คิดอย่างไรกับระบบของกิลด์ในแนวต่างโลก-แฟนตาซีครับ?

[Lucifer216]

กิลด์พวกนี้มันก็ออกแนวรับจ้างสารพัดแหละครับ รับทำทุกอย่างที่มีคนขอเข้ามา เก็บสมุนไพร ฆ่ามอน ล้างท่อ คุ้มกัน ทำมันทุกอย่างที่มีคนออกเควสให้แล้วได้ค่าตอบแทน ระบบนี้ดีไหม ดีในระดับนึงครับ เพราะส่วนใหญ่จะเซ็ตโลกเป็นยุคกลางกันหมด ซึ่งอำนาจจะบริหารจะอยู่ที่ขุนนางกับราชาเป็นส่วนใหญ่ อารมณ์นักผจญภัยมันก็คงคล้ายๆกับพวกนายพรานนี่แหละ มีหมูป่ามาก่อกวนที่ไร่จะให้ไปเรียกทหารมาจัดการก็คงไม่มีขุนนางที่ไหนยอมส่งทหารไปทำแน่ครับ เพราะงั้นจึงต้องไปจ้างคนพวกนี้แหละมาจัดการ เพราะตามตรรกะแล้วทหารคือกำลังพลสำคัญของพวกขุนนางการจะเคลื่อนพลหรือส่งคนออกไปไหนมาไหนง่ายๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ดินแดนข้างๆหวาดระแวงได้ว่าจะมาตีเมืองตัวเองหรือเปล่า ดังนั้นการมีพวกกิลด์นักผจญภัยก็จึงเป็นคำตอบครับ
อีกอย่างทหารยุคกลางถ้าจำไม่ผิดคือทหารอาชีพมีเงินประจำ ดังนั้นจะรับจำนวนจำกัดในกรณีที่ไม่มีสงครามเพราะต้องคุมเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเพราะมันมีต้นทุนเช่น ค่าฝึก ค่าอุปกรณ์ต่างๆอีก ดังนั้นจะส่งคนของตัวเองไปทำงานเสี่ยงๆบ่อยๆไม่ได้ครับ

ปล.ส่วนพวกบัคอย่างนักผจญภัยแรงค์ S ที่เก่งขนาดล้มประเทศได้ส่วนมากก็จะมีเรื่องละไม่กี่คนแล้วแต่ละคนก็จะโดนยัดนิสัยแปลกๆเข้าไปทำให้ชอบความเป็นอิสระไม่อยากถูกผูกมัดทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองทุกคน ดังนั้น ถ้าจะให้กิลด์ก่อการล้มประเทศได้ก็ต้องให้พวกแรงค์ S สักคนยอมร่วมมือนั้นแหละถึงจะสำเร็จ ส่วนพวกแรงค์ A ผมมองว่าก็น่าจะพอๆกับระดับท็อปของพวกทหารแหละครับปล2.อย่างเรื่อง"มนุษย์ธรรมดาๆแต่มีเมียเป็นกอริล่า" นักผจญภัยเมืองหลวงแต่ละคนอย่างเก่งแต่ทหารในเรื่องก็ไม่ใช่กระจอกเหมือนกัน ส่วนพวกแรงค์ S แต่ละคนก็.........

[Panzerelite]

กิลด์พวกนี้มันก็ออกแนวรับจ้างสารพัดแหละครับ รับทำทุกอย่างที่มีคนขอเข้ามา เก็บสมุนไพร ฆ่ามอน ล้างท่อ คุ้มกัน ทำมันทุกอย่างที่มีคนออกเควสให้แล้วได้ค่าตอบแทน ระบบนี้ดีไหม ดีในระดับนึงครับ เพราะส่วนใหญ่จะเซ็ตโลกเป็นยุคกลางกันหมด ซึ่งอำนาจจะบริหารจะอยู่ที่ขุนนางกับราชาเป็นส่วนใหญ่ อารมณ์นักผจญภัยมันก็คงคล้ายๆกับพวกนายพรานนี่แหละ มีหมูป่ามาก่อกวนที่ไร่จะให้ไปเรียกทหารมาจัดการก็คงไม่มีขุนนางที่ไหนยอมส่งทหารไปทำแน่ครับ เพราะงั้นจึงต้องไปจ้างคนพวกนี้แหละมาจัดการ เพราะตามตรรกะแล้วทหารคือกำลังพลสำคัญของพวกขุนนางการจะเคลื่อนพลหรือส่งคนออกไปไหนมาไหนง่ายๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ดินแดนข้างๆหวาดระแวงได้ว่าจะมาตีเมืองตัวเองหรือเปล่า ดังนั้นการมีพวกกิลด์นักผจญภัยก็จึงเป็นคำตอบครับ
อีกอย่างทหารยุคกลางถ้าจำไม่ผิดคือทหารอาชีพมีเงินประจำ ดังนั้นจะรับจำนวนจำกัดในกรณีที่ไม่มีสงครามเพราะต้องคุมเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเพราะมันมีต้นทุนเช่น ค่าฝึก ค่าอุปกรณ์ต่างๆอีก ดังนั้นจะส่งคนของตัวเองไปทำงานเสี่ยงๆบ่อยๆไม่ได้ครับ

