รวมข้อมูล Covid 19 จากหมอไม่ผ่านช่องข่าว

[richter]

กระทู้นี้ขอเน้นเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับไวรัส Covid 19 จากแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งทำงานโดยตรง

เริ่มจาก หมอ(เจ้าของคลีนิค+ยูทูปเบอร์)ถามหมอ(ผู้เป็นหัวเรือในการรับมือ Covid 19 ของทั้งประเทศสหรัฐ รู้สึกแกเดินสายตอบคำถามออกยูทูปช่องต่างๆ เพียบ) อาจมีศัพย์แพทย์ในบทสนทนาอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับสาดมาแบบเนิร์ด

สำหรับท่านที่ฟังอังกฤษไม่ออก
- การติดไวรัสซ้ำในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นั้นเป็นไปได้ยากมาก(เช่นหายจากไวรัสแล้วเจอตัวกลายพันธุ์ต่อในทันที)
ส่วนใหญ่มาจากการตรวจชุ่ยไม่ก็เครื่องตรวจหรือชุดทดสอบห่วยได้ผลว่าหายแล้วหรือไม่ติดไวรัสทั้งๆ ยังไม่หายดีหรือติดไวรัสแล้วไม่แสดงอาการ

- หลายประเทศที่คนตายเพราะโควิดน้อยแต่มีคนตายเยอะเพราะโยกสาเหตุการตายจากโควิดเป็นโรคอื่นกลบเกลื่อนหรือหมอขาดประสบการณ์ไม่รู้ว่านั่นเป็นโควิด

Vlog ของหมออังกฤษรายวันที่ทำงานดูแลผู้ป่วยโดยตรง

หมอคลีนิคอีกคนหนึ่ง เจ้านี้ศัพย์แพทย์เยอะหน่อย

• Tweet

[greendays]

ทำไมไม่ทิ้งท้ายสรุปให้คนอื่นฟังด้วยละ

อย่างผมถึงพอฟังออกบ้าง (ยกเว้นศัพท์แพทย์) ผมก็ขอไปฟังหมอไทยดีกว่า 

[richter]

10 คำถามที่หมอเจ้าของช่องโดนถามบ่อยๆ เกี่ยวกับโควิด

ที่ผมเห็นว่าควรรู้ก็มีดังนี้(ใครฟังออกฟังคลิปได้รายละเอียดเต็มกว่านะ)
- การติดเชื้อหลักๆ มาจากสารคัดหลั่งที่เปรอะกับพื้นผิวต่างๆ ส่วนละอองจากการไอจามที่ว่าอยู่ในอากาศได้กว่า 3 ชั่วโมงนั้นยังไม่มีการยืนใดๆ ว่าสามารถทำให้ติดได้
- สัตว์เลี้ยงไม่ติดไวรัสโควิด แต่ไอ้มือที่จับหมาจับแมวนี่แหละที่เอาเชื้อมาติดขนติดตัวสัตว์เลี้ยงแล้วคนที่มาจับต่อก็รับกันไปตามบรรทัดด้านบน
- หน้ากากพวก N95 เหลือไว้ให้หมอบ้าง
- ที่สำคัญที่สุด ขยันล้างมือ ช่วยได้

[richter]

รวมหมอกว่า 100 คน

[richter]

คนติดโควิดจะวัดค่า SPO₂|SaO₂(ความจุอ๊อกซิเจนในเม็ดเลือดแดง?) และ PO₂|PaO₂(ความดันอ๊อกซิเจนในเลือด?) ได้ต่ำทั้งคู่

[richter]

อาการขาดอากาศจากโควิด 19 มีแบบ H(น้ำท่วมปอด ส่งอากาศไปหาเลือดได้ยาก) และ L(ปอดแทบไม่เป็นอะไร แต่เลือดที่มารับอากาศมาไม่เต็มที่)

[richter]

อธิบายชุดการตรวจโควิดแบบ RT- PCR ว่าทำไมถึงตรวจแล้วได้ผลเพี้ยนไปได้

[richter]

