ฝรั่งสมัย ร.3 ได้กล่าวไว้

[thetoy323]

ขาดความรู้ก็ว่าแย่แล้ว แต่พอรวมกับขาดความทะเยอะทะยานนี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

[deaddy]

ถ้าพูดถึงเคยใช้ชีวิตรากหญ้าไหม
สมัยเด็กๆผมโดนไปทิ้งให้ย่าเลี้ยงนะเออ


สภาพก็ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง น้ำใช้สูบแบบมือโยก
เตาใช้เตาถ่าน บ้านเป็นพื้นไม้ กำแพงเป็นใบไม้หนีบด้วยไม้ไผ่ หลังคาสังกะสี


กับข้าวดีที่สุดคือไข่เจียว บ่อยครั้งเจอไข่มดแดง
ลาบเลือดสด และปลาร้าหนอนดิ้นบนจาน
สมัยนั้นถ้าไม่มีไข่คงอดตาย


ส่วนการจับปลาหรอ มอง ไซ สุ่ม ไรพวกนี้นี่แหล่ะ
เดี๋ยวผู้ใหญ่ก็พาไปจับแล้วก็มาขังไว้ในคุถัง


กลางคืนก็จุดตะเกียง


นี่ขนาดปัจจุบัน ถนนก็ยังเป็นลูกรัง น้ำประปาเข้าไม่ถึง
แต่ไฟฟ้าถึงละ


ครอบครัวด้านปู่ผมนี่ ลูก 8 คน โตมาจากหาบน้ำไปรดน้ำต้นไม้เลยนะเออ ไปเรียนกันด้วยเสื้อเหลืองๆ
มาวันนี้ คนที่จนที่สุดน่าจะเป็นพระ รองลงมาเป็นอดีตเมียตำรวจ แกเรียนไม่จบเพราะได้ผัว
แต่ลูกคนอื่นๆจบตรีกันเกือบหมด
อีกคนที่ไม่จบก็เป็นอดีตนศ. คณะ เภสัท ทันตะ วิศวะ
คือแกสอบเข้าได้ แต่ ตกวิชาแลปรึไงนี่แหล่ะไม่อยากถามเค้า เหลืออีกไม่กี่ตัวก็จบละ สุดท้ายออกมาทำงานเป็นนายหน้าขายที่ดิน เห็นว่าขายที่ได้เป็นหลักพันล้านเลย
บ.เมียแกด้วยนี่สิ คงได้ไปหลายอยู่


ส่วนใน 8 คนๆที่น่าจะมีทรัพย์สินเกิน 10 ล้าน
มีราวๆ 4 คน แต่ไม่ฟันธงนะ เพราะหลายคนอยู่ในรูปแบบอสังหา


อย่างคนที่ผมรู้ชัวๆ ที่ดินที่เค้ามีเกิน 30 ล้านแน่ๆ 
เพราะดูที่จำนวนไร่กับ ราคาประเมินก็รู้ละ


เนี่ยครอบครัวเกษตรกรจนๆ ถึงจะไปไม่ถึงระดับเศรษฐี
แต่ก็สร้างตัวจนมีทรัพย์สินหลักล้าน หลักสิบล้านได้


แล้วครึ่งนึงในกลุ่มเป็นข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจ
แต่ก็มีตังใช้ชิลๆเลบนะเออ


ถ้าใครจะว่าผมไม่เข้าใจคนจนก็คงจะใช่
เพราะขนาดผมเงินเดือนไม่กี่หมื่น เพื่อนที่เงินเดือนเท่าๆกันเดือนชนเดือน แต่ตอนผมไปดูย้อนหลัง
6 เดือน ปรากฏว่า ผมเก็บเงินได้ถึง 61%ของเงินเดือน    
นี่นับเฉพาะ บัญชีเงินเดือนนะ


ส่วนบัญชีลงทุน 1 ปี กำไรไปถึง 1.38 เท่าของเงินเดือนทั้งปี


แล้วอย่าคิดนะครับว่าเงินเดือนผมเยอะเลยเหลือเก็บ
ขนาดหัวหน้าผม ยังเดือนชนเดือนกันเลย  


บางคนถึงขนาดทำงานนอกหาตังด้วยก็ยังเดือนชนเดือน


เพราะงั้นใครที่คิดว่าเริ่มต้นมาจนแล้วจบ
ก็ควรคิดใหม่ได้นะครับ


เพราะผมเจอเยอะมากคนที่มีเงินเดือนไม่กี่หมื่น
แต่หางานนอกทำได้มากกว่าเงินเดือนหลายเท่า


หรือคนที่เรียนจบตรีไม่นาน แล้วไปทำการเกษตร
แล้วมีตังหลายล้านได้ในไม่กี่ปี

บอกเลย ถ้าอยากรวยหรือมีตังเหลือเฟือให้คบคนรวย
ไม่ใช่ไปคบลูกคนรวยที่ทำเป็นแต่ผลาญเงินนะ


คือพวกที่รวย หรือบ้านรวย ลูกนักการเมือง รึข้าราชการใหญ่ๆ
เขาจะมีคำสอนในครอบครัวเค้าอยู่ มีคำแน่ะนำต่างๆ


ขนาดผมไปกินข้าวกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดๆนึง
ถึงจะไม่ได้สนิทกันเค้ายังเล่าให้ฟังเลยว่าเค้ารวยได้ยังไง
แน่นอนว่างานนอกที่ไม่ผิดกฏหมาย แต่เป็นช่องว่างของกฏหมาย


ดังคำสุภาษิตที่ว่า คบคนจน.....เอ๊ยคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต.....