ปล.ส่วนพวกบัคอย่างนักผจญภัยแรงค์ S ที่เก่งขนาดล้มประเทศได้ส่วนมากก็จะมีเรื่องละไม่กี่คนแล้วแต่ละคนก็จะโดนยัดนิสัยแปลกๆเข้าไปทำให้ชอบความเป็นอิสระไม่อยากถูกผูกมัดทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองทุกคน ดังนั้น ถ้าจะให้กิลด์ก่อการล้มประเทศได้ก็ต้องให้พวกแรงค์ S สักคนยอมร่วมมือนั้นแหละถึงจะสำเร็จ ส่วนพวกแรงค์ A ผมมองว่าก็น่าจะพอๆกับระดับท็อปของพวกทหารแหละครับปล2.อย่างเรื่อง"มนุษย์ธรรมดาๆแต่มีเมียเป็นกอริล่า" นักผจญภัยเมืองหลวงแต่ละคนอย่างเก่งแต่ทหารในเรื่องก็ไม่ใช่กระจอกเหมือนกัน ส่วนพวกแรงค์ S แต่ละคนก็.........

ไม่ถึงขนาดนั้น อันนั้นมันร้านสารพัดรับจ้างของคุณกินละ คือทำทุกอย่างจ้างอะไรทำได้หมด กิลนี้ในเกมต่างๆไม่ถึงขนาดนั้นงานสืบสวนต่างๆจริงๆก็ยังเป็นของตำรวจหรือนักสืบเอกชนมากกว่า ยกเว้นเจอนักพจญภัยที่รับจ๊อบนักสืบ ส่วนใหญ่กิลนักพจญภัยพื้นฐานคือทำงานอะไรที่ต้องมีการต่อสู้หรือเสี่ยงที่จะมีการต่อสู้อะหละ

[warakornboy]

ถ้าเราประเมิน Guild ใน Fantasy world  ซึ่งเริ่มมาจาก D&D นั้นจะพบว่ามีลักษณะเหมือนกับประวัติศาตร์จริง  ช่วง  1156 เลยครับ  โดยมีข้อสังเกต  เช่น


1.  เป็นองค์กรเอกชนโดยสภาพเริ่มต้น;  จากการรวมกลุ่มของสายอาขีพเดียวกัน


2.  ความเกี่ยวข้องกับรัฐประจำเมือง;  ไม่ระบุว่าว่ามากขนาดไหน  แต่เพราะมีทุนสนับสนุนและ  Master Craftman ด้วยจึงมีความน่าเชื่อถือเรื่องคุณภาพและการรับรอง เรื่องสร้างอาชีพแก่คนฝึกงาน(Apprentice) ได้เป็นอย่างดี


3.  อิทธิพลต่อเศรษฐกิจ;  ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม ดังกล่าวที่ว่ามีทุนทรัพย์ที่จะลงทุนเรื่องฝึกงานตั้งแต่  Apprentice - Journeymen  ก่อนที่จะเป็น  Master  ซึ่งใช้เวลาได้มากถึง  3 - 4 ปีภายใต้การจ้างงานของ Guild เอง  ถึงอย่างนั้นก็กล่าวได้ว่ามีส่วนในด้านกำกับคุณภาพและราคาสินค้าด้วย  เพราะมีความสามารถที่จะเข้าถึงทรัพยากรที่จะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบและบำรุงผู้ประกอบอาชีพเดียวกันกับสมาชิกอาวุโสด้วยนั่นเอง


