[quote/]
คือมันราวๆสงบสุขมานานจนลูกหลานโตมาในยุคที่สงบสุขไง
ไม่เชื่อดูแนวคิดของคนที่ผ่านยุคสงคราม กับคนที่เกิดมาใหม่ๆสิ
แนวคิดด้านทหารจะคนละอย่างเลย
พวกอาณาจักรโบราณต่างๆเลยล่มสลายเป็นช่วงๆไง
[quote/]
คือส่วนใหญ่ในนิยายที่เจอ คือระดับสูงเขาเตรียมตัวรบอยู่ครับ
ถ้าเคยเล่นเกม civ v คือถึงประกาศสงครามไม่ได้แปลว่าจะยกทัพไปตีทันที
คือเหมือนสงครามรุมกินโต๊ะ ประกาศตีพร้อมกัน
แต่กองทัพยังวิ่งมาไม่ถึง บ้างก็กำลังปั้ม
บ้างก็ ประกาศเพื่อล่ออีกฝั่งให้บุก
คือแนวเทพเซียน เอาจริงๆสงครามส่วนใหญ่ในเรื่องไม่ได้กะกวาดล้างอีกฝั่ง แต่ตั้งใจก่อกวนหรือลดกำลังเฉยๆ คือชิงความได้เปรียบเพื่อยุคถัดไป
เช่น วางแผนล่อ อัจฉริยะฝั่งตรงข้ามมาฆ่าทิ้ง
หรือก่อกวนเวลา ประมุขพรรคฝั่งตรงข้ามกำลังจะทะลวงด่าน
จริงอยู่ถ้าประมุขออกรบเองพลังรบจะสูง
แต่อาจไม่มากพอที่จะตีด่านหน้าแตก
ถ้าประมุขออกรบเองนานๆก็ไม่มีเวลาปิดด่านทะลวงขั้น
ทำให้ประมุขฝั่งตัวเองมีเวลาฝึกมากกว่า
บรรดาผู้อวุโสต่างๆก็เช่นกัน
มีแต่พระเอกนี่แหล่ะตัวบั๊ก ทำให้สมดุลสองฝั่งเสีย
อย่างในเกม civ v บางทีทำสงครามกันเป็น 100+ ปีเลยนะ
คือเวลาเจอเมืองที่บ้าพลัง อย่างสมมุติมองโกล
ทหารมันเยอะมาก แต่พอเราป้องกันได้
ทหารที่มันยกทัพมาตาย ก็ส่งกองหนุนมาเรื่อยๆ
แต่พอนานๆเข้า ทหารที่เราตายน้อยหรือไม่ค่อยตายก็เก่งขึ้นๆ
ในขณะที่มองโกลสร้างทหารมาเรื่อยๆก็ไม่ได้พัฒนาเมือง
แต่เราพัฒนาเมืองจนเปลี่ยนยุค ทหารก็อัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ เปลี่ยนจากดาบเป็นปืนงี้
แนวเทพเซียนก็คล้ายกัน ถ้ารบจริงจังมากก็ไม่ได้อัพเกรด
พวกเทพๆในพรรคเลยไม่ออกรบง่ายๆ ปล่อยเบ้ตีกันไปก่อน
ไปเจอโรลเพลย์ของฝรั่งเล่นมุกว่า การหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีคือตัวตัดสินแพ้ชนะในระยะยาวนับพันปีน่ะครับ
ไปเจอว่ายี่สิบปีก็แค่เทิร์นเดียวของระดับจอมยุทธ ที่มีการดีลใต้โตะสารพัดกัน