หากมีโจทย์ให้ทำหนังสงคราม ด้วยงบ 300 ล้าน คุณจะสร้างแบบไหน

[Taw]

สำหรับผม จะเป็นแนวต่างโลก อาณาจักรที่ปกครองโดยราชวงศ์ขององค์หญิงนางนึง มีสงครามระหว่างกลุ่มหมวกทอง กับกลุ่มหมวกเขียว โดยเหตุสงครามคือการที่ราชวงศ์สำเร็จโทษผู้กล้าหลังหญิงคนนึงหลังปราบจอมมาร แล้วใส่ความผู้กล้าว่าเป็นปีศาจเพราะผู้กล้าไม่ยอมเข้าฮาเร็มผัวหลวงขององค์หญิง ประกอบกับโดนสหายที่เป็นจอมเวทย์หญิงวัยกลางคนหักหลังเพราะไม่ให้เงินไปเปิดสำนักดูดวง และไม่ยอมช่วยปลดหนี้ให้เพราะหลายๆอย่างมันผิดกฏหมายและศีลธรรม(เช่น วงการค้าทาส ซื้อขายเผ่าหูสัตว์ ซึ่งผู้กล้าค่อนข้างต่อต้าน)

โดยป้าสหายเองก็เป็นหนึ่งในเมียน้อยลับๆของพ่อองค์หญิง ซึ่งก็คือราชาคนเก่า(เมืองนี้เป็นระบบมานาธิปไตย คือผู้หญิงเป็นผู้นำทางสังคม ราชินีที่เป็นแม่องค์หญิงตายแล้ว องค์หญิงเลยขึ้นได้) ก็ได้เส้นสายมาก่อม๊อบหมวกทอง ซึ่งก็คือบรรดาอีลิทในเมือง คนเมืองหลวงที่ไม่ชอบผู้กล้าสาวเพราะผู้กล้าชอบให้แต่พวกนอกเมืองหลวง ส่งเสริมคนนอกเมืองให้รู้จักผลิตอาวุธ เทคนิคการต้อสู้ ค่านิยมไม่หวงเคล็ดวิชาในการต่อสู้และการใช้เวทย์ ไม่ต้องเอาแต่หลบจอมมารหลังก้อนหิน ชาวบ้านต่างสู้เป็น มีส่วนร่วมในการช่วยผู้กล้าล้มจอมมาร ส่งผลให้ผู้คนไม่จำเป็นต้องซื้ออาวุธจากในเมือง พวกพ่อค้าอาวุธขาดรายได้ ไม่จำเป็นต้องคลุกเข่าง้อปรามาจารย์สอนเวทย์ที่กว่าจะยอมสอนก็เข่าถลอกแถมจ่ายแพง และที่สำคัญคือการต่อสู้รอบนั้นมีแต่คนเจ็บไม่กี่คน ไม่มีคนตายจากเหตุการณ์นั้นเลย ทำให้นักบวชขาดรายได้เพราะไม่ค่อยมีใครให้ทำศพ จากปกติที่ช่วงหลังปราบจอมมารเงินจะสะพัดเพราะมีคนตายมาก ได้เงินจากค่าทำศพมาก ก็ก่อม๊อบกันประท้วงให้ลงโทษผู้กล้า มีการชุมนุมปิดท่าเรือสำราญและสถานีรถไฟกลาง ซึ่งป้ามหาภัยแกนนำกลุ่มหมวกทองใช้เหตุผลจากการที่ไม่มีคนตายในเหตุการณ์มาสมอ้างว่าผู้กล้าจริงๆเป็นปีศาจมาสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองเป็นวีรบุรุษหลอกไถเงินชาวบ้าน แอบทำสัญญาลับแอ๊บเนียนสู้กับกับปีศาจ ที่สำคัญคือจะล้มราชวงศ์และจะปกครองประเทศเอง