4.  ระบบบริหารภายใน;  กล่าวได้ว่าไม่ตายตัว  เพราะอายุเป็นแค่ตัวเลข  แม้แต่อายุประสบการณ์ก็นับเป็นเกียรติของแต่ละคนเท่านั้น  อย่างไรก็ตามใน Germany นั้นมีระบบเลือกตั้ง President อยู่ซึ่งจะคัดเลือกจาก  Master (craftman) เท่านั้น


5.  ความมั่งคั่ง;  หากพิจารณาจากข้อก่อนๆจะมีข้อสรุปว่า  Guild นั้นมีตัวตนอยู่ทั้งเมืองเล็ก (Town) และนคร (City)  แต่เกือบจะทั้งหมดไม่มีจุดประสงค์จะใดสำคัญกว่าการสร้างงานและจ้างตัวเอง  ซึ่งบางครั้งนี่เองทำให้บาง Guild มีอิทธิพลทางการเมืองและยังขยายเครือข่ายกว้างไกลระกับทวีป  ด้วยสมมุติฐานที่เป็นไปได้ว่าจะมาจากผลประโยชน์ด้านความร่วมมือกับผู้ประกอบอาชีพทั่วไปและ  Guild พ่อค้าและแลกเปลี่ยนด้วยกันเอง  ถึงอย่างนั้นก็จะอยู่ในการกำกับและข้อตกลงทางกฎหมายของรัฐนั้นอีกที


Guild organization  ตามประวัติศาสตร์นั้นมิได้สลายไปเสียทั้งหมดหากแต่กลายเป็น  องค์กรอย่างอื่น Offices,  Company  และ  Trade union / Labour union( สหภาพการค้าหรือสหภาพแรงงาน)


หากเรามาวิเคราะห์ในต่างโลกจะพบว่า;  Sovereign —  Aristocracy   แทบไม่ได้มีอิทธิพลต่อ Guild  เพราะผลงานที่สร้างไว้แก่เมืองและกฎหมายของที่นั้นๆมากกว่า  จึงทำได้เพียงเรียกเก็บภาษีเท่านั้น  ความเจริญใน  Adventure Guild นั้นควรจะมาจากความร่วมมือกับ  Merchant Guild —  Artisans Guild +  พื้นที่ๆชาวบ้านแถบ Countryside นั้นยังเข้าไม่ถึงและบุกเบิกไม่ได้มากกว่า  ขณะที่ GS series บรรยายไว้ว่า  Adventure Guild ในเมืองที่  GS อยู่นั้นกำลังอยู่ในสภาวะอิ่มตัวนั่นเอง

[samuison]

กิลด์พวกนี้มันก็ออกแนวรับจ้างสารพัดแหละครับ รับทำทุกอย่างที่มีคนขอเข้ามา เก็บสมุนไพร ฆ่ามอน ล้างท่อ คุ้มกัน ทำมันทุกอย่างที่มีคนออกเควสให้แล้วได้ค่าตอบแทน ระบบนี้ดีไหม ดีในระดับนึงครับ เพราะส่วนใหญ่จะเซ็ตโลกเป็นยุคกลางกันหมด ซึ่งอำนาจจะบริหารจะอยู่ที่ขุนนางกับราชาเป็นส่วนใหญ่ อารมณ์นักผจญภัยมันก็คงคล้ายๆกับพวกนายพรานนี่แหละ มีหมูป่ามาก่อกวนที่ไร่จะให้ไปเรียกทหารมาจัดการก็คงไม่มีขุนนางที่ไหนยอมส่งทหารไปทำแน่ครับ เพราะงั้นจึงต้องไปจ้างคนพวกนี้แหละมาจัดการ เพราะตามตรรกะแล้วทหารคือกำลังพลสำคัญของพวกขุนนางการจะเคลื่อนพลหรือส่งคนออกไปไหนมาไหนง่ายๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ดินแดนข้างๆหวาดระแวงได้ว่าจะมาตีเมืองตัวเองหรือเปล่า ดังนั้นการมีพวกกิลด์นักผจญภัยก็จึงเป็นคำตอบครับ
อีกอย่างทหารยุคกลางถ้าจำไม่ผิดคือทหารอาชีพมีเงินประจำ ดังนั้นจะรับจำนวนจำกัดในกรณีที่ไม่มีสงครามเพราะต้องคุมเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเพราะมันมีต้นทุนเช่น ค่าฝึก ค่าอุปกรณ์ต่างๆอีก ดังนั้นจะส่งคนของตัวเองไปทำงานเสี่ยงๆบ่อยๆไม่ได้ครับ

