ป. แกแทบจะเป็น ataturk of thailand อยู่แล้ว เสียดายแพ้สายอนุรักษ์จัด
จะว่าไปคำว่าสวัสดี มันก็มาจากยุคเดียวกับยุคสงครามโลกครั้งที่2อ่ะครับ
ชื่อก็บัญเอิญคล้ายจะมาจากสัญลักษณ์นั้นของพรรคนั้นในประเทศนั้นของเยอรมันนียุคนั้นพอดี
นาซีคือพรรคฟาสซิสต์อยู่ฝ่ายขวาครับ ส่วนจอมพล ป.แกเป็นฝ่ายซ้ายตั้งแต่แรก(แต่แกชอบตีเนียนเป็นฝ่ายขวาและตลบหลังฝ่ายขวาบ่อยๆ)
ฝ่ายซ้าย = แนวคิดที่มองว่าคนเท่ากัน จอมพลป. ยกระดับค่านิยมและสิทธิสตรีครับ ดังนั้นเนื้อแท้แล้วแกเป็นฝ่ายซ้ายตั้งแต่แรก แต่แกทำตัวเนียนอยู่ฝ่ายขวาจนพระยามโนปกรณ์นิติธาดาซึ่งรัฐประหารด้วยกฎหมายด้วยการปิดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราและสร้างสภาตรายางขึ้นมาเพื่อทำ Reverse Revolution(การปฏิวัติเพื่อกลับไปเป็นระบอบเดิมคือสมบูรณาญาสิทธิราช) พระยามโนปกรณ์นิติธาดาแกเห็นว่าเบื้องหน้าจอมพลป.เป็นนายทหารรุ่นใหม่ไฟแรงและไม่ค่อยแสดงตัวว่าคบค้ากับ 4 ทหารเสื้อแห่งคณะราษฎร(คบแต่ไม่แสดงตัว) ทั้งที่ถ้าสาวประวัติจอมพลป.จริงๆ แกเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของคณะราษฎรที่ฝรั่งเศษก่อน 4 ทหารเสือแห่งคณะราษฎรเสียอีก (สมาชิกรุ่นแรกคือผู้ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยและเข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงมากที่สุด) แต่ในสายตาของฝ่ายขวาหรือกษัตริย์นิยมสมัยร.7 มองว่า 4 ทหารเสือคณะราษฎรนี่แหละ คือ แกนนำคณะราษฎร อันได้แก่ พระยาพหลพลพยุหเสนา พระยาทรงสุรเดช พระยาฤทธิอัคเนย์ และ พระประศาสน์พิทยายุทธ
แต่แท้จริงจอมพลป.นี่ซี้แน่นปึ้กกับพระยาพหลพลพยุหเสนา กับ อ.ปรีดีมาก พอพระยามโนปกรณ์นิติธาดาไว้ใจเผลอให้อำนาจแกเท่านั้นแหละ แกร่วมมือกับพระยาพหลพลพยุหเสนาปฏิวัติรอบสองจนพระยามโนปกรณ์ต้องลี้ภัยหนีออกนอกประเทศ วันที่ 20 มิถุนายน 2476 แล้วกลับมาใช้รัฐธรรมนูญ 2475 เต็มใบอีกครั้ง เขาเป็นวีรบุรุษแห่งสงคราม Civil War ครั้งแรกและครั้งเดียวของไทยที่พระองค์เจ้าบวรเดชต้องการ Reverse Revolution กลับเป็นระบอบเดิม จอมพลป.ชนะสงคราม Civil War ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2476
ส่วนฝ่ายขวา ความหมายทางการเมือง คือ แนวคิดที่มองว่าสังคมจำเป็นต้องการระบบชนชั้น ต้องมีผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง หลังจากพระองค์เจ้าบวรเดชแพ้ ฝ่ายเจ้าและกษัตริย์นิยมก็หนีลี้ภัยกันกระจัดกระจายไปคนละทาง
มาต่อเรื่องจอมพล ป. ไม่งั้นจะออกทะเลไปมากกว่านี้ 555 สมัยการปฏิวัติ 2475 สำเร็จ ประชาชนในสมัยนั้นไม่ได้สนับสนุนฝ่าย ร.7 และฝ่ายเจ้า จอมพลป.คือคนที่เสนอให้ประหารฝ่ายเจ้าทั้งหมด เช่นเดียวกับความคิดของพระยาทรงสุรเดชก่อนหน้าที่จะเริ่มปฏิวัติ โดยมีวาทะที่ดังมากๆ
"ตีงูต้องตีให้ตายนะคุณปรีดี" แต่อ.ปรีดีเป็นคนใจดี(ใจดีจนเกินไป) บอกว่าไม่ได้ เขาไม่เห็นด้วยเนื่องจากเขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนการปฏิวัติฝรั่งเศษและไม่ได้อยากจะฆ่าใครตั้งแต่แรกโดยมีพระยาพหลพลพยุหเสนาเห็นด้วยกับการไม่ประหารฝ่ายเจ้าเช่นเดียวกับอ.ปรีดี แต่นั่นแหละ เพราะความใจดีเกินไป(มาก)ของอ.ปรีดีจึงทำให้ปัญหาการเมืองไทยไม่จบจนถึงทุกวันนี้
อันหลังนี้รวม Meme เอาฮานะครับ(แต่ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ เชื่อว่าในใจแกคงคิดอย่างนี้จริงๆ 555)
