มันเข้าข่ายโรคจิตแล้วมั้ง

[moneyisgod]

ผู้ปกครองโวย รร.ประถมบางแห่งในคาวาซากิ ห้าม นร. สวมชุดชั้นในเข้าเรียนคาบพละ กลัวเหม็นอับทั้งวัน



กฎระเบียบเรื่องการแต่งกาย ควรไปควบคู่กันกับเรื่องอนามัย และเรื่องความรู้สึกของผู้สวมใส่

ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องเครื่องแต่งกายนักเรียนในญี่ปุ่นจะมีปัญหากันมาแบบไม่หยุดหย่อน อย่างข่าวที่เราพึ่งนำเสนอไปเมื่อไม่นานเกี่ยวกับรร.มัธยมในนางาซากิบังคับให้นักเรียนสวมชุดชั้นในสีขาวเท่านั้น จนเกิดเป็นหัวข้อสนทนาและถกเถียงกันอย่างดุเดือดในสังคม

คราวนี้เกิดเหตุขึ้นในเมืองคาวาซากิ จังหวัดคานางาวะ เมื่อคุณ Yamada Eri สมาชิกสภาเมืองได้ออกมากล่าวระหว่างการประชุมว่า เธอได้รับคำร้องเรียนจากผู้ปกครองจำนวนมาก ว่าในวิชาพละของโรงเรียนประถมหลายแห่งไม่อนุญาตให้นักเรียนใส่ชุดชั้นใน ซึ่งกฏนี้มียาวไปตลอดตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6

แม้ว่ากฏดังกล่าวจะเป็นแค่เฉพาะโรงเรียนบางแห่ง แต่ว่าคุณ Yamada ก็ยอมรับว่าไม่สบายใจเมื่อได้ยินว่ากฏแบบนี้มีการใช้จริงในโรงเรียน “เด็กประถมคือวัยที่กำลังพัฒนาความคิดเรื่องเพศ และกฏนี้กำลังทำร้ายพวกเขา” เธอกล่าวพร้อมเสริมว่า พ่อแม่ของเด็กหลายคนไม่พอใจอย่างมากกับกฏข้อนี้

สำหรับเหตุผลที่ทำไมโรงเรียนต้องออกกฏแบบนี้มา มีการกล่าวอ้างถึงเหตุผลทางด้านสุขภาพและสุขอนามัย เนื่องจากเด็กประถมจะไม่ได้อาบน้ำหลังจากเรียนวิชาพละ กฎข้อนี้จึงเป็นไปเพื่อให้พวกเขาไม่ต้องทนกับชุดชั้นในที่เปียกชุ่มเหม็นอับไปด้วยเหงื่อตลอดทั้งวันนั่นเอง แต่ก็มีคนที่แย้งว่า มันก็แก้ไขได้ด้วยการนำชุดชั้นในมาเปลี่ยนก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ

สำหรับความเห็นบนโลกออนไลน์ต่อกรณีดังกล่าว เราขอยกตัวอย่างมาบางส่วนดังนี้

“ถ้าโรงเรียนของฉันห้ามพวกเขาใส่ชุดชั้นใน ฉันก็ย้ายโรงเรียน”
“พวกนิสัยเสียตัวไหนคิดกฏแบบนี้มา”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะมีกฏแบบนี้”
“ทำไมไม่มีใครทำอะไรจนเรื่องมันมาถึงขนาดนี้”

ซึ่งหลังจากเกิดการร้องเรียนนี้ขึ้น คุณ Odashima Mitsuru ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาของคาวาซากิ ก็ยืนยันว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก ๆ “จริงที่ว่าโรงเรียนต้องเน้นที่สุขภาพและสุขอนามัย แต่ก็ควรใส่ใจความรู้สึกของเด็ก ๆ ด้วย” เขากล่าว

Source : Kanagawa Shimbun

https://akibatan.com/2021/03/some-japanese-elementary-schools-dont-let-kids-wear-underwear-during-p-e-and-parents-are-mad/?fbclid=IwAR2cDHNesqZqIIK_DhEcjOsquUnK0ibal6pCeyV3mie8ImcCRL-SBC28K3I

 

• Tweet

[strikers-x2]

ปัญหาจริงๆมันก็แค่เปลี่ยนชุดชั้นในก็จบแล้วนะ รู้ว่าวันไหนมีพละก็เอาชุดชั้นในสำรองไปด้วยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกกฏประหลาดๆแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

[yamamaya]

เอาจริงๆญี่ปุ่นถ้าได้ไปอยู่สัก5ปี
ก็จะรู้ว่าไอ้ที่บอกปลอดภัยไร้ปัญหาคดีเรื่องเพศสถิติต่ำ


จริงๆแล้วก็เหมือนกับที่ต่างชาติเข้าใจว่าสยามเมืองยิ้มคนไทยใจดีนั่นแหละ


ที่เลวร้ายคือเหยื่อเลือกไม่แจ้งความเพราะกลัวเสียชื่อกับพอกดดันไร้ทางออกก็ฆ่าตัวตายมากกว่า

[Black7nos]

เอาจริงๆญี่ปุ่นถ้าได้ไปอยู่สัก5ปี
ก็จะรู้ว่าไอ้ที่บอกปลอดภัยไร้ปัญหาคดีเรื่องเพศสถิติต่ำ