ปล.ส่วนพวกบัคอย่างนักผจญภัยแรงค์ S ที่เก่งขนาดล้มประเทศได้ส่วนมากก็จะมีเรื่องละไม่กี่คนแล้วแต่ละคนก็จะโดนยัดนิสัยแปลกๆเข้าไปทำให้ชอบความเป็นอิสระไม่อยากถูกผูกมัดทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองทุกคน ดังนั้น ถ้าจะให้กิลด์ก่อการล้มประเทศได้ก็ต้องให้พวกแรงค์ S สักคนยอมร่วมมือนั้นแหละถึงจะสำเร็จ ส่วนพวกแรงค์ A ผมมองว่าก็น่าจะพอๆกับระดับท็อปของพวกทหารแหละครับปล2.อย่างเรื่อง"มนุษย์ธรรมดาๆแต่มีเมียเป็นกอริล่า" นักผจญภัยเมืองหลวงแต่ละคนอย่างเก่งแต่ทหารในเรื่องก็ไม่ใช่กระจอกเหมือนกัน ส่วนพวกแรงค์ S แต่ละคนก็.........

ผมว่า ระดับ S มันเป็นบุคคลแบบที่ว่า "ไม่มีกิลด์ก็ไม่ต่างไป"คือคนที่เก่งพออยู่แล้วที่จะสร้างตำนานของตนเอง




จะว่าkonosuba ทำได้สมจริงที่สุดใสจุดนี้ก็ได้มั้ง




ว่าราชวงศ์ใช้แผนแต่งงานกับเชื้อสายผู้กล้าที่มีสกิลโกงมาตลอด


ทำให้จะมีสกิลโกงในสายเลือดและของโกงของบรรพบุรุษ




ผมเจอ GM พูดว่า ทำแฟนตาซีให้สมจริง ว่าไม่ใช่แบบ game of throne เสียทีเดียว


หากในตำนานบอกว่า ราชามีเขื้อสายเทพเจ้า ก็แปลว่ามีเชื้อสายเทพเจ้าจริงๆ




อยู่เหนือกว่าประชากรที่อยู่ในปกครอง




ในอีกแง่หนึ่ง หลุยส์ศูนย์สนิท ค่อนข้างสมจริงกว่าแนวนี้ในตามความเห็นผมว่า เมจจะกลายเป็นขุนนางและเขื้อพระวงศ์


ชาวบ้านทำอะไรขุนนาง ไม่ได้


ไม่ใช่การดูถูก แต่คือข้อเท็จจริง


ไซโตะ ที่เห็นก็ไม่ใช่ชาวบ้าน แต่คือคนที่มีรูนพลังโกงต่างหาก




โลกแฟนตาซีต่างโลก ให้เหมือนกับว่า หลายคนใข้เวทย์ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นขุนนาง


และขุนนางยังกระจอก ไม่เก่งเท่านักผจญภัยอีกต่างหาก




...




คิดว่าจะพอเอาเทียบกับแนว เมสเตอร์หรือแบล็กบราเทอร์ได้มั้ง?


ที่นักผจญภัยต้องไม่ข้องเกี่ยวกับ การเมืองและสงครามของอาณาจักร


แต่มันมีปัญหาในแนว กำลังภายในปัจจุบัน แบบหวงอี้ว่า


"คนเราฝึกวิชายุทธก็เพื่ออำนาจวาสนา คนที่เก่งจึงไปอยู่ในวงการเมือง" ในแนวนิยายปัจจุบัน


แต่เราจะเห็นว่าจริงๆแล้วไม่ใช่


คนที่เทพจริงๆ เขาใส่ใจกับการทำให้ตนเองเทพขึ้นต่างหาก


คนที่อยู่ในวงการเมือง ต้องใส่ใจกับสถานการณ์ทางการเมือง ไม่สามารถทุ่มเทกับการฝึกสิชาหรือมีเวลาเพียงพอได้


ใจไม่สงบและจะฝึกวิชาก้าวหน้าได้อย่างไร?


