สภาพน่าจะโทรมๆ พื้นสั่นตอลดเพราะระเบิดข้างบน ความกลัวที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมองประตูหากเป็นศัตรู เพราะถ้าคุณอยู่ในบังค์เกอร์คุณก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว
ผมว่ามันคือถ้ำที่ไม่ถล่มนั่นแหละ แออัดอยู่ในนั้น ผมว่าครึ่งวันก็เกินพอแล้วหล่ะ เรื่องห้องน้ำ การระบายอากาศยิ่งไม่ต้องพูดถึง กลิ่นมาเต็มแน่
มีหลายเกรด หลายระดับ หลายขนาด เอาที่ว่าระดับธรรมดาก็ยังมีเครื่องกรองอากาศที่ดีในระดับนึง
มันก็คล้ายๆห้องใต้ดินทั่วไป ที่ถ้าจะอยู่ในนั้น จะต้องเปิดระบบระบายอากาศ ถ้าห้องใต้ดินทำไม่ดี
มันจะชื้นมาก
ส่วนการมอง เขาใช้กล้องมองได้ ราคาก็ไม่ได้แพง แล้วรอบๆหลุมหลยภัยอาจติดตั้งเครื่องตรวจ
จับความร้อน คล้ายๆเวลาเราเข้าเซเว่นแล้วประตูเปิดออกเองไง ลักษณะการตรวจจับคล้ายๆแบบนั้น
แล้วในนั้น ถ้าใหญ่พอ ก็จะแบ่งเป็นหลายๆห้อง ห้องที่สำคัญที่สุดเลยคือห้องปิดตาย ปิดอากาศ
ไม่ให้อากาศภายนอกเข้าด้วย เพื่อป้องกันแก๊ส แต่เขาเอาไว้ใช้จวนตัว เมื่อไม่สามารถหนีออกจาก
หลุมหลบภัยด้วยเส้นทางฉุกเฉินได้ หรือเมื่อมีการตรวจจับเจอแก๊สพิษ ปกติก็จะอยู่ในห้องทั่วไปซึ่ง
จะมีระบายอากาศ ส่วนระบายไปรูไหนข้างบน ก็อยู่ที่ซ่อนได้เนียนขนาดไหน เป็นรูเล็กๆอย่างเช่นรู
โขดหินเล็กๆ หรือเอาต้นไปยืนตายมาทำรหรือต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ตาย อันนี้ยิ่งดี เพราะรูระบายอากาศ
ควรอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อย อยู่ในนั้น แหล่งพลังงานสำคัญรองจากน้ำอาหาร
ที่เขาเอาไว้ใช้จวนตัวก็เพราะมันไม่มีทางออก ถือเป็นที่มั่นสุดท้ายจริงๆ แต่ปกติหลุมหลบภัยจะมี
ทางออกหลายทาง ตอนนี้นึกถึงเวียดนาม มีพิพิธภัณฑ์หลุมหลบภัยแบบใหญ่มาก อยู่กันได้เยอะมาก
และมีพิพิธภัณฑ์หลุมหลบภัยแบบรังมดที่ใช้ในสงครามเวียดนามก็มี เวียดนามขึ้นชื่อเรื่องนี้ ของเขา
จำได้ว่า รูระบายอากาศจะอยู่ไกลหลมมากหลายกิโลเมตร
กลับมาที่ไทยดีกว่า ไม่สิ พูดถึงอเมริกาหล่ะกัน ที่นั่นมีหลุมหลบภัยขาย ไม่แพง ป้องกันรังสี
สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ไม่กี่หมื่นดอลหรืออาจหลายหมื่นดอลลปลายๆ ที่นี่บ้ามาก จำได้ว่า
มีถึงขั้นสร้างหมู่บ้านหลุมหลบภัยกันเลยทีเดียว
ดูจากในทีวีมา จำได้เท่านี้