แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ  (อ่าน 2036 ครั้ง)

ออฟไลน์ ricca chan

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 150
  • ถูกใจแล้ว: 26 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-53
1.เป็นที่รู้กันดีว่าเวลาใครก็ตามที่รายได้สูงๆก็ต้องเสียภาษีเยอะและมักจะมีคำพูดตามมาว่าใช้ทรัพยากรเยอะเลยต้องเสียภาษีเยอะคุณคิดว่าคำพูดนี้จริงแค่ไหนหรือคิดว่าไม่จริงเลยเป็นแค่ข้ออ้างหาชอบธรรมในการเก็บภาษีคนรายได้สูงเยอะๆเท่านั้น
2.จากข้อ1.ถ้าบอกว่าใครใช้ทรัพยากรเยอะควรจ่ายภาษีเยอะทำไมไม่เก็บ vat เยอะๆเลยอย่างเช่น vat 40 เปอเซ็น และยกเลิกการเก็บภาษีรายได้บคคลและนิติบุคคลไปเพราะว่าการทำแบบนี้มันจะสอดคล้องกับคำพูดที่ใช้ทรัพยากรเยอะต้องเสียภาษีเยอะมากกว่าถ้าถามว่าสอดคล้องยังไงก็เช่น มีคนชั้นกลางกินเนื้อวัวธรรมดาซึ่งใช้ทรัพยากรในการเลี้ยงโลละ 200บาท กับกำไร คนขาย 200 บาทรวมเป็น 400บาท เจอ vat อีก 40เปอรวมเป็น 560 โดย160 บาท เปนภาษีที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรไป ทีนี้มีคนรวย กินเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งใช้ทรัพยากรในการเลี้ยง โลละ200000 บาท กำไร คนขาย 200000 บาท รวมเป็น 400000 เจอ vat อีก 40 เปอ ก็เป็น560000 บาท โดย160000บาทเป็นภาษีที่เกิดจากการทรัพยากรซึ่งทำแบบนี้คุณคิดว่ามันจะเข้าใกล้กับพูดที่ว่าใช้ทรัพยากรเยอะต้องเสียภาษีเยอะไหมครับ
3.ถ้ามีประเทศ1ประเทศทำแบบข้อ2. คุณระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นยังไง วุ่นวาย ? ล่มสลาย ? หรือว่าเป็นยังไง???
 

ออฟไลน์ saengdaed

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,641
  • ถูกใจแล้ว: 567 ครั้ง
  • ความนิยม: +72/-119
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 18, 2021, 06:43:06 PM »
คนรวยกินไม่เยอะ แต่คนชั้นกลางจะใช้เยอะกว่ามันก็เจอปัญหาเดิม ทำไมคนรวยจ่ายภาษีน้อย
 

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,076
  • ถูกใจแล้ว: 1298 ครั้ง
  • ความนิยม: +48/-25
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 18, 2021, 07:28:15 PM »
แนะนำให้ลอง Democracy 3 ครับ ภาษีมูลค่าเพิ่มล้วนนี้ผมเคยทำในเกมส์นี้อยู่คนจนด่าผมจมมาก คนชั้นกลางกับคนรวยชิว
แบบข้อแรกนี่คนรวยและบริษัทหนีออกต่างประเทศกัน ยอดการลงทุนตก จีดีพีวูบ

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 18, 2021, 08:36:37 PM »
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ

กำลังถามถึงแนวคิดการเก็บภาษีใช่มั๊ย

ความหมายของการเก็บภาษีมันมีหลายมิติ  เช่นภาษีเป็นเครื่องมือนึงในหลายๆบริบท
เช่นใช้กีดกันการค้า  ใช้ควบคุมราคาสินค้า  ใช้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค
ใช้เพื่ออนุบาลส่งเสริมกิจการระดับล่างให้มีแต้มต่อเพื่อจะได้ใหญ่ขึ้น  ใช้เพื่อกระจาย
ความมั่งคั่ง  ใช้เพื่อกดดันให้นำสิ่งที่มีมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม  ใช้การเก็บ
ภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจบางอย่าง  บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



แล้วถ้าว่ากันตามข้อความใน #0 ของจขกท.  ถ้าอภิปรายไป  มันก็อาจจะดรามา
เช่นการใช้ทรัพยากร  การทำร้ายทรัพยากร  บ้านคนจนบางบ้านใช้ไฟไม่ถึง 100หน่วย
มีมากมาย  ปล่อยมลพิษทั้งปีน้อยกว่าคนชั้นกลางขับรถไปทำงานซะอีก  ผลิตผลการเกษตร
ได้อภิสิทธิ์พิเศษทางภาษีมากมายเพื่อและกับการกดราคา


บ้านเมืองจะเจริญได้  อย่างแรกต้องทำให้ผู้คนกินอิ่มก่อน  มันถึงจะแตกแยกย่อยอาชีพชั้นสูง
เป็นเช่นนี้ทุกประเทศ  และอาชีพคนจนมากมายมันคือฐานรากของปิรามิด  พวกเขาถูกใช้ให้
ใช้ทรัพยากรเพื่อตอบสนองประเทศ  ตอบสนองคนเมือง  ตอบสนองชนชั้นสูงขึ้นไปของปิรามิด
เห็นมั๊ย  เริ่มมีกลิ่นดรามาโชยหล่ะ



การเก็บภาษีตามขั้นบันไดจากรายได้บุคคล  หาใช่มาจากเพราะใช้ทรัพยากรมากกว่า  เพียง
เหตุผลเดียว  มันมีมิติอื่นประกอบด้วยเยอะมาก  ซึ่งถ้าเก็บบันไดภาษีตัวนี้มาก  หรือเก็บ
บันไดภาษีนิติบุคคลเหลื่อมกับประเทศที่ระดับเดียวกันมาก  ก็จะก่อเกิดสมองไหล  เช่น
ไบเดนตอนนี้  ที่หลายฝ่ายก็กำลังกังวล  เนื่องจากอเมริกาถือเป็นประเทศที่เก็บภาษีบันได
เยอะอยู่แล้วเมื่อเทียบกับประเทศระดับเดียวกัน  สมัยทรัมป์ได้มีการลดเพดานตรงนี้  แต่
เมื่อไบเดนมา  นอกจากไม่คงนโยบายเดิม  หรืออย่างน้อยก็กลับไปเป็นเหมือนสมัยก่อนทรัมป์มา
แต่ไบเดนกลับทำรุนแรงกว่านั้น  จนจะชนเพดานที่สามารถทำได้(ยังเพิ่มได้อีก  ถ้าไบเดนต้องการ)


และอย่าลืมว่า  คนรวยส่วนนึงก็มาจากการลงทุนของรัฐ  การเรียกเก็บภาษีจากความสำเร็จ
จึงเป็นเหตุผลนึงที่เข้าใจได้  ยังมีในเรื่องโครงสร้างแฝงที่มอบสิทธิพิเศษให้ทั้งคนจนคนรวย
เพื่อวางฐานภาษีอีก  เช่นการไม่ให้ขึ้นราคาบางอย่างของบางธุรกิจเพื่อแลกกับสิทธิบางอย่าง
โอย  ยิ่งพูดยิ่งวกวนงงๆ  กระทู้นี้เหมือนกำลังพูดถึงโครงสร้างของประเทศเลยเชียวนะ

 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 18, 2021, 08:43:14 PM »
คคห.ข้างบนมันยาวมาก  แยกคคห.หล่ะกัน


ไม่งั้นก็เอาแบบเข้าใจง่ายๆ  เริ่มจากประวัติศาสตร์การเก็บภาษีของมนุษย์ชาติเลยหล่ะกัน
มันจะทำให้เห็นวิวัฒนาการของการจัดเก็บภาษี  ทำไมภาษีต่างๆมีที่มาอย่างไร  แล้วทำไม
จากที่เก็บรายหัว(สมัยโบราณเก็บรายหัวนะ  ของดินแดนแถวนี้ก็ใช่  แล้วเราสามารถให้
ทาสไปทำอะไรๆที่เป็นการจ่ายภาษีแทนเราได้)  แล้วจะรู้ว่าทำไมจากที่เก็บรายหัว  ประเทศต่างๆ
ถึงค่อยๆเปลี่ยนโครงสร้างภาษีตัวนี้ไป 


เวปนี้เป็นเวปอ่านนิยายนี่เนอะ  งั้นยกตัวอย่างจากนิยายก็ได้  เก็บภาษีรายหัว  คนจนก็จนแบบ
ที่ต้องขายลูกกินเพื่อลดจำนวนการจ่ายภาษี  แถมยังถูกคนรวยที่อ้างว่าใช้ทรัพยากรน้อย  เพราะ
คนรวยบังคับให้คนจนใช้ทรัพยากรเพื่อผลประโยชน์ตน  คนรวยหรือชั้นกลางจะได้อ้างได้ว่า
ตนเองไม่ได้ใช้ทรัพยกรเยอะ  แต่ทุกประโยชน์มันแฝงด้วยทรัพยากรมากกว่าคนจนรวมกันซะอีก
แล้วทุกชนชั้นก็จ่ายภาษีรายหัวกันหมด  ความต่างของฐานะยิ่งกว้าง  การเอื้อหรือการอนุบาลจากภาครัฐ
เพื่อให้เกิดเศรษฐีหน้าใหม่  ก็จะไม่เกิด  ภาษีบุคคลขั้นบันได  ได้เข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้
อย่างที่บอกในตอนต้น  ทุกภาษีมีหน้าที่และเหตุผลที่เก็บหลายมิติ



ในนิยายอิเซไคหลายเรื่อง  ก็มีกล่าวในกรณีภาษีรายหัวเช่นกัน  ถ้าให้ยกตัวอย่างมาสักหนึ่งนิยายหล่ะก็
ลูกสาวยดยุค  ไอริส  ก็เปลี่ยนภาษีจากเก็บรายหัวเก็บภาษีขั้นบันไดเช่นกัน  (ตัวเอกนิยายเรื่องนี้
ก่อนเกิดใหม่ต่างโลก  เป็นนักการบัญชี)
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,203
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 18, 2021, 09:27:06 PM »
คือเอาจริงๆคนรวยจ่ายภาษีน้อยกว่าคนจนนะครับถ้าคิดเป็น%ข้อยกเว้นมันเยอะถ้าดูโดยรวมแต่คนชันกลางลงไปยิ่งจนยิ่งไม่มีวีธีเลี่ยงภาษี

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,524
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 19, 2021, 03:24:31 AM »
ตามหลักประชาธิปไตยคนเยอะได้เปรียบครับ คนจนได้เปรียบตรงรัฐบาลต้องง้อคะแนน นโยบายรัฐบาลทุกสมัยต้อง เปย์คนจน ภาษีแค่มูููลค่าเพิ่ม มีสวัสดิการช่วยเหลือต่างไป


อต่คนรวยได้เปรียบกว่าอยู่ดีเพราะมีเงินเยอะ ถึงต้องจ่ายภาษีสารพัดอุ้มคนจน ก็มีเหลือเฟือ


1 ไม่จริง
2 ก็ถูกของคุณ


3 ภาษี vat มันมีข้อดีข้อเสีย ข้อดีคือมันทำให้หลบภาษียากขึ้น เป็นการเก็บภาษีของนำเข้าด้วยซึ่งเท่ากับเป็นการตั้งกำแพงภาษีอีกทาง โดยไม่ต้องใช้ภาษีนำเข้าโดยตรงให้โดนตอบโต้


ข้อเสียคือมันเก็บกระทบคนจนด้วย ถ้าเก็บหนักๆคนจนก็อ่วมเหมือนกัน ทำให้เกิดเดินขบวน จราจลได้เลย


ภาษีเก็บน้อย เศรษฐกิจมักจะดีครับ เพราะรัฐบาลโกงยากขึ้นเพราะงบน้อย เงินอยู่ในมือเอกชนจะบริหารได้ที่ประสิทธิภาพกว่าด้วย ประเทศที่เป็น tax heaven จะโตเร็ว ส่วนประเทศที่ ภาษีต่ gdp  เยอะ เ็นรัฐสวัสดิการ จะโตช้ามากโดยเฉลี่ย
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 19, 2021, 09:45:42 AM »
@ricca chan


ภาษีทุกอย่างมันมีนัยยะความหมายแฝงจุดประสงค์ของมันนะครับ


ภาษี VAT


เอาเรื่องภาษี VAT ก่อนครับ ภาษี VAT หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษี มันจะคิดจากราคามูลค่าสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิม


หรือก็คือ VAT ขาย - VAT ซื้อ = ภาษีส่วนที่ต้องจ่ายแก่สรรพากร


สมมุติผมซื้อ ตุ๊กตาเซเบอร์มาก 10,000 บาท VATเท่ากับ 700 บาท รวมเป็น 10,700 บาท


จากนั้นผมขายตุ๊กตาเซเบอร์ให้แก่นายชิโร่ด้วยราคา 20,000 บาท VAT 1,400 บาท รวมเป็น 21,400 บาท


ดังนั้นการเสียภาษีระหว่างทางของการเพิ่มมูลค่าจะเท่ากับ 1,400 - 700 = 700 บาท คือส่วนต่างของภาษีที่ผมต้องเสียให้แก่สรรพากร


แต่ในกรณีผู้บริโภคคนสุดท้ายจะต้องรับภาระภาษี VAT ทั้งหมด นั่นคือ 1,400 บาท ดังนั้นชิโร่ที่ไม่สามารถขายต่อได้จะต้องรับภาษีไปเต็มที่ 1,400 บาท


แต่ชิโร่จะไม่ได้มีหน้าที่ส่งภาษีแก่สรรพากร คนที่มีหน้าที่นำส่งภาษีแก่สรรพากร คือ ผมเอง


ดังนั้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเยอะ จริงๆมันไม่ได้ส่งผลกับผู้ประกอบการที่เป็น Chain Supply ระหว่างทางเท่าไหร่หรอกครับ


แต่ไอ้คนที่จะแตกพ่ายก็คือประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคคนสุดท้ายซะเอง เพราะต้องรับภาษี 40% ไปเต็มๆ


ขณะที่ผู้ประกอบการหรือนายทุนเขาเสียแค่ส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างของราคาสินค้าที่เปลี่ยนไป


ยิ่งใช้ทรัพยากรมากยิ่งเสียภาษีมาก


คำกล่าวนี้ถูกต้องครับ แต่ต้องดอกจันทร์เพิ่มเติมว่าแนวคิดการเสียภาษีแบบนี้เป็นแนวคิดการเสียภาษีที่มาจากแนวคิดสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์นะครับ


สำหรับคอมมิวนิสต์มาจากข้อ 2 จากคำประกาศคอมมิวนิสต์ หรือ ที่เราเรียกกันว่า Communist Manisfesto ซึ่งเขียนระบุว่า


2.A Heavy Progressive or Graduated Income Tax


ไอ้เจ้าภาษี Progressive Income Tax มันก็คือ ภาษีบุคคลได้แบบขั้นบันไดแบบบ้านเรานั่นเอง(รู้สึกถึงอะไรที่มันย้อนแย้งมั้ยครับ 555)


เนื่องจากคนที่เป็นนายทุน เป็นเจ้าของโรงงาน จำเป็นต้องใช้รถบรรทุกเยอะ เมื่อใช้รถบรรทุกในการขนส่งวัตถุดิบ ถนนหนทางมันก็สึกหรอเร็วกว่ารถเก๋งธรรมดา


โรงงานก็สร้างมลภาวะทางน้ำ อากาศ มากกว่าบ้านเรือนของคนทั่วไป ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ถนน น้ำ อากาศ เหล่านี้ก็คือทรัพยากร


นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมแนวคิดคอมมิวนิสต์และแนวคิดสังคมนิยมถึงได้บังคับให้นายทุนใช้ทรัพยากรมากกว่าต้องเสียภาษีมากกว่าตามขั้นบันได


เอาจริงๆ เนี่ย ต่อให้คุณขึ้น VAT มากขึ้น ผู้ประกอบการก็ไม่ได้สะเทือนมากมายหรอกครับ เดี๋ยวผมจะคำนวนให้ดู


VAT 7%


ผู้ประกอบการซื้อวัตถุดิบ 100 บาท VAT7% = 7 บาท รวม 107 บาท


ขายของให้ผู้บริโภค 200 บาท VAT7% = 14 บาท รวม 214 บาท


ผู้ประกอบการจะเสียภาษีเท่ากับ 14 -7 = 7 บาท และยังคงได้กำไรเท่ากับ 214 - 107 - 7 = 100 บาท

ผู้บริโภคจะเสียภาษีเท่ากับ 214 - 200 = 14 บาท


VAT40%



ผู้ประกอบการซื้อวัตถุดิบ 100 บาท VAT40% = 40 บาท รวม 140 บาท


ขายของให้ผู้บริโภค 200 บาท VAT40% = 80 บาท รวม 280 บาท


ผู้ประกอบการจะเสียภาษีเท่ากับ 80 - 40 = 40 บาท และจะยังได้กำไรเท่ากับ 280 - 140 - 40 = 100 บาท

ผู้บริโภคจะเสียภาษีเท่ากับ 280 - 200 = 80 บาท


คุณ @ricca chan เห็นอะไรมั้ยครับ ไม่ว่าคุณจะขึ้น VAT เป็นเท่าไหร่ ท้ายที่สุด ผู้ประกอบการหรือนายทุนก็จะได้กำไรเท่าเดิม คือ 100 บาท


ขณะที่ผู้บริโภคจากเดิมที่ VAT7% จะต้องเสียภาษี 14 บาท แต่พอ VAT40% จะต้องเสียภาษี 80 บาท


จะเห็นได้ชัดเลยว่า การขึ้นภาษี VAT คนที่จะแตกพ่ายก่อนก็คือผู้บริโภค ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการระหว่างทาง


ภาษี VAT เป็นภาษีที่ถูกคิดขึ้นโดยใช้หลักการของทุนนิยม โดยนักทุนนิยม ของนักทุนนิยม เพื่อนักทุนนิยม ไงล่ะครับ 555


ต่างจาก Progressive Income Tax ที่เป็นภาษีที่เกิดจากแนวคิดของสังคมนิยมและแนวคิดของคอมมิวนิสต์


จริงๆ ภาษี Income Tax หรือ ภาษีบุคคลได้มี 2 แบบนะครับ
1.Fixed Rate Income Tax เช่น อังกฤษ อันนี้คือสายทุนนิยม เพราะไม่ว่าจะจนจะรวยก็เสียภาษี Rate เดียวกัน ไม่จำเป็นต้องคำนึงการ Consume ทรัพยากรในประเทศ เพราะถือว่าทุกคนไหนมีโอกาสใช้ก็จงใช้ให้เต็มที่ ถ้าสร้างรายได้ได้น้อยก็ถือซะว่าคุณเลือกที่จะไม่ใช้ทรัพยากรเสียเอง
2.Progressive Income Tax ก็คือที่ผมกล่าวไปก่อนหน้าครับ


ภาษีทุกตัวมันมีความหมายและแฝงแนวคิดของผู้คิดลงไปนะครับ


เพิ่มเติมนะครับ ภาษีเดิมของไทย "จังกอบ"


จังกอบคือภาษีที่เวลาเราผ่านด่าน ข้ามคลองสะพาน จะต้องเสียภาษี 1 ใน 10


จริงๆแล้วภาษีตัวนี้มีไว้เพื่อบังคับห้ามประชากรย้ายถิ่นฐาน


เนื่องจากสมัยก่อนเวลาเขาทำสงครามกัน เขามักจะเกณฑ์คนไปเป็นทาส เนื่องจากประชากรคือกำลังผลิตที่สำคัญต่อเศรษฐกิจมาก


ดังนั้นจังกอบคือภาษีที่บังคับให้ ไพร่กลายเป็น ทาสติดที่ดิน ไงครับ เพราะทุกครั้งที่คุณเดินทางผ่านด่าน ข้ามคลองคุณก็จะเสียทีละ 1 ใน 10 ของสินค้า
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ ricca chan

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 150
  • ถูกใจแล้ว: 26 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-53
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 10:45:50 AM »
@ricca chan


ภาษีทุกอย่างมันมีนัยยะความหมายแฝงจุดประสงค์ของมันนะครับ


ภาษี VAT


เอาเรื่องภาษี VAT ก่อนครับ ภาษี VAT หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษี มันจะคิดจากราคามูลค่าสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิม


หรือก็คือ VAT ขาย - VAT ซื้อ = ภาษีส่วนที่ต้องจ่ายแก่สรรพากร


สมมุติผมซื้อ ตุ๊กตาเซเบอร์มาก 10,000 บาท VATเท่ากับ 700 บาท รวมเป็น 10,700 บาท


จากนั้นผมขายตุ๊กตาเซเบอร์ให้แก่นายชิโร่ด้วยราคา 20,000 บาท VAT 1,400 บาท รวมเป็น 21,400 บาท


ดังนั้นการเสียภาษีระหว่างทางของการเพิ่มมูลค่าจะเท่ากับ 1,400 - 700 = 700 บาท คือส่วนต่างของภาษีที่ผมต้องเสียให้แก่สรรพากร


แต่ในกรณีผู้บริโภคคนสุดท้ายจะต้องรับภาระภาษี VAT ทั้งหมด นั่นคือ 1,400 บาท ดังนั้นชิโร่ที่ไม่สามารถขายต่อได้จะต้องรับภาษีไปเต็มที่ 1,400 บาท


แต่ชิโร่จะไม่ได้มีหน้าที่ส่งภาษีแก่สรรพากร คนที่มีหน้าที่นำส่งภาษีแก่สรรพากร คือ ผมเอง


ดังนั้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเยอะ จริงๆมันไม่ได้ส่งผลกับผู้ประกอบการที่เป็น Chain Supply ระหว่างทางเท่าไหร่หรอกครับ


แต่ไอ้คนที่จะแตกพ่ายก็คือประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคคนสุดท้ายซะเอง เพราะต้องรับภาษี 40% ไปเต็มๆ


ขณะที่ผู้ประกอบการหรือนายทุนเขาเสียแค่ส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างของราคาสินค้าที่เปลี่ยนไป


ยิ่งใช้ทรัพยากรมากยิ่งเสียภาษีมาก


คำกล่าวนี้ถูกต้องครับ แต่ต้องดอกจันทร์เพิ่มเติมว่าแนวคิดการเสียภาษีแบบนี้เป็นแนวคิดการเสียภาษีที่มาจากแนวคิดสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์นะครับ


สำหรับคอมมิวนิสต์มาจากข้อ 2 จากคำประกาศคอมมิวนิสต์ หรือ ที่เราเรียกกันว่า Communist Manisfesto ซึ่งเขียนระบุว่า


2.A Heavy Progressive or Graduated Income Tax


ไอ้เจ้าภาษี Progressive Income Tax มันก็คือ ภาษีบุคคลได้แบบขั้นบันไดแบบบ้านเรานั่นเอง(รู้สึกถึงอะไรที่มันย้อนแย้งมั้ยครับ 555)


เนื่องจากคนที่เป็นนายทุน เป็นเจ้าของโรงงาน จำเป็นต้องใช้รถบรรทุกเยอะ เมื่อใช้รถบรรทุกในการขนส่งวัตถุดิบ ถนนหนทางมันก็สึกหรอเร็วกว่ารถเก๋งธรรมดา


โรงงานก็สร้างมลภาวะทางน้ำ อากาศ มากกว่าบ้านเรือนของคนทั่วไป ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ถนน น้ำ อากาศ เหล่านี้ก็คือทรัพยากร


นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมแนวคิดคอมมิวนิสต์และแนวคิดสังคมนิยมถึงได้บังคับให้นายทุนใช้ทรัพยากรมากกว่าต้องเสียภาษีมากกว่าตามขั้นบันได


เอาจริงๆ เนี่ย ต่อให้คุณขึ้น VAT มากขึ้น ผู้ประกอบการก็ไม่ได้สะเทือนมากมายหรอกครับ เดี๋ยวผมจะคำนวนให้ดู


VAT 7%


ผู้ประกอบการซื้อวัตถุดิบ 100 บาท VAT7% = 7 บาท รวม 107 บาท


ขายของให้ผู้บริโภค 200 บาท VAT7% = 14 บาท รวม 214 บาท


ผู้ประกอบการจะเสียภาษีเท่ากับ 14 -7 = 7 บาท และยังคงได้กำไรเท่ากับ 214 - 107 - 7 = 100 บาท

ผู้บริโภคจะเสียภาษีเท่ากับ 214 - 200 = 14 บาท


VAT40%



ผู้ประกอบการซื้อวัตถุดิบ 100 บาท VAT40% = 40 บาท รวม 140 บาท


ขายของให้ผู้บริโภค 200 บาท VAT40% = 80 บาท รวม 280 บาท


ผู้ประกอบการจะเสียภาษีเท่ากับ 80 - 40 = 40 บาท และจะยังได้กำไรเท่ากับ 280 - 140 - 40 = 100 บาท

ผู้บริโภคจะเสียภาษีเท่ากับ 280 - 200 = 80 บาท


คุณ @ricca chan เห็นอะไรมั้ยครับ ไม่ว่าคุณจะขึ้น VAT เป็นเท่าไหร่ ท้ายที่สุด ผู้ประกอบการหรือนายทุนก็จะได้กำไรเท่าเดิม คือ 100 บาท


ขณะที่ผู้บริโภคจากเดิมที่ VAT7% จะต้องเสียภาษี 14 บาท แต่พอ VAT40% จะต้องเสียภาษี 80 บาท


จะเห็นได้ชัดเลยว่า การขึ้นภาษี VAT คนที่จะแตกพ่ายก่อนก็คือผู้บริโภค ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการระหว่างทาง


ภาษี VAT เป็นภาษีที่ถูกคิดขึ้นโดยใช้หลักการของทุนนิยม โดยนักทุนนิยม ของนักทุนนิยม เพื่อนักทุนนิยม ไงล่ะครับ 555


ต่างจาก Progressive Income Tax ที่เป็นภาษีที่เกิดจากแนวคิดของสังคมนิยมและแนวคิดของคอมมิวนิสต์


จริงๆ ภาษี Income Tax หรือ ภาษีบุคคลได้มี 2 แบบนะครับ
1.Fixed Rate Income Tax เช่น อังกฤษ อันนี้คือสายทุนนิยม เพราะไม่ว่าจะจนจะรวยก็เสียภาษี Rate เดียวกัน ไม่จำเป็นต้องคำนึงการ Consume ทรัพยากรในประเทศ เพราะถือว่าทุกคนไหนมีโอกาสใช้ก็จงใช้ให้เต็มที่ ถ้าสร้างรายได้ได้น้อยก็ถือซะว่าคุณเลือกที่จะไม่ใช้ทรัพยากรเสียเอง
2.Progressive Income Tax ก็คือที่ผมกล่าวไปก่อนหน้าครับ


ภาษีทุกตัวมันมีความหมายและแฝงแนวคิดของผู้คิดลงไปนะครับ


เพิ่มเติมนะครับ ภาษีเดิมของไทย "จังกอบ"


จังกอบคือภาษีที่เวลาเราผ่านด่าน ข้ามคลองสะพาน จะต้องเสียภาษี 1 ใน 10


จริงๆแล้วภาษีตัวนี้มีไว้เพื่อบังคับห้ามประชากรย้ายถิ่นฐาน


เนื่องจากสมัยก่อนเวลาเขาทำสงครามกัน เขามักจะเกณฑ์คนไปเป็นทาส เนื่องจากประชากรคือกำลังผลิตที่สำคัญต่อเศรษฐกิจมาก


ดังนั้นจังกอบคือภาษีที่บังคับให้ ไพร่กลายเป็น ทาสติดที่ดิน ไงครับ เพราะทุกครั้งที่คุณเดินทางผ่านด่าน ข้ามคลองคุณก็จะเสียทีละ 1 ใน 10 ของสินค้า


โอเคตรง vat ผมเข้าใจแต่สมมติว่าออกกฏหมายห้ามผลักภาระให้ผู้บริโภคเพียงคนเดียวแบบนี้จะเป็นยังไงครับ




อ้อเพิ่มเติมหน่อยตอนนั้นอาจจะพิมละเอียดไม่พอตรงที่ว่าบริษัททำธุรกิจนั้นปล่อยมลภาวะเยอะย่อมกำไรเยอะแล้วก็เก็บภาษีเยอะซึ่งผมมองว่าตรงนี้มันเป็นการประเมินแบบลวกๆว่ากำไรเยอะก็คือใช้ทรัพยากรเยอะดังนั้นคุณต้องจ่ายภาษีเยอะ


โดยส่วนตัวผมว่าควรมีการสร้างค่าที่วัดได้เป็นมาตราฐานออกมาเช่น มาการวัดมลภาวะที่โรงงานปล่อยออกมาและเก็บภาษีตามมลภาวะที่ปล่อยออกมาแบบนี้จะป็นการทำให้สอดคล้อง กับคำพูดที่ว่าใช้ทรัพยากรเยอะมากกว่าไหมครับและอีกอย่งคำว่าใช้ทรัพยากรมากมันต้องชนิดธุรกิจด้วยไหมเช่น ทำธุรกิจเขียนโปรแกรมผมว่าธุรกิจกลุ่มนี้น่าจะใช้ทรัพยากรน้อยนะเพราะว่ามีแค่ เน็ต คอม ไฟฟ้า สถานที่ที่ไม่ต้องกว้างขนาดโรงงาน ทำเค้าเสียภาษีเยอะเค้าไม่ได้ปล่อยมลพิษเลยนะ???


ปล.ถ้าตรงไหนผมเข้าใจผิดชี้แจงได้นะครับ 5555+
 

ออฟไลน์ ricca chan

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 150
  • ถูกใจแล้ว: 26 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-53
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 10:48:34 AM »
@name123


สรุปว่าคุณอยากพูดว่าการเก็บภาษีคนรายได้สูงเยอะคือที่ถูกต้องใช่ไหมครับ ????????
 

ออฟไลน์ PokG

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,083
  • ถูกใจแล้ว: 388 ครั้ง
  • ความนิยม: +23/-16
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 12:41:27 PM »
ผิดครับ ภาษีที่ควรเก็บที่สุดคือภาษีซื้อขายหุ้น (เน้นว่าซื้อขายนะ ไม่ใช่การถือครอง) ตะหาก ลองเก็บภาษีตัวนี้สิรับรองมีคนเต้นเยอะแน่  :P
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 12:43:18 PM »
[quote/]


โอเคตรง vat ผมเข้าใจแต่สมมติว่าออกกฏหมายห้ามผลักภาระให้ผู้บริโภคเพียงคนเดียวแบบนี้จะเป็นยังไงครับ




อ้อเพิ่มเติมหน่อยตอนนั้นอาจจะพิมละเอียดไม่พอตรงที่ว่าบริษัททำธุรกิจนั้นปล่อยมลภาวะเยอะย่อมกำไรเยอะแล้วก็เก็บภาษีเยอะซึ่งผมมองว่าตรงนี้มันเป็นการประเมินแบบลวกๆว่ากำไรเยอะก็คือใช้ทรัพยากรเยอะดังนั้นคุณต้องจ่ายภาษีเยอะ


โดยส่วนตัวผมว่าควรมีการสร้างค่าที่วัดได้เป็นมาตราฐานออกมาเช่น มาการวัดมลภาวะที่โรงงานปล่อยออกมาและเก็บภาษีตามมลภาวะที่ปล่อยออกมาแบบนี้จะป็นการทำให้สอดคล้อง กับคำพูดที่ว่าใช้ทรัพยากรเยอะมากกว่าไหมครับและอีกอย่งคำว่าใช้ทรัพยากรมากมันต้องชนิดธุรกิจด้วยไหมเช่น ทำธุรกิจเขียนโปรแกรมผมว่าธุรกิจกลุ่มนี้น่าจะใช้ทรัพยากรน้อยนะเพราะว่ามีแค่ เน็ต คอม ไฟฟ้า สถานที่ที่ไม่ต้องกว้างขนาดโรงงาน ทำเค้าเสียภาษีเยอะเค้าไม่ได้ปล่อยมลพิษเลยนะ???


ปล.ถ้าตรงไหนผมเข้าใจผิดชี้แจงได้นะครับ 5555+


@ricca chan


ต่อให้เป็นธุรกิจเขียนโปรแกรม ยังไงก็ใช้ทรัพยากรและก่อมลภาวะเหมือนกัน


เราใช้ไฟฟ้า คำถามคือไฟฟ้ามาจากไหนครับ ก็ย่อมต้องเป็นโรงไฟฟ้าครับ


โรงไฟฟ้า ยังไงก็ต้องมีการก่อมลภาวะครับ ดังนั้นธุรกิจที่เหมือนไม่ได้สร้างมลภาวะยังไงก็สร้างมลภาวะแบบ Chain ต่อเนื่องไปหาต้นตอคือโรงไฟฟ้าอยู่ดีครับ


และจริงๆ ต่อให้เราใช้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ พลังงานลม ผมถามว่าการติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าเหล่านี้ย่อมทำมาจากโลหะถูกมั้ยครับ


โลหะเหล่านี้ย่อมถูกขุดจากเหมือง การขุดเหมืองย่อมใช้ทรัพยากรของประเทศถูกมั้ยครับ และต่อให้บอกว่านำเข้ามา ผู้ที่นำเข้ามาก็ได้ถูกภาษีเหล่านี้ชาร์จตั้งแต่ส่งออกแล้วครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 12:53:02 PM »
ผิดครับ ภาษีที่ควรเก็บที่สุดคือภาษีซื้อขายหุ้น (เน้นว่าซื้อขายนะ ไม่ใช่การถือครอง) ตะหาก ลองเก็บภาษีตัวนี้สิรับรองมีคนเต้นเยอะแน่  :P


ทราบมั้ยครับ ทำไมการซื้อขายหุ้นถึงไม่เสียภาษี และยังไงก็ไม่สามารถเสียภาษีได้ เพราะถ้าเสียภาษีหลักการบัญชีสากลของโลกจะพังเลยครับ


เพราะการซื้อขายหุ้นมันไม่เหมือนกับการขายของนะครับ อันนี้ต้องลงลึกลงในหลักบัญชีหน่อยนะครับ


หุ้น คือ ส่วนของความเป็นเจ้าของหรือทุนจดทะเบียน ไม่ใช่ รายได้นะครับ เหมือนกับที่ตอนนั้นเรื่องธนาธรดังหน่อย คือ หนี้สิน ไม่เท่ากับ รายได้


ตามสมการของบัญชีงบดุล คือ ทรัพย์สิน = หนี้สิน + ทุน


ทีนี้เราสามารถแตกออกลงไปได้อีก ทุน = ทุนจดทะเบียนหรือส่วนของความเป็นเจ้าของ + กำไรสะสม = ทุน + กำไรเดิม + กำไรใหม่


ทุน = ทุนจดทะเบียน + (รายได้ - รายจ่าย)


คำถามครับ ภาษีคิดจากตัวแปรอะไรครับ ย่อมต้องเป็นรายได้ หรือ กำไรสะสม ใช่มั้ยครับ


ทุนจดทะเบียน(หุ้น) เท่ากับ รายได้ หรือ กำไรสะสม เหรอครับ ตามสมการ


ไม่ใช่นะครับ คุณเอามาคิดภาษีไม่ได้นะครับ เพราะถ้าเมื่อไหร่คุณคิด ปัญหาแม่งจะเกิดทันที คือ สมการบัญชีซ้ายกับขวาจะไม่เท่ากัน


ซ้ายกับขวาไม่เท่ากัน คือ ปิดบัญชีไม่ได้นะครับ กลายเป็นปัญหาโลกแตกเลย


ดังนั้นการจะบอกว่าจะเก็บภาษีการเทรดหุ้น มันไม่ใช่การเก็บภาษีนะครับ "แต่มันคือการปล้นความเป็นเจ้าของนะครับ"


ดังนั้นโปรดเข้าใจว่า ภาษีจะคิดได้แค่จาก 2 อย่างเท่านั้น
1.บุคคลได้ คิดจากรายได้
2.นิติบุคคล คิดจากกำไรใหม่


ไม่ใช่คิดจากทุนหรือความเป็นเจ้าของ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: daily

ออฟไลน์ daily

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 398
  • ถูกใจแล้ว: 157 ครั้ง
  • ความนิยม: +8/-10
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 01:38:25 PM »
ใครได้ติดตามการประชุมภาวะโลกร้อน  อียูกับจีนกำลังคุยกัน  แถมอเมริกาก็เอาด้วย
ลองฟังดู  เกี่ยวกับภาษีมลพิษ  อ้อ  คณะกรรมธิการอีวีของไทย  ก็กำลังกำหนดกรอบ
ระยะเวลาลดลงจากเดิมเกี่ยวกับรถอีวีร้อยเปอร์ของไทย

ตอนนี้ไม่มีเวลาพิมพ์  เอาเนื้อๆย่อหน้าข้างบนไปค้นข้อมูลกันต่อเน้อ  ถ้ามีใครสนใจ
 

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,076
  • ถูกใจแล้ว: 1298 ครั้ง
  • ความนิยม: +48/-25
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 02:15:46 PM »
ภาษีหุ้นนี่แม้แต่บิตคอยก็ใช้เป็นเก็บภาษีจากค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนแทน
ตลาดหลอกเม่าเข้ากองไฟแบบนี้เก็บภาษีกำไรมาเม่าก็กระจายกันพอดี เจ้าก็โยกเงินไปที่อื่นแทน โบรกเกอร์ก็หนีตาม  ;D

ออฟไลน์ PokG

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,083
  • ถูกใจแล้ว: 388 ครั้ง
  • ความนิยม: +23/-16
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 02:30:26 PM »
[quote/]


ทราบมั้ยครับ ทำไมการซื้อขายหุ้นถึงไม่เสียภาษี และยังไงก็ไม่สามารถเสียภาษีได้ เพราะถ้าเสียภาษีหลักการบัญชีสากลของโลกจะพังเลยครับ


เพราะการซื้อขายหุ้นมันไม่เหมือนกับการขายของนะครับ อันนี้ต้องลงลึกลงในหลักบัญชีหน่อยนะครับ


หุ้น คือ ส่วนของความเป็นเจ้าของหรือทุนจดทะเบียน ไม่ใช่ รายได้นะครับ เหมือนกับที่ตอนนั้นเรื่องธนาธรดังหน่อย คือ หนี้สิน ไม่เท่ากับ รายได้


ตามสมการของบัญชีงบดุล คือ ทรัพย์สิน = หนี้สิน + ทุน


ทีนี้เราสามารถแตกออกลงไปได้อีก ทุน = ทุนจดทะเบียนหรือส่วนของความเป็นเจ้าของ + กำไรสะสม = ทุน + กำไรเดิม + กำไรใหม่


ทุน = ทุนจดทะเบียน + (รายได้ - รายจ่าย)


คำถามครับ ภาษีคิดจากตัวแปรอะไรครับ ย่อมต้องเป็นรายได้ หรือ กำไรสะสม ใช่มั้ยครับ


ทุนจดทะเบียน(หุ้น) เท่ากับ รายได้ หรือ กำไรสะสม เหรอครับ ตามสมการ


ไม่ใช่นะครับ คุณเอามาคิดภาษีไม่ได้นะครับ เพราะถ้าเมื่อไหร่คุณคิด ปัญหาแม่งจะเกิดทันที คือ สมการบัญชีซ้ายกับขวาจะไม่เท่ากัน


ซ้ายกับขวาไม่เท่ากัน คือ ปิดบัญชีไม่ได้นะครับ กลายเป็นปัญหาโลกแตกเลย


ดังนั้นการจะบอกว่าจะเก็บภาษีการเทรดหุ้น มันไม่ใช่การเก็บภาษีนะครับ "แต่มันคือการปล้นความเป็นเจ้าของนะครับ"


ดังนั้นโปรดเข้าใจว่า ภาษีจะคิดได้แค่จาก 2 อย่างเท่านั้น
1.บุคคลได้ คิดจากรายได้
2.นิติบุคคล คิดจากกำไรใหม่


ไม่ใช่คิดจากทุนหรือความเป็นเจ้าของ
อันนั้นคือการแถทางบัญชีของเจ้ามือเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายครับ ผมถามง่ายๆ เลยว่าทำไมซื้อขายที่ดินต้องจ่ายภาษีแต่หุ้นไม่ต้อง?
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 03:14:13 PM »
[quote/]อันนั้นคือการแถทางบัญชีของเจ้ามือเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายครับ ผมถามง่ายๆ เลยว่าทำไมซื้อขายที่ดินต้องจ่ายภาษีแต่หุ้นไม่ต้อง?


จริงๆ การซื้อขายที่ดินแบบไม่เสียภาษีก็มีนะครับ แต่มีเงื่อนไขเหมือนกัน คือ การขายที่ดิน หรือ อาคารพร้อมที่ดินโดยที่ไม่ได้มีจุดประสงค์กำไรตั้งแต่ทีแรก เช่น การขายที่ดิน+บ้านที่อยู่อาศัยเองมาแล้ว 5 ปี เรียกว่า "เงินได้จากอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ได้มุ่งหวังกำไร" และสามารถนำไปลดหย่อนขอคืนภาษีได้(เสียก่อนแต่ได้คืนทีหลัง ก็เหมือนไม่ได้เสีย)


https://www.itax.in.th/media/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87/


คือจริงๆ แล้วภาษีจากการเทรดหุ้น เขาก็เสมือนเก็บเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้เก็บตรงๆ เขาเก็บกับการหารายได้ของโบรกเกอร์ไงครับ และถ้าคุณออกกฎหมายเก็บภาษีตรงๆมันจะกลายเป็นการเก็บภาษีซ้ำซ้อน


ผมจะอธิบายง่ายๆนะครับ โบรกเกอร์เวลาเราเทรดหุ้น เขาจะเก็บค่า Commission ใช่มั้ยครับ ค่า Commission ตรงนี้เป็นรายได้ของบริษัทโบรกเกอร์ ดังนั้นรัฐจึงเก็บภาษีนิติบุคคลเงินได้ไปที่โบรกเกอร์


ดังนั้นเมื่อเราแตกค่า Commission จะได้ว่า
ค่า Commission = ต้นทุนการจัดการเทรดหุ้น + กำไรของโบร์กเกอร์ + ภาษีนิติบุคคลได้ของโบรกเกอร์ในรูปของภาษีหัก ณ ที่จ่าย + VATของโบรกเกอร์


จะเห็นว่าผู้เทรดหุ้น จะโดนผลักภาระทางภาษีของโบรกเกอร์มาใก้แก่ผู้เทรดหุ้นแล้ว


ดังนั้นการที่รัฐจะออกกฎหมายเก็บภาษีหุ้น ก็จะเท่ากับคุณเก็บภาษีซ้ำซ้อน คุณเข้าใจหรือเปล่า


มันจะกลายเป็น ราคาขายหุ้น = ราคาซื้อหุ้น + ค่า Commission(ที่มีภาษีนิติบุคคลได้ที่โบรกเกอร์ผลักให้ผู้เทรด) + ภาษีหุ้น กลายเป็นการเก็บภาษีซ้อน 2 ครั้ง


เกิดเป็นปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ซึ่งมันจะกลายเป็นแบบราคาน้ำมันบ้านเรา ที่แม่งเก็บซ้ำซ้อน มีทั้งภาษีนิติบุคคล มี VAT มี ภาษีกองทุนน้ำมัน มีภาษีสรรพสามิต


จนสุดท้ายความซวยตกแก่ผู้บริโภค ที่บ้านเราใช้น้ำมันแพงกว่าเพื่อนบ้าน 2 เท่า ภาษีหุ้นก็เหมือนกันครับ ถ้ามีภาษีหุ้นเดี๋ยวความซวยก็มาตกกับนักลงทุนรายย่อยแทนนายทุนรายใหญ่ เชื่อผมเถอะ


พอภาระภาษีตกกับนักลงทุนรายย่อยมากๆ ผมบอกเลยนะครับ คนธรรมดาจะไม่มีสิทธิลืมตาอ้าปากหรือมีอิสระภาพทางการเงินได้เลย(ปกติก็เป็นแสงสว่างในอุโมงค์อยู่แล้ว แต่จะกลายเป็นถ้ำตันเลย)


เวลาคิดภาษี ต้องคิดให้ลึกและมองให้รอบด้านครับ ว่าสุดท้ายภาษีมัน Chain กลับไปหาใคร เรื่องภาษีบางทีต้องเรียนกันถึงป.เอกกันเลยในการกำหนดนโยบายทางภาษี


ผมจะบอกอะไรให้ครับ ภาษีที่ควรเก็บจากนายทุนจริงๆ คือ ภาษีที่ดินครับ แต่ต้องมีการยกเว้นภาษีที่ดินให้แก่ผู้มีรายได้เกินกว่า 51% ของรายได้ทั้งหมดเกิดจากการขายผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น


ถ้าเรามองที่ดินก็คือทรัพยากรอย่างหนึ่ง เวลานายทุนจะ Generate รายได้ ย่อมต้องสร้างโรงงาน หรือ ขยายสาขา ถูกมั้ยครับ ดังนั้นตัวแปรสำคัญที่สุดก็คือที่ดินครับ


แต่ปัญหาหนึ่งก็คือ เกษตรกรเองก็ต้องใช้ที่ดินมากเช่นกัน แต่เกษตรกรเป็นผู้ผลิตสินค้าลำดับแรก(ปฐมภูมิ) ดังนั้นจึงควรมีการยกเว้นภาษีที่ดินแก่เกษตรกร


ดังนั้นพวกนายทุนที่มีโรงงาน หรือ โรงแรมมากๆ ก็จะโดนเก็บมากครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ daily

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 398
  • ถูกใจแล้ว: 157 ครั้ง
  • ความนิยม: +8/-10
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 04:12:09 PM »
[quote/]


โอเคตรง vat ผมเข้าใจแต่สมมติว่าออกกฏหมายห้ามผลักภาระให้ผู้บริโภคเพียงคนเดียวแบบนี้จะเป็นยังไงครับ




อ้อเพิ่มเติมหน่อยตอนนั้นอาจจะพิมละเอียดไม่พอตรงที่ว่าบริษัททำธุรกิจนั้นปล่อยมลภาวะเยอะย่อมกำไรเยอะแล้วก็เก็บภาษีเยอะซึ่งผมมองว่าตรงนี้มันเป็นการประเมินแบบลวกๆว่ากำไรเยอะก็คือใช้ทรัพยากรเยอะดังนั้นคุณต้องจ่ายภาษีเยอะ


โดยส่วนตัวผมว่าควรมีการสร้างค่าที่วัดได้เป็นมาตราฐานออกมาเช่น มาการวัดมลภาวะที่โรงงานปล่อยออกมาและเก็บภาษีตามมลภาวะที่ปล่อยออกมาแบบนี้จะป็นการทำให้สอดคล้อง กับคำพูดที่ว่าใช้ทรัพยากรเยอะมากกว่าไหมครับและอีกอย่งคำว่าใช้ทรัพยากรมากมันต้องชนิดธุรกิจด้วยไหมเช่น ทำธุรกิจเขียนโปรแกรมผมว่าธุรกิจกลุ่มนี้น่าจะใช้ทรัพยากรน้อยนะเพราะว่ามีแค่ เน็ต คอม ไฟฟ้า สถานที่ที่ไม่ต้องกว้างขนาดโรงงาน ทำเค้าเสียภาษีเยอะเค้าไม่ได้ปล่อยมลพิษเลยนะ???


ปล.ถ้าตรงไหนผมเข้าใจผิดชี้แจงได้นะครับ 5555+

ตอบคำถามบรรทัดแรก 

VAT  ชื่อเต็มๆมันคือภาษีมูลค่าเพิ่ม  ไม่ใช่เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคเพราะมันเป็นการจัดเก็บภาษี
โดยการบริโภค  ใครบริโภคเท่าไรก็จ่ายเท่านั้น  ถ้าอยากเสียน้อยก็บริโภคน้อย


บริษัทปล่อยมลภาวะเยอะจะกำไรเยอะก็เลยจัดเก็บภาษีเยอะมันไม่ใช่นิ??  มันแล้วแต่หมวดหมู่บริษัท
เช่นโรงงานหนัก  โรงงานเบา  การสร้างผังสีต่างๆอณุญาตให้โรงงานเบาอยู่ในพื้นที่เกษตรได้ด้วยซ้ำ
อุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ปล่อยมลพิษ  เขามีภาษีสิ่งแวดล้อมหลายตัวคอยเก็บ  ซึ่งเขามีสูตรคำนวณ
ตามมาตรฐานสากล(แต่การปฏิบัติแบบไทยๆก็อีกแบบนึง) 

ภาษีสิ่งแวดล้อมมีหลายตัวมากเลยนะ  อย่างพวกรถยนต์  มอร์ไซค์ก็เสียภาษีสิ่งแวดล้อมโดยเก็บจาก
น้ำมัน  โดยหลักการ  PolluterPaysPrinciple:PPPเป็นหลักการที่ว่า “ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย”
และรถแบบใหม่จะเสียภาษีรายปีโดยดูที่มาตรฐานปล่อยก๊าซซ้ำอีกภาษีนึง


เพราะงั้นในย่อหน้าสุดท้ายของท่าน  สิ่งนี้จึงช่วยตอบคำถามว่า  พวกเขาไม่ได้เสียภาษีสิ่งแวดล้อม
หรอกนะ  แต่ธุรกิจพวกนั้นก็ต้องย่อมเสียภาษีอื่นๆอยู่ดี 
 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 04:24:49 PM »
@name123


สรุปว่าคุณอยากพูดว่าการเก็บภาษีคนรายได้สูงเยอะคือที่ถูกต้องใช่ไหมครับ ????????

ตัดคำว่าคนรวยคนจนออกจากความคิดไปก่อน  แล้วดูที่เป้าหมายหรือหน้าที่ของภาษีประเภทต่างๆ
ดูโครงสร้าง  ดูความเป็นมาของภาษีใดๆ  ว่ามันมีที่มายังไง  ภาษีแปลกๆที่เรียกเก็บในหลายประเทศ
ก็มีนะ  แต่มันมีที่มา 

คำว่าภาษี  มันคือเครื่องมือรัฐอันนึง  ก็แค่นั้น  มีคำกล่าวห้วนๆที่ว่า  [ถ้าไม่อยากเสียภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาเยอะ  ก็ไม่ต้องมีเงินได้เยอะ]  ถ้าเห็นว่าไม่คุ้ม  ก็ไม่ต้องทำงานเพื่อมีเงินเพิ่ม  คำห้วนๆนี้
ไม่ใช่คำลอยๆนะ  แนวความคิดนี้ผู้คนในอียูเข้าใจแนวความคิดนี้  เพราะงั้นเราจะเห็นว่าเมื่อพวกเขา
ทำงานครบ  เมื่อมีจำนวนวันหยุด  ประชาชนของเขาจะมีแนวคิดที่ว่า  ฉันจะไม่ทำงานเพิ่มแต่จะเที่ยว
จะอยู่กับครอบครัว  ฉันจะทำงานเพิ่มเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเยอะไปทำไม  ในเมื่อก็มี
สวัสดิการตอนแก่  เอาเวลาว่างๆไปพัฒนาคุณภาพชีวิต  คุณภาพครอบครัวดีกว่า  เอาเวลาไปดูแลลูก



นี่คือเครื่องมือนึงในการให้ประชาชนประเทศเขา  แบ่งเวลาให้ครอบครอบ  ให้งานอดิเรก  ให้ใช้จ่ายเงิน
กระจายรายได้  ให้ไปเปิดหูเปิดตาเพื่อพัฒนาความคิดครีเอทจากการได้ไปท่องโลก  เอาง่ายๆ  ย้ำอีกที
ภาษีคือหนึ่งในเครื่องมีรัฐ  ที่นุ่มนวลที่สุดอันนึง  ถ้าไม่อยากรวยมีฐานภาษีเยอะ  ก็ไม่ต้องรวย  เอาเวลา
ที่คิดจะหาเงินไปทำอย่างอื่นนะท่าน  แต่ถ้าท่านเห็นว่าคุ้มที่จะจ่าย  ก็ทำงานหาเงินตามฐานภาษี
 

ออฟไลน์ daily

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 398
  • ถูกใจแล้ว: 157 ครั้ง
  • ความนิยม: +8/-10
Re: อยากขอถามเรื่องแนวคิดการเก็บภาษีหน่อยครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: เมษายน 22, 2021, 04:38:25 PM »
[quote/]อันนั้นคือการแถทางบัญชีของเจ้ามือเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายครับ ผมถามง่ายๆ เลยว่าทำไมซื้อขายที่ดินต้องจ่ายภาษีแต่หุ้นไม่ต้อง?

เพราะกฏหมายไม่บัญญัติให้เก็บ  ถ้างั้นก็ให้บัญญัติมา  จำคดีที่ทักษิณโดนได้มั๊ย  ที่หาว่าเลี่ยงเสียภาษีหุ้น

หุ้นหน่ะ  ถ้าขายนอกตลาดที่รัฐให้ทำการเทรด  จะต้องเสียภาษีเหมือนสินค้าประเภทอื่นๆ  ดังนั้นถ้ามีหุ้นหล่ะก็
และไม่อยากเสียภาษีหล่ะก็  ให้ทำการเทรดที่ตลาดหุ้นซะ  อย่าไปขายนอกตลาดหุ้น
  //ส่วนคดีภาษีหุ้น
ขอทักษิณไม่ขอท้าวความ  เดี๋ยวกระทู้ออกทะเล  มันก็แค่การเมือง


สรุป  หุ้นหน่ะในตอนเริ่มต้นตามหน้าประวัติศาสตร์ของภาษี  มันมีการจัดเก็บ  และปัจจุบันก็ยังจัดเก็บอยู่
แต่ต่อมาในหน้าประวัติศาสตร์  ได้มีการจัดตั้งตลาดหุ้นขึ้น  เพื่อให้เกิดการเทรด  เกิดความคึกคัก  รัฐจีง
ได้มีนโยบายเพื่อส่งเสริมการเทรดในตลาดหุ้นเพื่อสร้างแรงจูงใจ  ให้นำธุรกิจมาเข้าตลาดหุ้น  เพื่อจูงใจ
ให้มาระดมทุนในตลาดหุ้น  จึงได้ตั้งกฏแบบนั้นขึ้นมา  แต่ถ้ายังทำการซื้อขายหุ้นในรูปแบบเดิม  ก็จะ
ต้องเสียแบบเดิมแม้ยุคปัจจุบัน


ภาษีทุกภาษีมีที่มา  และภาษีทุกภาษีมีหน้าที่หลายอย่าง  การสนับสนุนในด้านภาษีก็มีมากมาย  ถ้าให้
ยกตัวอย่างชัดสุดก็  BOI  การชักจูงให้เข้ามาทำธุรกิจโดยจูงใจด้วยภาษี  หุ้นก็ได้มีการสร้างแรงจูงใจ
ด้วยการถ้าเทรดหุ้นในตลาดจะไม่เสียภาษี  (แต่เมื่อนำกำไรออกนอกตลาด  จะถูกจัดเก็บภาษี  เพราะงั้น
คนที่เทรดหุ้น  ก็เสียภาษีอยู่ดี  แต่ไม่ได้เสียภาษีซื้อขาย  และถ้าเมื่อไรดึงทุนออกนอกตลาด  ถ้าขาดทุน
ก็ไม่ต้องเสียภาษี  ถ้ากำไรก็จ่ายภาษีเช่นกัน  ไม่ใช่ไม่เสีย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2021, 04:56:03 PM โดย daily »
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก