ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Jekan Thanga หัวหน้าห้องปฏิบัติการ Space and Terrestrial Robotic Exploration (SpaceTREx) Laboratory มหาวิทยาลัยอริโซนา เสนอแนวคิดว่าเราควรนำสเปิร์ม ไข่ เมล็ด ของทุกชีวิตทั้งคน สัตว์ พืชเท่าที่เป็นไปได้ในเวลานี้ซึ่งนับจำนวนได้ถึง 6. 7 ล้านสายพันธุ์ สายพันธุ์ละ 50-500 ตัวอย่าง ออกจากโลกของเรา ใส่ภาชนะทำความเย็นพิเศษเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ในอุโมงค์ลาวาโบราณใต้ผิวดวงจันทร์ เผื่อไว้ว่าหากเกิดเหตุร้ายใดๆขึ้นมา เผ่าพันธุ์ต่างๆก็จะยังมีโอกาสดำรงอยู่ต่อไป
ทีมงานประมาณเอาไว้ว่า อุโมงค์ลาวาใต้ดินที่มีอายุกว่า 3,000 ล้านปีจำนวนนับร้อยแห่งบนดวงจันทร์น่าจะมีเนื้อที่มากพอที่จะบรรจุภาชนะบรรจุยีนของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “lunar ark” หรือ “หีบแห่งดวงจันทร์” นี้ได้ แม้คำนวนแล้วว่าต้องใส่จรวดส่งไปมากมายถึง 250 เที่ยวก็ตาม
ทีมงานเชื่อว่าความพยายามนี้สามารถปกป้องสายพันธุ์สัตว์ป่าและพืชต่างๆบนโลกของเราจากการสูญพันธุ์ที่มีสาเหตุมาจากทั้งภัยธรรมชาติเช่น การระเบิดของภูเขาไฟขนาดยักษ์ รังสีคอสนมิค การเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของอากาศ ไปจนถึงภัยจากฝีมือมนุษย์เช่น ภาวะโลกร้อน สงครามนิวเคลียร์ ฯลฯ
“หีบแห่งดวงจันทร์” ในอุโมงค์ลาวาใต้ผิวดวงจันทร์จะมีลักษณะเป็นระบบควบคุมอุณหภูมิที่ได้รับพลังงานไฟฟ้ามาจากเซลล์สุริยะด้านบน การที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวดวงจันทร์ทำให้ปลอดภัยจากแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงนับร้อยองศา รังสีต่างๆจากอวกาศไปจนถึงลมสุริยะและดาวตกต่างๅยกเว้นจะถูกพุ่งชนด้วยหินอวกาศที่มีขนาดใหญ่จริงๆ
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็ไม่ใช่จะเกิดได้ง่่ายๆ เนื่องจากยังมีรายละเอียดต่างๆอีกมามายที่ต้องพิจารณาทั้งเรื่องเทคโนโลยี ไปจนถึงเรื่องงบประมาณ เรื่องการเมืองหรือเรื่องดรามาต่างๆ ซึ่งทางทีมงานคาดการณ์ไว้ว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 ปี (ในกรณีเร่งด่วน) ไปจนถึง 30 ปีกว่าที่โครงการนี้จะเป็นจริงได้
https://stem.in.th/20210315/คิดว่างบน่าจะเยอะเลยนะครับเนี่ย