แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความรู้เรื่องนารวม หรือ นาแปลงใหญ่ มีดี/เสีย อย่างไร  (อ่าน 3725 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsekaiNetwork

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 633
  • ถูกใจแล้ว: 267 ครั้ง
  • ความนิยม: +20/-14
ละ ลาก กัน ไปไกล แฮะ ;D


หัวทู้จริงๆ คือ ผมยากจะเข้าใจ ถึงระบบนารวม นาแปลงใหญ่
ว่ามันทำกันอย่างไ เหมาะ หรือไม่ กับบ้านเรา


และอัตรา ผลตอบแทน ที่คนที่เข้าร่วมนั้นจะได้รับว่ามันคุ้มไหม
  ไม่ปฏิเสธว่ามันต้องมีตัวอย่างมาจากระบบคอมมี่ แน่ๆ


แต่ระบบทำร่วมกันแบบนี้ ก็แบบคำโบราณ ที่บ้านผมบอกกันมาว่า
ทำนาเข้าส่วน ทำสวนรวมหุ้น แม่งเจ้งชิบหาย


เพราะลักษณะนิศัยคนเราเวลาทำร่วกันมัน.......







นี่แหละปัญหาใหญ่  รวมทั้งเป็นปัญหาที่ทำให้สหกรณ์
ไม่ประสบความสำเร็จด้วย  และเป็นปัญหาที่ทำให้การแชร์
อุปกรณ์การเกษตรทำไม่สำเร็จ

ปราชญ์เกษตรบางท่าน  ก็เลยพยายามคิดค้นสูตรความร่วมมือ
ที่น่าจะลงตัว  หรือไม่ก็หันไปพยายามทำให้อุปกรณ์การเกษตร
สามารถเข้าถึงเกษตรกรที่ไม่มีเงินทุนหรือที่ดินมีขนาดเล็กได้
เพราะการให้เช่า  การให้ยืม  การลงขันสหกรณ์  มันมักปัญหา
จากผู้คนมักง่าย  ผู้คนเห็นแก่ตัว  ผู้คนที่ปัดความผิดชอบ


หลายท่านก็อาจจะแนะนำเกษตรสมัยใหม่ที่เน้นใช้พื้นที่น้อย
เหมาะกับการไม่ต้องสามัคคีในชุมชนมากนัก  เพื่อเป็นทางเลือก
ผมได้ฟังเกี่ยวกับพวกนี้เยอะมาก  ปัญหามักติดขัดตรงหาตลาด
และสร้างแบรนด์  ปราชญ์เกษตรก็พยายามแนะเกษตรกรในเรื่องนี้
และให้ใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์  ภาครัฐมักตามไม่ทัน
และภาครัฐมักเน้นให้เกษตรกรเป็นผู้ผลิต  หาใช่เน้นให้เกษตรกร
เป็นพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายโดยตรง  ซึ่งมันทำให้มูลค่าสินค้า
ไม่สูงเท่าที่ควร

แถวบ้านท่าน @sariora123  ทำเกษตรเสริมในพื้นที่จำกัดบ้าง
หรือเปล่า??  หันมาทำแบบนี้จะเวิร์คกว่ามั๊ย  อย่าไปหวังลมๆแล้งๆ
กับนารวมนามแปลงใหญ่ก็ได้  เพราะเดี๋ยวมีปัญหาทะเลาะกัน
ทำพวกด้วงมะพร้าวกำไรดีมากๆนะ  ตลาดก็หาง่าย  เอาไปทำ
เครื่องสำอางหรือขายปลีกส่ง  ตลาดก็อ้าแขนรับเยอะ  หรือ
จิ้งหรีด  พวกแมลงทอด  ขายในไทยก็ไม่พอขาย  ลงทุนน้อย
ดูแลน้อย  เดือนนี้ก็ได้คุยส่วนตัวกับคนเลี้ยงจิ้งหรีด

