[quote/] ผมมองอีกแบบนะ บ้านเราโครงสร้างเงินเดือนขั้นต่ำมันต่ำจริง และคนเงินเดือนต่ำมันเป็นจำนวนมาก. การไม่พัฒนาภาคส่วนต่ออัตราเกิดของประชากร แล้วออกนโยบายมาช่วยแต่เสี่ยรวยๆจนรากหญ้าไม่มีเงิน วนลูกมายังการกู้หนี้ยืมสิน. แต่โครงสร้างสังคมและเทคโนโลยี พร้อมทั้งสภาพแวดล้อมสนับสนุนให้คนฟุ่มเฟื่อยทั้งที่ฐานเงินเดือนข้างล่างมันต่ำ.... การให้ME้เงินระดับต่ำแบบไร้เครดิตโดยเปล่าๆ ผมว่าสิ้นคิด. แต่ถ้ากู้แบบSME มีแผนงานมีที่ปรึกษา มีแผนการตลาดอันนี้ผมว่าน่าสนับสนุน. ที่ผมไม่สนับสนุนคือการกู้แบบปากเปล่า มือถือกับรถจะนำมาก่อน สุดท้ายรายได้เท่าเดิมไม่มีปัญญาจ่าย สุดท้ายอะไรไปโป๊ะ ก็ภาษีประชาชนนี่แหละ. อย่างทุเรียนก็เหมือนกัน โดนจีนวางกับดักง่ายๆ สุดท้ายเจอดัดหลังไปไม่เป็นนไม่มีใครรับผิดชอบของเน่า. เงาะก็โดน เพราะการสนับสนุนแบบ กูสนับสนุนแล้วที่เหลือเรื่องตลาดเรื่องของมึง. ผมว่าในเชิงภาพรวมพวกนี้มีไว้ให้พวกเสี่ยกินรวบ สนับสนุนให้ปลูกเยอะๆไว้ตามโครงสร้างธุรกิจที่เขาจะขยายพอได้ที่จะล้นตลาด แล้วก็ทำเป็นพ่อพระเอาบุญ. ปุ๋ยตอนนี้แพงจนลูกน้องผมสบถออกมาตอนทำงานเพราะแม่จะปลูกข้าว บอกให้เลิกเพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น. โครงสร้างสังคมไทยมันอยู่ในรูปแบบอุปถัมถ์ และชี้นำมาตลอด และไม่มีแนวโน้มจะสร้างค่านิยมใหม่ ให้รุ่นต่อไปด้วยเอาง่ายๆมันเละตั้งแต่ระบบราชการจนระเบียบบริหารจนถึงคนสั่งการ การพัฒนาเมืองไม่ควรรวมศูนย์ไว้ที่กรุงเทพ. อย่างที่ชาวภูเก็ตบอก กูเป็นคนหารายได้ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งแต่งบพัฒนาจังหวัดไม่มี. ถ้าความสามารถในการหาเงินระดับล่างไม่มี ภาวะการเงินไม่น่าเชื่อกถือพอเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่กล้าปล่อยกู้หรอก.... ปีนึงผมเจอให้ช่วยเปิด sme ทำเป้าอยู่สองสามรอบ ลูกค้าคนเดิม เพราะทำเป้าไม่ได้. ไอ้โครงการ smeกู้รัฐคนจนเข้าไม่ถึงหรอก ธนาคารมันหากินกับเจ้าที่มั่นใจว่ามีเงินคืน. คนได้ประโยชน์พวกเงินกู้ sme นี่คนชั้นกลางถึงสูงทั้งนั้น ด้วยเงินอุดหนุนจากรัฐดอกเบี้ยต่ำ เสียทั้งหลายเข้าถึงที่สุด. อยากแก้ปัญหาหนี้เสียต้องเปลี่ยนค่นนิยมและเพิ่มรายได้ต่อประชากรให้สูงขึ้น. ถูกหลักมากแต่ความเป็นจริงที่สูงขึ้นมันเฉพาะด้านบนด้านล่างยังจนเหมือนเดิม. เพราะงบที่อัดฉีดลงไปข้างล่างเข้าถึงไม่ได้. จะแก้ได้ต้องพัฒนาเมืองให้ทันสมัยขึ้นให้ตจวคนมากขึ้นแล้วงานกับเงินจะกระจายลงรากหญ้า. แต่ทำไงได้ บ้านเรามันพัฒนาแบบรวมสูญ......สูญผมสะกดไม่ผิดหรอก แม่