ตอบคำถามเกี่ยวกับการทดสอบภูมคุ้มกันโควิด 19

[richter]

อัพเดต สถิติล่าสุดเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันโควิดและวัคซีน

การสังเกตุอาการปอดอักเสบ

คอมเม้นน่าสนใจจากคลิป

เคยเป็นเมื่อสิ้นปี  ขอแนะนำว่าพยายามอย่าสุดน้ำมูก อย่ากลืนเสลด  ให้คายทิ้ง สั่งทิ้ง  ไม่งั้นมันจะลงปอดง่าย  แล้วพยายามดื่มน้ำเยอะๆ ปัสสาวะบ่อยๆ

@See You  กินยาแก้เจ็บคอปกติเลยค่ะ  อันนี้เป็นอาการที่เราทรมานสุด  ถ้าไม่อยากออกไปไหน  สั่งยาแก้ไอน้ำดำเซเว่นก็ได้นะ หรือมะขามป้อม อะไรพวกนี้   ขนาดตอนเราหายโควิดแล้ว  เรายังไม่หายเจ็บคอเลย   กินน้ำร้อนเยอะๆ  ใส่เกลือลงไปนิดนึงก็ได้ค่ะ

 @nai san nai sun  สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องน้ำมูกและเสลด  พยายามอย่าให้มันเข้าไปในร่างกายเลย ตอนเราเป็น ใช้ทิชชู่เยอะมาก ถังขยะวางไว้ข้างๆเลย  ณ.ตอนนั้นเราก็ได้กินพาราไปแค่สี่เม็ด เพราะรักษาอยู่ต่างประเทศ เขาจะให้กินยาตามอาการจริงๆ  คือเจ็บคอเมื่อไหร่ก็ให้กินยาแก้เจ็บคอ  มีไข้เมื่อไหร่ก็ให้กินพารา  ตอนแรกๆ กลัวมาก นอนร้องให้  หมอก็บอกว่าคุณจะกลัวทำไม อาทิตย์นึงก็หายแล้ว เราก็ยังนึกด่าในใจ  แต่ต่อมาเราก็หายจริงๆ  ภายในเจ็ดแปดวันนี่แหละ   แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าสายพันธ์อะไร  คิดว่าเป็นอู่ฮั่นนะ  เดลต้าอาจจะร้ายแรงกว่า แต่เชื่อว่า ถ้าทำตามที่หมอเคยบอกเรา  ก็น่าจะหายได้  ช่วยได้ถ้าคุณไม่ได้เตียงจริงๆ

เราเจอคนนึง  เขาไม่ค่อยสั่งน้ำมูก เท่าไหร่  เพราะเกรงใจคนอื่นๆจะตื่น เขาติดสายพันธ์เยอรมัน  แค่สองสามวัน เชื้อก็ลงปอดเขาแล้ว

- วิตามิน D3 ควรกินวันละกี่ IU ถึงจะช่วยสร้างภูมิต้านทานจากโควิดค่ะ

ตรวจเลือดถึงจะรู้  โดยมากขาดแทบทุกคน จริงๆใช้เวลาในการสะสมปริมาณD3..  ฉุกเฉินตอนนี้ ทั่วไปแนะนำวันละ 5000 IU แต่ก่อนหน้านี้ให้แม่กินวันละ 10000 IU มา3เดือนแล้ว จึงลดมา 5000 IU ถ้าหมดช่วงพีคการระบาด 3 เดือนแล้ว คงไปตรวจเลือด และดูอีกทีว่าควรให้เท่าไหร่  ส่วนตัวเองป่วยบ่อยพวกหวัดเล็กๆน้อยๆ แสดงว่าภูมิส่วนตัวไม่ค่อยดี ไม่ออกกำลังกายด้วย ชีวิตทำงานเร่งรีบ ช่วงนี้ก็กิน 10000 IU สลับ 5000  IU แล้วแต่วัน เพราะชอบลืม แน่นอนต้องมีC, zinc 30-50 mg , Quercetin 250-500 mg ด้วย

กรณีลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีน AstraZeneca

กรณีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีน mRNA เช่น Pfizer & Moderna

อันตรายกรณีที่ฉีดวัคซีน mRNA เช่น Pfizer & Moderna เข้าใส่เส้นเลือดแดงแทนกล้ามเนื้อ

ระยะเวลาที่วัคซีนจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันเสร็จคือ 50 วันหรือประมาณ 2 เดือน ระหว่างนี้โอกาสติดจะไม่ต่างจากคนไม่ฉีดนัก

[samuison]

ขอบคุณมากครับผม

[Sasageyo]

อยากให้ของไทยเสนอข่าวโควิดอย่างสร้างสรรค์บ้างแฮะ  เอาแต่บอกข้อมูลที่ทำให้ประชาชนจิตตก

[samuison]

อยากให้ของไทยเสนอข่าวโควิดอย่างสร้างสรรค์บ้างแฮะ  เอาแต่บอกข้อมูลที่ทำให้ประชาชนจิตตก

เสนอข่าวอย่างนี้เลยครับติดโควิดไม่น่ากลัว มีโอกาสรอดตั้ง 98% แน่ะ
ไปลองติดได้เลย รัสเซี่ยนรูเล็ตยังโอกาสตายเยอะกว่า
...ดูเลยครับ

[29Forever]

[quote/]
เสนอข่าวอย่างนี้เลยครับติดโควิดไม่น่ากลัว มีโอกาสรอดตั้ง 98% แน่ะ
ไปลองติดได้เลย รัสเซี่ยนรูเล็ตยังโอกาสตายเยอะกว่า
...ดูเลยครับ

เป็นคำประชดที่ผมอยากให้รัฐไทยทำ  อันนี้จริงๆนะ  ผมอยู่ฝ่ายไม่กลัวโควิดหน่ะ
อยากให้ประชาชนได้เข้าใจว่า  โควิดถ้าตัดกลุ่มเสี่ยงออกไปแล้ว  มันไม่ได้น่ากลัว
อย่างที่คิด 


ไม่มีอาการ 80กว่า%  มีอาการร้ายแรง10กว่า%  สมัยก่อนเสียชีวิต2-3%  ตอนนี้
เพราะรู้จักโรคมากขึ้น  ทำให้อัตราการตายอลดลงครึ่งนึงเหลือ1%กว่าๆ  อันนี้คือ
ตอนที่ยังไม่มีวัคซีนนะ  ตอนที่ทั่วโลกมีวัคซีนใหม่ๆ  อัตราการตายก็ลดลงเหลือ
0.กว่าๆ%สำหรับประเทศที่ฉีดครอบคลุม


แต่ตอนนี้อัตราผู้มีอาการหนักกับเสียชีวิตมันดันดีดตัวขึ้นมา  เพราะวัคซีนเดิมมัน
ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับสายพันธุ์ใหม่  แต่ก็ไม่ใช่2%กว่าๆ  เหมือนกับ
ตอนที่เรายังไม่รู้จักมัน


อยากให้รัฐให้ข้อมูลที่ไม่ทำให้ประชาชนแตกตื่น  อยากให้ประชาชนหันมา
ออกกำลังกายสร้างภูมิแล้วอยู่ร่วมกับมัน  อยากให้เน้นไปที่ผู้ที่เสี่ยงมีอาการหนัก
อยากให้รัฐเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิต  แล้วให้กลุ่มคนที่แข็งแรงขับเคลื่อน
เศรษฐกิจต่อไป   มันไม่มีทางทำให้โรคนี้หายไปจากโลก  อย่างเอดส์เนี่ยก็
ไม่สามารถทำให้หายไปสมบูรณ์ได้  แต่จะทำอย่างไรให้อาการเมื่อติดโรคแล้ว
ไม่อาการหนักหรือเสียชีวิต