จริงๆแล้วก็เหมือนกับที่ต่างชาติเข้าใจว่าสยามเมืองยิ้มคนไทยใจดีนั่นแหละ


ที่เลวร้ายคือเหยื่อเลือกไม่แจ้งความเพราะกลัวเสียชื่อกับพอกดดันไร้ทางออกก็ฆ่าตัวตายมากกว่า

แต่ปลอดภัยกว่าไทยแน่นอนครับ แน่นอนว่าทุกประเทศมันมีปัญหาหมด แตกต่างมากน้อยกันไป


แต่คดีที่ญี่ปุุ่น ความยุติธรรมมันตัดสินเร็วนะครับ ซึ่งมันมีสำนวนที่ว่า ความยุติธรรมที่ช้าคือความอยุติธรรม


ผมจำไม่ได้ว่าปีไหนที่สถิติออกมาว่าคดีอาญาของญี่ปุ่นค้างคาในชั้นศาลแค่ 1,000 กว่าคดี ขณะที่ไทยมีคดีอาญาค้างคาที่ยังตัดสินไม่จบ เกินหมื่นคดี


ขณะที่ผู้พิพากษาญี่ปุ่นมีจำนวนบุคลากรน้อยกว่าผู้พิพากษาไทยกว่ามาก








ดูความชันของกราฟจะเห็นได้ว่าความชันลดลง นั่นหมายความว่า Rate การเกิดคดีอาชญากรรมลดลง

[yamamaya]

เออแล้วก็อย่าไปบ้าจี้ลองตามคลิปดาราวางของมีค่าลองใจคนญี่ปุ่นด้วยนะ บอกเลยว่าโอกาสหายก็พอๆกับในไทยนี่แหละ
รุ่นน้องผมวางข้าวกล่องไว้คือวางไว้บนโต๊ะในสวนสารธารณะแบบมีคนเดินผ่านไปผ่านมานี่แหละสักพักโฮมเลสคว้าไปกิน
แถมไม่มีคนญี่ปุ่นมาห้ามด้วยทั้งที่ก็เห็นว่าเป็นของรุ่นน้องผมตอนวางไว้


ปัญหาต่อยตีทำร้ายร่างกายอีกเพียบตอนกลางคืน ดีหน่อยว่ามีตำรวจขี่จักรยานตรวจ แต่ไอ้พวกนักเลงก็ไม่มีความกลัวตำรวจเลย
พวกวัยรุ่นเล่นไม่รู้เรื่องก็เยอะ ล่าสุดที่เป็นข่าวก็เด็กม.ปลายวางรถเข็นบนบันไดเลื่อนจนหล่นไปเกือบโดนผู้หญิง


มนุษย์ป้ามนุษย์ลุงไม่มีอะไรทำก็ไปตะคอกระรานพนักงานร้านสะดวกซื้อก็เยอะแยะ


หรือถ้าไปดูตามคลิปพวกถ่ายประจานของญี่ปุ่นถ้าอ่านออกจะมีทุกคอมเม้นต์เลยที่เขียนใส่ทุกคลิปว่า นี่แหละญี่ปุ่นที่แท้จริงมันเน่าแบบนี้แหละให้คนต่างชาติรู้


วัยรุ่นบ้านเขาเวลาเห็นกราฟสถิติก็เหมือนบ้านเรานี่แหละที่เวลาพวกผู้ใหญ่ออกมาบอกบ้านเมืองสงบสุขทุกคนก็จะหันไปอ้วก

ยิ่งเรื่องใช้ความรุนแรงกับเด็กหรือในหมู่เด็กๆกันเองก็มีอีกเยอะที่เป็นข่าวคือคนในครอบครัวทนไม่ไหวถ่ายประจานนี่แหละ
ไหนจะเด็กผู้ชายชั้นประถมทั้งต่อยทั้งกระโดดถีบเด็กผู้หญิงด้วยความภูมิใจแล้วมีเพื่อนๆยืนถ่ายคลิปหัวเราะกันสนุกสนาน(ทั้งๆที่เด็กผู้หญิงก็น่ารักแท้ๆ)


https://www.youtube.com/watch?v=FTVkCIz6Rt0

[yamamaya]

[quote/]
อันที่จริงมีหลายเรื่องของญี่ปุ่นที่ผมงง และมักเอาลงมังงะบ่อยๆ เช่น
- ในรถไฟที่คนแน่นพวกโรคจิตบางคนชอบเนียนจับก้นสาว แต่ทำไมเหมือนฝ่ายหญิงกลับอายที่จะโวยวาย
- เวลาสาวน้อยทำอาหารรสห่วยจนคนกินต้องฝืนชม ทำไม คนทำทำไมไม่ชิมให้รู้รสก่อน จะว่าคอยปรับรสจนคุ้นลิ้นก็ไม่น่าใช่
[quote/]
แต่อัตราอัยการชนะคดีเกิน95%นะครับ การแพ้ซักคดีของอัยการนี่แทบจะเหมือนโทษหนักทางอาชีพ  ประมาณว่าต่อให้คุณไม่ผิดแต่ถ้าอัยการญี่ปุ่นจะเอาผิดคุณ คือ ยอมรับโทษไปเลยเฮอะ หรือคดีคุณที่คุณเป็นผู้เสียหายแต่หลักฐานน้อย อัยการจะไม่แล ทั้งที่หากอัยการช่วย ผู้เสียหายอย่างคุณอาจได้ความยุติธรรม นอกจากหากมีหลักฐานใหม่โผล่มา อัยการถึงจะแล
 เพราะงั้นคนเลยลดอาชญากรรมกับคนอื่นไปฆ่าตัวตายเพิ่มแทนและหนึ่งในนั้นก็คือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย  เคยมีคนเขียนนิยายถึงเรื่องนี้ด้วยลิขสิทธิ์dexมั้ง
- หากความยุติธรรมที่ช้าคือความอยุติธรรม การเร่งทำคดีจนจับคนผิดไม่อยุติธรรมกว่าหรือ?