กลับมาที่นักผจญภัย




ทางเทคนิค การผจญภัยคือ high risk,high return


ดาบที่ข้างเอว หรือชุดเกราะดีดี ซื้อวัวได้สองตัว อุปกรณ์เวทย์ สามารถขายไปซื้อปราสาทและคนรับใช้ได้ทีเดียว
ทำไมต้องรับใช้ราชา ในเมื่อสามารถใช้เงินซื้อตำแหน่งและปราสาท อย่างสบายมีคนรับใช้ได้เมื่อรีไทร์?

[Jorai]

ข้องใจเรื่องบัตรแสดงตัวตนมากกว่าอีก ไม่มีบัตรก็ไปทำที่กิลด์นักผจญภัยหรือกิลด์พ่อค้าก็ใช้ได้ล่ะ หน้าที่นี้มันต้องเป็นของเมืองหรือเขตปกครองไม่ใช่หรอ

[samuison]

ข้องใจเรื่องบัตรแสดงตัวตนมากกว่าอีก ไม่มีบัตรก็ไปทำที่กิลด์นักผจญภัยหรือกิลด์พ่อค้าก็ใช้ได้ล่ะ หน้าที่นี้มันต้องเป็นของเมืองหรือเขตปกครองไม่ใช่หรอ

เรื่องนี้ผมพอจะแถให้ได้ว่า




ใข้ระบบเจ้าภานายอากรล่ะครับ




ส่วนกลาง ราชาตั้งภาษีที่ควรเก็บได้มาให้กับขุนนางผู้ครองดินแดน


จากนั้นขุนนางส่งเงินไปตามที่กำหนดก็โอเค จากนั้นจะรีดภาษีมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับขุนนางนั้นๆเอง ว่ารายได้การเก็บภาษีในส่วนของตนจะเป็นเท่าไร




ผมเคยเล่นเควสต์ GM ทำแบบระบบจีนสมจริงที่ต้องมีการติดสินบนขันทีจากเมืองหลวงด้วยล่ะครับ


พวกผมเลยต้องเช่นแร่แปรธาตุ ไม่ให้ตัวเงินรายได้ในบัญชีเยอะเกินไป รวมทั้งเตรียมสินบนให้ขันที เอาหูไปนา เอาตาไปไร่

[Nobitanian]

กิลด์นักผจญภัย มันก็คือ การเอาพวกจอมยุทธ์ มาขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อใช้ค้นหายอดฝีมือ เผื่อเหตุฉุกเฉิน จะได้รู้กำลังรบ


หรือก็คือ การเอาพวก จอมยุทธ์ ที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินนั่นแหละ

[sariora123]

ถ้าให้เทียบ คงเหมือนยุทภพ ในหนังจีนนั่นแหละมั้ง


คือแบบว่าเรื่องราวในยุทภพ ไม่เกี่ยวกับกฏหมายบ้านเมือง แต่แม่งเอ๊ย ฆ่ากันเป็นว่าเล่นขนาดนั้น สรุปพวกอยู่รวมกันได้ไงวะ
หรือว่าพวกเอ็งอยู่กันในมิติคู่ขนาน ย้ายไปย้ายมากันได้
พวกนี่มันมี plot hole กันหมดนั่นแหละนะ

[Panzerelite]

ถ้าให้เทียบ คงเหมือนยุทภพ ในหนังจีนนั่นแหละมั้ง


คือแบบว่าเรื่องราวในยุทภพ ไม่เกี่ยวกับกฏหมายบ้านเมือง แต่แม่งเอ๊ย ฆ่ากันเป็นว่าเล่นขนาดนั้น สรุปพวกอยู่รวมกันได้ไงวะ
หรือว่าพวกเอ็งอยู่กันในมิติคู่ขนาน ย้ายไปย้ายมากันได้
พวกนี่มันมี plot hole กันหมดนั่นแหละนะ 

สมัยก่อนก็แบบนั้นหละ ออกจากกำแพงเมืองปุปก็ตัวใครตัวมันหละ

ข้องใจเรื่องบัตรแสดงตัวตนมากกว่าอีก ไม่มีบัตรก็ไปทำที่กิลด์นักผจญภัยหรือกิลด์พ่อค้าก็ใช้ได้ล่ะ หน้าที่นี้มันต้องเป็นของเมืองหรือเขตปกครองไม่ใช่หรอ