ตอนนี้เลยได้สูตรใหม่ แต่ยังไม่ได้ใช้
อยากได้เส้นให้ไปเรียนซะ อยากได้เส้นแบบไหนก็ไปเรียนด้านนั่นซะ
เพราะคนที่สนใจก็จะไปเรียนเดี๋ยวก็เจอๆกันได้เส้นเอง

[sariora123]

^


สภาพ คนเราต่างกันในแต่ละรายบุคคล


ถ้าคิดว่าคนเราเหมือนกันได้หมด ให้รวยได้ครึ่งนึงของทักกี้ ทำได้ไหม ?


หรือล่ำให้ได้เท่าประกวดชายงามทำได้ไหม ?  แน่นอน คำตอบคือไม่


เสี่ยอิชิตันยัง บอกไว้ย่ำหลายรอบว่า  ทำแบบแกมี เป็นร้อย รวยเท่าแกได้มีกี่คน ?


ขยันไม่ถูกเรื่องทำให้ตายก็ไม่มีตังเก็บอ่ะนะเห็นมาเยอะ
และผมก็ไม่ค่อยเจอคนมีฐานะด้วยซ้ำ ไอ้คนทีมีฐานะแถวๆ บ้านก็นะ อย่าให้นินทา


หรือแม้แต่น้าที่หาตังได้ปีละเป็น10 ล้าน แต่ตอนนี้ทรุดล่ะทำไร่ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน
ไอ้วิธีที่แนะนะมานี้ คิดดูแล้วทำไปดันไปเองไม่ได้สักเรื่อง เคยอวดเก่งมาทำไร่แถวบ้าน
เจ๊งจนต้องกลับไป อยู่ที่เดิมเพราะมันทำไม่ได้


ผมเองเคยมีเงินเก็บ 6 หลัก ของใหญ่ที่เคยซื้อคือ  NSW PS4 มือถือ 3700(ซื้อตอนลด) คอมเล่าหลายรอบแล้วว่ายังใช้ intel gen4 อยู่เลยนะ
เงินตอนนี้เหี้ยนมาจนจะหมด เพราะเศรษฐกิจ กับอุบัติเหตุหลายรอบ อย่างน้อยๆ ก็ 4 ครั้งอ่ะ   ทุกวันนี้ที่เห็นในหมู่บ้านพวกที่มีฐานะหน่อย เขาไม่ยอมบอกกันว่าทำกันอีท่าไหน แต่ถ้ามีสติ สังเกตุดูได้ คือเครื่องมีหนัก หากมีเครื่องมือหนัก อยู่มันก็ทำได้เยอะขึ้นไปเพียบ
เรื่องหาเงินไม่พูดถึงแต่เรื่อง ไปประท้วงกันช่วงไหนยุคไหน คุยกันสนุกดี ไปมาหลายรอบ  บางคนเห็นไปจะบ้านมีค่อนข้างฐานะ พาซะแทบเจ๊ง 


จะว่าไปคนระดับเดียวกันที่เคยเห็นมา มีแต่ตั้ง เคยไปทำงานเมืองนอก จนไปถึงพ่อค้าพลอย ก็เคยเจอ ตอนนี้เป็นยาม 
คิดว่าหลักสูตรความสำเร็จมันคืออะไรล่ะครับ ?



EDIT
คนเราไม่เท่ากัน ได้มาไม่เท่ากันมันมีส่วนจริงอยู่นั่นแหละ
เคยเห็นคนต้มเหล้าป่าไหม ไอ้เราก็หวังดีเพราะมันชอบเอากาม็อคโซนทาก้นกระทะ กับเทใส่ตอน หัวๆ มันไม่ออกมาแล้ว มันบอกว่าใส่แล้วเหล้าออกมาดี

ไอ้กูก็บอกตามหลักวิทย์แป๊ะ ว่า เหล้าน่ะหมักให้ตายยังไง เยอะสุดมันมีแค่ไม่เกิน 20%(เหล้าหมักสาเกยุ่น เยอะสุด 22%)    สรุป 10 ลิตรหัวๆ มันมีแค่ 2 เท่านั้นแหละนอกนั้นก็น้ำเปล่า   

ยังเสือกเถียงว่า ก็ใส่แล้วมันออกมาดี
 ไอ้ที่ออกมาน่ะ ยาฆ่าหญ้าโว๊ย สัด
คนเรามาไม่เท่ากัน 

เพิ่มอีกนิด
ในตลาด ก็มีคนหนีหนี้มาทำมาค้าขายจนรวยก็มีเหมือนกัน


วกกลับเข้ามาในประเด็น ความอุดมสมบูรณ์ของบ้านนี้เมืองนี้
ประเทศนี้มันไม่ได้ อุดมสมบูรณ์อย่างที่ใครๆ เขาคิดกันหลอกนะ ถ้ามันดีจริงขนาดนั้น มันก็ต้องมีเหลือกินเหลือเก็บกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ความจริงกลับไม่ใช่
มันอยู่ในระดับที่ คนเราสามารถเอาตัวรอดได้ไม่ยากอะไรนัก
แต่การจะดึงความอุดมสมบูรณ์จริงๆ ออกมานั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมี ความรุ้

