[quote/]
ก็แบบเดียวกันไง เราสงสัยก็เขียนไปตามที่สงสัย โดนหาว่าอิจฉาเถียงไม่ได้ เพื่อไม่ให้พูด ถ้าให้คนพูดบ้างถล้ำลึกไปไม่ได้ ปิดปากด้วยคำว่าอิจฉาเห็นคนไทยได้ดีไม่ได้ จริงๆมันมีนัยยะของมันอยู่ ลองพิมพ์ความผิดเดียว กับทมยันตีในgoogle ความผิดเดียวคือรักแผ่นดิน(ตะกี้เขียนผิด) ความผิดเดียวคือแต่งงาน คือสร้างสำนวน เขียนในนิยายทำนองว่านักศึกษาโดนหลอกไปตาย อยากฟังนักศึกษาคนที่เดือดร้อนต่างหากว่าตายเพราะอะไร ไม่ใช่ฟังทมยันตีที่เป็นฝ่ายตรงข้าม อ่านประวัติทมยันตีกับบุพเพมีอะไรคล้ายๆกันนะ[quote/]
sjwตัวแม่นะนั่นน่ะ ตัวเองมีคดีชู้บันลือโลก ชอบเขียนให้แบบว่า ผู้หญิงถูกกระทำตลอด เขียนแนวทำนองตัวเองเป็นนางเอก ในนิยายนางเอกโดนใส่ร้ายเป็นที่อับอาย ทั้งที่บางอย่างอ้าวว่าผู้ชายรักนะต้องทำแบบนี้ให้ ทหารในนิยายทำอะไรไม่เคยผิด พวกเป็นเจ้าหญิงอะไรต้องสวยล้ำโลก ทำอะไรไม่ผิด
เช่นเดียวกับการเขียนประวัติศาตร์ มันมีการเขียน 2 แบบ
1.การเขียนอวยชาติตัวเอง
2.การเขียนแบบผู้โดนกระทำ(นางเอกช่อง 7)
แน่นอนว่าผู้ปกครองมักจะใช้ 2 อย่างนี้ควบคู่กันไปเพื่อให้มันดูเนียน แต่หลักๆที่อยากจะเขียนคือแบบที่ 2
หนึ่งในเรื่องการเขียนประวัติศาสตร์แบบผู้โดนกระทำ ได้แก่
1.อยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 1
2.อยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 2
3.เสียดินแดนสมัย ร.5
ถามว่า 3 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงมั้ย เกิดขึ้นจริงครับ เพียงแต่ Detail มันไม่ได้ดราม่าเคล้าน้ำตา และบางอย่างอาจจะตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริง
เหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่ 2 มีข้อเท็จจริงที่ผิดเพี้ยนไปจากประวัติศาสตร์ดังนี้
1.พม่าไม่ได้เผากรุงศรีฯ หลักฐานล่าสุดของนักโบราณคดีได้ค้นพบว่าใช้บริเวณชั้นดินในเขตวังโบราณ วัดและตัวกรุงศรีฯ ไม่พบชั้นขี้เถ้า และไม่พบไอโซโทปของขี้เถ้า แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์การเผากรุงไม่ได้เกิดขึ้นจริง
Ref
https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1636731https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_16276092.สมบัติในเจดีย์เก่าและสมบัติโบราณไม่ได้ถูกปล้นไปโดยพม่า แต่แท้จริงแล้วถูกปล้นโดยฝีมือคนไทยกับคนจีนที่ปล้นสมบัติและเอาไปขายตลาดมืด โดยมีหลักฐานคือจดหมายเหตุของบาทหลวงฝรั่งเศษ มองซิเออร์คอร์ และอีกหนึ่งหลักฐานที่สำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือตลาดเช่าพระที่ให้เช่าพระเครื่องสมัยกรุงศรีอยุธยา เช่น พระกรุ พระขุนแผนกรุโรงเหล้า เป็นต้น
Ref
https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_10536เหตุการณ์ไทยเสียดินแดนสมัยร.5 ข้อเท็จจริงที่ผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จริง
1.ไทยไม่ได้เสียดินแดน แต่ได้ดินแดนมากกว่าเสียดินแดน ได้แก่ ล้านนา ล้านช้างตะวันตก รัฐปัตตานี เป็นต้น เมื่อหักลบกลบหนี้กับการเสียดินแดนบางส่วนแล้ว ไทยก็ยังได้ดินแดนมากกว่าเสียอยู่ดี
Ref : กำเนิดสยามจากแผนที่ โดย อ.ธงชัย วินิจจะกุล
2.สัญญาเบาริ่งนั้นไม่ได้เป็นสัญญาที่ไทยเสียเปรียบแบบในหนังสือเรียน แต่เป็นสัญญาที่เสมือน FTA(Free Trade Area) ฉบับแรก ของไทย - อังกฤษ ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกและค้าขายมากขึ้น เพียงแต่ไม่ถูกผูกขาดโดยพระคลังข้างที่เหมือนสมัยอดีต ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถค้าขายโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านนายหน้าจากราชสำนัก ผลคือประชาชนรวยขึ้น มีชนชั้นกลางและคนรวยมากขึ้น แต่ราชสำนักมีรายได้ลดลง และเรื่องการสูญเสียสิทธินอกอาณาเขตนั้นมีรายละเอียดที่ลงลึกไปกว่านั้นว่า ตราบเท่าที่ประเทศไทยไม่มีรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายแม่บท อังกฤษจะไม่ยอมรับการพิจารณาคดีจากศาลไทย เนื่องจากอังกฤษ ณ ตอนนั้นยึดถือเรื่องที่ว่า ตราบเท่าที่ไม่มีกฎหมาย การลงโทษจะทำไม่ได้ เพราะมันจะไม่มีบรรทัดฐานใดมาชี้วัด จนกว่าสยามประเทศจะทำการร่างรัฐธรรมนูญการแก้สนธิสัญญาสิทธินอกอาณาเขตก็จะได้รับการเริ่มแก้ไขให้ยอมรับกฎหมายของไทยได้
Ref
https://www.academia.edu/36472074/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A7_%E0%B8%A3%E0%B8%B4_%E0%B8%87_Treaty_of_Friendship_and_Commerce_between_Great_Britain_and_Siam_concluded_and_signed_at_Bangkok_18th_April_1855_%E0%B8%95_%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1_%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81_The_National_Archives_United_Kingdom?auto=download&email_work_card=download-paper