ผักอินทรีย์คิดว่ายากตรงหาตลาด  ยังเป็นความฝันบนทุ่งลาเวนเดอร์
หรือรับจ้างโดรนดีมั๊ย  เดี๋ยวนี้เห็นว่าโดรนมันราคาหลักพันแล้วด้วยเหรอ
โดรนถูกๆนี่มันดีมั๊ยหว่า??
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,179
  • ถูกใจแล้ว: 4978 ครั้ง
  • ความนิยม: +402/-442
เพลี้ย กระสอบ  ตะกวด2ขาเยอะครับ
 
สัตว์รบกวนเยอะกันแบบไม่น่าทำเลยแหละ
ผมถึงได้เคยบ่นไปไว้มู้อื่นว่า ศัตรูพืช? สัตว์รบกวนเยอะครับ
ยาฉีดไล่ ไม่ค่อยอยู่บางทีต้องมี 12เกจ 9MMไล่

พาลา(เบลัม)เยียวยาได้ทุก เรื่อง ???

เครื่องเครื่องมือกับความรู้ อันนี้เรื่องจริงครับ
เกษตร แถวบ้านขาดเครื่องมือจริง
เคยพูดเรื่องปุ๋ยน้ำ ไว้นานละในมู้หาอื่น
เพราะ พี่แก เอาไปเดินฉีดใส่นา60ไร่
 :-X
ผมก็สงสัย ปั้มดูดปุ๋ย ไม่กี่ร้อย
ซื้อมาติดให้มันผสมน้ำตอนวิดเข้านาก็จบละ
ทำไมต้องเดินให้เมื่อย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 22, 2021, 08:22:12 AM โดย sariora123 »
 

ออนไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,260
  • ถูกใจแล้ว: 20000 ครั้ง
  • ความนิยม: +361/-2
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
เพลี้ย กระสอบ  ตะกวด2ขาเยอะครับ
 
สัตว์รบกวนเยอะกันแบบไม่น่าทำเลยแหละ
ผมถึงได้เคยบ่นไปไว้มู้อื่นว่า ศัตรูพืช? สัตว์รบกวนเยอะครับ
ยาฉีดไล่ ไม่ค่อยอยู่บางทีต้องมี 12เกจ 9MMไล่

พาลา(เบลัม)เยียวยาได้ทุก เรื่อง ???

เครื่องเครื่องมือกับความรู้ อันนี้เรื่องจริงครับ
เกษตร แถวบ้านขาดเครื่องมือจริง
เคยพูดเรื่องปุ๋ยน้ำ ไว้นานละในมู้หาอื่น
เพราะ พี่แก เอาไปเดินฉีดใส่นา60ไร่
 :-X
ผมก็สงสัย ปั้มดูดปุ๋ย ไม่กี่ร้อย
ซื้อมาติดให้มันผสมน้ำตอนวิดเข้านาก็จบละ
ทำไมต้องเดินให้เมื่อย



.22 ลองไรเฟิล ติดศูนย์กล้องใช้งานได้ดีกว่าครับโดยเฉพาะระยะทาง50เมตรขึ้นไป ยิ่งติดที่ลดเสียงนี่ยิงกันสนุกเลยครับ :)
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,891
  • ถูกใจแล้ว: 2929 ครั้ง
  • ความนิยม: +206/-1
เพลี้ย กระสอบ  ตะกวด2ขาเยอะครับ
 
สัตว์รบกวนเยอะกันแบบไม่น่าทำเลยแหละ
ผมถึงได้เคยบ่นไปไว้มู้อื่นว่า ศัตรูพืช? สัตว์รบกวนเยอะครับ
ยาฉีดไล่ ไม่ค่อยอยู่บางทีต้องมี 12เกจ 9MMไล่

พาลา(เบลัม)เยียวยาได้ทุก เรื่อง ???

