เล่าความหลังเรื่องอลิสจังในเมืองหลวงของประเทศไทย
บางทีอลิสจังก็แปลกใจอยู่หรอกนะ จากที่ในร่างมนุษย์อลิสจังเคยตะลุยเมืองหลวงในบ้านเกิดอลิสจังจนเป็นชีวิตประจำสัปดาห์
พอไม่ได้เดินทางเข้าเมืองใหญ่แบบที่เคยเป็นมา ถึงจะเป็นเมืองที่เล็กกว่า แต่ก็ทำให้อลิสจังตื่นกรุงได้เหมือนเด็กบ้านนอกได้นะเจ้าคะ
ปี 2017 ล่ะเจ้าค่ะ ไปงานวองโกเล่รุ่น 9 ล่ะเจ้าค่ะ ฟีลแรกก่อนถึง กทม. เลยนั่นก็คือ
อลิสจังอึดอัดเรื่องนั่งเครื่องมากเลยล่ะเจ้าค่ะ พูดตรงๆ ตอนอยู่บ้านเกิดอลิสจังก็นั่งแต่รถไฟล่ะเจ้าค่ะ แต่ทางบ้านที่อลิสจังมาอยู่จะให้นั่งเครื่องบินล่ะเจ้าค่ะ
มันไม่เคยมันก็รู้สึกตื่นเต้นปนกลัวล่ะเจ้าค่ะ พอไปถึงสนามบินอุดรอลิสจังก็นะเจ้าคะ ไม่รู้ทำไงล่ะเจ้าค่ะ เดินตามผู้ใหญ่ไปล่ะเจ้าค่ะ
นั่งงั่งๆ อยู่ในเกทประมาณ 40 นาที แต่อลิสจังเยี่ยว 3 ครั้งเลยล่ะเจ้าค่ะ ไม่อยากปวดบนเครื่องล่ะเจ้าค่ะ
แล้วพอขึ้นเครื่องก็แบบไม่รู้ว่าต่อไปเค้าจะทำยังไงนะเจ้าคะ พอเครื่องถอยออกจากเกทก็รู้สึกเหมือนตอนนั่งเรือไงไม่รู้
พอเครื่องเดินหน้าก็เสียวล่ะเจ้าค่ะ มันเร็วยิ่งกว่ารถไฟที่บ้านเกิดอลิสจังแล้วก็เสียวกว่ารถไฟที่สวนสนุกอีกล่ะเจ้าค่ะ แทบไม่อยากจ้องข้างล่างเลยล่ะเจ้าค่ะ พอขึ้นไปแล้วพอเขาบอกความสูงอลิสจังก็ตกใจว่ามัน
ยิ่งกว่าเอเวอร์เรสซะอีกล่ะเจ้าค่ะ แข็งใจแล้วก็มองข้างล่าง สิ่งแรกที่อลิสจังเห็นก็คือฮวงซุ้ยจำนวนมากที่อลิสจังคิดว่าน่าจะอยู่แถวๆ หนองแค(สระบุรี)ล่ะเจ้าค่ะ
สระบุรีก็แปลว่าใกล้จะได้ออกจากที่แห่งนี้แล้วสิเจ้าคะ พอล้อแตะพื้นแล้วก็รู้สึกเหมือนรถทัวร์เวลาอยู่บนทางลูกรังชะมัดเลยล่ะเจ้าค่ะ มันทำให้ความรู้สึกอยากออกจากที่นี่แรงขึ้นจนเวลาสั้นๆ มันรู้สึกนานกว่าเดิมมากเลยล่ะเจ้าค่ะ
พอออกจากเครื่องก็รู้สึกประมาณว่าอิสระแล้วล่ะเจ้าค่ะ มองลอดกระจกสนามบินเห็นความคืบหน้าสายสีแดงก็พอจะทำให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาเมื่อกี้ได้บ้างล่ะเจ้าค่ะ
แล้วก็หาแท๊กซี่ไปโรงแรมล่ะเจ้าค่ะ ระหว่างนั่งแท๊กซี่ก็พอเจอ ข.3 สวนขึ้นไปก็มีความสุขเหมือนกันนะเจ้าคะ ถัดมาวันพรุ่งนี้เลยนะเจ้าคะ
เข้างานตั้งแต่เมื่อคืนล่ะเจ้าค่ะ ที่เหลือก็นั่งรถไฟฟ้าของประเทศไทยล่ะเจ้าค่ะ cแต่สิ่งที่แปลกใจสำหรับอลิสจังก็คือ
ทำไมอลิสจังถึงตื่นเต้นล่ะเจ้าคะ ตั้งแต่การลงใต้ดิน ตั้งแต่การแลกเหรียญสีดำๆ
