ไม่ได้ทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคม!!

[moneyisgod]

ศาลเกาหลีใต้ตัดสินคดี “นำเข้าตุ๊กตายางเสมือนจริง” ไม่ได้ทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคม!!

เรื่องของ “การปลดปล่อยความต้องการทางเพศ” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องให้ความสำคัญ ในปัจจุบันเราจะเห็นสิ่งของมากมายที่ถูกผลิตออกมาด้วยสาเหตุนี้

และ “ตุ๊กตายางเสมือนจริง” ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางเพศ แต่ก็ยังคงมีประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในแง่ของ “ศีลธรรมอันดีงาม”

 แต่ทว่าล่าสุดจากคำตัดสินของศาลปกครองประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2021 ที่ผ่านมา ในคดีความเกี่ยวกับการนำเข้าตุ๊กตายางเสมือนจริงเข้ามาในประเทศเกาหลีใต้ ก็ปรากฎว่าให้สามารถนำเข้ามาได้ แต่ทว่าต้องเอามาใช้กับเรื่องส่วนตัวเท่านั้น!!

อ้างอิงจากคำตัดสินของศาลปกครองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในคดีความที่เกิดขึ้นจากการระงับการนำเข้าตุ๊กตายางเสมือนจริง ที่สนามบินนานาชาติ Gimpo เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2020 ที่ผ่านมา



โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนโดยบริษัทท้องถิ่นจำนวน 1 ตัว ผ่านทางสนามบิน Gimpo แต่ทว่าถูกเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากรขัดขวางเอาไว้ โดยบอกว่าเจ้าวัตถุชนิดนี้จะไป “ทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคม”

จากเหตุดังกล่าวก็เลยกลายเป็นประเด็นการฟ้องร้องกันขึ้นมา และปรากฎว่าศาลก็เพิ่งจะตัดสินไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และได้ผลว่าดังนี้ครับ

“เราไม่เห็นว่าเจ้าวัตถุชิ้นนี้ จะสื่อถึงส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ หรือแสดงออกถึงเรื่องเพศ ที่จะทำลายหรือบิดเบือนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง อย่างที่อ้างมา มันไม่ใช่ตัวอย่างของวัตถุที่จะทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคมได้”

นั่นเพราะว่าเซ็กส์ทอยนั้นจะถูกใช้ในพื้นที่ที่เป็นที่ส่วนตัว และรัฐก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของประชาชน เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และอิสรภาพของพวกเขา

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว

ที่มา : yna

https://www.catdumb.tv/sex-dolls-court-119/?fbclid=IwAR0b7OhBWmjjdGtODae2nYzLEbff85J7bzRamdGb7CICQXKtLl5LDZZd59E

ถ้าเป็นประเทศสารขันแถวๆนี้ละ

• Tweet

[sariora123]

ถ้าผมจำไม่ผิด เคยมีคนเล่าว่า เกาหลี ดารามีปัญหาเรื่องพวกนี้กันค่อนข้างเยอะ จนเขาถึงกับหาตุ๊กตายางเอามาไว้ให้คนมีชื่อเสียงบางคนใช้ จะได้ไม่มีเก็บกดมากเกินไป


เคยได้ยินว่า ในไทยวงการดารานางแบบ บางค่ายบางช่วงเวลาก็เคยหานำเข้ามาให้คนในสังกัดเอาไว้ใช้กัน จะได้ไม่มีปัญหาท้องโตกันโดยไม่คาดคิด

[Rindou]

[img/]

ศาลเกาหลีใต้ตัดสินคดี “นำเข้าตุ๊กตายางเสมือนจริง” ไม่ได้ทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคม!!

เรื่องของ “การปลดปล่อยความต้องการทางเพศ” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องให้ความสำคัญ ในปัจจุบันเราจะเห็นสิ่งของมากมายที่ถูกผลิตออกมาด้วยสาเหตุนี้

และ “ตุ๊กตายางเสมือนจริง” ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางเพศ แต่ก็ยังคงมีประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในแง่ของ “ศีลธรรมอันดีงาม”

 แต่ทว่าล่าสุดจากคำตัดสินของศาลปกครองประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2021 ที่ผ่านมา ในคดีความเกี่ยวกับการนำเข้าตุ๊กตายางเสมือนจริงเข้ามาในประเทศเกาหลีใต้ ก็ปรากฎว่าให้สามารถนำเข้ามาได้ แต่ทว่าต้องเอามาใช้กับเรื่องส่วนตัวเท่านั้น!!

อ้างอิงจากคำตัดสินของศาลปกครองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในคดีความที่เกิดขึ้นจากการระงับการนำเข้าตุ๊กตายางเสมือนจริง ที่สนามบินนานาชาติ Gimpo เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2020 ที่ผ่านมา

[img/]

โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนโดยบริษัทท้องถิ่นจำนวน 1 ตัว ผ่านทางสนามบิน Gimpo แต่ทว่าถูกเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากรขัดขวางเอาไว้ โดยบอกว่าเจ้าวัตถุชนิดนี้จะไป “ทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคม”

จากเหตุดังกล่าวก็เลยกลายเป็นประเด็นการฟ้องร้องกันขึ้นมา และปรากฎว่าศาลก็เพิ่งจะตัดสินไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และได้ผลว่าดังนี้ครับ

“เราไม่เห็นว่าเจ้าวัตถุชิ้นนี้ จะสื่อถึงส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ หรือแสดงออกถึงเรื่องเพศ ที่จะทำลายหรือบิดเบือนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง อย่างที่อ้างมา มันไม่ใช่ตัวอย่างของวัตถุที่จะทำลายศีลธรรมอันดีงามของสังคมได้”

นั่นเพราะว่าเซ็กส์ทอยนั้นจะถูกใช้ในพื้นที่ที่เป็นที่ส่วนตัว และรัฐก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของประชาชน เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และอิสรภาพของพวกเขา

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว

ที่มา : yna

https://www.catdumb.tv/sex-dolls-court-119/?fbclid=IwAR0b7OhBWmjjdGtODae2nYzLEbff85J7bzRamdGb7CICQXKtLl5LDZZd59E

ถ้าเป็นประเทศสารขันแถวๆนี้ละ

"รัไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของประชาชน" ชอบคำพูดนี้จังมันทำให้รู้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วมันเป็นยังไง

[sechan]

ประเทศเจริญแล้วเขาใช้ลดปัญหาสังคม ส่วนประเทศศีลธรรมอันดีบอกว่า บัดสีบัดเถลิง ต้องตบอีนังตัวร้าย แย่งผัวกัน ลวนลามนางเอกแล้วค่อยแต่งนี่ซิ ศีลธรรมอันดี.............    บางคนมีเมีย20+ บอกเรื่องส่วนตัวท่านคนดี.  แต่ตัวการ์ตูนในแฟนตาซีสังคมยุคกลาง มีเมียสอง แม่งเลวระยำรับไม่ได้   ศีลธรรมแห่งคนดี

[reiden666]

สมเป็นประเทศพัฒนาแล้ว มีความสมเหตุสมผล ไม่ยึดตรรกะงี่เง่าไร้สาระ เหมือนประเทศบางประเทศแถวนี้ 

[biyonet]

ส่วนใหญ่ตรรกะงี่เง่าแรกเริ่มเดิมทีมันก็ผลุดมาจากพวกประเทศที่พัฒนาแล้วนั่นแหละ แล้วแต่ว่าอันไหนมันดังอันไหนมันดับ แต่ก็มีบางประเทศที่คนมีอำนาจเอาตรรกะที่ตนเองชอบมาใช้ พูดแต่ข้อดีไม่พูดถึงข้อเสีย พอมีคนถามก็ปิดปากด้วยคำว่า ”เราต้องปรับให้เข้ากับวัฒนธรรม” กับ “ชังชาติ”

[KAGUYA]

สมเป็นประเทศพัฒนาแล้ว มีความสมเหตุสมผล ไม่ยึดตรรกะงี่เง่าไร้สาระ เหมือนประเทศบางประเทศแถวนี้ 

แต่ดันวิวาทกันสภาซะงั้นนะ

[Black7nos]

ประเทศที่พัฒนาแล้วเขายึดหลักการสิทธิมนุษยชนซึ่งรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ได้ยึดในศีลธรรมดัดจริตแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนชาตินั้น


หลายคนชอบเอาความเชื่อและค่านิยมตัวเองมาเป็นไม้บรรทัดวัดสังคม แล้วก็ตีตราคนที่ทำไม่เหมือนตนว่าเป็นผู้ร้าย


แต่อาจจะลืมไป ตอนนี้โลกของเรานั้นเกือบทุกประเทศได้มีการเซ็นสัญญาปฏิญญาสากลเกี่ยวกับมนุษยชนร่วมกัน 30 ข้อ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2491 ณ กรุงปารีส


นั่นหมายความว่า ความเชื่อและค่านิยมเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นสิ่งที่ทุกประเทศจะต้องยึดถือและเคารพเพราะเป็นค่านิยมสากลที่ทั้งโลกยอมรับ


ปฏิญญาสิทธิมนุษยชน 30 ข้อ ที่ทุกประเทศลงนาม

1.ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมด้านศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
2.ไม่แบ่งแยก
3.สิทธิในการมีชีวิต
4.ไม่ตกเป็นทาส
5.ไม่ถูกทรมาน
6.ได้รับการคุ้มครองทางกฏหมาย
7.เท่าเทียมกันตามกฏหมาย
8.สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย
9.ไม่ถูกคุมขังโดยพลการ
10.ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
11.เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน
12.สิทธิความเป็นส่วนตัว
13.เสรีภาพในการเดินทาง
14.สิทธิที่จะลี้ภัย
15.สิทธิที่จะมีสัญชาติ
16.เสรีภาพในการแต่งงาน
17.สิทธิในการครอบครองทรัพย์สิน
18.เสรีภาพในการนับถือศาสนา
19.เสรีภาพในการแสดงออก
20.เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ
21.การมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
22.การได้รับการดูแลและคุ้มครองจากรัฐ
23.สิทธิในการทำงาน
24.สิทธิในการพักผ่อน
25.คุณภาพชีวิตที่ดี
26.สิทธิในการศึกษา
27.การมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรม
28.สันติภาพระหว่างประเทศ
29.เคารพสิทธิผู้อื่น
30.ไม่มีใครเอาสิทธิเหล่านี้ไปจากเราได้


ปล. มีคนเคยเถียงผมว่า "ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนเท่ากัน คนพิการไม่เห็นเท่ากับคนทั่วไปเลย" หรือ "คนรวยกับคนจนไม่เท่ากันหรอก" ซึ่งมันเป็นการถกเถียงผิดประเด็น ความหมายของ ข้อ 1 คือ ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนรวยหรือจน สมบูรณ์หรือพิการ คุณต้องมองและปฏิบัติกับทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกันเช่นเดียวกับคุณ ไม่ใช่มองหรือปฏิบัติราวกับว่าบางคนเป็นสัตว์

[mangamancer]

สิ่งตกยุคหลายอย่างมันเริ่มมาจากประเทศพัฒนาแล้วจริงครับ
ปัญหาคือหลายๆอันประเทศพัฒนาเลิกทำไปแล้ว แต่ประเทศกำลังพัฒนาดันไม่เลิกตาม 

[reiden666]

[quote/]แต่ดันวิวาทกันสภาซะงั้นนะ

ก็ไม่แปลกนะ ถ้าถึงที่สุดมนุษย์ก็พร้อมจะใช้ความรุนแรงนั่นแหล่ะ ประเทศแถวนี้ก็มีให้เห็นแถมเอากันถึงตายเลย 

[Panzerelite]

Sextoyมันเป็นอะไรที่แถบจะเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สุดแล้ว ไม่ละเมิดใครเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างจากอย่างอื่นเช่นหนังโป้ที่อาจมีการเอาเด็กมาแสดง หรือการค้าบริการทางเพศที่อาจมีการลักลอบการค้ามนุษย์ แต่ไทยและหลายๆประเทศไม่เข้าใจและมองว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ทั้งๆที่มันช่วยลดอาชญากรรมทางเพศเอย ส่งเสริมเศรษฐกิจเอย เพราะวัตถุดิบหลักคือยางและใแปรรูปยางเยอะมากๆเอาจริงประเทศที่ผลิตยางพาราแบบไทยควรส่งเสริมหนักๆเลยด้วยซ้ำ 




เราก็ๆไม่เข้าใจนะว่ามันเป็นประโยชย์ทับซ้อนหรือเพราะความกระแดะของพวกอนุรักษย์นิยมที่ชอบสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม และชอบริดรอนสิทธิส่วนบุคคลชาวบ้านหรือเปล่า

ประเทศที่พัฒนาแล้วเขายึดหลักการสิทธิมนุษยชนซึ่งรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ได้ยึดในศีลธรรมดัดจริตแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนชาตินั้น


หลายคนชอบเอาความเชื่อและค่านิยมตัวเองมาเป็นไม้บรรทัดวัดสังคม แล้วก็ตีตราคนที่ทำไม่เหมือนตนว่าเป็นผู้ร้าย


แต่อาจจะลืมไป ตอนนี้โลกของเรานั้นเกือบทุกประเทศได้มีการเซ็นสัญญาปฏิญญาสากลเกี่ยวกับมนุษยชนร่วมกัน 30 ข้อ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2491 ณ กรุงปารีส


นั่นหมายความว่า ความเชื่อและค่านิยมเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นสิ่งที่ทุกประเทศจะต้องยึดถือและเคารพเพราะเป็นค่านิยมสากลที่ทั้งโลกยอมรับ


ปฏิญญาสิทธิมนุษยชน 30 ข้อ ที่ทุกประเทศลงนาม

1.ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมด้านศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
2.ไม่แบ่งแยก
3.สิทธิในการมีชีวิต
4.ไม่ตกเป็นทาส
5.ไม่ถูกทรมาน
6.ได้รับการคุ้มครองทางกฏหมาย
7.เท่าเทียมกันตามกฏหมาย
8.สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย
9.ไม่ถูกคุมขังโดยพลการ
10.ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
11.เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน
12.สิทธิความเป็นส่วนตัว
13.เสรีภาพในการเดินทาง
14.สิทธิที่จะลี้ภัย
15.สิทธิที่จะมีสัญชาติ
16.เสรีภาพในการแต่งงาน
17.สิทธิในการครอบครองทรัพย์สิน
18.เสรีภาพในการนับถือศาสนา
19.เสรีภาพในการแสดงออก
20.เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ
21.การมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
22.การได้รับการดูแลและคุ้มครองจากรัฐ
23.สิทธิในการทำงาน
24.สิทธิในการพักผ่อน
25.คุณภาพชีวิตที่ดี
26.สิทธิในการศึกษา
27.การมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรม
28.สันติภาพระหว่างประเทศ
29.เคารพสิทธิผู้อื่น
30.ไม่มีใครเอาสิทธิเหล่านี้ไปจากเราได้


ปล. มีคนเคยเถียงผมว่า "ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนเท่ากัน คนพิการไม่เห็นเท่ากับคนทั่วไปเลย" หรือ "คนรวยกับคนจนไม่เท่ากันหรอก" ซึ่งมันเป็นการถกเถียงผิดประเด็น ความหมายของ ข้อ 1 คือ ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนรวยหรือจน สมบูรณ์หรือพิการ คุณต้องมองและปฏิบัติกับทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกันเช่นเดียวกับคุณ ไม่ใช่มองหรือปฏิบัติราวกับว่าบางคนเป็นสัตว์

บ้านเรามีปัญหาหนักคือข้อ7คับเขาถึงพยายามยกเลิกมาตรา112กัน รวมถึงการแก้รัฐมนุญหมวด2 มันมีคนตระกูลหนึ่งที่กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้ แล้วช่วงหลังๆก็มีการจับไต๋จนตาสว่างกัน ว่าตระกูลนั้นทั้งค้าเฮโรอีน ทั้งอุ้มฆ่า ทั้งเรื่องผิดกฎหหมายแทบทุกอย่างที่มี จนน่าจะเป็นตระกูลมาเฟียที่รวยที่สุดในโลกแล้ว

และด้วยเพราะข้อ7นั้นมันเลยลามไปทุกข้อเลยเพราะเกิดการปฎิบัติกันอย่างไม่เท่าเทียมในสังคมจนเกิดการแบ่งชนชั้นในสังคมขึ้น และไม่ใช่แค่คนตระกูลนั้น แม้แต่พวกคณะรัฐประหารเอย นักการเมืองเอย คนรวยเอย ดาราเอยก็กลายเป็นอีกชนชั้นหนึ่งที่ถูกแบ่งออกมา มีการเอื้อประโยชย์การทุจริตและการใช้กฎหมายแบบไม่ชอบธรรมเพียบ โดยเฉพาะกับพวกที่เห็นต่างในสังคม

[Panzerelite]

https://www.catdumb.tv/tenga-rocket-project-378/?fbclid=IwAR35ZPcOC9fXrWg2c0m4krZUDJg3mt3RbqOy-4stqysIpC_WFLZn6RUFwPQ


ล่าสุดเขาเทนก้ามีการส่งจรวดเพื่อส่ง“อุปกรณ์การวิจัย”  ไปใช้ในอวกาศแล้วจ้า ไทยเองยังมานั่งเตะบอลนั่งสมาธิกันอยู่เลย