เครื่องเครื่องมือกับความรู้ อันนี้เรื่องจริงครับ
เกษตร แถวบ้านขาดเครื่องมือจริง
เคยพูดเรื่องปุ๋ยน้ำ ไว้นานละในมู้หาอื่น
เพราะ พี่แก เอาไปเดินฉีดใส่นา60ไร่
 :-X
ผมก็สงสัย ปั้มดูดปุ๋ย ไม่กี่ร้อย
ซื้อมาติดให้มันผสมน้ำตอนวิดเข้านาก็จบละ
ทำไมต้องเดินให้เมื่อย





คนส่วนใหญ่ชอบลืมคิดค่าแรงตัวเองครับ
การซื้อเครื่องทุ่นแรงไม่ได้หมายถึงซื้อความสบาย
แต่คือการซื้อเวลาและแรงงานเพิ่ม


เพราะต่อให้ค่าติดตั้ง หมื่นนึง
แต่การที่ลดเวลาและลดแรงงานได้ 1 คน
แค่ 2 เดือนก็กำไรแล้ว


เวลาที่ได้มาถ้าว่างก็ไปทำอย่างอื่นหาตังเพิ่มสิ


แต่ก็นะมันเป็นวิธีที่สืบทอดๆกันมาถ้าไม่มีคนแน่ะ
หลายคนก็ไม่คิดจะเปลี่ยนวิธีการทำงานหรอก
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,203
  • ถูกใจแล้ว: 3011 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
[quote/]

นี่แหละปัญหาใหญ่  รวมทั้งเป็นปัญหาที่ทำให้สหกรณ์
ไม่ประสบความสำเร็จด้วย  และเป็นปัญหาที่ทำให้การแชร์
อุปกรณ์การเกษตรทำไม่สำเร็จ

ปราชญ์เกษตรบางท่าน  ก็เลยพยายามคิดค้นสูตรความร่วมมือ
ที่น่าจะลงตัว  หรือไม่ก็หันไปพยายามทำให้อุปกรณ์การเกษตร
สามารถเข้าถึงเกษตรกรที่ไม่มีเงินทุนหรือที่ดินมีขนาดเล็กได้
เพราะการให้เช่า  การให้ยืม  การลงขันสหกรณ์  มันมักปัญหา
จากผู้คนมักง่าย  ผู้คนเห็นแก่ตัว  ผู้คนที่ปัดความผิดชอบ


หลายท่านก็อาจจะแนะนำเกษตรสมัยใหม่ที่เน้นใช้พื้นที่น้อย
เหมาะกับการไม่ต้องสามัคคีในชุมชนมากนัก  เพื่อเป็นทางเลือก
ผมได้ฟังเกี่ยวกับพวกนี้เยอะมาก  ปัญหามักติดขัดตรงหาตลาด
และสร้างแบรนด์  ปราชญ์เกษตรก็พยายามแนะเกษตรกรในเรื่องนี้
และให้ใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์  ภาครัฐมักตามไม่ทัน
และภาครัฐมักเน้นให้เกษตรกรเป็นผู้ผลิต  หาใช่เน้นให้เกษตรกร
เป็นพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายโดยตรง  ซึ่งมันทำให้มูลค่าสินค้า
ไม่สูงเท่าที่ควร

แถวบ้านท่าน @sariora123  ทำเกษตรเสริมในพื้นที่จำกัดบ้าง
หรือเปล่า??  หันมาทำแบบนี้จะเวิร์คกว่ามั๊ย  อย่าไปหวังลมๆแล้งๆ
กับนารวมนามแปลงใหญ่ก็ได้  เพราะเดี๋ยวมีปัญหาทะเลาะกัน
ทำพวกด้วงมะพร้าวกำไรดีมากๆนะ  ตลาดก็หาง่าย  เอาไปทำ
เครื่องสำอางหรือขายปลีกส่ง  ตลาดก็อ้าแขนรับเยอะ  หรือ
จิ้งหรีด  พวกแมลงทอด  ขายในไทยก็ไม่พอขาย  ลงทุนน้อย
ดูแลน้อย  เดือนนี้ก็ได้คุยส่วนตัวกับคนเลี้ยงจิ้งหรีด

ผักอินทรีย์คิดว่ายากตรงหาตลาด  ยังเป็นความฝันบนทุ่งลาเวนเดอร์
หรือรับจ้างโดรนดีมั๊ย  เดี๋ยวนี้เห็นว่าโดรนมันราคาหลักพันแล้วด้วยเหรอ
โดรนถูกๆนี่มันดีมั๊ยหว่า??
ท่านควรจะสนับสนุนพวกเทคโนนแครตแบบเดิมนะครับแต่ก็อย่างที่ท่านว่า พวกนี้หยิ่งเกินไป คุยกับชาวบ้านอาจไม่รู้เรื่อง ???
[quote/]