แน่นอนว่ากลุ่มหมวกเขียว ซึ่งก็คือพวกคนนอกเมืองหลวง มีทั้งมนุษย์ พ่อมด-แม่มดสายขาว เผ่าหูสัตว์ ลูกครึ่งมอนสเตอร์ ฯลฯ ก็ไม่ยอมเพราะผู้กล้าจะโดนสำเร็จโทษ เลยออกมาประท้วง เลยได้ปะทะกับกลุ่มหมวกทอง จนมีเหตุรุนแรง มีคนตายทั้งสองฝ่าย ทว่าทางวังก็ไปแต่เฉพาะพิธีฝังศพของฝ่ายหมวกทอง ซึ่งคนสำคัญของฝ่ายนั้นก็คือชายคนหนึ่งที่ซ่อนระเบิดไว้ในเป้ากางเกง แต่หกล้มแล้วระเบิดหรรมตาย โดยคนไปพิธีฝังศพก็คืออดีตพระราชา พ่อขององค์หญิงไปด้วยตัวเอง ส่วนศพกลุ่มหมวกเขียวก็ถูกทำความสะอาดด้วยน้ำยาสูตรพิเศษของทางวัง คือทำให้ไม่สามารถนำชิ้นเนือ หรือเลือดไประบุตัวตนโดยวิหารได้ (วิธีการระบุตัวตนคือเอาส่วนใดก็ได้ไปวางบนแท่น หลังจากนั้นก็จะฉายภาพโฮโลแกรมว่าเจ้าของชิ้นส่วนคือใคร พร้อมกับมีเสียงเทพธิดาบอกถึงประวัติคร่าวๆของเจ้าของ ซึ่งน้ำยานี้จะทำให้ชิ้นส่วนถูกย่อยสลายอยางรวดเร็วจนเวทย์ระบุตัวตนไม่สามารถทำงานได้) จนเกิดปรากฎการณ์ตาสว่างทั่วแผ่นดิน แล้วเกิดเป็นสงครามภายในประเทศ ทว่าสงครามนี้จบด้วยความพ่ายแพ้ของกลุ่มหมวกเขียว เพราะเส้นสายและกำลังของกลุ่มหมวกทองมีมากกว่า ฝ่ายหมวกเขียวเผาล้อเกวียนเพื่อไม่ให้โดนอัศวินเล็งธนูได้ จนเกิดวาทกรรมหมวกเขียวเผาเมือง ทั้งนี้ก็เพราะเหตุการณ์เผาตลาดสวนลอยกลางเมือง(เป็นตลาดขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายสวนลอยบาบิโลน แต่มีร้านค้า ห้องShop ตามชั้นต่างๆ) ซึ่งมาพิสูจน์ภายหลังว่าเป็นฝีมือของฝ่ายอัศวิน เพราะเหตุการณ์ไฟไหม้เริ่มตอนเย็น แต่กลุ่มหมวกเขียวโดนปราบตั้งแต่บ่ายแล้ว ส่วนด้านผู้กล้าและครอบครัวก็ต้องหนีตายจากเหตุการณ์ไปยังประเทศห่างไกล ระหว่างทางก็เกือบตายหลายครั้งจากการโดนลอบวางระเบิดรถม้า ผู้กล้าตอนนี้ไม่ต่างกับคนธรรมดาเพราะก่อนจะโดนใส่ความก็โดนจอมเวทย์ของวังลักลอบดูดยึดพลังวิเศษไปจนหมดแล้ว

ทว่าเรื่องก็ยังครุกรุ่นเรื่อยมา คนในต่างเมืองก็ได้ประกาศสงครามมกับเมืองหลวง มีขบวนการใต้ดิน มีตัวเอกจากหลายๆเมืองเล่าเรื่องสลับกัน ต่างคนต่างมีความหลังระหว่างสงครามทอง-เขียว ทั้งลูกหลานกลุ่มหมวกเขียว คนที่มีญาติเป็นคนหมวกเขียวที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ บางส่วนก็เป็นพวกหมวกทองกลับใจ บ้างก็เป็นผู้กล้าคนใหม่ที่จะต่อสู้กับเมืองหลวงและราชวงศ์ที่ตอนนี้แข็งแกร่งมากจากการที่ดูดพลังของผู้กล้าคนแล้วคนเล่าเอาไปใช้เอง 

• Tweet

[mangamancer]

ถ้าต้องเกี่ยวกับไทย
ก็คงเอาประมาณหนังสไตล์ BraveHeart ที่บรรพบุรุษผม(และทุกคนที่ไม่ได้อยู่ภาคกลาง)ต่อต้านการรุกรานจากอยุธยา/รัตนโกสินทร์ 
ไม่ก็อันที่หนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไม่ค่อยพูดถึงอย่างสงครามสยาม-ฝรั่งเศส