เคยเล่าไว้หลายรอบแล้วว่าแถวบ้านที่ดินมี แต่ไม่ค่อยปลูกอะไรมากนัก เพราะปลูกแล้วมันไม่งาม ดินมันเปรี้ยว คำนวน การปรับสภาพดิน แล้วมันไม่คุ้มค่าผักที่เก็บได้ด้วยซ้ำ  ไม่ใช่ว่าคนเขาขี้เกียจ แต่ปลูกแล้วมันไม่ได้เรื่องต่างหาก
ล่าสุด มีเซลขายปุ๋ยมา เอาปุ๋ยแก้ดินเปรี้ยวมาขาย ลองไว้กระสอบนึง
 ผลคืองามสึดๆ  พริกแม่งใบใหญ่เป็นใบคะน้าเลยเฮ่ย   บ.นี้แม่งทำการบ้านมาดี
รู้ว่าแถวนี้ดินเปรี๊ยว


เอาง่ายๆ


วัฒนธรรมการกินของคนในหลายๆ พื้นที่ มันบ่งบอกได้ว่า มีอะไรเหลือกินหรือไม่
คนไทยเรากินของที่ปกติ แล้ว ไม่ค่อยเป็นที่นิยม หรือด้วยสามันสำนึกปกติเขาไม่ได้กินกันแน่ๆ   ถ้าเห็นแล้วมีของทำนองนี้ล่ะก็


เคยสงสัยใหม่ว่า ถ้าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว   เราจะไปขวนขวายหาของประหลาดๆ มากินเพื่ออะไร  ในเมื่อมีปู ปลา ข้าว หมู ไก่ ไข่ เนื้อวัว 

สมัยเด็ก ๆ นี่เคยมาเยอะแหละนะ ปลาเค็มมอดเจาะ กิ้งก่า ตุ๊กแก งู
ไม่กิน หมา กับ ลูกอ๊อด นี่แหละ

ดินแดนนี้มันบักเยอะ แต่บางทีคนเราไม่ได้สังเกต


อีกเรื่องอันนี้ฟังๆ มาไม่ได้รู้อะไรมากนัก แม้แต่ในประวัติศาสตร์เองก็มี BUG
อจ.ที่พูดตายไปนานแล้ว แต่แกพูดไว้ในเชิงตั้งข้อสงสัยใน ปวศ.ไทย โดยให้ข้อสังเกตในเรื่อง ปีของเหตุการต่างๆ ในยุคโบราณ และในบางช่วง
ประมาณให้เทียบกันโดยละเอียดในปีของเหตุการณ์ต่างๆ จะเจอข้อสงสัย
 

[deaddy]

สูตรความร่ำรวยเรอะ ลองไปดูสิพวกเศรษฐีล้มละลาย
หรือมหาเศรษฐีล้มละลาย แปบๆก็กลับมารวยแล้ว


ขนาดญาติผมล้มละลายตอนนี้ยังกลับมามีกิจการกลับมาเริ่มจะรวยใหม่เลย


คนที่รวยเพราะเก่งก็มี เพราะดวงก็มี
บางคนหาตังเก่ง แต่ใช้ไม่เก่งก็มี


สูตรหลายอย่างได้มาอย่างเดียวก็รวยได้
แต่พอเวลาเกิดปัญหา หรือเวลาผ่านไปก็ใช้ไม่ได้


เพราะดูนโยบาย ของธนาคารยังเปลี่ยนเลย
คนสมัยก่อนฝากเงินทีได้ดอกปีละ 10%
ปัจจุบันดูสิเหลือเท่าไหร่
แต่ก่อนมีคนเจอตัวเลขดอกเบี้ยเงินฝากประเทศนึง
สูงกว่าดอกเงินกู้อีกประเทศนึง


ถ้าทำเงียบๆมันรวยช้าไป แม่มก็เอาไปป่าวประกาศ
ทำตัวเป็น ผจก.กองทุน รวมตังคนอื่นไปลงทุน
รวยเร็วจริง แต่แม่มก็โดนเล่นสิครับ
ถ้าจำไม่ผิดเห็นว่าโดนยึดทรัพย์ แต่เห็นว่ากลับมารวยใหม่ละ


อย่างผมเห็นคนโพสๆประสพการณ์ตัวเอง


เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ลดต้นลดดอก กับแบบทบต้น
ME้ไปลงทุนเสี่ยงต่ำที่ได้ดอกการันตี 6%
ต่อให้ME้มาด้วยดอก 9% ยังกำไรเลย
แต่ก็แน่นอนว่ากำไรแค่ไหนไปกดเครื่องคิดเลขเอานะ


อย่างผมไปคุยกับเพื่อนๆก็ทำ  ไปซื้ออสังหาปล่อยเช่า
แล้วค่าเช่ามากกว่าเงินผ่อนที่ต้องส่งธนาคาร
แถมอสังหาราคาปรับตัวขึ้นอีก
คือถ้ามันกู้เป็น 100 ล้านได้มันคงรวยไปละ


ผมก็จะทำแต่ไม่รีบเอาอยากได้ส่วนลด เลยของหมดก่อน ไม่งั้นก็ได้เครื่องปั้มตังฟรี 1 ea ละ


แต่เพราะโควิด ก็เลยได้ไปลงทุนอีกอย่างแทน
ผลตอบแทนก็สวยกว่าด้วยซ้ำ


คือที่คนว่า ตังล้านแรกหายากที่สุดน่ะโครตจะจริง
ตอนผมกว่าจะได้ทรัพย์สิน 1 ล้านนี่โครตนานเลย
แต่จาก 1->2 ล้านโครตไว


วิธีหาตังก็ตามสูตรทั้งนั้น มีขายตามร้านหนังสือ
วางขายทั่วประเทศ มีตามช่อง youtube คนไทยทำก็เป็นสิบๆช่อง