ความเป็นจริงที่เคยเห็นในคลิปประจานก็ ตาลุงขึ้นรถไฟที่เป็นตู้ผู้หญิงทั้งคันคือจะสงวนให้เฉพาะผู้หญิงแต่ตาลุงไม่สนบุกไปลวนลามซึ่งๆหน้าแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย
ตำรวจขึ้นมาก็ด่าตำรวจ ฝ่ายตำรวจก็ดำเนินการจับกุมแบบละมุนละม่อมตาลุงก็ยิ่งได้ใจไปไล่บีบนมต่อหน้าตำรวจเฉย...เห็นว่าผ่านไปไม่กี่เดือนไอ้ตาลุงคนเดิมก็มาก่อเรื่องซ้ำอีก
จนคอมเม้นต์ในคลิปบอกว่าให้ระทุมจ้างคนไปฆ่าตาลุงคนนี้ทิ้งก็ดีเพื่อสังคม...


ส่วนเรื่องทำอาหารเคยเห็นคลิปมนุษย์ป้าเอาหมูเน่าไปบังคับให้เพื่อนบ้านกินเพื่อนบ้านก็ถ่ายคลิปมาประจานว่าเธอโดนแบบนี้ทุกอาทิตย์
พอไม่รับเนื้อหมูเน่าก็จะโดนมนุษย์ป้าด่าสาดเสียเทเสีย แจ้งความไปตำรวจก็ได้แต่ตักเตือน แล้วป้าแกก็มาทำแบบเดิมจนต้องย้ายหนีแทน




ผมว่าในการ์ตูนนี้ดูน่ารักสดใสไปเลยนะ

[seikafujina]

จากข้างบน มันน่าจะเกี่ยวกับ นิสัยคนยุ่นด้วยนะ

อย่าง เคสอีตาลุงโรคจิตนั่น หากเป็นไทย ก็๋โดนตีน

เคสอีป้านั่น รับรองเจอเนื้อหมูยีหัว

แต่ยังไง สังคม และบ้านเมืองของยุ่นก็ดีกว่าไทย

หากทนในไทยได้ ญี่ปุ่นก็สวรรค์แหละ

[yamamaya]

ก็ถ้ามีปัญญาซื้อบ้านหลังละ30ล้านบาทup(ระดับธรรดาที่นั่น)หรือมีเงินพอจะเช่าห้องราคา3หมื่นบาทupต่อเดือนก็ไม่เถียงว่ามันเป็นสวรรค์แหละ


แต่ถ้าไม่ก็จะได้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่พวกDQNอย่างป้าหมูเน่า ผัวเมียข้างห้องตีกันทำร้ายลูกตัวเองโชว์ ขี้เมายืนเยี่ยวใส่หน้าห้อง
เดินออกจากบ้านก็จะมีมิชชาชีพจำพวกมายั่วให้เราต่อยจะได้ฟ้องกลับเรียกค้าเสียหายหรือมาแกล้งเคาะประตูตอนดึกๆ

เดินไป7-11แถวบ้านก็อาจเจอแต่ไอ้พวกแบบในคลิปที่แค่ไม่พูดคำว่าขอความกรุณาอุ่นอาหารให้ด้วยค่ะไอ้พนักงานก็ด่ากลับเหมือนเราไปขอมันกินซะงั้น

อีกเรื่องที่อยากจะบอกคือตอนนี้ญี่ปุ่นเป็นสวรรค์สำหรับพวกไร้ระเบียบขี้เกียจแบกหน้าตาทางสังคมกับไม่กลัวคุกไปแล้วนะ
เพราะถ้าไม่ขนาดฆ่าคนตายพวกนี้โทษเบามากหรือติดคุกไม่นานก็ออกมีทนายฟรีแก้ต่างให้อีก
เพราะรัฐไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลนักโทษเยอะแถมในคุกหลายคนอาจจะเคยเห็นว่ามันน่าอยู่ด้วยซ้ำถ้าไม่ไปมีเรื่องกับขาใหญ่ในคุก


กลับกันมันเป็นนรกสำหรับคนธรรมดาที่ไม่รวยและพยายามจะใช้ชีวิตภายใต้ระเบียบอย่างเคร่งครัดอย่างที่เห็นกฏหมายไม่เอื้อให้คนฝั่งนี้เลย
คือทางเลือกที่ดีที่สุดดันเป็นต้องก้มหน้ายอมกับปลงไปและเก็บกดไปเรื่อยๆ เพราะถ้ามีเรื่องหรือต่อยกลับกฏหมายก็จะเล่นงานทั้งคู่
ซึ่งไอ้ฝ่ายไม่กลัวคุกมันคุ้มกว่าเห็นๆ ส่วนฝ่ายกลัวคุกกลัวเสียหน้าก็HPลดเรื่อยๆไป


อันนี้ตัวอย่างซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่แถมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามปัญหาเศรษฐกิจ

สมัยเป็นไกด์เพื่อนผมทนไม่ไหวต่อยกลับเพราะโดนตบหัวยังโดนเรียกค่าเสียหายถึง1ล้านเยนแถมตำรวจเข้าข้างคนญี่ปุ่นมากกว่าด้วยแถมโดนแบนไม่ให้เข้าญี่ปุ่นด้วย




