?#โรงแรมจีน #กาต้มน้ำ #จริงหรือหลอก
ไม่ใช่เฉพาะแค่คนไทยเท่านั้น แต่เรื่องเล่าที่ว่าคนจีนเอาถุงเท้ากับกางเกงในไปต้มในกาต้มน้ำโรงแรม ก็มีการบอกเล่าอย่างช้านานในกลุ่มคนจีนเช่นกัน จนทำให้กาต้มน้ำพกพากลายเป็นหนึ่งในไอเท็มขายดีในจีนมากว่าหลายสิบปี
?[ที่มาของเรื่องเล่า]
การที่คนจีนเอากางเกงในหรือถุงเท้าไปต้มในกาต้มน้ำโรงแรม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง!!! แต่...ต้องย้อนความไปว่านี่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวจีนชนชั้นแรงงานในยุค 80-90 ซึ่งที่มาของเรื่องราวคือ อย่างที่ทราบคนจีนเป็นชนชาติที่นิยมการดื่มน้ำอุ่นมากๆ(ที่มาเรื่องนี้เว้นไว้ เดี๋ยวมีโอกาสมาเล่าโพสต์อื่น) แล้วตามโรงแรมราคาประหยัดแบบ 3 ดาวลงมาสมัยก่อนในจีนคือห้องน้ำไม่มีอ่างน้ำนะ คือเข้าไปจะเป็นโถชักโครก มีฝักบัวอาบน้ำ แล้วก็จะมีกะละมังให้ 1 อัน(หรือบางที่อาจไม่มีกะละมังให้ หรือไม่มีห้องน้ำในตัว แต่เป็นห้องน้ำรวม)
แล้วทีนี้เวลาพวกแรงงานต่างเมืองมาพักตามโรงแรมในยุคนั้น ก็เลยคิดค้นนวัตกรรมการทำความสะอาดที่ไม่ต้องเปลืองแรงใดๆ นั่นคือการการเอาชุดชั้นในกางเกงในไปต้มในกาต้มน้ำซะเลย ง่ายดี 555555 หลายคนอาจจะถาม เอ้า ก็ถ้าในห้องน้ำมีกะละมังทำไมไม่เอาลงไปซักในกะละมังแล้วตากในห้องน้ำ คำตอบคือขี้เกียจแล้วอากาศบางเมืองคือหนาวมาก ก็ไม่อาบน้ำไง แค่เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวกับแช่เท้าก็พอ ส่วนเสื้อผ้าไม่สกปรกมากก็ตากไว้กับราว เพราะชาวจีนเมื่อก่อนหลายๆเมืองเค้าไม่อาบน้ำทุกวันนะ มันเปลือง ใครเคยไปใช้ชีวิตที่จีนจะรู้ข้อนี้ 555
ซึ่งนวัตกรรมนี้ก็ยังมีการถ่ายทอดหลงเหลืออยู่ในเมืองแบบห่างไกลหรือชนบทมากๆในจีน แล้วคนที่ยังติดนิสัยเหล่านี้ก็คือคนจีนรุ่นเก่าๆที่ตอนนี้น่าจะอยู่ในวัยชรา 70 อัพหมดแล้ว ส่วนคนจีนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาเอง เค้าไม่ทำกันละนะ เพราะเค้าก็รับรู้เรื่องเล่านี้มากันหมดเหมือนกัน 555 แต่ถามว่าคนจีนรุ่นใหม่ยังมีคนทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่มั้ย คำตอบคืออาจจะยังหลงเหลืออยู่แบบน้อยมากๆแล้วจริงๆ พวกนี้คือแบบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่สอนให้ทำแบบนี้แล้วไม่คิดตาม ก็ไม่แปลกอะไร
?[สังเกตยังไงว่ากาต้มน้ำโรงแรมโดนเอาไปต้มกางเกงในถุงเท้าจริง?]
