ประเทศเกาหลีเหนือได้ออกมากล่าวหาไปที่นโยบายและการบริหารของปธน.โจ ไบเดนว่า
มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลอเมริกามีนโยบายจัดการกับกรุงเปียงยางและการค้นคว้าวิจัยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
โดยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือได้ออกมากล่าวหาว่าปธน.โจ ไบเดน มีเจตนายังคงความไม่เป็นมิตรกับเกาหลีเหนือ
แต่รัฐบาลจากทำเนียบขาวได้มีการออกมาตอบโต้เขาจะมีแผนการปรับแนวทางในการเข้าหาเกาหลีเหนือใหม่
โดยโฆษกหญิง Jen Psaki ได้ออกมาเปิดเผยว่า "เมื่อวันศุกที่ผ่านมาได้มีการประชุมสรุปความก้าวหน้าและความสำเร็จของนโยบายสหรัฐอเมริกาและได้แนะนำปธน.โจ ไบเดนจากประสบการณ์ของ 4 รัฐบาลก่อน ที่พยายามและล้มเหลวกับการทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือละทิ้งโครงการทดลองพัฒนานิวเคลียร์
"นโยบายของเรานั้นไม่ได้เจาะจงแค่การต่อรองใหญ่หรือพึ่งพากลยุทธที่อดทนรอคอยแทนที่จะเป็นเช่นนั้นอเมริกาจะทำการปรับเข้าหาในทางปฏิบัติเพื่อจะเปิดและค้นหาแนวทางการทูตกับเกาหลีเหนือ" เพื่อที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้าในทางปฏิบัติเพื่อเพิ่มความปลอดภัยกับอเมริกาและชาติพันธมิตร
อเมริกาคาดหวังที่จะได้เป็นประธานและเจ้าภาพประชุมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เร็วๆนี้
โดยไบเดนได้กล่าวเสริมในที่ประชุมสภาคอนเกรสว่า "พวกเราจะทำงานใกล้ชิดกันกับพันธมิตรของเรา ในการจัดการภัยคุกคามที่สร้างขึ้นโดยสองประเทศ(เกาหลีเหนือกับอิหร่าน)ผ่านการทูตในการปรามทั้งสองประเทศนี้ลงอย่างดุดัน"
ปธน.โจ ไบเดน ได้เรียกปธน.คิมจองอึนว่า "ไอ้โจร" ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งและการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะเกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลอเมริกันและ UN มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือจะคลายลง
และก่อนที่ปธน.โจ ไบเดนจะขึ้นรับตำแหน่ง ปธน.คิมจองอึนได้ออกมากล่าวถึงสหรัฐอเมริกาว่าเป็น"ศัตรูที่ใหญ่ที่สุด" และประกาศกร้าวว่าจะขยายโครงการทดลองและผลิตนิวเคลียร์โดยจะไม่ยอมรับข้อตกลงทางการทูตใดๆ
อย่างไรก็ดีเมื่อเปรียบเทียบกับปธน.คนก่อนอย่างปธน.ทรัมพ์ซึ่งเป็นปธน.คนแรกที่สามารถเข้าพบและพูดคุยกับปธน.คิมจองอึนได้โดยตรงและได้พบกันถึง 3 ครั้ง ถึงแม้ว่าการเจรจาทั้งหมดจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการบรรลุข้อตกลงการปลดอาวุธและล้มเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
Ref
https://www.bbc.com/news/world-asia-56960008