[yamamaya]

ชื่อเรื่อง สงครามอวดฉลาด


เนื้อเรื่องก็ประมาณ   ว่าด้วยกลุ่มคนสองกลุ่มหรืออาจจะมากกว่านั้น ที่มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน
วันๆเอาแต่ยกทฤษฏีอะไรก็ไม่รู้มาข่มกันเถียงกันทั้งวันทั้งคืน ว่าใครถูกใครผิดแต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปสักที


โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินผ่านมุมมองของเด็กโง่ๆคนหนึ่งที่นั่งดูกลุ่มคนพวกนี้เถียงกันผ่านช่วงเวลาต่างๆ
ตั้งแต่เด็กโง่ๆคนนี้เอาแต่เล่นเกมส์ทั้งวัน จนถึงวัยทำงาน  เริ่มมีแฟน แต่งงาน ผ่านทั้งสุขทุกข์มากมายในชีวิต


แต่เมื่อเด็กคนนี้ย้อนกลับไปดูในสนามรบของสงครามอวดฉลาดทุกครั้ง ก็จะพบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
ฉากจบเด็กที่เป็นตัวเล่าเรื่องจะจากไปอย่างสงบ พลางคิดไปว่า ดีแล้วที่ตูไม่เอาเวลาชีวิตไปนั่งเถียงกับคนฉลาดๆพวกนั้น...


งบในการถ่ายทำทุ่มสุดๆไม่เกิน 1แสน  ที่เหลืออีก 299900000 เก็บไว้ใช้เอง

[deaddy]

เล่นอยู่เมื่อคืน ผมตบประเทศอินโดจนเหลือเมืองเดียวแล้วสงบศึก
รัสเซียดันมาลบอินโดออกจากแผนที่โลก
เลยจัดการรัสเซียแม่มเลย แต่เมืองหลวงรัสเซียไกลเกิน
ตอนนี้เลยตีกับญี่ปุ่นกับจีนอยู่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศเล็กๆอ่อนแอ เพราะเคยแพ้สงครามมาก่อน
แต่จีนกว้างใหญ่มากต้องเสียเวลาน่าดูกว่าจะยึดถึงเมืองหลวงได้


เดี๋ยววันนี้ก็คงครองโลกละ

[yamamaya]

เล่นอยู่เมื่อคืน ผมตบประเทศอินโดจนเหลือเมืองเดียวแล้วสงบศึก
รัสเซียดันมาลบอินโดออกจากแผนที่โลก
เลยจัดการรัสเซียแม่มเลย แต่เมืองหลวงรัสเซียไกลเกิน
ตอนนี้เลยตีกับญี่ปุ่นกับจีนอยู่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศเล็กๆอ่อนแอ เพราะเคยแพ้สงครามมาก่อน
แต่จีนกว้างใหญ่มากต้องเสียเวลาน่าดูกว่าจะยึดถึงเมืองหลวงได้


เดี๋ยววันนี้ก็คงครองโลกละ

ผมนี้ผ่านตั้งแต่สงครามเวียดนามไปจนถึงช่วงสงครามเย็นมาก่อนยังไม่คุยเลยคับ

[mangamancer]

ชื่อเรื่อง สงครามอวดฉลาด


เนื้อเรื่องก็ประมาณ   ว่าด้วยกลุ่มคนสองกลุ่มหรืออาจจะมากกว่านั้น ที่มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน
วันๆเอาแต่ยกทฤษฏีอะไรก็ไม่รู้มาข่มกันเถียงกันทั้งวันทั้งคืน ว่าใครถูกใครผิดแต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปสักที


โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินผ่านมุมมองของเด็กโง่ๆคนหนึ่งที่นั่งดูกลุ่มคนพวกนี้เถียงกันผ่านช่วงเวลาต่างๆ
ตั้งแต่เด็กโง่ๆคนนี้เอาแต่เล่นเกมส์ทั้งวัน จนถึงวัยทำงาน  เริ่มมีแฟน แต่งงาน ผ่านทั้งสุขทุกข์มากมายในชีวิต


แต่เมื่อเด็กคนนี้ย้อนกลับไปดูในสนามรบของสงครามอวดฉลาดทุกครั้ง ก็จะพบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
ฉากจบเด็กที่เป็นตัวเล่าเรื่องจะจากไปอย่างสงบ พลางคิดไปว่า ดีแล้วที่ตูไม่เอาเวลาชีวิตไปนั่งเถียงกับคนฉลาดๆพวกนั้น...


งบในการถ่ายทำทุ่มสุดๆไม่เกิน 1แสน  ที่เหลืออีก 299900000 เก็บไว้ใช้เอง

สำหรับผมไม่ได้ต้องการให้ใครยกยอว่าฉลาดรึอะไรอยู่ละ
การประชดว่าคนอื่นว่าเป็นพวกโง่ๆถกเถียงกันเพื่อยกตัวเองให้ดูสูงกลับดูเป็นการอวดฉลาดมากกว่าในสายตาผมนะ

ปล. การมองคนที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกันว่าเขาต้องทำไปเพียงเพราะอยากถูกชื่นชมว่าฉลาดแน่นอนนี่
ท่านมองโลกแบบนี้จริงรึ ==b
แล้วท่านรู้ได้ไงว่าเขาเป็นแบบนั้น รึแค่ project อคติของตัวเองลงไป?

[deaddy]

[quote/]


ผมนี้ผ่านตั้งแต่สงครามเวียดนามไปจนถึงช่วงสงครามเย็นมาก่อนยังไม่คุยเลยคับ


[youtube/]

ผมเล่นตั้งแต่สงครามก่อสร้างอารยธรรมเลย


ผมเล่นแต่ความยากระดับจักรพรรดิ ยากกว่านี้ไม่บันเทิงละ

[yamamaya]

[quote/]


ผมเล่นตั้งแต่สงครามก่อสร้างอารยธรรมเลย


ผมเล่นแต่ความยากระดับจักรพรรดิ ยากกว่านี้ไม่บันเทิงละ
[youtube/]

ยอมแพ้คับ


ผมนี่อย่างมากก็แค่เคยผ่านภารกิจอย่าง No Russian เอง

แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ในการระวังตัวมากขึ้นไม่ให้โดนหลอกไปเป็นเบี้ยให้ใครใช้แล้วทิ้งล่ะนะ...เพราะความเนียนมีอยู่ทุกวงการไม่ว่าจะระดับบ้านๆ ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก

[providence_gundam]

[quote/]


ยอมแพ้คับ


ผมนี่อย่างมากก็แค่เคยผ่านภารกิจอย่าง No Russian เอง


[youtube/]


แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ในการระวังตัวมากขึ้นไม่ให้โดนหลอกไปเป็นเบี้ยให้ใครใช้แล้วทิ้งล่ะนะ...เพราะความเนียนมีอยู่ทุกวงการไม่ว่าจะระดับบ้านๆ ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก

บอกเลยว่าอันไหนถ้ามีคนบอกว่าทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อชาติ เสียสละ = โดนหลอกใช้แน่นอน เห็นมาเยอะแล้ว

[Black7nos]

ถ้าต้องเกี่ยวกับไทย
ก็คงเอาประมาณหนังสไตล์ BraveHeart ที่บรรพบุรุษผม(และทุกคนที่ไม่ได้อยู่ภาคกลาง)ต่อต้านการรุกรานจากอยุธยา/รัตนโกสินทร์ 
ไม่ก็อันที่หนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไม่ค่อยพูดถึงอย่างสงครามสยาม-ฝรั่งเศส

หนังสงครามเกี่ยวกับไทย เหตุการณ์ที่น่าทำในความคิดผมนะ และคนดูอาจจะสนใจเพราะแปลกใหม่
- อานัมสยามยุทธ (สงครามเย็นระหว่างสยามกับอานัม(เวียดนาม) ที่ใช้เขมรอุดงและล้านช้างเป็นรัฐกันชน เป็นเหตุให้ล้านช้าง(ลาว)แตกออกเป็นล้านช้างตะวันตกและตะวันออก ในสมัย ร.3)
- กบฏบวรเดช (Civil War ที่เกิดขึ้นจริงในไทย ระหว่างคณะราษฎร vs กษัตริย์นิยม ปี 2476)
- กบฏผู้มีบุญ 4 บาท (กลยุทธจดหมายลูกโซ่ในภาคอีสาน และการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของไทยในสมัย ร.5)

[yamamaya]

[quote/]สำหรับผมไม่ได้ต้องการให้ใครยกยอว่าฉลาดรึอะไรอยู่ละ
การประชดว่าคนอื่นว่าเป็นพวกโง่ๆถกเถียงกันเพื่อยกตัวเองให้ดูสูงกลับดูเป็นการอวดฉลาดมากกว่าในสายตาผมนะ

ปล. การมองคนที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกันว่าเขาต้องทำไปเพียงเพราะอยากถูกชื่นชมว่าฉลาดแน่นอนนี่
ท่านมองโลกแบบนี้จริงรึ ==b
แล้วท่านรู้ได้ไงว่าเขาเป็นแบบนั้น รึแค่ project อคติของตัวเองลงไป?

แค่หนังฮะอย่าคิดมากตามหัวกระทู้


ส่วนตัวผมเรื่องอวดฉลาดก็ทำบ่อย เรื่่องอคติก็มีเหมือนคนทั่วไปไม่แปลกฮะ


สุดท้ายที่ถามว่ารู้ได้ไงว่าใครเป็นยังไง ก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกันฮะ ผมเสนอบทหนังตามหัวกระทู้เฉยๆ


แต่มีคนสนใจก็แอบดีใจเหมือนกันฮะ

[gaiar33]

เอาไปจ้างให้ Disney ไม่ก็ Warnerbrother มาช่วยโปรดักชั่นให้ 300 ล้านยังไม่รู้ว่าจะพอรึเปล่า
ไหนจะค่านักแสดงฮลลีวู้ด ค่าสตูดิโอ ค่าทำ cg ค่าลิขสิทธิ์เพลง

* gaiar33 ไม่ชอบทำหนัง ตลาดๆไทยๆ ของผมต้องระดับปูพรมแดงออสก้า

[mangamancer]

[quote/]


ยอมแพ้คับ


ผมนี่อย่างมากก็แค่เคยผ่านภารกิจอย่าง No Russian เอง


[youtube/]


แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ในการระวังตัวมากขึ้นไม่ให้โดนหลอกไปเป็นเบี้ยให้ใครใช้แล้วทิ้งล่ะนะ...เพราะความเนียนมีอยู่ทุกวงการไม่ว่าจะระดับบ้านๆ ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก

ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือต่อต้านการเปลี่ยนแปลงหรืออยู่เฉยๆ มันก็มีทั้งคนที่ได้และเสียประโยชน์อยู่แล้วครับ
วาทกรรมแบบนี้จึงไม่ได้มีความหมายอะไร นอกจาก security ในใจตัวเองว่าเราไม่ได้โง่
ทำนองเดียวกับการเชื่อว่าคนที่ไม่ลงมือทำอะไรย่อมไม่มีวันทำผิดพลาดนั่นล่ะครับ

[quote/]


แค่หนังฮะอย่าคิดมากตามหัวกระทู้


ส่วนตัวผมเรื่องอวดฉลาดก็ทำบ่อย เรื่่องอคติก็มีเหมือนคนทั่วไปไม่แปลกฮะ


สุดท้ายที่ถามว่ารู้ได้ไงว่าใครเป็นยังไง ก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกันฮะ ผมเสนอบทหนังตามหัวกระทู้เฉยๆ


แต่มีคนสนใจก็แอบดีใจเหมือนกันฮะ

ท่านทำเหมือนที่ผมคิดไว้ว่าท่านจะทำเลย เล่นลิ้นทำเป็นไม่จริงจังเพื่อหลบหนี

[yamamaya]

[quote/]
ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือต่อต้านการเปลี่ยนแปลงหรืออยู่เฉยๆ มันก็มีทั้งคนที่ได้และเสียประโยชน์อยู่แล้วครับ
วาทกรรมแบบนี้จึงไม่ได้มีความหมายอะไร นอกจาก security ในใจตัวเองว่าเราไม่ได้โง่
ทำนองเดียวกับการเชื่อว่าคนที่ไม่ลงมือทำอะไรย่อมไม่มีวันทำผิดพลาดนั่นล่ะครับ
[quote/]ท่านทำเหมือนที่ผมคิดไว้ว่าท่านจะทำเลย เล่นลิ้นทำเป็นไม่จริงจังเพื่อหลบหนี

โดนอ่านความคิดผมซะทะลุปรุโปร่งเลย


ผมแพ้แล้วครับงั้นขออนุญาตหนีนะฮะ




ก่อนจากฝากเพลงเพราะๆไปฟังฮะ

[pol]

300ล้านนี่ดูเหมือนจะเยอะนะแต่ถ้าสร้างหนังสงครามนี่ผมว่าน้อยเกินไปหน่อย. ถ้างั้นผมสร้างหนังอาสาญี่ปุ่นบุกเข้าวังของพระนารายก็แล้วกันครับประหยัดงบดี.  แล้วก็จะให้ทหารไทยใช้หอกกับโล่เป็นอาวุธหลักไม่ใช่มีดาบกันทุกคนเพราะมันแพง เวลารบกันก็มีกระบวนทัพไม่ได้วิ่งใส่กันเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ

[gaiar33]

300ล้านนี่ดูเหมือนจะเยอะนะแต่ถ้าสร้างหนังสงครามนี่ผมว่าน้อยเกินไปหน่อย. ถ้างั้นผมสร้างหนังอาสาญี่ปุ่นบุกเข้าวังของพระนารายก็แล้วกันครับประหยัดงบดี.  แล้วก็จะให้ทหารไทยใช้หอกกับโล่เป็นอาวุธหลักไม่ใช่มีดาบกันทุกคนเพราะมันแพง เวลารบกันก็มีกระบวนทัพไม่ได้วิ่งใส่กันเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ

คนไทยเราชอบคิดกันว่าทำหนังใช้เงิน 100 ล้านบาท นี่โคตรแพง
หนังไทยเราเลยหยุดอยู่ที่ ละครหลังข่าว หนังตลก หนังผี มุมกล้องทุกเรื่องเหมือนกันหมดห้ามหรูเกินละครหลังข่าว  เพลงประกอบเหมือนกันหมดทุกเรื่อง

ถามดิ ผ่านมากี่สิบปีแล้ว หนังไทยเราไม่เคยได้ไปแตะรอบตัดสินฮอลลีวูดซักครั้ง


ขนาดเกาหลีที่เรื่องหนัง เขามาทีหลังเรา ยังเข้าฮอลลวูดไปแล้ว  แทบอยากถามว่าพวกผู้ผลิตหนังบ้านเราเขาไม่อายกันบ้างเหรอ??  คนดูหนังคนไทยไม่อายเขาบ้างเหรอ?

ผมยังอายเลยเวลามีงานประกาศรางวัลที

[kroek]

[quote/]
คนไทยเราชอบคิดกันว่าทำหนังใช้เงิน 100 ล้านบาท นี่โคตรแพง
หนังไทยเราเลยหยุดอยู่ที่ ละครหลังข่าว หนังตลก หนังผี มุมกล้องทุกเรื่องเหมือนกันหมดห้ามหรูเกินละครหลังข่าว  เพลงประกอบเหมือนกันหมดทุกเรื่อง

ถามดิ ผ่านมากี่สิบปีแล้ว หนังไทยเราไม่เคยได้ไปแตะรอบตัดสินฮอลลีวูดซักครั้ง


ขนาดเกาหลีที่เรื่องหนัง เขามาทีหลังเรา ยังเข้าฮอลลวูดไปแล้ว  แทบอยากถามว่าพวกผู้ผลิตหนังบ้านเราเขาไม่อายกันบ้างเหรอ??  คนดูหนังคนไทยไม่อายเขาบ้างเหรอ?

ผมยังอายเลยเวลามีงานประกาศรางวัลที

ความคิดของคนมีอำนาจและผู้สนับสนุนจะบอกประมาณนี้ครับ"เป็นคนไทยหรือเปล่า/ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องดู/เป็นคนไทยก็ต้องสนับสนุนหนังไทยสิ/พวกชังชาติ(อันนี้คาดว่าอาจมี555)" ประมาณนี้แหละ

[mangamancer]

[quote/]
คนไทยเราชอบคิดกันว่าทำหนังใช้เงิน 100 ล้านบาท นี่โคตรแพง
หนังไทยเราเลยหยุดอยู่ที่ ละครหลังข่าว หนังตลก หนังผี มุมกล้องทุกเรื่องเหมือนกันหมดห้ามหรูเกินละครหลังข่าว  เพลงประกอบเหมือนกันหมดทุกเรื่อง

ถามดิ ผ่านมากี่สิบปีแล้ว หนังไทยเราไม่เคยได้ไปแตะรอบตัดสินฮอลลีวูดซักครั้ง


ขนาดเกาหลีที่เรื่องหนัง เขามาทีหลังเรา ยังเข้าฮอลลวูดไปแล้ว  แทบอยากถามว่าพวกผู้ผลิตหนังบ้านเราเขาไม่อายกันบ้างเหรอ??  คนดูหนังคนไทยไม่อายเขาบ้างเหรอ?

ผมยังอายเลยเวลามีงานประกาศรางวัลที

เข้าใจที่ท่านต้องการจะสื่อ แต่ออสการ์นี่ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีเลย จริงๆนะ
ออสการ์มันเป็นอะไรที่เน้นแต่อเมริกันมาก Parasite นี่รู้สึกจะเป็นเรื่องแรกเรื่องเดียวจากประเทศอื่นที่ได้ภาพยนต์ยอดเยี่ยม
แม้แต่อนิเมชันญี่ปุ่นก็ไม่ได้รางวัลสาขาอนิเมชันมานานมากละ ที่เคยได้จาก Spirited Away อันนั้นมันก็มีบริษัทมะกันหนุนด้วย

[Black7nos]

ภาพยนต์ไทย
- Soundtrack ไม่แต่งใหม่ ใช้เพลงของนักร้องเดิมเอามาเปิดคลอ ซึ่งมันไม่มีทางเข้ากับจังหวะฉากนั้นๆ ได้ 100% หรอกครับ เพลง Soundtrack ควรจะแต่งขึ้นมาใหม่หมด
- บท บทของไทยมันดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงเกินไป หรือหนักกว่านั้นคือเอาบทละครช่อง 7 มาเขียนเป็นบทหนัง ซึ่งมันไม่ได้
- ความเข้าถึงอินเนอร์ของนักแสดง นักแสดงไทย ผมว่าหลายคนเล่นแข็งเกิน การแสดงออกทางสีหน้าดูไม่อินกับบทที่ตัวเองทำ ถ้าตัวอย่างที่ดีที่สุด ผมแนะนำให้ดู Joker ของ Hedge Ledger หรือ Joaquin Phoenix แสดง มันคือการประทับเข้าร่างทรงอะไรแบบนั้นเลย เหมือนสะกดจิตตัวเองว่าคุณคือตัวละครตัวนั้นจริงๆ
- และจากข้อที่แล้ว เนื่องจากนักแสดงไทยมีการแสดงที่แข็งเกินหรือแสดงอินเนอร์ออกมาไม่ได้มากพอ ลักษณะกล้องที่แพนมักจะแพนจากไกล แทนที่กล้องจะแพนซูมใกล้ตัวละครเพื่อให้เห็นถึงสีหน้าและอารมณ์ขณะนั้น

[Panzerelite]

300ล้านนี้ใช้งบที่จะเอาไปสร้างหนังชาตินิยมนั้นเปล่า บอกตรงๆ อย่าเลบยเอาเงินที่มีไปเยียวยาโควิชดีกว่า ไม่ก็เอาไปซื้อวัคซีน ไฟเซอร์ฉีด อย่าเอาเงินไปพลาญกับอะไรที่ไร้สาระและสุดโต่้งอย่างงี้ เราสยองเลย ว่าหนังที่ทำออกมามันต้องสุดโต้งแบบสุดๆแน่ๆ แบบทำให้นักศึกษา6ตุลาเป็นตัวร้ายคอมมิวนิศ ที่ทหารหาญผู้หกล้า ต้องจับไปฆ่าทิ้งเพื่อปกป้อง องค์กษัตริย์เทพเจ้าของพวกเขา


ยิ่งถ้าเอา ไปโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบันถ้ามันทะลึงสร้างหนังป้ายสีให้ม๊แคณะราฎรเป็นพวกที่เป็นแบบที่เขาป้ายสีแล้วทหารหาญ มีหน้าที่ต้องเอาปืนไปยิงทิ้งนี้ มันไม่ต่างอะไรจากสมัย6ตุลาแน่นอน ยิ่งการข่าวล่าสุดของเราได้ข่าวที่ว่าจะใช้กำลังทหารจัดการม๊อปอย่างเด็ดขาดด้วย ไอ้หนังบ้านี้มันจะเป็นหนังล้างสมอง ปลุกคนให้ฆ่าคนมากกว่านะ