เราหมดทรัพยากรไปมากเกินไปแล้ว  สำหรับการเอากระสอบทรายกั้นน้ำ
แบบที่ทำตอนน้ำท่วมใหญ่  ไม่ว่าอย่างไร  น้ำมันต้องไหลลงที่ต่ำอยู่ดี  ไหล
มาหาอยู่ดี  แทนที่จะทำให้มันผ่านไปไวๆ  แล้วปกป้องผู้ที่อ่อนแอ  ไม่ใช่
ปกป้องหว่านแหไปทั่วแบบนี้ 


พยายามดูแล  แท็คแคร์กลุ่มเปราะบางดีกว่า  พวกเขาจะได้ไม่อาการหนัก
พวกเขาจะได้ไม่เสียชีวิต  ลองดูอัตราเสียชีวิตของ2%สิ  ว่ามีคนแข็งแรง
เสียชีวิตจำนวนเท่าไร  ถ้ามีสักห้าเปอร์หรือสองเปอร์ของ2%  นั่นหมายความว่า
คนแข็งแรงเมื่อติดโควิดหมื่นคน  จะเสียชีวิตสองคน  หรือก็คือ  แสนคน=20


ซึ่งค่าของการเสียชีวิตจากโรค  ที่หนึ่งแสนคน=20เนี่ย  สำหรับโรคต่างๆแล้ว
มันคือค่าที่น้อยมากๆทางการแพทย์  เมื่อเปรียบเทียบการการเสียชีวิตด้วยโรคต่างๆ
ในประชากรแสนคน


ในทางการแพทย์แล้ว  ประชากรแสนคน  จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกี่% ด้วยโรค
หัวใจกี่% บลาๆๆๆ  โรคเหล่านั้นคร่าชีวิตได้มากกว่าโควิด  เมื่อเทียบจากโควิดที่
ติดไปสู่คนทั่วไป  แต่เราตื่นตระหนก  เราไม่รู้  เราหว่านแห  เราลำดับความสำคัญ
ของบุคคลที่เสี่ยงจะเสียชีวิตผิด  เราคิดว่าจับกังมีอัตราตายเท่ากับคนภาวะเสี่ยง

[Black7nos]

อยากฟังประสบการณ์จากคนที่ติดโควิดแบบผม แล้วการรักษาโรงพยาบาลสนามที่อยู่ในบังคลาเทศจากผมมั้ยละ
การตรวจที่ถูกต้องคือต้องตรวจออกซิเจนอยู่บ่อยๆครับ เรียกว่า spO2 ถ้าออกซิเจนต่ำกว่า 95% หมอและพยาบาลจะสวมหน้ากากออกซิเจนให้คุณทันที
อย่างผมปกติก่อนและหลังเป็นโควิด ออกซิเจนผมจะวัดได้ 97-99% ตลอด แต่ตอนผมเป็นออกซิเจนผมเหลือประมาณ 90-94% กรณีของผมคืออาการไม่หนักนะ ยังมีบ้างที่ไอและแน่นหน้าอกหายใจลำบาก


แต่กรณีคนที่อาการหนักพูดง่ายๆคือไม่ได้รับยา Favipiravir ช่วง 2-3 วันแรก ก็จะทำให้โควิดแพร่และทำความเสียหายของปอดได้มาก อย่างเพื่อนร่วมงานผมที่ติดโควิดในเวลาไล่เลี่ยกัน มีอยู่ 2 คน
เคสแรก นาย A
ติดพร้อมๆกับผมนั่นแหละ แต่เขาอาการหนักตรงที่ออกซิเจนเขาต่ำกว่า 90 ดังนั้น 3 วันแรกนอกจากให้ทานยา Favipiravir แล้ว ก็ต้องใส่หน้ากากออกซิเจนตลอด เวลาไอเขาบอกผม(อยู่ในห้องเดียวกันแต่เตียงแต่ละคนมีที่กั้น)ว่า ทุกครั้งที่เขาไอจะหายใจไม่ออก พูดง่ายๆว่าเขามีอาการ "ปอดอักเสบ" เนื่องจากปอดเสียหายจากไวรัสโควิด 19