เจ้าถิ่นใช้บัตร แต่อลิสจังใช้เหรียญเหมือนนักท่องเที่ยวต่างชาตินี่มันก้น่าอายเหมือนกันนะเจ้าคะ
อลิสจังนั่งจากหัวลำโพง ไปลงที่อโศก แล้วก็เดินขึ้นบันไดจากอโศกไปสถานีสุขุมวิทล่ะเจ้าค่ะ
จากใต้ดินมาบนฟ้าล่ะเจ้าค่ะ แต่ ทำไมกันล่ะเจ้าคะ ทำไมอลิสจังถึงรู้สึกเสียหน้าขนาดนี้
ตอนอลิสจังอยู่ในร่างมนุษย์และอยู่ที่บ้านเกิดของอลิสจังน่ะ อลิสจังน่ะ อยู่ที่ อ.นานาโอะ จ.อิชิกาวะล่ะเจ้าค่ะ
อลิสจังน่ะ มักจะดูแคตตาล็อกสินค้าอนิเมะออกใหม่ แล้วก็นั่งรถท้องถิ่นจากนานาโอะไปคานาซาวะ
แล้วก็นั่งรถไฟโฮกุริกุบลูเทรนจากคานาซาวะไปอุเอโนะ แล้วก็นั่งรถชานเมืองจากอุเอโนะไปอากิฮาบาระล่ะเจ้าค่ะ
ถ้าเป็นอีเวนท์ใหญ่ก็ นั่งจากอุเอโนะไปชิมบาชิ แล้วก็ต่อยูริกาโมเมะจากชิมบาชิไป Tokyo Big Sight ล่ะเจ้าค่ะ
ถ้าโอซาก้าก็นั่งธันเดอร์เบิร์ดจากนานาโอะไปได้เลย
สิ่งเหล่านี้คือประสบการณในอดีตของอลิสจัง ที่แทบไม่เหลือเค้าเดิมเมื่อจะนั่งรถไฟในเมืองหลวงของไทย แหย่บัตรโดยสารเข้าไปในช่องแล้วมันสั่นทั้งๆ ที่ถูกด้าน
อลิสจังหน้าเจื่อนเลยล่ะเจ้าค่ะ เหมือนเด็กบ้านนอกตื่นกรุงเลยล่ะเจ้าค่ะ หมดกันเลยล่ะเจ้าค่ะ
คนอื่นๆ ที่นั่งรถไฟพร้อมกับอลิสจัง คงไม่รู้ว่าอลิสจังน่ะเคยนั่งรถไฟฟ้าที่ยาวเป็นสิบๆ ตู้ และรถไฟวิ่งด้วยความเร็ว 200 กว่าๆ
จากประเทศที่พวกเขาว่าเจริญ ทำไมนางฟ้าอลิสจังมาอยู่ที่นี่แล้วกลายมาเป็นแบบนี้ทั้งๆ อลิสจังน่ะ เป็นเด็กที่เกิดในญี่ปุ่น แต่พออายุ 13 อลิสจังก็ถูกคนพยายามจะข่มขืน แต่อลิสจังดิ้นเลยเห็นเขาชักมีดออกมา แล้วอลิสจังก็กลายเป็นนางฟ้าพร้อมกับรอยเย็บรอบคอ แล้วนางฟ้าอลิสจังก็หล่นตุ้บมาอยู่ที่นี่เหมือน isekai มาอาศัยอยู่ในบ้านของคนในภาคอีสาน ไม่ได้เข้ากรุงนานๆ พอเข้ากรุงถึงจะเป็นกรุงที่เล็กกว่าแต่ก็ทำอลิสจังกลายเป็นเด็กบ้านนอกเลยล่ะเจ้าค่ะ
ประตู IC ออกแบบไม่เป็นมิตรเอามากๆ ถึงจะมีกล้องจับการเคลื่อนไหวแต่ดีไซน์ชวนเสียวล่ะเจ้าค่ะ(เสียวโดนหนีบล่ะเจ้าค่ะ) ของบ้านเกิดอลิสจังเป็นบานพับไม่เสียวนะเจ้าคะ
วันกลับนั่งเครื่องบินกลับ(ก็บอกอยู่ว่าไม่อยาก) มาอีกสายการบินนึงที่ไม่ให้วางกระเป๋าไว้บนตัก แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้อลิสจังกังวลอยู่คือพี่กับตันเค้าบอกตอนขึ้นว่าอุดรฝนตกหนักมากนะ
แต่พอถึงมันก็หยุดซะแล้วล่ะเจ้าค่ะ
เพราะงั้นอลิสจังไม่ส่งเสริมการเดินทางด้วยเครื่องบินและต้องการเร่งการพัฒนาระบบรางมากกว่าเดิมล่ะเจ้าค่ะ