[quote/]
^
^
^
แล้วถ้ารวมศุนย์ แล้วตรวจสอบเข้มแข็งหล่ะ กระจายอำนาจมันอาจหมายถึง อำนาจต่อรองลดลง
การรวมประเทศ การรวมภาคี การรวมอำนาจต่อรองคงไม่เกิดขึ้น ถ้าการรวมศูนย์มีแต่ไร้ประโยชน์
งืม.......
การรวมภาคี กับ การรวมอำนาจไม่เหมือนกันนะครับ
อย่างการรวมภาคีมันคือการรวมกลุ่มเพื่อร่วมกันโหวตลงนามข้อตกลงต่างๆ เพื่อที่เอาหลายๆคน หลายกลุ่มไปกดดันกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ(ใช้เสียงข้างมาก)
แต่อำนาจรวมศูนย์ อำนาจมันมาจากการตัดสินใจจากส่วนกลาง และทรัพยากรทั้งหมดมันจะไหลไปหาส่วนกลางก่อนจากนั้นส่วนกลางค่อยแบ่งทรัพยากรสู่ท้องถิ่นภายหลัง
แต่การกระจายอำนาจ อำนาจมันตัดสินใจจากส่วนท้องถิ่น ทรัพยากรจะแบ่งถูกแบ่งส่วน ส่วนหนึ่งท้องถิ่นเอาไปใช้เองเลย ส่วนกลางจะแตะไม่ได้ อีกส่วนหนึ่งคือท้องถิ่นจะส่งให้แก่ส่วนกลาง
ส่วนอำนาจในการต่อรองจริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวกับอำนาจรวมศูนย์หรือไม่รวมศูนย์ มันเกี่ยวกับเสถียรภาพของการเมืองของประเทศนั้นๆมากกว่าครับ
ยิ่งประเทศไหนมีการเมืองเข้มแข็ง ไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญหรือรัฐประหาร อำนาจต่อรองมันก็จะสูงเองครับ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆดีกว่า
1.อำนาจรวมศูนย์
ประเทศ A เป็นประเทศอำนาจรวมศูนย์ มีนาย ก. เป็นปธน. ออกนโยบายในการใช้งบประมาณทั้งหมด(แน่นอนมาจากภาษี)จะต้องมาจากรัฐบาลส่วนกลางของนาย ก. ดังนั้นภาษีของประเทศทั้งหมด จะต้องถูกโอนถ่ายจากทุกภาคส่วนเข้าสู่คลังส่วนกลาง เมื่อรัฐบาลนาย ก. ออกนโยบายสำเร็จ งบประมาณที่เกิดจากภาษีที่รวบรวมมาทั้งหมดซึ่งอยู่ที่คลังส่วนกลางทั้งหมดก็จะเริ่มกระจายกลับไปหาท้องถิ่นและชาวบ้านท้องถิ่นนั้นๆ ตามลำดับ
ถ้าผมเขียน Flow Chart ก็จะเป็นแบบนี้
ชาวบ้านจ่าย > ท้องถิ่นเก็บ > ส่วนกลางเก็บ > ส่วนกลางคิดนโยบาย > ส่วนกลางใช้ > ท้องถิ่นใช้ > ชาวบ้านได้ ...
ลูปมันจะประมาณนี้
2.กระจายอำนาจ
ประเทศ B เป็นประเทศกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น มีนาย ข เป็นปธน. ไม่สามารถออกนโยบายการใช้งบประมาณได้ทั้งหมด จะได้งบประมาณหลังจากที่ท้องถิ่นได้ใช้ก่อน ดังนั้นภาษีของแต่ละท้องถิ่นจะถูกแต่ละท้องถิ่นใช้ก่อนจากนั้นส่วนหนึ่งก็จะจ่ายเข้าสู่ส่วนกลาง เมื่อรัฐบาล ข ออกนโยบายสำเร็จ งบประมาณที่เกิดจากภาษีที่รวบรวมมาจากส่วนหนึ่งที่ท้องถิ่นแบ่งให้ก็จะเริ่มกระจายกลับไปหาท้องถิ่นและชาวบ้านท้องถิ่นนั้น
Flow Chart ก็จะเป็น
ชาวบ้านจ่าย > ท้องถิ่นเก็บ > ท้องถิ่นออกนโยบาย > ท้องถิ่นใช้ > ส่วนกลางเก็บ > ส่วนกลางคิดนโยบาย > ส่วนกลางใช้ > ท้องถิ่นใช้ > ชาวบ้านได้ ...
ลูปจะเป็นประมาณนี้
จุดสำคัญข้อแตกต่าง คือ แบบกระจายอำนาจท้องถิ่นจะได้ใช้เงินได้เร็วก่อนรัฐบาลส่วนกลาง(ใช้เงินในส่วนที่ตนเองเก็บได้) คิดนโยบายของตนเองได้(ในกรอบวงเงินที่ท้องถิ่นเก็บได้) และท้องถิ่นจะได้ใช้เงินงบประมาณ 2 รอบ ต่อปีงบประมาณ คือ
1.งบประมาณที่เก็บได้จากภาษีส่วนท้องถิ่น
2.งบประมาณที่ได้รับมาจากส่วนกลาง
ขณะที่อำนาจรวมศูนย์ รัฐบาลจะได้เงินภาษีสำหรับเป็นงบประมาณก่อนใคร นโยบายต่างๆส่วนกลางจะคิดแทนท้องถิ่นหมด ท้องถิ่นไม่ต้องคิดแค่นำนโยบายจากส่วนกลางไปปฏิบัติ และท้องถิ่นจะได้ใช้เงินงบประมาณเพียงครั้งเดียว
อันนี้ผมอิงการใช้งบประมาณของประเทศสเปนที่กระจายอำนาจแบ่งเป็นแคว้นๆ เทียบกับของ ประเทศไทยที่ถือว่าเป็นแบบรวมศูนย์อย่างหนึ่ง