คือช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ผมได้เจอพวกมังงะที่ดัดแปลงจากนิยาย (หรือมังงะตรงๆ เลย) ที่เป็นสาย "เตะตัวเอกออกจากตี้/ประเทศ เพราะเป็นสายซัพ" อยู่บ่อยมากขึ้น แล้วทีนี้ไปเล่นเกมเก่าๆ แล้วก็เลยนึกตามหัวข้อนี้ขึ้นมาน่ะครับ
กล่าวคือเกมสมัยใหม่ๆ มันเน้นการจับความสนใจของผู้เล่นด้วยแอคชั่นอลังการมากขึ้น และลดความสำคัญของพวกตัวละครสนับสนุนแนวหลังลงไปเรื่อยๆ มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเลยทำให้ผู้แต่งหันไปแต่งเกียวกับตัวละครที่ในเกมสมัยนี้จะถือว่าเป็น Trash tier ไป หรือเปล่าน่ะครับ
ที่เห็นชัดคือ ฮีลใน RPG เพราะเกมมีความเป็นแอ๊คชั่นมากขึ้น ผลก็คือเวทฮีลมีไปทำไมในเมื่อกระโดดหรือกลิ้งใช้ Invincible frame หลบท่าของบอสได้? พวกที่โดนเพราะดวงตกจริงๆ ซดยาที่พกอยู่ก็จบแล้ว พวกบัพหรือดีบัพก็ให้ผลต่ำมากๆ จนแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
หรือไม่ก็ ความก้าวหน้าในเกมขึ้นกับความสามารถในการเชือดศัตรูด้วยตัวเอง เช่นพวกเกม MoBA ทั้งหลาย มันเลยยิ่งทำให้พวกตัวซัพที่ตีเบาเพราะเน้นไปที่ซัพเพื่อนยิ่งนิยมน้อยเข้าไปใหญ่
พอมาเทียบกับเกมสมัยก่อนช่วงปี 2000s แล้ว ผมเลยรู้สึกว่ามันต่างกันมากๆ
ตัวอย่างก็เช่นเกมวางแผนเกมนึงยุค 2000 ที่ผมเคยเล่น มันจะมีเผ่าคนแคระที่มีตัวซัพอยู่ตัวนึงที่อ่อนปวกเปียกมากโดนอะไรสะกิดนิดหน่อยก็ตายไม่เหมือนนักรบกล้ามบึกของคนแคระ แต่ว่าเวทซัพของมันก็แรงมาก แค่เลเวล 1 มาก็บวกพลังโจมตี 25% แล้ว เทียบกับเวทซัพสมัยนี้ที่ถ้าบวกในช่วง 10% - 15% ตั้งแต่เลเวลแรกนี่คือสุดยอด
แต่ๆๆ แค่นั้นยังไม่สะใจพอครับ เกมที่พูดถึงข้างต้นเวลาตัวซัพอัพเลเวลพลังซัพแรงขึ้นเลเวลละ 25% ครับ นั่นคือพอเจ้าตัวซัพคนแคระนี่เลเวล 4 กดบัพให้นักรบทีนึงพลังโจมตีก็เพิ่ม 2 เท่าตัว เทียบกับเกมสมัยนี้ที่ถ้าบวก 50% ที่เลเวลสูงสุดนี่เรียก Ultimate แล้วไม่ใช่ซัพธรรมดา
แต่เจ้าตัวซัพคนแคระที่ว่ามานั่นมันเป็นยูนิตที่สร้างได้ ไม่ใช่ตัวละครประเภทมีได้ตัวเดียวต่อผู้เล่น
นั่นแหละครับ ผมถึงได้สงสัยว่าเกมสมัยนี้มันมีอิทธิพลย้อนมาที่นิยายด้วยหรือเปล่าน่ะครับผม
ขออภัยเล็กน้อย; ผมเคยบรรยายไปหลายรอบแล้ว แต่เนื่องจากการปรับปรุงเว็บ และแนะนำ series ไปที่เว็บอื่นทำให้ข้อมูลกระจัดกระจายไปเยอะ ด้งนั้นจะขอสรุปหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อให้ฟังก่อนเล็กน้อย
1. คนเล่นเกมที่หวังอวยหรือเกลียดตัวละคร มักจะเล่นจบอย่างไม่มีความสุข