แต่สูตรไหนเหมาะกับใครยังไง ก็ต้องเลือกเอา
หลายคนยอมเปลี่ยนงานไปทำงานที่ได้เงินเดือนน้อยลงเพื่อความสะดวกในการหาลำไพ่พิเศษเลยด้วยซ้ำ




https://brandinside.asia/us-worker-find-a-new-job-if-employer-not-accept-hybrid-work/

[sariora123]

เอาจากประสปการส่วนตัวนะ เรืองดอกเงินระหว่างประเทศ


ใกล้ๆ ตัวพอควรแต่ไม่ใกล้มาก ปีก่อนได้ยินเรื่องยึดทรัพย์แถวๆ อีสานไหม
1000 ล้านนั่นส่วนน้อยที่เขาทำกันนะ


ส่วนปล่อยเช่าอสังหา นี่เห็นบางคนก็ไปได้บางคนก็เละเพราะโดนบ.เจ้าของโครงการบรรลัย
หรือผุ้เช่าบรรลัย ยังเคยแนะนำข้อกฏหมายที่รู้ให้ไป  ใจไม่เหี้ยม ไม่ค่อยแนะนำเลยด้วย


ส่วนเรื่องคนมีฐานะคอยแนะนำ ผมก็รู้จักไม่กี่คน   แต่ส่วนใหญ่ส่ายหน้าไว้ก่อน
คนที่พอคุยได้นั่นออกแนวทำงานหนักจนมีฐานะซะมากกว่า
นอกนั้น คุยอวดรวย อวดตัวเองทั้งนั้น 


เจ้ผมเคยเล่าแล้วนะว่า ไอ้ที่บอกว่าถ้าเงินบัญชีปีล่ะไม่เกิน 2 ล้านไม่โดนตรวจสอบ
แกบอกว่า ธนาคารละบัญชีทุกธนคารในไทย นี่เต็มวงเงิน 2 ล้านเดือนเดียว แกหมุนเงินโครตเยอะ แต่กำไรน้อยมากข้อดี คือ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่หูตาไว สัญชาติญาณดีไว้ก่อนเหมือน เงินงอกมาเอง 


ชาวบ้านชาวช่องบางคนชีวิตโลดโผนกว่าที่ใครๆ คิดนา 

ตังที่มีตอนนี้หาทางหมุนอยู่กับกองทุนซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ปีหน้าจะเริ่มหมุนกระจายหลายๆ ที่

เล่าไว้แล้วนะในมู้ ประกันไม่ยอมจ่าย เพราะแม่แขนหัก
ตอนนี้รอหมดสัญญา จะถอนแม่มย้ายที่

[deaddy]

เรื่องกองทุนก็ยอมรับนะว่าค่อนข้างเซฟ
แต่ตอนเงินน้อยๆน่ะลุยๆไปเหอะเสี่ยงทำเองดีสุด
พออายุมากขึ้นทั้งเงินทั้งประสพการณ์เพิ่ม
จะทำอะไรก็สะดวกขึ้น แต่ถ้าเริ่มเองช้า
พอแก่ๆไปมันก็เริ่มขี้เกียจละ


ส่วนเรื่องขยันจนรวยน่ะ มันก็ใช้ได้จริงในยุคก่อน
แต่ให้ทำแบบเดิมมันไม่รวยแล้ว


ไม่ใช่ว่าขยันแล้วโอกาสรวยลดลงนะ
แต่วิธีขยันมันเปลี่ยนไปแล้วเหมือนนักกีฬาเทพๆในอดีต
มาสู้นักกีฬาเทพๆปัจจุบันก็คงแพ้ขาด


คือรูปแบบการฝึกฝนเปลี่ยนวิธีเปลี่ยน
แต่นักกีฬาที่ขี้เกียจก็แพ้ทั้งปัจจุบันและอดีตอยู่ดี


พวกคนที่ประสพผลสำเร็จ ที่ชอบโม้กัน
ถึงจะตกยุคไปละ 90% ที่โม้เอามาใช้ไม่ได้แล้ว
แต่อีก 10% มันใช้ได้นะเออ


เหมือน 3 ก๊กนั่นแหล่ะ 90% ของเรื่องเอามาใช้ไม่ได้
แต่อีก 10% ผ่านไปนับร้อยนับพันปีมันก็ใช้ได้อยู่

[sariora123]

ปัญหาส่วนตัวของผมไม่ได้อยู่ตรงนั่นหลอกครับ




ปัญหาของผมคือมีเงินเย็นไม่พอ




เงินเย็นในที่นี้ คือเงินส่วนที่ไม่ขยับไม่มีความจำเป็นต้องแบ่งออกมาใช้
มันไม่มี แล้วจะเอาอะไรที่ไหนไปลงปั่นต่อได้ล่ะ    


คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความหมายของคนจน  คนจน สั่นๆ ง่ายคือไม่มีอะไรเลยนั่นแหละ
เวลามีเงินแล้ว ส่วนมาที่จะทำคือเพิ่มของที่จะใช้ในชีวิตซะมากกว่า เพราะอะไรมันก็ขาดไม่มีไปหมด

[Black7nos]

เรื่องกองทุนก็ยอมรับนะว่าค่อนข้างเซฟ
แต่ตอนเงินน้อยๆน่ะลุยๆไปเหอะเสี่ยงทำเองดีสุด
พออายุมากขึ้นทั้งเงินทั้งประสพการณ์เพิ่ม
จะทำอะไรก็สะดวกขึ้น แต่ถ้าเริ่มเองช้า
พอแก่ๆไปมันก็เริ่มขี้เกียจละ