เหมือนเรามีบัตรประชาชน แต่เราต้องมีใบขับขี่ บัตรข้าราชการ บัตรนักศึกษา บัตรสมาชิคพรรคการเมืองและบัตรสมาชิคMKในเวลาเดียวกันหละ คนเรามันเป็นได้หลายสถานะในคนเดียว เช่น


เป็นข้าราชการ แต่เป็นสมาชิคพรรคอนาคตใหม่ ขับรถเป็นมีใบขับขี่ แถมทำป.โทราม แถมดันชอบกินMKมาก ไม่นับบัตรโรงบาล บัตรรายเดือนขึ้นรถไฟฟ้า บัตรเครดิต เดบิต ATMบัตรบ้าบัตรบอเพียบ สมัครกันจนลืมอะบ้างที


ขนาดทุกวันนี้มีสมาทการ์ดในบัตรประชาชนก็ยังไม่ใช้บัตรประชาชนใบเดียวแม้แต่หน่วยงานรัฐด้วยกันเอง

[sariora123]

^
^
^
เม้นนี้พูดได้ถูกใจจริงๆ ครับ นึกถึงโครงการสมัยทักกี้ ที่ออก smart การ์ดออกมา โดยเป้าหมายคือ บัตรใบเดียวให้แม่งเป็นได้ทุกอย่างในชีวิต
ตั้งแต่บัตรประชาชน ใบขับขี่ ใบอนุญาติต่างๆ บัญชีธนาคาร  ATM บัตรเครดิต บัตรโรงพยาบาล ประกันสุขภาพ    เอาง่ายๆ พกใบนี้ใบเดียวพอชีวิตนี้ไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว
ทุกอย่างจบใน 1 เดียวถ้าโครงการนี้ดันออกมาจนทำได้จริง ป่านนี้ประเทศไทยไม่ต้องใช้เงินสดกันไปนานแล้ว  โครงการนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะดีมาก แต่ทำไมไม่คิดจะดันให้มันเป็นจริง

ใครจะสวมสิทธิ ก็ดูเอาที่หน้านั่นแหละว่า ถ้าหน้าไม่ตรงปก แม่งก็ตัวปลอมไง

[Nobitanian]

^
^
^
เม้นนี้พูดได้ถูกใจจริงๆ ครับ นึกถึงโครงการสมัยทักกี้ ที่ออก smart การ์ดออกมา โดยเป้าหมายคือ บัตรใบเดียวให้แม่งเป็นได้ทุกอย่างในชีวิต
ตั้งแต่บัตรประชาชน ใบขับขี่ ใบอนุญาติต่างๆ บัญชีธนาคาร  ATM บัตรเครดิต บัตรโรงพยาบาล ประกันสุขภาพ    เอาง่ายๆ พกใบนี้ใบเดียวพอชีวิตนี้ไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว
ทุกอย่างจบใน 1 เดียวถ้าโครงการนี้ดันออกมาจนทำได้จริง ป่านนี้ประเทศไทยไม่ต้องใช้เงินสดกันไปนานแล้ว  โครงการนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะดีมาก แต่ทำไมไม่คิดจะดันให้มันเป็นจริง

ใครจะสวมสิทธิ ก็ดูเอาที่หน้านั่นแหละว่า ถ้าหน้าไม่ตรงปก แม่งก็ตัวปลอมไง

ที่ทำไม่ได้ เพร่ะ บุคคลากร ไม่พร้อม ครับ มีแต่ไดโนเสาร์ อยู่เต็มองค์กร แถมผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืง ยังหวาดกลัวการพัฒนาอีก.....

[Rumia]

^
^
^
เม้นนี้พูดได้ถูกใจจริงๆ ครับ นึกถึงโครงการสมัยทักกี้ ที่ออก smart การ์ดออกมา โดยเป้าหมายคือ บัตรใบเดียวให้แม่งเป็นได้ทุกอย่างในชีวิต
ตั้งแต่บัตรประชาชน ใบขับขี่ ใบอนุญาติต่างๆ บัญชีธนาคาร  ATM บัตรเครดิต บัตรโรงพยาบาล ประกันสุขภาพ    เอาง่ายๆ พกใบนี้ใบเดียวพอชีวิตนี้ไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว
ทุกอย่างจบใน 1 เดียวถ้าโครงการนี้ดันออกมาจนทำได้จริง ป่านนี้ประเทศไทยไม่ต้องใช้เงินสดกันไปนานแล้ว  โครงการนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะดีมาก แต่ทำไมไม่คิดจะดันให้มันเป็นจริง