2. ผู้ที่หวัง setting Synopsis โดยไม่คำนึงถึงถึง Reality จะไม่มีความสุข
3. คนที่ไม่รู้จัก Martial Arts สักอย่าง + Physics + วิทยาศาสตร์ จะไม่เข้าใจพื้นฐานของเกม Fighter
4. ผู้เล่นที่ทั้งใช้ Pro หรือ Trainer สำหรับ Soldier + FPS + Mechanic Simulator (ส่วนใหญ่) ขาดความรู้เรื่อง Engineering + Military Strategy จนทำให้การแนวทางเล่นบรรลัยไปหมด
5. คนเล่น RPG โดยขาดความรู้ Board Game มักจะมีปัญหา ไม่เคยรู้จักเพียงพอมากที่สุด
6. Player ที่เล่น RTS แต่ขาดความรู้ด้าน Resources + Economy ไม่ใช่นักพัฒนาที่ดี และไม่สามารถเป็นแม่ทัพที่เก่งเช่นกัน
7. ทั้งหมดนี้ จะพิสูจน์ได้ว่า เมื่อไปหัดเล่นเกมประเภทกึ่ง RTS + Simcity + Diplomat ที่เป็น Genre มหภาค พวกเขาเหมาะสำหรับบทบาทนักทำลายมากกว่าผู้สร้างสรรค์
สุดท้าย; คนแต่ง + Translator + Patreon ที่ยึดเอาแต่เงินฟาดหัว มักจะไม่เจริญในการงานในฐานะเหยื่อคนสำคัญของธุรกิจ ที่ใช้คนเหล่านี้เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ
พอกลับมาศึกษาหัวข้อของท่านจะเข้าใจได้ว่า; เกมก่อนยุค Console + PC ยึดหลักตาม Board Game ตรงที่เล่นเป็นงานอดิเรก เวลาว่างเล็กๆ แล้วปล่อยผ่านเมื่อเบื่อ ไม่ส่งเสริมการใช้ชีวิตในเกมเลย วรรคต่อมาพอจะสรุปโดยย่อเกิดจากผู้ใหญ่เล่นเกมเด็ก แล้วเอามาล้อเลียน + ทำคลิปโกงทั้งหลายผ่าน YT
ประกอบกับเกมมี Story เป็นของตัวเอง และค่านิยมไม่ดีที่ดูถูก AI ดังนั้นยุค Online ที่ส่งเสริมการแข่งขัน + ชิงเด่น + โลภแก่คนเล่น + Challenger ก็เลยเน้นนโยบายทำให้เกมยากขึ้น และมีปัญหามากเพื่อที่คนจะได้แก้ปัญหาด้วยการเติมเงิน และแทงข้างหลังเมื่อหมดหน้าที่;
ด้วยเหตุการณ์นั้นที่ YT ทำให้เหล่า DEVs รับรู้ความเคลื่อนไหวของวงการตลอดมา เลยเปลี่ยนการตลาดไปในทางที่โฉดชั่วขึ้น ด้วย System + Display ทั้งหลายเหมาะสำหรับคนเล่นกีฬาไม่บ่อย + ไม่ค่อยเที่ยว กล่าวได้เลยว่ากลุ่มคนที่ชื่นชอบกิจกรรมดังกล่าว มีแนวโน้มจะ Banned เกมเหล่าโน้นที่ทำให้
Console + PC มีราคาแพงกว่าอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพ + เสียเวลาเปล่ากับการฝึกเล่นกีฬาเป็นงานอดิเรก ถึงแม้จะไม่คิดเป็นนักกีฬาอาชีพก็ตาม ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าเกมล้วนแต่ราคาถูกลงจนตลาด Steam หรือ เว็บอื่นเริ่มหันมาสนใจบังคับใช้นโยบายควบคุม %Discount มากขึ้น ขอบคุณที่อ่านครับ