นี่ยังไม่รวมระบบโซตัสที่เข้มข้นกว่าบ้านเราอีกนะ คือระบบอาวุโสเป็นใหญ่ตั้งแต่ในโรงเรียนที่ทำงานยันไปถึงสังคมระแวกบ้านที่บังคับให้ทำกิจกรรมร่วมกันใครปฏิเสธถือว่าแปลกแยก
วงการกีฬาก็เน่าไปแพ้กันพวกโค้ชเบสบอลลงมือต่อยตีเด็กๆเป็นว่าเล่นโดยที่ผู้ปกครองเต็มใจจนเด็กๆคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกที่ควร
วงการซูโม่หนักสุดคือมีนักกีฬาหน้าใหม่ตายทุกปีเพราะโดนรุ่นพี่รุมซ้อมแต่ไม่เป็นข่าวเพราะเป็นกีฬาศักดิ์สิทธิ์และมีพวกยากูซ่าและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังครอบครัวเหยื่อก็ไม่กล้าเอาความ

[Black7nos]

[quote/]


ความเป็นจริงที่เคยเห็นในคลิปประจานก็ ตาลุงขึ้นรถไฟที่เป็นตู้ผู้หญิงทั้งคันคือจะสงวนให้เฉพาะผู้หญิงแต่ตาลุงไม่สนบุกไปลวนลามซึ่งๆหน้าแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย
ตำรวจขึ้นมาก็ด่าตำรวจ ฝ่ายตำรวจก็ดำเนินการจับกุมแบบละมุนละม่อมตาลุงก็ยิ่งได้ใจไปไล่บีบนมต่อหน้าตำรวจเฉย...เห็นว่าผ่านไปไม่กี่เดือนไอ้ตาลุงคนเดิมก็มาก่อเรื่องซ้ำอีก
จนคอมเม้นต์ในคลิปบอกว่าให้ระทุมจ้างคนไปฆ่าตาลุงคนนี้ทิ้งก็ดีเพื่อสังคม...


ส่วนเรื่องทำอาหารเคยเห็นคลิปมนุษย์ป้าเอาหมูเน่าไปบังคับให้เพื่อนบ้านกินเพื่อนบ้านก็ถ่ายคลิปมาประจานว่าเธอโดนแบบนี้ทุกอาทิตย์
พอไม่รับเนื้อหมูเน่าก็จะโดนมนุษย์ป้าด่าสาดเสียเทเสีย แจ้งความไปตำรวจก็ได้แต่ตักเตือน แล้วป้าแกก็มาทำแบบเดิมจนต้องย้ายหนีแทน




ผมว่าในการ์ตูนนี้ดูน่ารักสดใสไปเลยนะ

ผมเคยอยู่ญี่ปุ่นช่วงหนึ่ง รถไฟฟ้าญี่ปุ่นช่วงเวลา Peak Time ช่วงเช้าก่อนเวลาทำงาน และ ช่วงเวลากลับบ้าน ตู้รถไฟตู้แรกจะสงวนให้เฉพาะผู้หญิง เพื่อป้องกันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ


ตรงนี้ผมก็ว่าเป็นไอเดียที่เข้าท่าที่ผมว่าโอเคกับมันนะ ถ้าคุณมีลูกสาวและอยู่ในวัยเรียน


การขึ้นรถไฟในตู้รถไฟแรกที่มีแต่ผู้หญิงด้วยกันเพื่อความปลอดภัยก็เป็นอะไรที่ไม่ไดเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น


ส่วนเรื่องระบบยุติธรรมญี่ปุ่น อันนี้เป็นความจริงที่ว่าในคดีอาญาฝ่ายอัยการมีโอกาสชนะคดีสูงถึง 99.4% ดังนั้นผู้ที่ถูกจับก็แทบจะถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากรไปในทันที


และญี่ปุ่นเองก็ใช่ว่าไม่เคยมีการจับแพะ ถ้าจำไม่ผิดมีเหตุการณ์จำแพะครั้งใหญ่อยู่ 2 ครั้ง ซึ่งภายหลังคดีได้ถูกนำมาพิพากษาใหม่


หนึ่งในคดีนั้นคือนายชิโตชิกาสุ ซูกายา ถูกกล่าวหาว่าฆ่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ศาลสั่งจำคุกที่เมือง Ashikaga จังหวัด Tochigi นาน 17 ปี


โดยอัยการเจ้าของสำนวนขู่บังคับให้นายชิโตชิกาสุ ซูกายารับสารภาพทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด เพื่อให้ปิดคดีได้อย่างรวดเร็วและสร้างผลงาน


ภายหลังได้มีการตรวจ DNA โดยละเอียดจึงได้พบว่าไม่ใช่ DNA ของนายชิโตชิกาสุ ซูกายาบนศพเด็กผู้หญิง


จึงได้มีการอุทธรณ์และทำให้นายชิโตชิกาสุ ซูกายาได้รับการปล่อยตัวพร้อมรัฐชดใช้ค่าเสียหายแก่เขา


ด้วยเหตุนี้เองเนื่องจากอำนาจของอัยการและผู้พิพากษามีมากเกินไป ญี่ปุ่นไม่นิ่งนอนใจ(เหมือนบางประเทศ) พวกเขาจึงปฏิรูประบบตุลาการใหม่


ญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนไปใช้ระบบลูกขุน แทนระบบผู้พิพากษาเดี่ยวแทน เพื่อให้เกิดการคานอำนาจและการตรวจสอบผู้พิพากษาและตุลาการ


เรียกว่าระบบศาล Saiban-In และบัญญัติตัวบทกฎหมายว่าด้วยการพิจารณาคดีแบบลูกขุน(Lay Assessor Act 2004) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2004


ซึ่งเป็นการนำระบบลูกขุนแบบเดียวกับอังกฤษและอเมริกามาประยุกต์ใช้กับกฎหมายของญี่ปุ่น เป็นระบบลูกผสมที่ใช้ Civil Law ผสมกับลูกขุน


ให้ลูกขุนตัดสินว่าจำเลยผิดจริงหรือไม่ผิด และผู้พิพากษาตัดสินแค่โทษ


https://www.matichon.co.th/columnists/news_119969

[seikafujina]

ทั่นยามะ กะลังบอกว่าสังคมยุ่นห่ยกว่าไทยสินะครับ 555 มุกใช่ไหมเนี่ย

หรือจะบอกว่า สังคมยุ่นมันห่วยนะ ไม่เชื่อไปดูสลัมยุ่นสิ

แต่ก็พูดถูกนะ สำหรับคนสบายๆไม่ต้อวรักษาหน้าอะไรแบบไทยมัน ก็คือสวรรค์

ดังนั้นหากมองในมุมมองคนไทย บางเรื่องที่คนญี่ปุ่นเครียด คนไทยจะรู้สึกว่าเฉยๆ

[yamamaya]

ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่ากัน แค่พยายามจะสื่อทำนองว่าซานตาคลอสไม่มีจริงนะเด็กๆโตขึ้นจะได้มีภูมิต้านทานความผิดหวัง

แต่ถ้ารวยก็อีกเรื่องนึง

[Overmars]

เอาง่าย ๆ จัดประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 10 อันดับแรกมาหลายปีไม่เคยมีชื่อญี่ปุ่นเลยสักครั้ง
ส่วนใหญ่ก็วนเวียนแถว นิวซีแลนด์ แคนาดา แสกนดิเวเนีย ประเทศฝรั่งทั้งนั้น

[pol]

ประเทศไทยก็น่าอยู่นะครับถ้ารวย555 แต่เผอิญผมไม่รวยนี่สิ

[yamamaya]

ประเทศไทยก็น่าอยู่นะครับถ้ารวย555 แต่เผอิญผมไม่รวยนี่สิ

กลับกันคนธรรมดารายได้กลางๆที่ญี่ปุ่นมาอยู่ไทยนี่เทพเลยนะ


อย่างเจ๊Maibaruนี่ก็ไม่คิดจะกลับยุ่นแล้ว
แค่รายได้จากการทำช่องกับเงินเดือนแฟน
ก็เที่ยวไทยอย่างราชาได้ตลอดทั้งปีแล้ว

[Black7nos]

เอาง่าย ๆ จัดประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 10 อันดับแรกมาหลายปีไม่เคยมีชื่อญี่ปุ่นเลยสักครั้ง
ส่วนใหญ่ก็วนเวียนแถว นิวซีแลนด์ แคนาดา แสกนดิเวเนีย ประเทศฝรั่งทั้งนั้น

ตอนนี้ประเทศที่น่าอยู่คือประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก


ที่ใช้ระบอบปกครองแบบผสมผสาน ประชาธิปไตย 70% สังคมนิยม 30%


แถมประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ยังคงสถาบันกษัตริย์เอาไว้ แต่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญแบบ 100%


นอกเรื่องนิดนึง


ที่คงสถาบันฯ ไม่ใช่เพราะคงไว้เพื่อรักษาจารีต แต่เนื่องจากเหตุผลทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว


สถาบันสร้างรายได้ในรูปแบบการท่องเที่ยวมากกว่ารายจ่ายของรัฐ ล่าสุดนิตยสาร Forbes ออกมาเปิดเผยตัวเลข


ราชวงศ์วินเซอร์ของอังกฤษ (ต่างประเทศจะใช้คำว่า The Firm) สามารถสร้างรายได้ให้แก่สหราชอาณาจักรทั้งสิ้น 2,700 ล้านปอนด์


ซึ่งรายได้ส่วนนี้มาจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวพระราชวังบักกิ้งแฮม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชมดูพระราชพิธีต่างๆ


รายได้จากของที่ระลึก Souvenir เช่น ชุดเครื่องน้ำชาทำเลียนแบบที่ควีนอลิซาเบธใช้ แก้วไวน์หรู อะไรทำนองนั้น


ขณะที่มีรายจ่ายที่รัฐจ่ายให้แก่ราชวงศ์อังกฤษเป็นค่ากินค่าใช้ แค่เพียง 120 ล้านปอนด์ กำไรเห็นๆ


นี่จึงเป็นเหตุผลที่ประเทศอังกฤษและประเทศแถบสแกนดิเนเวียยังคงสถาบันกษัตริย์เอาไว้


ลิ้งข่าวจากนิตยสาร Forbes เป็นภาษาอังกฤษ ใครสนใจก็กดเข้าไปอ่านได้
https://www.forbes.com/sites/arielshapiro/2021/03/10/inside-the-firm-how-the-royal-familys-28-billion-money-machine-really-works/?fbclid=IwAR3b7z9TWsLCqSha7W5Z8niqbRsaPoKAWq5SHZa4D06YxNg7M8MvSTanRqc&sh=2c848d0b2bcc


