เจ้าของเครือข่ายยักษ์ใหญ่ Cisco ออกมาเปิดเผยข่าวว่าชิปคอมพิวเตอร์จะขาดตลาดไปจนถึงสิ้นปีนี้
หลายบริษัทได้พบว่าการผลิตชิปล่าช้า เนื่องจากขาดแคลน "Semi-Conductor" หรือ "สารกึ่งตัวนำ", เนื่องด้วยสาเหตุโรคระบาดโควิด-19 และปัจจัยอื่นๆที่เลวร้ายลง
เจ้าของ Cisco นาย Chuck Robins ได้กล่าวต่อสำนักข่าว BBC ว่า "พวกเราคิดว่าพวกเราจะขาดแคลนสารกึ่งตัวนำนี้ไปอีก 6 เดือน"
"ผู้จัดหากำลังวิจัยเพิ่มความจุให้มากขึ้น และนั่นอาจจะดีขึ้นและดีขึ้นในอีก 12 ถึง 18 เดือนถัดจากนี้"
การขยายความจุเป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G, ระบบ Cloud, อะไรก็ตามที่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตและรวมถึง AI ด้วย
เพื่อผลักดันรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
"ใช่ แล้วตอนนี้มันเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก" เขากล่าว "เนื่องจาก Semi-Conductor(สารกึ่งตัวนำ)ถูกใช้แทบในเกือบจะทุกอย่าง"
นั่นดูเหมือนว่าความต้องการ Semi-Conductor(สารกึ่งตัวนำ)ที่ไม่รู้จักพอนี้จะเป็นเหตุผลให้บริษัทผู้ผลิตสัญชาติอเมริกันอย่างบริษัท Intel
ได้ออกมาประกาศว่าจะขยายฐานการผลิต 20,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ในแผนขยายฐานการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 โรงงาน
ตามที่นาย Dan Ives, นักวิเคราะห์เทคโนโลยีด้านการลงทุนประจำบริษัท Wedbush Securities Current
"ความต้องการของตลาดอาจจะพุ่งสูงเกินกว่า 25% กว่าที่ใครหลายคนคาด"
"และสภาวะความขาดแคลนนี้จะมีระยะยาวนาน 3 ถึง 6 เดือน" ราคาหุ้นบริษัทด้านเทคโนโลยีกำลังทะยานขึ้น
เพราะนักลงทุนเหล่านี้กำลังให้สนใจลงทุนเน้นการเจริญเติบโตแบบระยะยาวของความต้องการของผลิตภัณฑ์
ภาพประธานาธิบดีโจ ไบเดนและที่ปรึกษากำลังประชุมกับผู้นำทางธุรกิจเพื่อหาทางออกสภาวะชิปขาดตลาด
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็เห็นปัญหานี้ในเชิงระยะยาวและได้ใช้ทำเนียบขาวในการประชุมกับผู้นำทางธุรกิจเพื่อเร่งรัดให้ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำการผลิตชิป
ท่ามกลางสงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างอเมริกากับจีน โดยกล่าวว่า "นี่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด"
สมาคมอุตสาหกรรมการผลิต Semi-Conductor(สารกึ่งตัวนำ) ของอเมริกากล่าวว่า 75% ของมูลค่าในตลาดเอเชียตะวันออก
คือ บริษัท TSMC ของไต้หวัน และบริษัท Samsung ของเกาหลีใต้ คือผู้เล่นหลักในส่วนแบ่งการตลาดนี้
นักการเมืองยุโรปก็ต้องการให้ชิปคอมพิวเตอร์ถูกผลิตขึ้นมามากกว่านี้ และด้วยความกังวลว่าจีนแผ่นดินใหญ่มีแผนที่จะกลืนไต้หวันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายจีนเดียว
ในขณะที่จีนมองเห็นความต้องการชิปที่เติบโตขึ้นเพื่อขุมพลังเทคโนโลยีใหม่ แต่กลับมีผู้ผลิตจำนวนน้อยรายที่สามารถผลิตชิปได้
นาย Chuck Robbins เจ้าของ Cisco ยังกล่าวว่า "ผมคิดว่ามันไม่สำคัญว่ามันผลิตจากที่ไหนตราบเท่าที่คุณสามารถจัดหาได้จากหลายแหล่ง"
อย่างไรก็ตาม CEO ของบริษัท Intel นาย Pat Gelsinger ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว BBC อย่างไม่พึงพอใจว่า "ชิปจำนวนมากเกินไปถูกผลิตจากเอเชีย"
https://www.bbc.com/news/technology-56512430บริษัท TSMC ของไต้หวันได้ออกมาเปิดเผยอีกว่า พวกเขามีแผนที่จะยืนหยัดเป็นอันดับหนึ่งด้านการผลิตชิปคอมพิวเตอร์
ด้วยการจ่ายเงินลงทุนเพิ่มเติมมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐเพื่อขยายฐานการผลิตชิปภายใน 3 ปีถัดจากนี้