คนส่วนใหญ่ชอบลืมคิดค่าแรงตัวเองครับ
การซื้อเครื่องทุ่นแรงไม่ได้หมายถึงซื้อความสบาย
แต่คือการซื้อเวลาและแรงงานเพิ่ม


เพราะต่อให้ค่าติดตั้ง หมื่นนึง
แต่การที่ลดเวลาและลดแรงงานได้ 1 คน
แค่ 2 เดือนก็กำไรแล้ว


เวลาที่ได้มาถ้าว่างก็ไปทำอย่างอื่นหาตังเพิ่มสิ


แต่ก็นะมันเป็นวิธีที่สืบทอดๆกันมาถ้าไม่มีคนแน่ะ
หลายคนก็ไม่คิดจะเปลี่ยนวิธีการทำงานหรอก
ท่านพูดผมนึกถึงนิยายเรื่อง"ทรัพย์ในดิน"เลยครับที่พระเอกจบจากตะวันตกจะมาทำเกษตรในที่ดินตนเองก็โดนคนแก่แถวนั้เนเยาะเย้ยว่า"ข้้าก็ทำของข้าอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว เจ้าก็ทำต่อๆกันมาเหมอืนกันใช่ไหมล่ะ"คนเราหวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงมากครับเพระาไม่แน่ใจว่าจะได้ผล คนเราจะเลี่ยงความเสี่ยงอย่างที่ผมเคยบอกท่านล่ะครับพวกเขามีแผนผังความคิดแตกต่างกันกับเราที่เคยชินกับเทคโนโลยีและแนวความคดิเรือ่งเวลาเป็นเงินเป็นทองมากกว่า
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,599
  • ถูกใจแล้ว: 3448 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
[quote/]


คนส่วนใหญ่ชอบลืมคิดค่าแรงตัวเองครับ
การซื้อเครื่องทุ่นแรงไม่ได้หมายถึงซื้อความสบาย
แต่คือการซื้อเวลาและแรงงานเพิ่ม


เพราะต่อให้ค่าติดตั้ง หมื่นนึง
แต่การที่ลดเวลาและลดแรงงานได้ 1 คน
แค่ 2 เดือนก็กำไรแล้ว


เวลาที่ได้มาถ้าว่างก็ไปทำอย่างอื่นหาตังเพิ่มสิ


แต่ก็นะมันเป็นวิธีที่สืบทอดๆกันมาถ้าไม่มีคนแน่ะ
หลายคนก็ไม่คิดจะเปลี่ยนวิธีการทำงานหรอก


อย่างผมทำงานเป็น Cost Engineer ต่างประเทศ ผมจะต้องท่องจำหมวด Cost ต่างๆที่สำคัญให้ได้หมด โดยสำคัญจะแบ่งเป็น Direct Cost กับ Indirect Cost


Direct Cost
1.Material
   1.1 Direct Material หรือ Productive Material วัสดุหลักที่เป็นส่วนประกอบของการผลิตชิ้นงาน เช่น อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก
   1.2 Consumable Material หรือ Misc Material วัสดุรองที่ไม่ได้เป็นส่วนประกอบโดยตรงในการผลิตชิ้นงาน เช่น ฟองน้ำ ใบตัดเหล็ก กระสอบ
2.Direct Labour ค่าแรงของ Workers กับ Skilled Workers ที่ได้ลงมือผลิตชิ้นงาน (ไม่ใช่คนชี้นิ้วสั่ง เช่น Engineer Foreman อันนี้ไม่ถือเป็น Direct Cost)
3.Subcontractor การจ้างผู้รับเหมารายย่อยหรือผุ้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระงานของเราลง
4.Equipment
   4.1 Equipment Assets หรือ Fixed Asset Machine คือ เครื่องจักรที่เราซื้อมา และจะต้องคิดค่าใช้จ่ายตัดจ่ายเป็นค่าเสื่อม(Depreciation) รายเดือน
   4.2 Rental Equipment หรือ Rental Machine คือ เครื่องจักรที่เราเช่ายืมมา
5.POL ย่อมาจากคำว่า Petroleum,Oil and Lubricant แปลว่า เชื้อเพลิง, น้ำมัน และสารหล่อลื่น
6.Service
   6.1 General Service ได้แก่ ค่าซ่อมเครื่องจักร ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าน้ำค่าไฟ
   6.2 VAT,Withholding Tax and Custom Duty ก็คือ ค่าภาษีต่างๆที่เราต้องจ่ายออกไป ทั้งภาษี VAT ,ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และ ภาษีนำเข้า