ส่วนเรื่องขยันจนรวยน่ะ มันก็ใช้ได้จริงในยุคก่อน
แต่ให้ทำแบบเดิมมันไม่รวยแล้ว


ไม่ใช่ว่าขยันแล้วโอกาสรวยลดลงนะ
แต่วิธีขยันมันเปลี่ยนไปแล้วเหมือนนักกีฬาเทพๆในอดีต
มาสู้นักกีฬาเทพๆปัจจุบันก็คงแพ้ขาด


คือรูปแบบการฝึกฝนเปลี่ยนวิธีเปลี่ยน
แต่นักกีฬาที่ขี้เกียจก็แพ้ทั้งปัจจุบันและอดีตอยู่ดี


พวกคนที่ประสพผลสำเร็จ ที่ชอบโม้กัน
ถึงจะตกยุคไปละ 90% ที่โม้เอามาใช้ไม่ได้แล้ว
แต่อีก 10% มันใช้ได้นะเออ


เหมือน 3 ก๊กนั่นแหล่ะ 90% ของเรื่องเอามาใช้ไม่ได้
แต่อีก 10% ผ่านไปนับร้อยนับพันปีมันก็ใช้ได้อยู่

ขยันทำให้รวย อันนี้ไม่เสมอไป ถูกต้องอย่างที่ คุณ @deaddy กล่าว


เพราะปัจจุบันคนไทยใช้เวลาการทำงานจำนวนชั่วโมงต่อปี ติด Top โลกเลยนะครับ 555


เช่นนั้นคนไทยก็คงรวยกันไปหมดแล้ว แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น


การจะขยันและรวย มันจะต้องมีปัจจับอื่นอีก


ขยันถูกเรื่อง ขยันถูกวิธี ขยันถูกสถานที่ ขยันถูกเวลา ถ้าไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้ขยันให้ตายก็ไม่รวยหรอกครับ


หรือมันก็คือสิ่งที่ผมเรียกว่า "โอกาส" นั่นแหละครับ ซึ่งการจะได้โอกาสมานั้นมันจำเป็นต้องมีสิ่งที่เรียกว่า "โอกาสของโอกาส"


บางคนโอกาสมาหาตัวเอง ขอแค่คว้าเขาก็จะได้โอกาส แต่กระนั้นเขาก็ไม่คว้าโอกาส นั่นเพราะเขาไม่รู้ว่านั่นคือโอกาสก็มีไม่น้อย


บางคนก็รู้ว่านี่คือโอกาส เขาคว้าไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้วิธีจะใช้โอกาสอย่างไร


บางคนมองไม่เห็นสถานที่ซึ่งสร้างโอกาสให้แก่เขา


หรือแม้แต่บางคนตลอดทั้งชีวิตก็ไม่มีทางได้โอกาส ได้แต่มองคนอื่นคว้าโอกาสแล้วโอกาสเล่าแล้วก็จากไป


"โอกาสของโอกาส" ที่ผมกำลังบอก มันคือสิ่งที่เรียกว่า "ต้นทุนของชีวิต"


อย่างบางคนมีความถนัดทำงานที่ต่างประเทศขาดแคลน แต่ทว่าพวกเขาไม่มีความรู้ทางภาษา โอกาสนั้นก็มลายหายไป


หรือบางคนตั้งแต่เกิดจนตายก็ได้แต่ขายข้าวแกง ทั้งที่มีฝีมือทำอาหารอร่อย มีสูตรลับความอร่อย


แต่พวกเขาก็ไม่รู้วิธีทำธุรกิจ ไ่ม่มีความรู้ด้านการทำบัญชี เปิดเป็นร้านอาหารใหญ่ และไม่มีเครดิตจะกู้เงินเพื่อเป็นทุนมาเปิดร้าน


ซ้ำบางคนยิ่งแย่ยิ่งกว่า ต้นทุนชีวิตของพวกเขาติดลบ พวกเขาต้องแบกรับหนี้ที่มาจากพ่อแม่ของพวกเขาอีกที


บางคนรายได้ครอบครัวไม่พอ ต้องทำงานไปด้วย เรียนหนังสือไปด้วย และไม่มีเงินเรียนต่อมหาลัยก็หลายคน


นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมต่อให้ขยันให้ตายก็ไม่มีวันรวย

[Panzerelite]

เขาใช้ความจนเป็นโซ่ตรวนด้วยคั้บส่วนหนึ่้ง พอคนเราจนมากๆ คนพวกนี้ก็จะไม่สนอะไรหาทางดิ้นร้นเอาชีวิตรอดกันไป


กับอีกพวกคือรวยมากรวยจนไม่สนใจอะไร ตัวเองเกิดมาสบายอยู่แล้วก็ไม่คิดดิ้นร้นอะไร หน้ำซ้ำพวกนี้จะไปแนวอนุรักษย์นิยมด้วยซ้ำเพราะต้องการรักษาอำนาจตัวเองที่มีอยู่ไม่ให้มัีนหายไป


ในทุกยุคทุกสมัยคนที่จะพัฒนาประเทศจริงๆคือชนชั้นกลางเพราะชนชั้นกลางไม่ได้เลำบากแบบปากกัดตีนถีบ แต่ก็ไม่ได้สบายเกินไปจนหน้ามืดตัวมัว




