[quote/]
ประเด็นคือผมแทบไม่เคยรู้จักผู้กระทำผิดเลยหลังการกล่าวหาจบลงส่วนมากผมรู้แค่นายก.กล่าวหานายข. ในความผิดหนึ่งแต่สุดท้ายเรื่องจบยังไงแบบไหนแทบไม่เคยรู้ใครผิดผิดเพราะอะไรได้รับการลงโทษแบบไหน มันเลยเป็นที่มาว่าการกล่าวโทษว่าคนถูกกล่าวหาคือคนผิดเพราะไทยแทบไม่เคยบอกเลยว่าคนไหนผิด
นี่แหละที่เราควรประกาศชื่อ ส่วนการเสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น ควรปรับวัฒนธรรมการเข้าใจใหม่ว่า
มันไม่เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะเขาคนนั้นยังไม่ใช่ผู้ถูกตัดสินว่าผิด ควรให้เรื่องเหล่านี้ฝังอยู่
ในระบบความคิด ต่อๆไปจะได้เลิกอ้างว่าเสื่อมเสียชื่อเสียง นี่ผมนับรวมไปถึงเเกี่ยวกับกฏ-
หมายหนี้ด้วยนะ
และผุ้กระทำผิดที่โดนตัดสินคดีแล้ว ถ้าเป็นคดีที่ไม่ใช่คดีระหว่างเอกชนด้วยกัน เป็นคดี
อาญาแผ่นดิน เป็นคดีต่อรััฐแล้วหล่ะก็ ประชาชนควรมีสิทธิรับรุ้ชืื่อผู้กระทำผิด รับรูุ้กระบวน
การ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของรัฐ รัฐต้องเเปิดเผย ไม่ใช่ไปคุุ้มครองปกปิด ให้ถือซะว่า
นั่นคือข้อมูลที่จะต้องบอกสาธารณะชนเจ้าของประเทศเจ้าของภาษี ซึ่งนำภาษีเขาไปใช้ไป
กับการดำเนินคดี เจ้าของภาษีก็ควรมีสิทธิรับรู้
เราเบลอหมด เราปกปิดหมด เราไปให้ความรู้ประชาชนว่า การยังเป็นแค่ผู้ต้องหามันทำให้
เขาเสื่อมเสียต้องรักษาความเสื่อมเสีย ทำไมไม่ให้ความรู้ที่ถูกต้อง นี่รวมไปถึงหนี้ต่างๆด้วย
สุดท้ายกลายเป็นสังคมเสียหาย ผู้ร้ายอาจอยู่ข้างๆไม่รู้ตัว เพราะต้องปกปิดรักษาสิทธิโจร
แต่ไม่เห็นความสำคัญของความปลอดภัยส่วนรวม
ส่วนวัฒนธรรมรังเกียจผู้ที่พ้นความผิด หรือผู้ที่ถูกลงโทษเรียบร้อยแล้ว อันนี้ก็ต้องแก้ ก็ต้อง
ให้ความรู้บทใหม่กับประชาชนเช่นกัน ไม่ให้ไปรังเกียจพวกเขา หลายๆความรู้เราควรปรับใหม่
แก้ใหม่ จะได้เลิกซะที กับการพร่ำบอกว่า เสื่อมเสียชื่อเสียง