จบการนอกเรื่องไว้แต่เพียงเท่านี้ เข้าเรื่องกันต่อ


ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ถือว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยประชาชนได้ให้การศึกษาทุกคนอย่างทั่วถึง


การรักษาพยาบาลที่เข้าถึงง่าย เบี้ยคนชรา รวมถึงมีสวัสดิการด้านน้ำมันอีกด้วย


ประเทศแถบสแกนดิเนเวียจึงเป็นประเทศที่เป็นรัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบ


แน่นอนว่ามีอัตรา Rate การจ่ายภาษีที่สูงมาก(น่าจะอันดับต้นๆของโลก)


แต่รัฐก็ตอบแทนได้อย่างสมน้ำสมเนื้อเช่นกัน คุ้มค่ากับภาษีที่จ่าย


ซึ่งผมชอบแนวคิดของประชาธิปไตยแบบไวกิ้งนะ


ผมโอเคนะ ถ้าผมจะจ่ายภาษีเยอะ แต่รัฐก็ตอบแทนกลับมาเท่ากับหรือมากกว่าที่ผมจ่ายไป


แต่ผมไม่โอเคต่อให้จ่ายน้อย แต่รัฐตอบแทนกลับมาไม่คุ้มกับที่เสียไป ผมจะรู้สึกเสียดาย


ลิ้งสำหรับอ่านบทความภาษาอังกฤษ ประชาธิปไตยแบบไวกิ้ง(สังคมนิยม)
https://www.fjordtours.com/inspiration/facts/vikings-democracy/?fbclid=IwAR0ydxw6E_LgC-YBaqvl_nZHdG4lxep6aGVBLtKXDFfwNWp77s79XVceDFc

[Black7nos]

[quote/]


กลับกันคนธรรมดารายได้กลางๆที่ญี่ปุ่นมาอยู่ไทยนี่เทพเลยนะ


อย่างเจ๊Maibaruนี่ก็ไม่คิดจะกลับยุ่นแล้ว
แค่รายได้จากการทำช่องกับเงินเดือนแฟน
ก็เที่ยวไทยอย่างราชาได้ตลอดทั้งปีแล้ว


[youtube/]

แน่นอนครับ เหมือนคนไทยได้รายได้คนไทยแต่ไปกินอยู่ที่พม่าหรือลาวที่ค่าครองชีพต่ำกว่า


สมัยไปก่อสร้างเขื่อนแม่น้ำงึม หรือ โรงไฟฟ้าหงสา คนไทยที่ไปทำงานที่นั่นก็ได้รายได้ Basic Salary ของไทย x Factor + เบี้ยเลี้ยงกันดาร ซึ่ง่รายได้มหาศาลนะครับ


ขณะที่ค่ากินค่าอยู่สินค้าต่างๆ โดยเฉพาะการเกษตรนั้นถูกกว่าไทยมาก อาหารจานหนึ่งถูกกว่าไทยมาก เพราะค่าแรงงานที่ต่ำกว่า ส่งผลให้ค่าครองชีพต่ำกว่า


แถมอันที่จริงค่ากินค่าอยู่ก็ไม่ต้องออก เพราะคนทำงานต่างแดนโดยเฉพาะสานก่อสร้างจะนอนแคมป์ที่บริษัทจัดหาให้อยู่แล้ว ดังนั้นค่ากินค่าอยู่จึงแทบไม่เสีย เงินเหลือๆ


ลักษณะเดียวกับคนญี่ปุ่นอยู่ไทยนั่นแหละครับ เงินเดือนญี่ปุ่น x Factor + เบี้ยเลี้ยง แต่ค่าใช้จ่ายแทบไม่ต้องเสีย


บ้านเช่าบรฺิษัทก็จัดหาให้ ค่ารถเดินทางไปทางงานก็มีรถยนต์รับส่งมีคนขับรถที่บริษัทจัดหามาให้ ถ้าโชคดีค่ากินอยู่บริษัทก็จัดหาให้


เงินเหลือแน่นอน ใครจะไม่อยากไปทำงานต่างประเทศละครับ ต่อให้ไปประเทศที่กันดาร มันก็ยังสบายเลย ถ้าบริษัทจัดหาแคมป์ให้


อย่างผมทำงานที่บังคลาเทศ เงินนี่อย่างเหลือเลย เสียเงินแค่ค่าใช้จ่ายไปซื้อผลไม้ท้องถิ่นมากินแก้เปรี้ยวปากเท่านั้น

[lavita]

[quote/]


แน่นอนครับ เหมือนคนไทยได้รายได้คนไทยแต่ไปกินอยู่ที่พม่าหรือลาวที่ค่าครองชีพต่ำกว่า


สมัยไปก่อสร้างเขื่อนแม่น้ำงึม หรือ โรงไฟฟ้าหงสา คนไทยที่ไปทำงานที่นั่นก็ได้รายได้ Basic Salary ของไทย x Factor + เบี้ยเลี้ยงกันดาร ซึ่ง่รายได้มหาศาลนะครับ


ขณะที่ค่ากินค่าอยู่สินค้าต่างๆ โดยเฉพาะการเกษตรนั้นถูกกว่าไทยมาก อาหารจานหนึ่งถูกกว่าไทยมาก เพราะค่าแรงงานที่ต่ำกว่า ส่งผลให้ค่าครองชีพต่ำกว่า