ในโลกยุคปฎิวัติอุสาหกรรมที่มันพัฒนาไปเร็วมากๆก็เพราะชนชั้นกลางนี้หละ แต่สยามสมัยก่อนมันไม่มีชนชั้นกลาง มีแต่คนรวยกับคนจน ไพร่กับขุนนาง ไพร่ก็โดนกษัตริย์ขุนนางกดขี่อย่างหนัก คิดดูนะ ต้องไปทำงานฟรีให้ขุนนางครึ่งปี อีกครึ่งปีคือกลับบ้านมา หาเลี้ยงชีพ แล้วเงินหรืออาหารที่หาเลี้ยงชีพได้ต้องส่งส่วยไปให้ขุนนางหรือกษัตริย์อีก


พวกกษัตริย์เลยโครตรวยเพราะการบริโภคในวังมันก็ไม่ได้เยอะจนาดนั้น พอเหลือก็เอาไปขาย ฝรั่งหรือจีนที่เข้ามาซื้อก็มีเก็บภาษีอีกด้วยมั่ง แถมขาดดุลด้วยเน้นขายไม่เน้นซื้อ

[sariora123]

ก็เหมือนพื่นที่สวนแถวบ้าน ผมไม่สนใจเลยแหละ เพราะทำไปลงแรงไปก็ไม่คุ้ม
ล่าสุดมีเซล ขายปุ๋ยมาให้ลอง ของเขาแก้ดินเปรี้ยวได้ ตอนนี้เลยเริ่มน่าสนใจเพราะเห็นผล
และส่วนใหญ่ คนที่ผมเห็นคือขยันกันเยอะนะแต่ขยันไปก็ทำงานไม่ได้กำไรอะไรมาก

หลักๆ ผมขายปลา แต่เอามาเยอะก็ไม่ได้ เพราะตลาดที่ขาย มีลูกค้าไม่เยอะขายไม่หมด

จะหาขายออนไลน์แบบชาวบ้านเขา ก็พอทำได้อ่ะนะแต่คิดค่าส่งแล้วมันแพงคนจะสนใจซื้อไหมอีกเรื่อง ไหนจะต้องหาแพคศูนญากาศมาอีก

เงินไม่ใช่ไม่มีซื้อแต่ มันต้องเก็บไว้เผือจำเป็น ไหนจะตังกำไว้ซื้อการ์ดจอใหม่
ตอนนี้แม่แขนหักอีก สรุปเว้นได้เว้นไว้ก่อน

[mangamancer]

นอกจากจะมีวิธีคิดหรือความรู้ความสามารถที่เอื้อให้รวยแล้ว ที่สำคัญไม่แพ้กันคือคนรอบๆตัวไม่เป็นตัวถ่วงด้วยครับ
แนวคิดว่าถ้าปัจเจกคนนึงหาเงินเก่ง ใช้เงินเป็น มีความรู้ความสามารถ แล้วจะก้าวหน้าเท่ากันหมดนั้นไม่จริงครับ เพราะคนเราไม่ได้อยุ่ในสุญญากาศคนเดียว
ญาติผมคนนึงเป็นหมอแต่แทบไม่มีเงินเหลือมาลงทุนสร้างความก้าวหน้าให้ตัวเอง เพราะพ่อแม่เขาเป็นข้าราชการแต่ใช้เงินไม่เป็นติดลูปกู้
เงินเดือนไม่เหลือแต่สูบบุหรี่วันละสองซอง เมาประจำ ประหยัดไม่เป็น คิดว่าลูกเป็นหมอแล้วชอบธรรมที่ตัวเองจะเสวยสุข
ค้านก็ไม่ได้เพราะตามวัฒนธรรมบุพการีสูงส่งและถูกต้องเสมอ
เทียบกับเพื่อนที่เป็นหมอเหมือนกัน แต่คนรอบตัวไม่ถ่วงแถมยังสนับสนุนนี่จะคนละโลกเลยครับ

ป.ล. ผมเองตอนเด็กก็ถูกฝากตายายเลี้ยงอยู่หลายปีเหมือนกัน เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปนะผมว่า
ไข่มดแดงอร่อยนะ ไม่ใช่อาหารกาก ปัจจุบันยังแพงด้วย

[deaddy]

นอกจากจะมีวิธีคิดหรือความรู้ความสามารถที่เอื้อให้รวยแล้ว ที่สำคัญไม่แพ้กันคือคนรอบๆตัวไม่เป็นตัวถ่วงด้วยครับ
แนวคิดว่าถ้าปัจเจกคนนึงหาเงินเก่ง ใช้เงินเป็น มีความรู้ความสามารถ แล้วจะก้าวหน้าเท่ากันหมดนั้นไม่จริงครับ เพราะคนเราไม่ได้อยุ่ในสุญญากาศคนเดียว
ญาติผมคนนึงเป็นหมอแต่แทบไม่มีเงินเหลือมาลงทุนสร้างความก้าวหน้าให้ตัวเอง เพราะพ่อแม่เขาเป็นข้าราชการแต่ใช้เงินไม่เป็นติดลูปกู้
เงินเดือนไม่เหลือแต่สูบบุหรี่วันละสองซอง เมาประจำ ประหยัดไม่เป็น คิดว่าลูกเป็นหมอแล้วชอบธรรมที่ตัวเองจะเสวยสุข
ค้านก็ไม่ได้เพราะตามวัฒนธรรมบุพการีสูงส่งและถูกต้องเสมอ
เทียบกับเพื่อนที่เป็นหมอเหมือนกัน แต่คนรอบตัวไม่ถ่วงแถมยังสนับสนุนนี่จะคนละโลกเลยครับ

ป.ล. ผมเองตอนเด็กก็ถูกฝากตายายเลี้ยงอยู่หลายปีเหมือนกัน เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปนะผมว่า
ไข่มดแดงอร่อยนะ ไม่ใช่อาหารกาก ปัจจุบันยังแพงด้วย