Indirect Cost
1.Rental Properties ค่าเช่าที่ดิน
2.Camp Establish(ถ้ามี) ค่าแคมป์คนงาน
3.Workshop or Site Establish ค่าก่อสร้างโรงงานหรือสถานที่ทำงานด้านการผลิต
4.Office Establish ค่าก่อสร้างสำนักงาน
5.Salary&Wages เงินเดือนของพวกชี้นิ้วสั่ง ไม่ได้ลงมือปฏิบัติผลิตชิ้นงานโดยตรง รวมถึงผู้บริหาร นักบัญชี (เอาง่ายๆ ไม่ใช่ Workers หรือ Skilled Workers)
6.Office Equipment ค่าเฟอร์นิเจอร์ คอมพิวเตอร์ ปริ้นเตอร์ที่ใช้ในสำนักงาน
7.Vehicle Transport(ถ้ามี) ค่าโดยสารของพนักงาน
8.Camp Running Cost ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารของแคมป์
9.Workshop or Site Running Cost ค่าน้ำค่าไฟโรงงานหรือสถานที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิต
10.Office Running Cost ค่าน้ำค่าไฟของสำนักงาน
11.Bond,Stamp Duty,Insurance,Bank Fee,Interest ค่าประกัน,ค่าไปรษณีย์,ค่าธรรมเนียมธนาคาร และดอกเบี้ยธนาคาร
12.Health&Safety ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายเพื่อความปลอดภัยสำหรับสถานที่ทำงานการผลิต เช่น แว่นตา ถุงมือ รองเท้าเซฟตี้
13.Security ค่ารักษาความปลอดภัยหรือค่าจ้างยามนั่นแหละ
14.Misc ค่าจิปาถะ
15.VAT,Withholding Tax and Custom Duty for Indirect Cost ค่าภาษีต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้องานการผลิตโดยตรง


เมื่อคุณแยกประเภทของค่าต้นทุนต่างๆที่เกิดขึ้นได้ คุณก็จะบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะส่วนใหญ่ Direct Cost มันค่อนข้างจะคงที่อยู่แล้ว ยกเว้นแต่จะมีการเปลี่ยน Method Statement(กรรมวิธีการผลิต)แบบใหม่ ส่วนที่จะมีความเปลี่ยนแปลงสูงคือ Indirect Cost ดังนั้นผู้บริหารจะต้องควบคุม Indirect Cost ให้ดี


และสำคัญที่สุดในการบริหารต้นทุน คือจะต้องเข้าใจหลักบัญชีและการตัดจ่าย Inventory
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,891
  • ถูกใจแล้ว: 2929 ครั้ง
  • ความนิยม: +206/-1
[quote/]


อย่างผมทำงานเป็น Cost Engineer ต่างประเทศ ผมจะต้องท่องจำหมวด Cost ต่างๆที่สำคัญให้ได้หมด โดยสำคัญจะแบ่งเป็น Direct Cost กับ Indirect Cost