แถมอันที่จริงค่ากินค่าอยู่ก็ไม่ต้องออก เพราะคนทำงานต่างแดนโดยเฉพาะสานก่อสร้างจะนอนแคมป์ที่บริษัทจัดหาให้อยู่แล้ว ดังนั้นค่ากินค่าอยู่จึงแทบไม่เสีย เงินเหลือๆ


ลักษณะเดียวกับคนญี่ปุ่นอยู่ไทยนั่นแหละครับ เงินเดือนญี่ปุ่น x Factor + เบี้ยเลี้ยง แต่ค่าใช้จ่ายแทบไม่ต้องเสีย


บ้านเช่าบรฺิษัทก็จัดหาให้ ค่ารถเดินทางไปทางงานก็มีรถยนต์รับส่งมีคนขับรถที่บริษัทจัดหามาให้ ถ้าโชคดีค่ากินอยู่บริษัทก็จัดหาให้


เงินเหลือแน่นอน ใครจะไม่อยากไปทำงานต่างประเทศละครับ ต่อให้ไปประเทศที่กันดาร มันก็ยังสบายเลย ถ้าบริษัทจัดหาแคมป์ให้


อย่างผมทำงานที่บังคลาเทศ เงินนี่อย่างเหลือเลย เสียเงินแค่ค่าใช้จ่ายไปซื้อผลไม้ท้องถิ่นมากินแก้เปรี้ยวปากเท่านั้น

เงินที่ลาวไม่พอกินหรอกของแพง ถ้าไม่ใช่ลูกหลานพวกเจ้าหน้าที่รัฐหรือเศรษฐี คนลาวข้ามมาอยู่ที่ไทยยังประหยัดกว่าถ้านับแค่เรื่องซื้อกิน จะดีหน่อยก็คนที่ค้าขายหาเงินเป็น

[KAGUYA]

[quote/]


ผมเคยอยู่ญี่ปุ่นช่วงหนึ่ง รถไฟฟ้าญี่ปุ่นช่วงเวลา Peak Time ช่วงเช้าก่อนเวลาทำงาน และ ช่วงเวลากลับบ้าน ตู้รถไฟตู้แรกจะสงวนให้เฉพาะผู้หญิง เพื่อป้องกันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ


ตรงนี้ผมก็ว่าเป็นไอเดียที่เข้าท่าที่ผมว่าโอเคกับมันนะ ถ้าคุณมีลูกสาวและอยู่ในวัยเรียน


การขึ้นรถไฟในตู้รถไฟแรกที่มีแต่ผู้หญิงด้วยกันเพื่อความปลอดภัยก็เป็นอะไรที่ไม่ไดเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น


ส่วนเรื่องระบบยุติธรรมญี่ปุ่น อันนี้เป็นความจริงที่ว่าในคดีอาญาฝ่ายอัยการมีโอกาสชนะคดีสูงถึง 99.4% ดังนั้นผู้ที่ถูกจับก็แทบจะถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากรไปในทันที


และญี่ปุ่นเองก็ใช่ว่าไม่เคยมีการจับแพะ ถ้าจำไม่ผิดมีเหตุการณ์จำแพะครั้งใหญ่อยู่ 2 ครั้ง ซึ่งภายหลังคดีได้ถูกนำมาพิพากษาใหม่


หนึ่งในคดีนั้นคือนายชิโตชิกาสุ ซูกายา ถูกกล่าวหาว่าฆ่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ศาลสั่งจำคุกที่เมือง Ashikaga จังหวัด Tochigi นาน 17 ปี


โดยอัยการเจ้าของสำนวนขู่บังคับให้นายชิโตชิกาสุ ซูกายารับสารภาพทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด เพื่อให้ปิดคดีได้อย่างรวดเร็วและสร้างผลงาน


ภายหลังได้มีการตรวจ DNA โดยละเอียดจึงได้พบว่าไม่ใช่ DNA ของนายชิโตชิกาสุ ซูกายาบนศพเด็กผู้หญิง


จึงได้มีการอุทธรณ์และทำให้นายชิโตชิกาสุ ซูกายาได้รับการปล่อยตัวพร้อมรัฐชดใช้ค่าเสียหายแก่เขา


ด้วยเหตุนี้เองเนื่องจากอำนาจของอัยการและผู้พิพากษามีมากเกินไป ญี่ปุ่นไม่นิ่งนอนใจ(เหมือนบางประเทศ) พวกเขาจึงปฏิรูประบบตุลาการใหม่


ญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนไปใช้ระบบลูกขุน แทนระบบผู้พิพากษาเดี่ยวแทน เพื่อให้เกิดการคานอำนาจและการตรวจสอบผู้พิพากษาและตุลาการ


เรียกว่าระบบศาล Saiban-In และบัญญัติตัวบทกฎหมายว่าด้วยการพิจารณาคดีแบบลูกขุน(Lay Assessor Act 2004) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2004


ซึ่งเป็นการนำระบบลูกขุนแบบเดียวกับอังกฤษและอเมริกามาประยุกต์ใช้กับกฎหมายของญี่ปุ่น เป็นระบบลูกผสมที่ใช้ Civil Law ผสมกับลูกขุน


ให้ลูกขุนตัดสินว่าจำเลยผิดจริงหรือไม่ผิด และผู้พิพากษาตัดสินแค่โทษ


https://www.matichon.co.th/columnists/news_119969

ไอ้ที่มีอำนาจเกินไปนะไม่ใช่แค่อัยการหรอกครับ ตำรวจก็พอกันถ้าเป็นผู้ต้องสงสัยเมื่อไหร่พวกนี้จะฟันธงเลยว่าคุณเป็นผู้ร้ายแน่ๆแล้วพยายามบีบเราทุกทางให้ยอมรับผิด