ไข่มดแดงไม่ใช่อาหารกาก แต่อยู่ในกลุ่มเด็กไม่กินครับ


ส่วนเรื่องครอบครัวถ่วงก็ใช่ครับ หลานผมก็โดนอยู่
คือราวๆพ่อแม่เค้ามีปัญหามากมายจนเด็กเกิดอาการหนีความจริงเกิดอาการต่อต้าน ติดเกม
เกิดความด้อยกว่าเพื่อน ทั้งร่างกายจิตใจ และผลการเรียน


หลานคนเล็กดีหน่อยที่เลิกสนพ่อแม่แล้วหนีมาเล่นกับปู่ย่าเลยสุขภาพจิตดี
แต่หลานคนโตติดเกมหนีปัญหาแทน


ส่วนพ่อแม่เค้าออกแนว ติดเหล้า
วิธีใช้เงินก็แบบว่า ถ้าไม่ใช้วันนี้แล้วจะใช้วันไหน
ตังไม่พอก็กู้ กู้ในระบบไม่ได้ก็กู้นอกระบบ
เอารถที่พ่อแม่เค้าให้ฟรีเข้าไฟแนนซ์ ไม่มีเงินเหลือผ่อน
สุดท้ายเอารถขับหนีไปขายกับอีก จ. นึง


สุดท้ายต้องให้พ่อแม่เค้า มาเคลียร์หนี้ให้


ตอนนี้เค้าทำงานแล้วก็ยังต้องให้พ่อแม่เค้าช่วยเรื่องเงิน
ยอมล้มละลายดีกว่าจะอดกินเหล้า
หนี้ที่ก่อเพื่อกินเที่ยวและซื้อของฟุ่มเฟือยล้วนๆ


คือแบบ คนนี่สงสัยกันเพียบเลยว่าผัวโดนของ โดนอาคมรึเปล่า
คือผู้หญิงนี่แบบว่าคล้ายๆตัวร้ายในละครเลย
ทำความผิดที่ปรกติ โดนฆ่าตายกันไปแล้ว
ทำซ้ำๆซากๆ แต่ผัวก็ยอมยกโทษให้เสมอ
แถมทิ้งตรรกะทุกอย่าง ถึงขั้นไม่สนใจลูกเพื่อเอาใจเมีย


ถ้าตัวผัวแบบขุนช้างก็ว่าไปอย่าง
แต่ผัวนี่ประวัติแบบขุนแผนเลย ขนาดลูกโตก็ยังหล่อ
เรียกว่า ถึงมีอายุละ แต่จะหาเมียใหม่นี่แทบจะนับวันได้เลยถ้าจะทำ


นี่ก็เชียร์ให้หย่าขาดกันอยู่จะได้แบ่งลูกเลี้ยงหลานไปเลย
คือจะได้จบๆ จะเลี้ยงให้ดีไปเลยก็ไม่ได้ เพราะพอจะสั่งสอน หลานก็หนีกลับบ้าน
พอที่บ้านจะสอนหลานก็หนีไปหาปู่ย่า


คือปู่ย่าเค้าก็ไม่ได้ว่าจะอยากเลี้ยงอะไรมากมาย
แต่ถ้าจะเลี้ยงก็จะเลี้บงให้ดีไปเลย
ไม่ใช่แบบเลี้ยงนิดๆหน่อยๆแล้วเห็นหลานสุดท้ายแย่ เสียคนไรงี้
ถ้าจะแบบนี้ไม่สู้ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินเลี้ยง
แต่กำหนดกะเกณฑ์อะไรไม่ได้ดีกว่า


ไปบ้านปู่ย่าของหลานเค้าทีไรพอฟังเรื่องแล้วก็เครียดประจำ
ผัวเมีย 2 คนใช้เงินเดือน + พ่อแม่เค้าซัพพอร์ท
รวมๆ 30000++ แม่มใช้ไม่พอ
ค่าเรียนค่าอาหารค่านู่นนี่นั่นหลานให้ปู่ย่าจ่ายอีก


ฟังกี่ทีก็เครียดแทนจบ ป.ตรีมา ทำงานเป็นข้าราชการ
ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด รร.บ้านนอกๆ แต่ใช้ตังหนักยิ่งกว่าคนอยู่กทม.อีก  


ถ้าเป็นผมๆคงจอดรถยนต์ไว้ที่บ้านแล้วปั่นจักรยานไปทำงานละ
ที่พักใกล้ๆปั่นไปแค่ 10 นาทีถึง แต่ไม่ครับ
เอารถยนต์ขับไป แถมแทบไม่มีตังจ่ายค่าน้ำมัน
ค่าซ่อมค่าปรับ ต้องมาขอตังคนอื่นให้ช่วยตลอด

[blakaros]

[quote/]


ไข่มดแดงไม่ใช่อาหารกาก แต่อยู่ในกลุ่มเด็กไม่กินครับ


ส่วนเรื่องครอบครัวถ่วงก็ใช่ครับ หลานผมก็โดนอยู่
คือราวๆพ่อแม่เค้ามีปัญหามากมายจนเด็กเกิดอาการหนีความจริงเกิดอาการต่อต้าน ติดเกม
เกิดความด้อยกว่าเพื่อน ทั้งร่างกายจิตใจ และผลการเรียน


หลานคนเล็กดีหน่อยที่เลิกสนพ่อแม่แล้วหนีมาเล่นกับปู่ย่าเลยสุขภาพจิตดี
แต่หลานคนโตติดเกมหนีปัญหาแทน