เคสสอง นาย B (คนนี้ผมค่อนข้างสนิท)
อาการของเขา 3 วัน แรก คือ ไอ และหมอก็ให้ยา Favipiravira แต่คนนี้ออกซิเจนไม่ได้ต่ำมากจนต้องใส่หน้ากาก ค่าออกซิเจนอยู่ประมาณ 95 แต่เขาทดลองหายใจสุดแล้วกลั้นหายใจ(เขาชอบว่ายน้ำ) ปรากฎว่าเขาจะไอทันที คือไม่สามารถหายใจสุดและกลั้นหายใจได้เหมือนเคย เพราะ "ปอดอักเสบ" และปอดได้รับความเสียหาย ซึ่งเคสแรกเองผมก็ลองถามให้เขาทดลองปรากฎว่าทำไม่ได้เช่นเดียวกัน(ใน 3 คน มีผมคนเดียวที่สามารถหายใจสุดและกลั้นหายใจได้)


ส่วนของผมหลังจากผ่านไป 20 วัน ผลยังเป็น Positive อยู่แม้อาการภายนอกจะหายแล้ว ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ไม่มีเสมหะ ไม่มีไข้ แต่ตอนที่ผมย้ายไปอยู่รพ.เอกชนของญี่ปุ่นในบังคลาเทศ(พอดีสวัสดิการบริษัทผมดี) ทางหมอของรพ.เขาใช้เครื่อง CT Scan เช็คและตรวจเลือด(เอาตัวอย่างไปตั้ง 9 หลอด) ปรากฎว่าเชื้ออยู่ในปอดผมอีก 20% แต่ภูมิคุ้มกันผมชนะและกดมันไม่ให้แสดงอาการได้แล้ว ก็เลยต้องนอนกรพ.ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ยา Antibiotic เพื่อให้เชื้อไวรัสจากปอดหมดไป (ไม่ต้องกิน Favipiravir แล้ว เพราะภูมิคุ้มกันผมชนะไวรัสได้แล้ว)


ดังนั้นให้คิดไว้ก่อนเลยว่า ถ้าติดเชื้อโควิด มีโอกาสสูงเกือบ 100%(3 จาก 3 คน ตัวอย่างรวมทั้งตัวผม) เชื้อลงปอดแน่นอนครับ ดังนั้นถังออกซิเจน เครื่องให้ออกซิเจน หน้ากากออกซิเจน มีติดบ้านเอาไว้เลย จะสั่งผ่าน Lazada หรือ Alibaba ก็ได้ครับ หรือถ้าอยู่กรุงเทพ ร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์แถวๆอนุสาวรีย์ชัยมีขายครับ (เมื่อก่อนผมทำงานแถวๆนั้น)


ส่วนยา Favipiravir ไม่รู้ว่าในไทยเขาให้จำหน่ายยานี้อย่างเสรีหรือยังนะ แต่แนะนำถ้าสามารถหาซื้อได้ รีบหาซื้อติดบ้านไว้ก่อนเลยพร้อมกับยาแก้หอบแบบพ่นและแบบเม็ด แบบพ่นแนะนำ Ventolin Evohaler แบบเม็ดตัวยาแบบไหนก็ได้ครับ แต่ส่วนตัวแนะนำ Montelukast มีฤทธิ์ต้านทานภูมิแพ้เกี่ยวกับทางเดินหายใจและโรคหอบหืด