ใครจะสวมสิทธิ ก็ดูเอาที่หน้านั่นแหละว่า ถ้าหน้าไม่ตรงปก แม่งก็ตัวปลอมไง

ไม่ไช่ไม่ทำครับแต่ทำไม่ได้ผลประโยชน์ทับซ้อนเยอะธนาคารนี่เสียผลประโยชน์หนักเลยค่าโอนต่างธนาคารต่างสาขาจะหายไปเค้าไม่ยอมหรอกครับ หน่วยงานรัฐจะไช้คนน้อยลงเพราะบัตรใบเดียวอีกต้องยุบกระทรวงเพราะไม่มีงานทำผลประโยชน์มันเยอะครับ ถ้าทักกี้ทำคนเสียผลประโยชน์เยอะเลยไม่สามารถทำได้ถึงแม้คนปกติรายได้ปานกลางและน้อยจะได้ประโยชน์ก็เถอะแต่คนส่วนมากพวกนี้ไม่มีสิทธมีเสียงครับ เสี่ยไม่กี่สิบเสียผลประโยชน์มันก็ผ่านไม่ได้อยู่แล้ว

[samuison]

ถ้าให้เทียบ คงเหมือนยุทภพ ในหนังจีนนั่นแหละมั้ง


คือแบบว่าเรื่องราวในยุทภพ ไม่เกี่ยวกับกฏหมายบ้านเมือง แต่แม่งเอ๊ย ฆ่ากันเป็นว่าเล่นขนาดนั้น สรุปพวกอยู่รวมกันได้ไงวะ
หรือว่าพวกเอ็งอยู่กันในมิติคู่ขนาน ย้ายไปย้ายมากันได้
พวกนี่มันมี plot hole กันหมดนั่นแหละนะ

ผมเคยบอกว่า เฉียวฟงที่เราเห็นคือ เจ้าพ่อมาเฟียคนหนึ่งล่ะครับ ฮา
เคยเจอคนอ่านคนหนึ่งบอกว่า เจอฉากเฉียวฟง เข้าบ้านนายอำเภอแล้งขโมยเงินแล้วแปลกใจ
..อันที่จริงเหมือนเราลืมไปแล้วว่า ไอ้พวกที่เราเห็นนี้มันคือเจ้าพ่อมาเฟียที่มีกำลังส่วนตัวกันทุกคน ทั้งเฉียวฟง งักปุ๊กคุ้ง จ้อแน้เซี้ยง ท่านเจ้าอาวา่ส ก็เป็นกุ่มคนที่มีกองกำลังของตนเอง
เจ้าอาวาสยิ่งเทพกว่าชาวบ้านที่มีลูกศิษยืเป็นวิชาวิศวกรรม มีระเบิดอีกต่างหาก

กิลด์นักผจญภัย มันก็คือ การเอาพวกจอมยุทธ์ มาขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อใช้ค้นหายอดฝีมือ เผื่อเหตุฉุกเฉิน จะได้รู้กำลังรบ


หรือก็คือ การเอาพวก จอมยุทธ์ ที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินนั่นแหละ

ในเรื่อง มีดที่สิบสามก็พยายามอธิบายนะครับ
ว่านโยบายจัดอันดับในยุทธภพมีไว้เพื่อให้พวกจอมยุทธ มันตีกันเองจะได้ไม่มาหาเรื่องกับราชสำนัก
พอเซพัลคูล่า ได้คัมภีร์มาและหาเรื่องราชสำนักปั๊บ ก็ชนะเลย


หากมองในแง่หนึ่ง เอาขึ้นมาบนดินก็อาจจะดีกว่าไม่ดีก็ได้ล่ะมั้ง
จขะได้รู้ว่าใครเป็นใครในภาพรวม แต่นั่นดีต่อผู้ปกครอง ระดับสูงๆฉายเดี่ยวอาจมีผลประโยชน์มากกว่าระดับล่าง
แต่ดีมากสำหรับระดับล่างที่พึ่งเข้าวงการ
ค่อยๆไต่เต้าไปจากการเก็บสมุนไพร เข้าโรงฝึกซ้อม ศึกษาข้อมูลจากคนในกิลด์และขยายงานไปด้านต่างๆ ติดตามรุ่นพี่ไปก่อนก็ว่ากันไป