Direct Cost
1.Material
   1.1 Direct Material หรือ Productive Material วัสดุหลักที่เป็นส่วนประกอบของการผลิตชิ้นงาน เช่น อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก
   1.2 Consumable Material หรือ Misc Material วัสดุรองที่ไม่ได้เป็นส่วนประกอบโดยตรงในการผลิตชิ้นงาน เช่น ฟองน้ำ ใบตัดเหล็ก กระสอบ
2.Direct Labour ค่าแรงของ Workers กับ Skilled Workers ที่ได้ลงมือผลิตชิ้นงาน (ไม่ใช่คนชี้นิ้วสั่ง เช่น Engineer Foreman อันนี้ไม่ถือเป็น Direct Cost)
3.Subcontractor การจ้างผู้รับเหมารายย่อยหรือผุ้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระงานของเราลง
4.Equipment
   4.1 Equipment Assets หรือ Fixed Asset Machine คือ เครื่องจักรที่เราซื้อมา และจะต้องคิดค่าใช้จ่ายตัดจ่ายเป็นค่าเสื่อม(Depreciation) รายเดือน
   4.2 Rental Equipment หรือ Rental Machine คือ เครื่องจักรที่เราเช่ายืมมา
5.POL ย่อมาจากคำว่า Petroleum,Oil and Lubricant แปลว่า เชื้อเพลิง, น้ำมัน และสารหล่อลื่น
6.Service
   6.1 General Service ได้แก่ ค่าซ่อมเครื่องจักร ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าน้ำค่าไฟ
   6.2 VAT,Withholding Tax and Custom Duty ก็คือ ค่าภาษีต่างๆที่เราต้องจ่ายออกไป ทั้งภาษี VAT ,ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และ ภาษีนำเข้า


Indirect Cost
1.Rental Properties ค่าเช่าที่ดิน
2.Camp Establish(ถ้ามี) ค่าแคมป์คนงาน
3.Workshop or Site Establish ค่าก่อสร้างโรงงานหรือสถานที่ทำงานด้านการผลิต
4.Office Establish ค่าก่อสร้างสำนักงาน
5.Salary&Wages เงินเดือนของพวกชี้นิ้วสั่ง ไม่ได้ลงมือปฏิบัติผลิตชิ้นงานโดยตรง รวมถึงผู้บริหาร นักบัญชี (เอาง่ายๆ ไม่ใช่ Workers หรือ Skilled Workers)
6.Office Equipment ค่าเฟอร์นิเจอร์ คอมพิวเตอร์ ปริ้นเตอร์ที่ใช้ในสำนักงาน
7.Vehicle Transport(ถ้ามี) ค่าโดยสารของพนักงาน
8.Camp Running Cost ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารของแคมป์
9.Workshop or Site Running Cost ค่าน้ำค่าไฟโรงงานหรือสถานที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิต
10.Office Running Cost ค่าน้ำค่าไฟของสำนักงาน
11.Bond,Stamp Duty,Insurance,Bank Fee,Interest ค่าประกัน,ค่าไปรษณีย์,ค่าธรรมเนียมธนาคาร และดอกเบี้ยธนาคาร
12.Health&Safety ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายเพื่อความปลอดภัยสำหรับสถานที่ทำงานการผลิต เช่น แว่นตา ถุงมือ รองเท้าเซฟตี้
13.Security ค่ารักษาความปลอดภัยหรือค่าจ้างยามนั่นแหละ
14.Misc ค่าจิปาถะ
15.VAT,Withholding Tax and Custom Duty for Indirect Cost ค่าภาษีต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้องานการผลิตโดยตรง


เมื่อคุณแยกประเภทของค่าต้นทุนต่างๆที่เกิดขึ้นได้ คุณก็จะบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะส่วนใหญ่ Direct Cost มันค่อนข้างจะคงที่อยู่แล้ว ยกเว้นแต่จะมีการเปลี่ยน Method Statement(กรรมวิธีการผลิต)แบบใหม่ ส่วนที่จะมีความเปลี่ยนแปลงสูงคือ Indirect Cost ดังนั้นผู้บริหารจะต้องควบคุม Indirect Cost ให้ดี


และสำคัญที่สุดในการบริหารต้นทุน คือจะต้องเข้าใจหลักบัญชีและการตัดจ่าย Inventory
ค่าเลี้ยงดูปูเสื่ออยู่ช่องไหนครับ ;D
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,599
  • ถูกใจแล้ว: 3448 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
[quote/]
ค่าเลี้ยงดูปูเสื่ออยู่ช่องไหนครับ ;D