ผมอยากให้คนอื่นรอดและอยู่กันนานๆในบอร์ดนะครับ เราต้องคิดและเตรียมพร้อมในแง่ร้ายว่าเราอาจจะติดเมื่อไหร่ก็ได้ครับ และจากตัวอย่างเพื่อนร่วมงานกับผม คือเชื้อลงปอดแน่ๆเกือบ 100% ดังนั้นถ้าสวัสดิการบริษัทที่ทำงานไม่ได้ดีเท่ากับบริษัทของผมที่มีการทำรพ.สนามสำหรับพนักงานที่ทำงานต่างประเทศและมีการจองเตียงรพ.เอกชนที่ดีไว้ ผมแนะนำคุณต้องรักตัวเองและเตรียมพร้อมให้พร้อมรับมือทุกอย่าง ต้องคิดในแง่ร้ายว่าคุณจะไม่สามารถหาเตียงรพ.ได้ไว้ก่อนเลย เมื่อหาเตียงไม่ได้ คุณก็จะไม่ได้ยาสำคัญอย่าง Favipiravir และคุณจะต้องทำ Home Isolate ที่บ้านเอง และถึงตอนนั้นจะไม่มีใครคอยช่วยคุณนอกจากครอบครัวของคุณ


ดังนั้นผมอยากให้เตรียมพร้อมในสิ่งที่เตรียมได้ รีบซื้อมาเตรียมไว้ก่อนที่ของบางอย่างจะขาดตลาด


ส่วนวัคซีน ถ้ารีบฉีดได้ รีบฉีดครับ และต้องเป็นวัคซีนตั้งแต่ Adenovirus ขึ้นไป ซึ่งในไทยก็มีแค่ Astrazeneca ส่วนซิโนแวคกับซิโนฟาร์มซึ่งเป็นแบบ Inactive Virus อย่าไปฉีดครับ เสียเวลาเปล่าๆ เพราะมันกันได้แค่เชื้อต้นแบบเริ่มต้นสายพันธุ์ Alpha จากอู่ฮั่นเท่านั้น ถ้ากลายพันธุ์วัคซีนแบบ Inactive Virus จะไม่ช่วยอะไรเลย และอย่าไปฉีดแบบผสม เพราะมันไม่มีประโยชน์เช่นกัน


หรือถ้าใครอยู่จังหวัดติดลาว คุณไปขอฉีดไฟเซอร์ที่ลาวก็ได้ครับ ข้ามฝั่งไปเลย เขามีวัคซีนพอสำหรับทั้งคนลาวของเขาและคนต่างชาติ หลายคนก็ข้ามฝั่งลาวไปฉีดไฟเซอร์ครับ

[richter]

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้เครื่องอ๊อกซิเจนเองที่บ้านครับ ต้องระวังนิดหนึ่ง

การดูแลตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงโควิด

[29Forever]

กระทู้นี้แพ้โควิดห้องหมีหอบ   

[richter]

โพสนี้นอกประเด็นนิดหนึ่ง เป็นเกี่ยวกับการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้กับโควิดในช่วงนี้ครับ ส่วนใหญ่เป็นของยูทูปเบอร์อินโด ของไทยไม่ค่อยเจอที่เป็นเรื่องเป็นราวนัก

หน้ากากผ้าแบบธรรมดาและติดใบพัด

ทดสอบเครื่องวัดอ๊อกซิเจน 3 เจ้าใหญ่

อธิบายการตั้งค่าเครื่องช่วยหายใจ...เป็นภาษาอังกฤษ (@_@")

[richter]

เกี่ยวกับการตรวจภูมิคุ้มกัน ณ ตอนนี้มีเครื่องตรวจอยู่ 2 แบบ
ซึ่งผลตรวจที่ได้นั้นคนละอย่างกันไม่สามารถเอามาเทียบข้ามสเปคกันได้
ตรวจเครื่องไหนเทียบเครื่องนั้นครับ ข้อดีของแบบนี้คือรอแค่ชั่วโมงเดียวก็ได้ผลแล้ว

1. Elecsys จาก Roche ซึ่งจะได้ผลเป็น U/mL ตรวจหาแอนติบอดี้แบบรวมๆ

2. Architect จาก Abbott ซึ่งจะได้ผลเป็น AU/mL ตรวจหาเฉพาะแอนติบอดี้ IgG เท่านั้น

อีกแบบคือส่งแลปตรวจ อันนี้นานหน่อยประมาณ 3 วันได้ผลซึ่งจะวัดเป็นเปอร์เซ็นในการยับยั้งจัดการเชื้อ