ก็ถ้ามีปัญญาซื้อบ้านหลังละ30ล้านบาทup(ระดับธรรดาที่นั่น)หรือมีเงินพอจะเช่าห้องราคา3หมื่นบาทupต่อเดือนก็ไม่เถียงว่ามันเป็นสวรรค์แหละ


แต่ถ้าไม่ก็จะได้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่พวกDQNอย่างป้าหมูเน่า ผัวเมียข้างห้องตีกันทำร้ายลูกตัวเองโชว์ ขี้เมายืนเยี่ยวใส่หน้าห้อง
เดินออกจากบ้านก็จะมีมิชชาชีพจำพวกมายั่วให้เราต่อยจะได้ฟ้องกลับเรียกค้าเสียหายหรือมาแกล้งเคาะประตูตอนดึกๆ

เดินไป7-11แถวบ้านก็อาจเจอแต่ไอ้พวกแบบในคลิปที่แค่ไม่พูดคำว่าขอความกรุณาอุ่นอาหารให้ด้วยค่ะไอ้พนักงานก็ด่ากลับเหมือนเราไปขอมันกินซะงั้น
[youtube/]


อีกเรื่องที่อยากจะบอกคือตอนนี้ญี่ปุ่นเป็นสวรรค์สำหรับพวกไร้ระเบียบขี้เกียจแบกหน้าตาทางสังคมกับไม่กลัวคุกไปแล้วนะ
เพราะถ้าไม่ขนาดฆ่าคนตายพวกนี้โทษเบามากหรือติดคุกไม่นานก็ออกมีทนายฟรีแก้ต่างให้อีก
เพราะรัฐไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลนักโทษเยอะแถมในคุกหลายคนอาจจะเคยเห็นว่ามันน่าอยู่ด้วยซ้ำถ้าไม่ไปมีเรื่องกับขาใหญ่ในคุก


กลับกันมันเป็นนรกสำหรับคนธรรมดาที่ไม่รวยและพยายามจะใช้ชีวิตภายใต้ระเบียบอย่างเคร่งครัดอย่างที่เห็นกฏหมายไม่เอื้อให้คนฝั่งนี้เลย
คือทางเลือกที่ดีที่สุดดันเป็นต้องก้มหน้ายอมกับปลงไปและเก็บกดไปเรื่อยๆ เพราะถ้ามีเรื่องหรือต่อยกลับกฏหมายก็จะเล่นงานทั้งคู่
ซึ่งไอ้ฝ่ายไม่กลัวคุกมันคุ้มกว่าเห็นๆ ส่วนฝ่ายกลัวคุกกลัวเสียหน้าก็HPลดเรื่อยๆไป


อันนี้ตัวอย่างซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่แถมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามปัญหาเศรษฐกิจ
[youtube/]


สมัยเป็นไกด์เพื่อนผมทนไม่ไหวต่อยกลับเพราะโดนตบหัวยังโดนเรียกค่าเสียหายถึง1ล้านเยนแถมตำรวจเข้าข้างคนญี่ปุ่นมากกว่าด้วยแถมโดนแบนไม่ให้เข้าญี่ปุ่นด้วย




นี่ยังไม่รวมระบบโซตัสที่เข้มข้นกว่าบ้านเราอีกนะ คือระบบอาวุโสเป็นใหญ่ตั้งแต่ในโรงเรียนที่ทำงานยันไปถึงสังคมระแวกบ้านที่บังคับให้ทำกิจกรรมร่วมกันใครปฏิเสธถือว่าแปลกแยก
วงการกีฬาก็เน่าไปแพ้กันพวกโค้ชเบสบอลลงมือต่อยตีเด็กๆเป็นว่าเล่นโดยที่ผู้ปกครองเต็มใจจนเด็กๆคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกที่ควร
วงการซูโม่หนักสุดคือมีนักกีฬาหน้าใหม่ตายทุกปีเพราะโดนรุ่นพี่รุมซ้อมแต่ไม่เป็นข่าวเพราะเป็นกีฬาศักดิ์สิทธิ์และมีพวกยากูซ่าและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังครอบครัวเหยื่อก็ไม่กล้าเอาความ

ไอ้เรื่องพวกนี้เมืองไทยก็พอกันนะแหละ วัยรุ่นอาละวาดแบบไม่เกรงใจกฎหมายออกทีวีทุกวัน

[Black7nos]

[quote/]ไอ้ที่มีอำนาจเกินไปนะไม่ใช่แค่อัยการหรอกครับ ตำรวจก็พอกันถ้าเป็นผู้ต้องสงสัยเมื่อไหร่พวกนี้จะฟันธงเลยว่าคุณเป็นผู้ร้ายแน่ๆแล้วพยายามบีบเราทุกทางให้ยอมรับผิด[quote/]ไอ้เรื่องพวกนี้เมืองไทยก็พอกันนะแหละ วัยรุ่นอาละวาดแบบไม่เกรงใจกฎหมายออกทีวีทุกวัน

ญี่ปุ่นนั้นอำนาจอัยการมากกว่าตำรวจครับ ตำรวจเกรงใจอัยการมาก


ปี 2004 เลยลดอำนาจอัยการกับศาลลง พอลดอำนาจลง อิทธิพลที่อัยการมีต่อตำรวจก็ลดลงครับ