อยู่ใน Misc หรือ ค่าจิปาถะ หรือโสหุ้ย ส่วนใหญ่ค่าสีเทาก็มักจะอยู่ในช่องนี้นี่แหละครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: deaddy

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,179
  • ถูกใจแล้ว: 4978 ครั้ง
  • ความนิยม: +402/-442
dronพ่นยาถูกๆ เกือบแสนนะครับ แต่ถ้ารุ้จักอะไหล่ขายที่ไหล่ประกอบเอง
ลงระบบเองล่ะก็ถูกลงไปเยอะ
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,599
  • ถูกใจแล้ว: 3448 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
dronพ่นยาถูกๆ เกือบแสนนะครับ แต่ถ้ารุ้จักอะไหล่ขายที่ไหล่ประกอบเอง
ลงระบบเองล่ะก็ถูกลงไปเยอะ


อันนี้จริงของคุณ @sariora123 พูดถูกโดรนหรือเครื่องจักรเพื่อการเกษตรนี่ราคาไม่ถูกนะครับ ค่อนข้างแพงเอาเรื่อง


ถ้าใช้ไม่คุ้มก็จะโดนค่าเสื่อมหรือขาดทุนจากการถูกด้อยค่าสินทรัพย์เล่นงานอีก และบัญชีก็จะตัวแดงเถือก


เหมือนเคสการบินไทยที่ซื้อเครื่องบิน แต่ใช้งานไม่คุ้ม Generate รายได้ไม่เท่ากับค่าเสื่อมที่เสียไป สุดท้ายตัวเลขทางบัญชีเลยขาดทุนยับ


ยังไม่นับการถูกที่ธุรกิจถูก Disrupt จนขาดทุนจากสินทรัพย์ถูกด้อยค่าลงอีก


ดังนั้นการที่จะใช้เครื่องจักรให้คุ้มควรจะใช้วิธีการ
1.หารกันออกเครื่องจักรและผลัดหมุนเวียนกันใช้
2.ใช้ระบบ Subcontractor หรือ ระบบเช่าเครื่องจักรกับเอกชน


ข้อ 1 และ 2 มีข้อเสียต่างกัน


ข้อ 1 จะต้องมีคนกลางคอยจัดการคิวการขอใช้บริการเครื่องจักรแก่คนที่ช่วยกันหาร และมีต้นทุนที่เกิดจากค่าเสื่อม ค่า Operate ค่าซ่อมบำรุง ค่า POL และค่าอะไหล่ ต้องจัดการเองหมด


ข้อ 2.1 ระบบ Subcontractor จะตัดจ่ายงานส่วนหนึ่งให้แก่อีก Party ดังนั้น Subcontract ก็จะชาร์จเป็น ค่าเสื่อมเครื่องจักร + ค่า Operate + ค่าซ่อมบำรุง + ค่า POL + ค่าอะไหล่ + ภาษี + กำไร/OH = ค่างานรับจ้าง
ข้อ 2.2 ระบบเช่าเครื่องจักร จะเช่าเครื่องจักรเขามายืมใช้งานช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ให้เช่าก็จะชาร์จเป็น ค่าเสื่อม + ค่าซ่อมบำรุง + ค่าอะไหล่ + ภาษี + กำไร/OH = ค่าเช่าเครื่องจักร


ความเสี่ยงมีความแตกต่างกัน
-กรณีถ้าเราใช้เครื่องจักรเก่งๆ ใช้คล่องๆ ซ่อมแซมเองเป็น แต่เป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารัก แนะนำ ข้อ 2.2
-แต่ถ้าเรามีกลุ่มมีก๊วนที่ทำเกษตรแบบเดียวกันใช้เครื่องจักรแบบเดียวกัน ใช้เครื่องจักรเก่ง มีคนช่วยซ่อมแซม แนะนำ ข้อ 1
-แต่ถ้าเราใช้เครื่องจักรไม่เป็น ซ่อมก็ไม่ได้ แนะนำข้อ 2.1

ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก