กลไกภาษี VAT- Supply Chain ระหว่างทางเสียภาษีส่วนต่างจากการราคาที่เปลี่ยนไปทุกๆครั้ง
- ผู้บริโภคสุดท้ายคือผู้ที่เสียภาษีสะสมทั้งหมดของ VAT เพียงแต่ผู้นำส่งภาษีของผู้บริโภคคนสุดท้ายแก่สรรพากรคือผู้ขายก่อนสุดท้ายของ Supply Chain
ในความคิดผมมันมี 2 อย่างในการทำให้คนเสมอภาค
1. ทำให้ประชาชนรวยขึ้นเลื่อนชนชั้น
2. เก็บภาษีชนชั้นนายทุนเพื่อลดช่องว่างลงในความคิดผมนะ ลึกๆอยากให้ใช้วิธีที่หนึ่งเสียมากกว่า คือ ดันประชาชนให้เป็นชนชั้นนายทุนน่าจะลด Conflict ทุกฝ่ายได้ดีที่สุด
ทีนี้ความมั่งคั่งของประชาชนเกิดจากอะไร มันก็คือ เงินเหลือเก็บ = รายได้ต่อครัวเรือนต่อเดือน - รายจ่ายต่อครัวเรือนต่อเดือน ไงครับ
ถ้าเราวิเคราะห์ก็จะแตกออกเป็น
1.เพิ่มรายได้ของประชาชน
2.ลดรายจ่ายของประชาชนการเพิ่มรายได้ของประชาชน มีวิธีอะไรบ้าง1.เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ แต่วิธีนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยทั้งหมด เพราะสุดท้ายห่วงโซ่มันก็จะไปพันเป็นรายจ่ายอยู่ดี ดังนั้นจะเพิ่มก็ควรเพิ่มให้สอดคล้องกับเงินเฟ้อในประเทศน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด(เพื่อไม่ให้ค่าของเงินลดลง)
2.รัฐลงทุนการศึกษา เพื่อให้ประชากรสามารถทำงานในระดับสูงและมี Skill มากขึ้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพียงแต่จะเห็นผลในระยะยาว 10+ ปี แต่คำถามต่อมาคือลงทุนอย่างไร ผมมีไอเดียอย่างหนึ่ง คือ "การสนับสนุนให้คนศึกษาและพัฒนาตนเองเพิ่มเติมในช่วงเวลาชีวิตทำงาน"
โดยรัฐอาจจะให้ออกกฎหมายที่สนับสนุนผู้ประกอบการใดๆ ที่สนับสนุนการศึกษานอกเวลาของลูกจ้าง รวมถึงสนับสนุนการศึกษาภาคกลางคืน หรือ นอกเวลาทำงาน
3.การลดเวลาการทำงานปกติลง เท่าที่เคยอ่านงานวิจัยต่างประเทศการลดเวลาการทำงาน 4 วัน ทำให้ลูกจ้างทำงานได้มีประสิทธิผลหรือกำลังผลิตที่สูงขึ้น เคสเดียวกับโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ดในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ลดเวลาจาก 6 วัน เหลือ 5 วันต่อสัปดาห์ โดยช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงานอีก 3 วัน ลูกจ้างสามารถศึกษาเรียนต่อเพิ่มเติมการศึกษานอกเวลา หรือ ไปทำงานเสริมเพื่อหารายได้เสริม
4.สนับสนุนให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงินมากขึ้น และรัฐสนับสนุนกิจการ SME มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเปลี่ยนชนชั้นให้สูงขึ้นไปได้
5.สร้างงาน ถ้าเอกชนทำไม่ได้ รัฐต้องสร้างงาน ด้วยการสร้างบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจชั่วคราว และเมื่อดำเนินกิจการผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งก็ให้เอาเข้าตลาดหุ้นให้เอกชนถือครองแทน
6.ยกเลิกกฎหมายธุรกิจผูกขาดหรือสัมปทาน เปิดเสรีแม่มไปเลย
ลดรายจ่าย1.รัฐสวัสดิการ แน่นอนครับ มันคือการลดค่าใช้จ่าย ยกตัวอย่างเช่น
- สกอตแลนด์มีรัฐสวัสดิการผ้าอนามัยฟรี อย่าเห็นผ้าอนามัยฟรีเป็นเรื่องตลกนะครับ ผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิงแพงเอาเรื่องนะครับ แถมเป็นรายจ่ายที่เพศหญิง Suffer มาก เป็นต้น
- สนับสนุนอุปกรณ์ทางการศึกษา ให้ถือเป็นรัฐสวัสดิการที่นักเรียนสามารถเบิกของได้ฟรีจากทางโรงเรียน(โรงเรียนไปเก็บค่าตัดจ่ายของกับรัฐอีกที) แก้ปัญหาการคอรัปชั่นด้วยการทำบัญชีระบบ SAP (เชื่อผม ระบบ SAP ของดีใช้ในสากล ปิดบัญชีง่ายนิดเดียว)
2.การยกเลิกค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ไม่จำเป็นออก
- ยกเลิกค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องรับภาระโดยไม่จำเป็นออก เช่น ชุดนักเรียน ทรงผม เชื่อผมเถอนะว่ารายจ่ายตรงนี้พ่อแม่เด็ก Suffer มาก เทอมหนึ่งจ่ายกันเกินหมื่น ยิ่งคนจนนี่โครตจุก
- ทำระบบขนส่งมวลชนให้มันดีขึ้น รวมถึงวางผังเมืองใหม่ ลดซอยตันให้มันน้อยลง เพิ่ม Mode โดยสารแบบต่างๆ และเปิดเสรีให้แข่งขันด้านขนส่งซะ เมื่อเกิดการแข่งขันเสรีเดี๋ยวราคาก็ถูกลงมาเอง
3.ยกเลิกการเก็บภาษีซ้ำซ้อน โดยเฉพาะภาษีน้ำมัน และภาษีสรรพสามิตตัวอื่น
4.สุดท้ายวิธีนี้ The Best ที่สุดครับ สามารถลดงบประมาณรายจ่ายได้มากกว่า 74,000 ล้านบาท ถ้าเราลดรายจ่ายได้ กำไรก็จะมากขึ้นครับ