[quote/]
ถ้าเอาเฉพาะสงครามอังกฤษ-พม่าครั้งแรก กองทัพพม่าก็มีปืนใหญ่ใช้เหมือนกัน แต่เทคต่ำกว่า เป็นปืนลูกเกลี้ยง ขณะที่อังกฤษเป็นปืนลูกแตกแล้ว ด้านปืนไปก็มีประจำการถึงหนึ่งหมื่นห้าพันกระบอก
ในทีแรก สมรภูมิหลักอยู่ที่บริเวณยะไข่-อัสสัม ซึ่งมหาพันธุละชำนาญพื้นที่มากกว่า ประกอบกับพื้นที่เป็นป่าเสียมากจึงชดเชยความต่างทางเทคได้ ได้รับชัยชนะในเบื้องต้นต่อeast-indian companyในวันที่17พฤษภา1824 แต่ยังไม่ทันยกเข้าตีCalcutta
แต่ หารู้ไม่ว่าอังกฤษใช้แผนล้อมแคว้นเว่ยช่วยแคว้นจ้าว ยกกองเรือไปโจมตีย่างกุ้งและยึดบริเวณรอบเจดีย์ชเวดากองไว้เป็นป้อมได้ตั้งแต่วันที่11พฤษภา มหาพันธุละจึงต้องถอยทัพข้ามเทือกเขาอาระกันโยมากลางฤดูฝนเพื่อกลับมาช่วยย่างกุ้ง
แล้วก็อย่างที่รู้กัน
ขอบคุณครับ
นิยายกับหนังชอบทำให้เราเข้าใจผิดว่ายังใช้วิชาดาบสู้กัน ทั้งที่ครังเสียกรุงครั้งที่สองก็มีกองปืนรับจ้างต่างชาติรบกันทั้งสองฝ่าย
พม่าก็พยายามอัพเทคโนโลยีของตนเองเหมือนกัน แต่ก็ไม่เพียงพอ
ต่อให้สามัคคีหรือรบเก่งแค่ไหน เจอความต่างของเทคโนโลยีไม่ช่วยอะไร
ยกเว้นเคสเวียดนาม ผมได้ยินมาว่าช่วงนั้น อเมริกากลัวนิวเคลียร์มากที่สุด กองทัพอากาศเลยพัฒนาไปทางนั้น และมีการเคลื่อนไหวการเมืองในประเทศด้วย
ชีวิตจริงไม่ใช่เกมส์ หากนับความสูญเสีย อเมริกาทำแต้มได้มากกว่า แต่พลังทางการเมืองในประเทศทำให้ต้องถอย
...หากพม่าทำความสูญเสียได้มากกว่านั้นอาจจะชนะก็ได้....แต่อาจเป็นการยั่วโมโหทำให้ส่งกองเรือมาเยอะกว่าเดิม....ที่ผมได้ยินมาลงเอยคล้ายๆกันทุกประเทศเลยครับ
ตอนแรกชนะด้วยความเก่งกาจของแม่ทัพ และภูมิประเทศ พอโดนส่งทหารมาเพิ่มก็แพ้
ชนะในศึก แพ้ในสงคราม