เคยดูหนังฝรั่ง นิยายญี่ปุ่น เรื่องที่คนสองคนมีพลังหยั่งรู้อนาคต แล้วต่อสู้กัน ด้วยการร่างอนาคตใหม่ๆ
แตกแยกย่อยออกมา คนนึงมองเห็นอนาคตแบบนี้ อีกคนดักทางแก้ คนเดิมดักทางอีกที สู้กันในมโนภาพ
เพราะต่างคนก็ต่างรู้อนาคตที่จะเดินไป ก็เลยมีตอนจบของหนัง ละคร นิยายแนวนี้หลายอย่าง เช่น
1.บ้างสู้กันทางมโนภาพจนเลือดกำเดาไหล สมองได้รับการกระทบกระเทือนอ่อนล้า จนพ่ายแพ้ไป
2.บ้างใช้ลูกเล่นซ้อนลูกเล่น
3.บ้างใช้วิธีไม่คิดอะไรเลย แล้วไปหักมุมที่หน้างานล้วนๆ ประมาณว่าทำให้อีกฝ่ายคาดอนาคตไม่ได้ เพราะ
คาดการณ์ไม่ได้
4.บ้างเล่นกับความสำเร็จในการทำนายอนาคตของอีกฝ่าย ทำให้เป็นไปตามคำทำนายที่อีกฝ่ายมองเห็น แต่
รายละเอียดหลังจากนั้น หรือรายละเอียดที่ซ่อนอยู่กลับเป็นไปตามเกมตามแผนที่ตัวเอกวางไว้ เช่น
ทั้งตัวเอกและอีกคนก็รู้ว่าในไม่ช้า ตัวเอกตาย ซึ่งจะต้องตายไม่งั้นกลุ่มฮีโรเดินทางไปต่อไม่ได้ ตัวเอกจึง
วางแผนสร้างองค์กรลับ คอยช่วยฮีโรและจะให้ตัวเองตายตามที่ทำนายไว้ เป็นภารกิจใหญ่หลวงซึ่งต้อง
ทำให้ภาพออกมาว่า ตนเองถูกฮีโรจัดการในตอนกลางเรื่องตามคำทำนายที่ตัวเอกรู้อนาคตและอีกฝ่าย รวมทั้ง
ฝ่ายเดียวกับฮีโรก็รู้คำทำนายนี้ ตัวเอกหญิงหลายคนก็ต่อต้านและเศร้า แต่อันที่จริงตัวเอกแพลนไว้ว่า จะ
แสร้งตาย สร้างภาพ สร้างเหตุการณ์ให้เป็นไปตามคำทายของทุกฝ่าย
ตอนนี้นึกออกได้เท่านี้สำหรับ [การสู้กันของพวกที่มองเห็นอนาคตได้เป็นองค์กรนี่ควรจะออกมาอย่างไรครับ?]
ขอบคุณครับ
ผมนึกภาพเชอร์ล้อคโฮล์ม
ภาคที่สู้กับมอริอาตี้น่ะครับ
แล้วต่างฝ่ายต่างคาดการร์การกระทำล่วงหน้าของอีกฝ่าย
สรุปว่าไม่มีทางชนะ เชอร์ล็อคโฮล์มเลยกระดดน้ำตกตายร่วมกันแบบหนังจีน
ว่าการมองเห็นอนาคตมันต้องสร้างให้มีข้อจำกัดและขีดจำกัด
และขนาดการต่อสู้แบบตัวต่อตัวยังซับซ้อนขนาดนั้น
การต่อสู้กับองค์กรและองค์กรเลยยากที่จะรู้ว่าใครแพ้ใครชะ
นึกถึงภาพอเวนเจอร์ดร.สแตรงจ์น่ะครับ
การกระทำหลายอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างหนึ่งที่คนที่วางแผนต้องการ
แต่การเขียนให้คนอ่านเข้าใจและลุ้นเอาใจช่วยได้นั้นมันลำบากมากกว่าการเขียนแบบดำเนินเรื่องราวปรกติ
พวกมองอนาคตนี่ผมคิดว่ามีข้อเสียแบบเดียวกับการอ่านใจ
คือหากไม่ชนะไปเลยก็แพ้ไปเลย ไม่มีการอยู่ระหว่างกึ่งกลางในความสามารถประเภทนี้
การดวลกันของผู้มองเห็นอนาคตให้เทียบกับหมากรุกครับ
คือบางคนอาจจะไม่เล่นหรือเล่นไม่เป็น
การมองเห็นอนาคตที่จุดจบก็เหมือนการไปดูตอนแพ้ รึก่อนแพ้ไม่กี่ตา
ซึ่งส่วนใหญ่จะไร้ประโยชน์ เพราะจะโดนเด็ดแขนขาไปทีละนิดจนไร้ทางแก้เกม
รึมองเห็นอนาคตล่วงหน้า มันก็คำนวนตาเดินฝั่งตรงข้ามได้โดยไม่ต้องมองเห็นอนาคต
เรียกว่าการมองเห็นอนาคตจะมีประโยชน์จริงๆก็ตอนมีตัวแปรมากเกินไปจนคำนวนไม่ได้
ถ้าจะคำนวนได้ก็ต้องตัดตัวแปรไม่สำคัญออกให้หมด
แล้วตัดทางเลือกให้เหลือน้อยที่สุด
เช่น การแพทย์ดี คนมีแนวโน้มจะอายุยืน
ต่อไปรัฐต้องอุ้มคนแก่จำนวนมาก
มาวันนึงมีเชื้อโรคระบาด คนตายส่วนใหญ่เป็นคนแก่
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ......
นั่นก็น่าสนใจครับ
คือมุกแบบที่ทำให้เกิดความรู้สวึกว่า
ต่อให้เรารู้เรื่องราวของเซ็ตติ้งนั้น
แต่กำลังไม่มากพอเราก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
เช่นเราย้อนเวลากลับมาก่อนหน้าที่ไวรัสจะระบาด
แล้วเราจะหยุดการระบาดของไวรัสวได้ไหม?
ก็ไม่ได้เพราะเราไม่มีอำนาจพอที่จะหยุดยั้งรัฐบาลในการทำเรื่องราวต่้างๆได้
การเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลกไม่ใช่เรื่องง่ายๆขนาดนั้นนี่คือที่ต้องการจะสื่อล่ะครับ
เรียกว่าคือมุกที่ตรงข้ามกับการเหยียบผีเสื้อตัวเดียวและไดโนเสาร์ครองดลกหรือฮิตเลอร์ชนะสงคราม
มันคือการมองอนาคตว่าค่อนข้างกกำหนดแน่นอนแล้วหากไม่มีปัจจัยบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ทั้งหมดอย่างร้ายแรง