ขอความเป็นธรรมจากทั้งสองฟากฝั่งการเมืองนะครับ
รู้สึกกับคุณอุ๊อย่างไรก็เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะรักหรือเกลียด
แต่พิจารณาที่เนื้อหาสาระกันก่อน
คนที่พยายามหาว่าคุณอุ๊ โกหก
บอกไปประมาณว่า
"ไม่รู้หรือว่าใครเอาเทคโนโลยีชาวยิวเข้ามาในเมืองไทย"
"ไม่รู้หรือว่าชาวยิวช่วยประเทศไทยมากแค่ไหนและสนิททกับใคร?"
..
คำกล่าวที่ว่ามาทั้งหมดนั้น
มันรไม่ได้บอกว่า "ชาวยิวไม่ได้ครอบงำคนไทย"
แต่มันแปลว่า
"ชาวยิวครอบงำคนไทยมาหลายสิบปีแล้ว ด้วยแผนการพัฒนาเศรษฐกิจนโยบยการเงงิน เกษตร ต่างๆในประเทศไทย"
ไม่ใช่หรือครับ?
หรือแต่ละฟากฝั่งคิดอย่างไรกันในเคสนี้
เราจะยอมรับกันได้ไหมว่าชาวยิวคือคนที่ครอบงำและเป็นต้นกำเนิดแนวคิดของพวกเราหลายๆอย่าง?
คนอาจจะโทษ คุณสนธิลิ้มที่เผยแพร่เรื่องชาวยิว
แต่ผมว่าไม่ใช่นะ
แนวคิดโจมตีเรื่องยิวนี้
ขาใหญ่สมัยก่อน อย่าง มรว.คึกฤทธิ์ท่านก็เขียนไว้นานแล้วนี่ครับ?
ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรือทฤษฎีสมคบคิดแต่อย่างใด?
แน่นอน ผมอาจจะต้องตำหนิคุณอุ๊หากมองเรื่องสถานะของประเทศเรา
ว่าไม่ควรเล่นเรื่องนี้
เป็นคนระดับอบต. ไม่ควรเล่นอะไรที่เกี่ยวกับระดับประเทศ
หรือกรณีนี้คือระดับโลก
ไปเอามือที่มองไม่เห็นตัวจริงมากล่าวกลางแจ้งแบบนี้ ไม่ดีต่อภาพรวมทั้งหมดนะ
แต่แน่นอน ผมไม่ได้บอกว่าคุณอุ๊ พูดผิดหรือพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริง
แนวคิดสำคัญที่สุด คนอย่าง คุณโซรอสหรือบิลเกต จึงตั้งมูลนิธิที่สนับสนุนนโยบายยแนวคิดของตนเอง
เพราะเมื่อมีเงินมากขึ้นแล้วที่สำคัญกว่าคือแนวคิดนั่นล่ะ
แต่ลากตัวใหญ่ขึ้นมาพูดในสนามของเด็กทะเลาะกันนี่ ผมว่าคุณอุ๊ไม่ควรทำ
ตัวใหญ่เขาสนใจจริงๆแล้วเราจะตายเอานะครับ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม
ทุกท่านคิดกันว่าอย่างไรบ้างครับ?