑาล อังกฤษเป็นฮีโร่ด้วยซ้ำ เพราะให้งาน ให้สวัสดิการและความรู้สมัยใหม่ อาจไม่ถึงกับโอ๋แต่ก็ยังดีกว่าเป็นลูกไล่คนชาติเดียวกันที่แค่เผลอเหยียบเงาคนมีวรรณะก็โดนฆ่าได้ง่ายๆ ส่วนพวกที่ชาตินิยมจัดๆก็เป็นพวกมีวรรณะ โดยเฉพาะกษัตริย์ พรามณ์ แพศย์ที่ก่อนโดนอังกฤษยึดก็ชีวิตดีกันอยู่แล้ว เลยมีเลือดชาตินิยมแรง) ตอน ดร.เอ็มเบร็ดการ์พยายามยื่นข้อเสนอกฎหมายให้สิทธิจัณฑาล ก็พยายามขัดขวาง แถมยังจะอดอาหารประท้วงจนติ่งคานธีไม่ถูกใจสิ่งนี้ ดร.เอ็มฯ สุดท้ายก็ต้องใช้วิธีให้จัณฑาลเปลี่ยนศาสนา
อหิงสา มันใช้ได้แค่บางกรณีเท่านั้น ในสภาวะที่คนส่วนมากให้ควมร่วมมือกับผู้นำประท้วง ก็เหมือนส่วนซ่อนด้านบนที่ผมกล่าวไป แต่สภาวะแบบนี้
ถ้าจะให้มันสำเร็จจริงๆ อาจจะต้องใส่แนวคิดบูชาตัวบุคคลลงไปด้วย เพราะการที่จะให้มีเอฟเฟคตรงนี้ คนๆนั้นต้องมีคนบูชาหรือเคารพ เป็นพรรคพวกชนิดยอมตายแทนได้ในจำนวนมากๆก่อนถึงจะไปต่อได้
ตอน กปปส ที่ว่าโหนอหิงสากันบ่อยมากและเป็นฝ่ายชนะ นั่นก็เพราะมีผู้สนับสนุนเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกและเจ้าสัวนายทุนเจ้าต่างๆ ตามที่คุณ
@Black7nos เคยร่วมให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้ และถ้าพิจารณาให้ดี จะพบว่าสิ่งที่ กปปส ทำก็ไม่ได้อหิงสาเสียทีเดียว
นี่เป็นภาพตอน กปปส บุกทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อันนี้คือพวกดาราฝ่าย กปปส ประท้วงไม่เอาเลือกตั้ง
และนี่ก็คือการขัดขวางการเลือกตั้ง ที่โคตรจะเป็นการทำลายรัฐธรรมนูญของประเทศ (ส่วนป้าเสื้อขาว กางเกงชมพูที่รูปซ้ายกลาง กับบนกลางไม่ใช่ กปปส นะครับ เป็นคุณป้าคนนึงที่แค่มาเลือกตั้งตามสิทธิเท่านั้น แต่โดนพวกนั้นขวางนางก็เอาไฟฉายว่อง เป็นนัยยะว่าอยากให้พวก กปปส ตาสว่าง แต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี)
สรุปเลย อังกฤษไม่ใช่ว่าจะเป็นพ่อพระตามที่เล่าลือ คานธีไม่ได้น่ายกย่องขนาดนั้น และอหิงสาจะใช้ได้เมื่อสภาวะอำนวยแก่ผู้ประท้วงมากๆเท่านั้น ม๊อบใดที่ว่าแอบอ้างอหิงสานั้นไม่มีการที่จะไม่ใช้ความรุนแรงเสียทีเดียว แม้แต่ม๊อบอินเดียไล่อังกฤษก็ใช่ว่าจะไม่เสียเลือดเนื้อ
แต่ยุคใหม่ก็ไม่แน่ อาจจะมีวิธีลดการเสียเลือดเสียเนื้อได้มากขึ้นก็ได้ ที่ผมยกมาพูดเพราะเห็นมีคนโหนอหิงสากันเยอะมาก ซึ่งมันใช้ไม่ได้ผลในหลายๆกรณี รวมทั้งกรณีนี้ด้วย
https://www.bbc.com/thai/international-56848448?at_custom2=facebook_page&at_custom1=%5Bpost+type%5D&at_custom3=BBC+Thai&at_medium=custom7&at_custom4=373D0B72-A4F4-11EB-B898-5ED439982C1E&at_campaign=64&fbclid=IwAR2FL84epNS-b82tmH5373iC_7h1t9q_xfdFPQRSYySJN3h76F6-zpGdrEQ