สัปดาห์นี้ผู้ก่อตั้ง TSMC นาย Morris Chang เรียกร้องไปทางรัฐบาลของไต้หวันให้ปกป้องธุรกิจให้ปกป้องธุรกิจผลิตชิปคอมพิวเตอร์นี้
เพื่อให้ยังครองอันดับดียิ่งขึ้นไปในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์เหนือกว่าทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนแผ่นดินใหญ่ที่สองประเทศนี้กำลังให้การช่วยเหลือเงินลงทุนการผลิตชิปแก่ประเทศตนเอง
ภาพนาย Morris Chang ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์ TSMC กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลไต้หวันช่วยปกป้องธุรกิจการผลิตชิปของไต้หวัน
สภาวะการขาดแคลนชิปของตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นไปในขณะที่โรคโควิด-19 กำลังระบาด ในทีแรกหลายบริษัทได้ลดการสั่งซื้อชิปลดลง
เมื่อคิดว่าปริมาณความต้องการตลาดจะลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น ซึ่งก็ทำให้บริษัทผู้ผลิตชิปลดการผลิตลง
อย่างไรก็ดีความต้องการของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อิเล็คโทรนิคซ์กับเพิ่มขึ้นระหว่างโรคระบาดโควิด-19 นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชิปจึงขาดตลาด
ดังนั้นเมื่อผสมรวมเข้ากับเรื่องเทคโนโลยีเจเนเรชั่นนี้ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วอย่างเป็นประวัติการณ์สำหรับอุตสาหกรรมประเภทนี้ สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลง
ตามที่นาย Paul Triolo ผู้นำด้านที่ปรึกษาทางเทคโนโลยีที่ใช้ในทางภูมิศาสตร์แห่งบริษัทที่ปรึกษา Eurasia Group ออกมากล่าวในทำนองเดียวกันว่า
เขาคิดว่ามันไม่สำคัญว่าชิปจะถูกผลิตจากที่ไหนตราบเท่าที่มันมีหลายแหล่ง และยืนกรานว่าสภาวะความขาดแคลนชิปจะคงอยู่เช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง
นั่นทำให้นาย Chuck Robbin เจ้าของ Cisco ได้ออกมากล่าวว่า
"สิ่งที่พวกเราไม่ต้องการคือการที่ความเสี่ยงต่างๆมันมารวมกันอยู่ที่เดียวเหมือนที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่
พวกเราเพียงต้องการตัวเลือกที่มากขึ้นหลายแหล่งการผลิตที่มากขึ้นเพื่อให้พวกเรามีตัวเลือกมากขึ้น"
และนาย Chuck Robbins ยังคงกล่าวทิ้งท้ายว่า
"สถานการณ์สภาวะตลาดขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์อาจจะยิ่งเลวร้ายลงเมื่อหลายบริษัทต่างก็เพิ่มยอดสั่งจองชิ้นส่วน, ผมกลัวว่าจะเกิดสภาวะขาดตลาดขึ้นอีกครั้ง"
(ถ้าแปลผิดก็ขออภัยด้วยครับ เพราะค่อนข้างรีบแปลเมื่อเช้า)
สรุปวิเคราะห์ประเด็น1.การผลิตชิปล่าช้า เพราะ Semi-Conductor(สารกึ่งตัวนำ)ขาดตลาด
2.จากปัญหานี้ทำให้บริษัท Intel ประกาศขยายฐานการผลิตเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด
3.รัฐบาลอเมริกากับจีนกำลังให้การสนับสนุนเม็ดเงินเพื่อให้บริษัทผลิตชิปในประเทศขยายฐานการผลิตเพื่อที่จะยึดครองตลาดชิปในสงครามเศรษฐกิจระหว่างอเมริกากับจีน
4.รัฐบาลจีนหวังกลืนไต้หวันในนโยบายจีนเดียวเพื่อที่จะได้ยึดบริษัท TSMC ที่เป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของโลกและมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ณ ขณะนี้
5.บริษัท TSMC กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลไต้หวันปกป้องด้วยการสนับสนุนธุรกิจการผลิตชิปของไต้หวันเพื่อที่ยังสามารถครองตลาดต่อไปได้
6.หลายบริษัทที่มีความต้องการชิปคอมพิวเตอร์กล่าวตรงกันว่ามันไม่สำคัญว่าชิปจะถูกผลิตจากไหน แต่อยากให้ขยายฐานการผลิตและมีหลายๆแหล่ง มิเช่นนั้นก็จะเกิดสภาวะขาดแคลาดชิปเช่นนี้อีก
Ref
https://www.bbc.com/news/technology-56847518