ออมาเป็นทำถนนซ่อมถนนซะส่วนใหญ่. ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว สนับสนุน การกระบายรายได้พัฒนาชุมชน ไม่ติดที่ป่าก็ติดที่รัฐ ไม่ติดที่รัฐก็ติดเขต..... อยากรู้ว่าอยากให้ท่องเที่ยวไทยเจริญให้ไปดูนิคโค ญี่ปุ่น. เขตวรรณอุทยานของญี่ปุ่น จะรู้ว่าป่าเขาบ้านเขา กับป่าเขาบ้านเรา มันเป็นเช่นไร. รุกที่ป่ามันคือการกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและตัวขัดขวางความเจริญ และมันเป็นอย่างงี้ทั้งประเทศ. แหล่งท่องเที่ยวบ้านเรามีเยอะมาก ถ้าจัดดีๆขายได้เป็นคอมโบ แต่เข้าถึงยากถ้าไม่ผ่านไกด์นำเที่ยว. ของพวกนี้ต้องใช้งบและงบจัดสรรทั้งนั้น. ถ้าท้องถิ่นทำเองแล้วรายได้กับผลงานตกที่ท้องถิ่นโดยมีคนตรวจสอบทุจริตมันจะค่อยๆพัฒนาไปในตัวของมันเอง ปัจจุบัน งบมาทำถนน งบมาแต่งเกาะกลาง loop.....แหล่งท่องเที่ยวไม่เจริญ คนรายได้น้อย เกษตรกรปลูกตามสั่งแบบไม่มีกำลังแปรรูปในท้องถิ่น ซื้อปุ๋ยแพงๆ แล้วก็กำไรน้อยๆจนนานๆ แต่ข้างบนอู้ฟู่เพราะของล้นตลาด แปรสภาพขายแพงๆต้นทุนถูก. แล้วถ้าโลกที่ผมอยู่เป็นแบบนี้ ผมคงกล้าให้คนไม่มีเครดิตกู้หรอก เพราะถ้าผมเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ. ปล่อยไปแบบนั้น รัฐบาลมีงบมาให้. แต่มันไม่ใช่ของฟรี ต้องมีคนรับผิดชอบครับ ใครล่ะ. ไม่ใช่นายกนะ ...เจ้าหน้าที่สินเชื่อโดนเต็มๆ. ความเหี้ยไม่ได้อยู่ ที่สินเชื่อ แต่นายกห่วยคนเลยไม่เจริญจนเป็นคนไร้เครดิต อันนี้ใช่เลย แต่จริงๆที่เหี้ยมันคือระบบผุ้มีอำนาจในท้องถิ่นและการบังคับกฏหมายแบบตามความเห็นเจ้าหน้าที่แบบหลับตาตี่ๆให้กับvip
คือเข้าใจแหล่ะเรื่อง เพิ่มรายได้ แต่ญาติผมตอนทำงานที่เก่าเงินเดือน 5000 อยู่ได้นะ
พอมีเมียเงินเดือนรวมกันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็เดือนชนเดือนอยู่ดี
ตอนผมเงินเดือน 8-9000 ผมก็มีตังเก็บนะ ตอนนี้เงินเดือนเพิ่มไปหลายเท่า แต่รายจ่ายผมก็เท่าๆเดิมเพิ่มเติมตามค่าครองชีพ แบบหักสิ่งจำเป็นออกตังก็เหลือเก็บเอาไปลงทุนแทน
เรียกได้ว่าส่วนใหญ่เลย รายได้ที่ทุกคนได้รับมันแทบจะพออยู่พอกินมีตังเหลือเก็บ
แต่พอคนได้เงินเพิ่ม ก็สร้างรายจ่ายเพิ่ม สุดท้ายยังไงก็ไม่พอ ต้องรอนู่นแหล่ะค่ากิเลสน้อยกว่ารายได้
เอาจริงๆทุนแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ความคิดก็ไม่เหมือนกัน
เวลาผมได้ตังคือมีความสุข หาได้เยอะๆก็ยิ่งดี
แต่เวลาใช้ตัง ไม่ได้ใช้ตังหาความสุข แต่เอาไปใช้ในสิ่งที่ควรใช้ เพื่ออนาคต
ส่วนคนรู้จักหลายคนบอก ไม่ใช้เงินตอนนี้แล้วจะไปใช้ตอนไหน เดือนชนเดือนรัวๆ
เงินในอนาคตถูกดึงมาใช้รัวๆ จนต้องไปกู้หนี้นอกระบบ บางคนก็ไปขายตัวเป็นลำไพ่พิเศษแทน
บางคนก็บอกเก็บตังเองไม่เป็น เลยใช้วิธีME้มาเก็บตังแล้วฝากไว้ธนาคาร
หรือแบบ คนเงินเดือน 2 หมื่นขับมอไซต์ไปทำงาน มือถือใช้ของมือ 2 จากคนในครอบครัวข้าวกลับไปกินบ้าน เหล้ายาไม่เสพ
แต่ลูกน้อง เงินเดือน 9000 มือถือเครื่องละ 20000 ขับรถยนต์มาทำงาน กินกาแฟอเมซอน
ไปดูคลิปๆนึง เกี่ยวกับนักลงทุน พิธีกรถามกลุ่มผู้เข้าประชุม ที่มีเงินสดในธนาคารมากกว่า 10 ล้าน
ถามว่ากาแฟแก้วละ 100 บาท ถูกหรือแพง ทุกคนตอบ แพง
พอไปถามอีกกลุ่มเป็นพวกนักศึกษา ถามคำถามเดียวกัน
เค้าตอบ ราคาถูก เพราะราคาปรกติที่เค้ากินในมหาลัย 150+
พิธีกรเลยบอกสงสัย กลุ่ม 2 เป็นลูกกลุ่มแรก