ส่วนพ่อแม่เค้าออกแนว ติดเหล้า
วิธีใช้เงินก็แบบว่า ถ้าไม่ใช้วันนี้แล้วจะใช้วันไหน
ตังไม่พอก็กู้ กู้ในระบบไม่ได้ก็กู้นอกระบบ
เอารถที่พ่อแม่เค้าให้ฟรีเข้าไฟแนนซ์ ไม่มีเงินเหลือผ่อน
สุดท้ายเอารถขับหนีไปขายกับอีก จ. นึง


สุดท้ายต้องให้พ่อแม่เค้า มาเคลียร์หนี้ให้


ตอนนี้เค้าทำงานแล้วก็ยังต้องให้พ่อแม่เค้าช่วยเรื่องเงิน
ยอมล้มละลายดีกว่าจะอดกินเหล้า
หนี้ที่ก่อเพื่อกินเที่ยวและซื้อของฟุ่มเฟือยล้วนๆ


คือแบบ คนนี่สงสัยกันเพียบเลยว่าผัวโดนของ โดนอาคมรึเปล่า
คือผู้หญิงนี่แบบว่าคล้ายๆตัวร้ายในละครเลย
ทำความผิดที่ปรกติ โดนฆ่าตายกันไปแล้ว
ทำซ้ำๆซากๆ แต่ผัวก็ยอมยกโทษให้เสมอ
แถมทิ้งตรรกะทุกอย่าง ถึงขั้นไม่สนใจลูกเพื่อเอาใจเมีย


ถ้าตัวผัวแบบขุนช้างก็ว่าไปอย่าง
แต่ผัวนี่ประวัติแบบขุนแผนเลย ขนาดลูกโตก็ยังหล่อ
เรียกว่า ถึงมีอายุละ แต่จะหาเมียใหม่นี่แทบจะนับวันได้เลยถ้าจะทำ


นี่ก็เชียร์ให้หย่าขาดกันอยู่จะได้แบ่งลูกเลี้ยงหลานไปเลย
คือจะได้จบๆ จะเลี้ยงให้ดีไปเลยก็ไม่ได้ เพราะพอจะสั่งสอน หลานก็หนีกลับบ้าน
พอที่บ้านจะสอนหลานก็หนีไปหาปู่ย่า


คือปู่ย่าเค้าก็ไม่ได้ว่าจะอยากเลี้ยงอะไรมากมาย
แต่ถ้าจะเลี้ยงก็จะเลี้บงให้ดีไปเลย
ไม่ใช่แบบเลี้ยงนิดๆหน่อยๆแล้วเห็นหลานสุดท้ายแย่ เสียคนไรงี้
ถ้าจะแบบนี้ไม่สู้ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินเลี้ยง
แต่กำหนดกะเกณฑ์อะไรไม่ได้ดีกว่า


ไปบ้านปู่ย่าของหลานเค้าทีไรพอฟังเรื่องแล้วก็เครียดประจำ
ผัวเมีย 2 คนใช้เงินเดือน + พ่อแม่เค้าซัพพอร์ท
รวมๆ 30000++ แม่มใช้ไม่พอ
ค่าเรียนค่าอาหารค่านู่นนี่นั่นหลานให้ปู่ย่าจ่ายอีก


ฟังกี่ทีก็เครียดแทนจบ ป.ตรีมา ทำงานเป็นข้าราชการ
ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด รร.บ้านนอกๆ แต่ใช้ตังหนักยิ่งกว่าคนอยู่กทม.อีก  


ถ้าเป็นผมๆคงจอดรถยนต์ไว้ที่บ้านแล้วปั่นจักรยานไปทำงานละ
ที่พักใกล้ๆปั่นไปแค่ 10 นาทีถึง แต่ไม่ครับ
เอารถยนต์ขับไป แถมแทบไม่มีตังจ่ายค่าน้ำมัน
ค่าซ่อมค่าปรับ ต้องมาขอตังคนอื่นให้ช่วยตลอด

ถ้าขนาดนี้   ถ้าเป็นญาติผมนี่มีตัดหางปล่อยวัดไปแล้วนะ   จากนั้นจะไปโดนกระทืบที่ไหนก็ปล่อยไป  ตายมาเดี๋ยวช่วยทำศพกับเลี้ยงหลานให้


เพราะทั้งกู้ทั้งยืมขนาดนี้นี่  โจทก์เยอะแน่นอน

[Panzerelite]

อย่าโทษที่ตัวบุคคลเลยคับ คือประเทศนี้ปัญหาเชิงโครงสร้างสูงมากๆ อย่างเรื่องการศึกษาไทย การศึกษาในไทยมันเรียนยากเกิน แล้วไม่ค่อยได้อะไรจากการเรียนด้วย ล้างสมองอีก เด็กมันก็เลยเกิดการต่อต้าน พวกกลุ่มนักเรียนเลวที่เคลื่อนไหวกันตอนนี้บอกด้วยซ้ำว่า ให้ออกมาเรียนด้วยตนเองเลยจะง่ายกว่า


ความเหลื่อมล้ำก็สูง ระบบสาธารณูปโภคอะไรก็แย่มากๆ ในต่างจังหวัด ใครจะไปคิดนะว่ายังมีบางพื้นที่ในไทยที่ยังไม่มีไฟฟ้า และน้ำปะปาใช้ การขนส่งก็แย่อยู่ต่างจังหวัดไม่มีรถก็อยู่ไม่ได้ ค่าครองชีพในไทยก็สูงสวนทางกับรายได้อีก