ในทางฝั่งบ้านเรา ในความเห็นผมคือ ตอนแรก เรายังไม่ตื่นตัวมากเท่าไรครับ แต่พอโรคมันระบาด หน้ากากขาดตลาด คนไทยเริ่มตื่นกลัว (ไม่ใช่ตื่นตัวนะ มันกลัวกันมากกว่า
+ความไม่ไว้วางในในการทำงานของรบ. คนส่วนมากจึงเริ่มหาทางเอาตัวเองรอด จนเป็นอย่างที่เห็น
ในสายตาผม ส่วนใหญ่แม่งกลัวกันมาก ไม่ใช่ตื่นตัวระวัง
ประเทศตะวันตก ที่ระบาดหนัก
ในความคิดผมมีหลายเหตุนะครับ
1) ตั้งแต่วัฒนธรรม สังคมการอยู่อาศัยชาวตะวันตก เอื้อต่อการติดต่อ เช่นเจอหน้ากันก็ จับมือ กอด หรือจูบกัน หรือไม่นิยมสวมหน้ากาก ขนาดงานศพคนที่ตายเพราะโควิต นอกจากหมอกับเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่มีใครใส่หน้ากากเลย สั้นๆ
คือประชาชนกระดี้กระด้ากันเกินไป ไม่กลัวกันเลย 2) มาตรการทางการแพทย์ ตัวอย่างที่ชัดเจนคืออังกฤษครับ ใช้วิธีภูมิคุ้มกันร่วมในการรับมือ คือค่อยๆ ปล่อยให้คนคิดเชื้อแล้วรักษา เพื่อให้คนมีภูมิคุ้มกันโรคนี้ ผลที่ได้คือเละ ผมจำศัพท์ไม่ได้ มันน่าจะเรียกว่า "การละเว้นในข้อเท็จจริง" คือการมองข้ามข้อเท็จจริงตรงหน้า โดนใช้อคติหรือความเห็นของตัวเองเป็นที่ตั้งจนมองข้อเท็จจริงตรงหน้าผิดไปจากความเป็นจริง ไอ้วิธีของอังกฤษมันฟังดูดีมากครับ แต่ในความเห็นผม เขาลืมไปหรือเปล่าว่าภูมิคุ้มกันอาจไม่เกิดขึ้นกับทุกคน และจะทำอย่างไรเพื่อแยกคนที่มีภูมิคุ้มกันสูง ออกจากคนมีภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อป้องกันคนอ่อนแอได้รับเชื้อ การใช้ชีวิตมันต้องมีปฏิสัมพันธ์ ติดต่อกันนะ ไม่ใช่เป็นแค่ตัวเลขหน้ากระดาษ
3) ความตายใจกับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน อันนี้ดูอเมริกาเป็นตัวอย่างได้ คืออเมริกาตายใจสุดๆ กับเรื่องนี้ จนกระทั่งมีการพิจจารณาค่าสถิติผู้ติดเชื้อจากอิตาลี่อีกครั้ง
เมื่อทำการคำนวนกันใหม่ จึงเริ่มรู้ตัวว่า ชิบหายแล้ว แต่ก็ไม่ทันการ อเมริกาดูแค่จาก % ผู้ติดกับผู้เสียชีวิต โดยไม่พิจจารณาให้ระเอียด ว่าโรคนี้มันติดง่ายตายไม่เยอะ แต่ลืมไปว่าถ้าติดมาเยอะ ก็ดูแลไม่ไหว ผลคือตายเยอะแทน แต่เท่าที่ดูก็ทุ่มเทกันมากเพราะตรวจคนที่เสียงติดเชื้อไปเป็นล้านคน ในเวลาแค่ 10 วัน สุดท้ายเครื่องช่วยหายใจไม่พอ
4) อาจจะลืมกันไปแล้ว โรคนี้แม่งกลายพันธ์ไวมากอีกต่างหาก แต่ละท้องที่เลยต่างกัน ฮ่องกงขนาดหมากับแมวยังติดเชื้อ โควิต19 ได้
จีนรับมือได้ไวและเข้มงวดมาก เลยกันได้อยู่หมัด แต่ผมก็สงสัยว่า เขาดูแลคนป่วยยังไง เพราะทางตะวันตกเจอเรื่องเครื่องช่วยหายใจไม่พอนี่ตายกันเพียบ
ผมเข้าใจว่ารบ.จีนมีอำนาจเด็ดขาดมาก หรือเขาสามารถโยกย้ายเครื่องมือมารวมกันได้เร็วถ้าสามารถควบคุมบริเวณการระบาดได้ ?
ปล. หลังจากมีการ lockdown มีรายงานเข้ามาว่ามีผู้ติดเชื้อ
โรคหนองใน เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ไปไล่หาดูข่าวมา รู้สึกว่าก็น่าจะสมควรอยู่บ้างที่ อเมริกาจะตัดเงิน WHO ถ้าข้อมูลมันไม่ผิด Who เพิ่งมาประกาศจริงจังว่าต้องระวังตอนเตือนมีนาคม
ทั้งๆ ที่มีการระบาดติดคนสู่คนในจีน และมีคนในพื้นที่เสียงเดินทางออก ก็ยังบอกไม่มีเสี่ยงอีก
อันนี้ข่าวจากช่องออสเตเรีย เห็นว่า WHO ไม่ยอมเปิดเผยชื่อคนที่พิจจารณาไม่ปิดกั้นการเดินทางเข้าออกจากจีนอีกด้วย
หลังจบงานนี้ หลายประเทศน่าจะรุมจวก WHO แน่ๆ