เรื่องนี้แอดไปศึกษากระทู้ใน Zhihu ของจีนแบบจริงจังเลย ซึ่งก็มีผู้รู้ชาวจีนเยอะมากๆ มาแชร์ทริควิธีสังเกต ก็ตกผลึกได้วิธีการประมาณนี้
1. ลองเปิดฝากาต้มน้ำแล้วสังเกตด้านในกา ถ้ามีเศษผ้าเศษขุยติดตามร่อง มีคราบขาวหรือเหลืองฝังแน่นผิดปกติ หรือมีครบมันๆคล้ายไขมัน คุณเจอแจ็คพอตละครับ 5555 ซึ่งถ้าเป็นเศษขุยผ้าคือแทบจะ 99% คือกาต้มน้ำนี้โดนเอามาต้มชุดชั้นในมาแล้วแน่นอน ส่วนคราบอื่นอาจสามารถสันนิษฐานได้ว่า มีการเอาไปต้มอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำเปล่า เช่น เอาไปต้มมาม่า(บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) หรือต้มอาหารอื่นๆ กาต้มน้ำนั้นไม่ควรใช้เลย
2. เปิดฝากาต้มน้ำแล้วดมกลิ่นถ้ามีกลิ่นแปลกปลอมเช่น กลิ่นพลาสติก กลิ่นสารเคมี หรือกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นแปลกๆ สันนิษฐานได้ว่า อาจมีการเคยเอาไปใช้ต้มสิ่งแปลกปลอมอื่น หรือกาต้มน้ำอาจเสื่อมสภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน ไม่ควรใช้เลยเช่นกัน
3. ถามว่าถ้าเราระแวงว่ากาต้มน้ำเคยต้มสิ่งแปลกปลอมมาก่อน ถ้าเราเอาน้ำต้มก่อนละเททิ้ง 1 น้ำช่วยมั้ย? ไม่ช่วยนะครับ! เพราะถึงเชิ้อโรคจะตายไป แต่ยังเหลือพวกสารเคมีตกค้างต่างๆอยู่ ดังนั้น ถ้าสงสัยว่ากาต้มน้ำเคยมีการเอาไปต้มสิ่งแปลกปลอมมาก่อนจากข้อสังเกตข้อ 1 กับข้อ 2 ข้างต้น ก็ไม่ควรใช้กาต้มน้ำต่อเลย เป็นไปได้ ควรแจ้งโรงแรมขอเปลี่ยนกาต้มน้ำใหม่(เน้นว่าขอที่ใหม่ๆ เพราะเราไม่สบายใจแบบนี้)
?[แนวทางป้องกันปัญหากาต้มน้ำต้มกางเกงใน]
1. เตรียมกาต้มน้ำพกพาไปเอง เดี๋ยวนี้ราคาไม่แพงมากละครับ ขนาดเล็กพกพาง่ายด้วย อันนี้บ้านไหนเวลาเดินทางมีเด็กเล็กหรือคนแก่ที่ต้องใช้น้ำร้อนควรมีไว้จริงๆ ถ้ารู้สึกว่าไม่สบายใจกับการใช้กาต้มน้ำโรงแรม
2. เตรียมกระติกน้ำร้อนไปเอง แล้วขอน้ำร้อนจากตรงเคาน์เตอร์โรงแรมหรือโซนทานอาหารในโรงแรม พนักงานจีนเค้ารู้ และพร้อมช่วยเหลือครับ เพราะคนจีนเยอะมากก็มาขอเค้าเติมน้ำร้อนกันเพราะไม่กล้าใช้กาต้มน้ำในห้อง 555 หรือใครเขินจะเอากระติกน้ำไปขอเติมน้ำร้อนที่ร้านสะดวกซื้อตอนไปซื้อของก็ได้ครับ
3. ถ้าห้องพักมีใช้ไมโครเวฟ แนะนำใช้ไมโครเวฟต้มน้ำแทน
ปล. ส่วนตัวแอดเอง เวลาไปพักโรงแรมที่จีนหรือที่ไหนก็ตามแล้วต้องใช้กาต้มน้ำก็จะสังเกตข้างในกาก่อน กับดมน้ำที่ต้มออหมาดู ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ใช้ได้แน่นอนครับ แต่เอาจริงๆส่วนใหญ่ถ้าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวก็จะไม่มีปัญหานี้จริงๆนะ เพราะก็คัดเกรดคนเข้าพักไปพอสมควรแล้ว
Cr. Zhihu
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1238527924395675&set=a.306679914247152 
