ก็แค่ประมาณว่า
1.ตัวละครฝ่ายนักเรียนเด่นๆ
1.1 จ๊าบ(จักรภพ) ลูกสารวัตรอานันท์และคุณนายสิริภรณ์ เป็นแฟนโบว์ นิสัยโรคจิตนิดๆ หื่น เกเร
1.2 โบว์(เบญจมาศ) ชอบเล่นปิงปองมาก และด้วยนิสัยเสีย นางมักจะเอาไปปาหัวคนที่ตัวเองรังแก
1.3 โรจน์(ธนรัชต์) นักเรียนชายเจ้าชู้ผู้ตกสาวเป็นฮาเร็ม บางครั้งดับเบิลหมีเห็นแม่แฟนสวยก็แอบเอาแม่ด้วย
1.4สิน(ศิวลักษณ์) เป็นนักเรียนนิยมของเก่ารุ่นคุณปู่ทั้งเพลงที่ฟัง การแต่งตัว รสนิยมการแต่งห้อง ฯลฯ แต่ความคิดทันสมัยเหมือนมาจากอีก 20 ปีข้างหน้า เคยโดนเรียกเข้าห้องปกครอง 4 ครั้งเพราะค้านบทเรียนที่ดูไม่ค่อยถูกต้อง คือครั้งแรก ค้านว่ามีอารมณ์ทางเพศไม่ใช่ให้ไปเตะบอล แต่ต้องช่วยตัวเอง ครั้งต่อมาก็ท้องแต่ไม่พร้อมควรทำแท้งไม่ใช่ให้รับผิดชอบ , ประวัติศาสตร์ควรหลากหลายไม่ใช่เอาข้อมูลด้านเดียวมาสอน , เพศที่สามไม่ใช่อาการทางจิต ตามลำดับ
2.ตัวละครฝ่ายครูเด่นๆ
2.1 ครูลีน่า(นวลละออ) เป็นคนปากจัดมาก แต่ก็หวังดีกับโรงเรียน เป็นตัวละครที่ด้านดีและด้านเสียเด่นชัดพอๆกัน
2.2ครูอลิซาเบธ เป็นครูชาวต่างชาติที่หวังดีกับโรงเรียนอีกคน และรู้ความลับของโรงเรียนจนโดนปองร้ายถึง 4 ครั้ง
2.3 ครูชวน ปัจจุบันเป็นบรรณารักษณ์ห้องสมุด อดีตครูฝ่ายปกครอง เคยเป็นเบื้องหลังปล่อยหมากัดกลุ่มเพศที่สามที่ออกมาประท้วงเมื่อหลายปีก่อน(นักบาก พศ.2540ในเรื่อง) และในปี2542 ก็แอบเสนอกับคณะกรรมการนักเรียนให้ใช้แผนนี้กับพวกประท้วงความไม่เป็นธรรม
2.4 ครูเมธา (แปลว่ารอบคอบ แปลจากภาษาอังกฤษก็โพรวิเดนซ์) เป็นพวกมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเลวหมดควรตายไปเพื่อโลก เป็นไซโคพาธ มักละเลยนักเรียนที่โดนรังแก แอบเป็นผัวน้อยครูปกครองสาวๆ ในอดีตเคยต่อยกะเทยที่เรียกร้องสิทธิเพราะแค่หมั่นไส้ แต่ทางโรงเรียนไม่เอาความเพราะเคยสร้างชื่อเสียงด้านวิชาการ
2.5 ศึกษาธิการอินทิรา เป็น ศก คนใหม่วัย 50 กว่าที่เข้ามาตอนปี2542 เข้ามาปฏิรูปอย่างแท้จริงจนกรุยทางให้ ผอ.คนใหม่ที่จะเดินเรื่องต่อใน Part ช่วง พศ.2544-2549 ได้ทำงานสบายขึ้น ทั้งนี้ ศก คนใหม่นี้ในอดีตเคยเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ม๊อบ 14ตุลา2516 สมัยเป็นวัยรุ่นอีกด้วย
ไม่ได้อิงการเมืองจริงจริ๊งงง
อย่าลืมเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่สุดของการเขียนตัวละคร นั่นคือพัฒนาการของตัวละคร ตัวละครแต่ละตัวต้องมีการเจริญเติบโตในด้านความคิด, โลกทัศน์และทัศนคติเปลี่ยนแปลงไปตามลำดับและสิ่งแวดล้อม
ยกตัวอย่างกรณี สิน ตัวละครตัวนี้ไม่ควรเป็นสายรู้มากมาตั้งแต่แรก แต่ควรจะมีพัฒนาการการเรียนรู้ของเขาตามลำดับ ผ่านการเห็นโลกทัศน์ของบริบทของสังคมที่อยู่รอบตัวเขา และจึงตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ
หรือ พูดง่ายๆ คือ Before-After
ผมอยากให้คุณลองเอาคอนเซปตัวอย่างตัวละครจาก Attack on Titan เช่น เอเรน อามิน และ แจน คุณจะได้เห็นว่าภาคแรกจนถึงภาคสุดท้ายตัวละครเหล่านี้มีพัฒนาการทางความคิดที่เปลี่ยนไปจากในตอนแรก
เอเรน
Before เป็นเด็กที่ออกแนวซ่า ร่าเริง ท้าชนทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อสิ่งที่เขาเชื่อ เกลียดความอยุติธรรม รักเสรีภาพสุดหัวใจ และความรักที่มีต่อเพื่อนพ้องของเขาอย่างเปิดเผย
After เปลี่ยนเป็นบุคลิกเงียบขรึม เย็นชา ไม่ร่าเริงเหมือนเก่า แบกรับทุกสิ่งเอาไว้บนบ่า สิ่งที่เขาเชื่อยังเหมือนเดิม แต่เขารู้ว่าการจะได้สิ่งนั้นมาจำเป็นต้องมีการเสียสละ และด้วยความรักที่มีต่อเพื่อนพ้อง เอเรนเลือกที่จะเสียสละตนเองเพื่อให้ตนเองเป็นสิ่งที่ทั้งโลกมองว่าคือความชั่วร้าย ขณะเดียวกันก็สร้างให้อามินคือฮีโร่ผู้ปราบสิ่งชั่วร้ายและเกิดเสรีภาพและสันติภาพอย่างแท้จริง ผ่านบทเรียนความเจ็บปวดที่คนทุกคนบนโลกได้รับ
อามิน
Before เป็นเด็กที่ขี้กลัว ต้องพึ่งพาเอเรนกับมิคาสะตลอด มีความคิดที่คิดลึกซึ้งและนอกกรอบ แต่บางครั้งก็ขาดความรอบคอบ
After อามินกลายเป็นเด็กที่กล้าหาญมากขึ้น แบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น ทำให้ความคิดของเขารอบคอบมากขึ้นในการประเมินแต่ละสถานการณ์
นี่คือตัวอย่าง
อย่างกรณีของสิน ความคิดและอุดมการณ์จะต้องมาจากตัวเอง ไม่ใช่เกิดจากการหยิบยืมคนอื่นมา และการที่จะมาจากตัวเองได้นั้น นั่นหมายความว่า เขาจะต้องได้พบ ได้เห็น ได้ยิน รวมถึงได้เรียนรู้จากสิ่งที่เขาได้เผชิญ หรือ เกิดกับคนที่เขารัก หรือครอบครัว พูดง่ายๆ สินจะต้องมีปมในใจที่ทำให้เขาศึกษาเรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา
จำไว้เลยว่า สิ่งที่ทำให้มนุษย์คนหนึ่งมี Motivation ที่ขับเคลื่อนมนุษย์ให้เดินในสิ่งที่เขาเชื่อ มันมีแค่ 2 อย่าง หนึ่งคือ "ความรัก" สองคือ "ความโกรธ"
"เพราะว่าฉันกลัว ฉันจึงลุกขึ้นมาตั้งคำถาม
เพราะว่าฉันโกรธ ฉันจึงลุกขึ้นมาตั้งคำถาม
เพราะว่าฉันโดนกด ฉันจึงลุกขึ้นมาตั้งคำถาม
เพราะว่าฉันโดนเหยียบ ฉันจึงลุกขึ้นมาตั้งคำถาม"
ท่อนเพลงหนึ่งของเพลง "ถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง" Part 1 ลมหายใจ