แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: ความสมเหตุผลของนิยายโรมานซ์เรื่องความรักความใคร่-บ่นเรื่องความหึงหวงหน่อยครับ  (อ่าน 3187 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,978
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
ผมกำลังอ่านแนวความรักมากขึ้นเพื่อจะได้เขียนนิยายได้ดีเลยพยายามศึกษาเรื่องความหึงหวงมากขึ้น

ซึ่ง ก็อย่างที่เรารู้ ฮาเร็มจอมนางแห่งวังหลวง

ฆ่ากันเลือดสาดแบบโหดยิ่งกว่าแนวการล้างแค้นของฮีโร่อิเซไคในบางเรื่องอีก ???

ว่าไปแล้ว

ผมเคยเจอเคส การไปฝึกอาชีพ รัฐบาลต้องการฝึกอาชีพเพิ่มทักษะให้ประชาชน

แต่บรรดาคนที่รับการฝึกร้องไห้กลับบ้านหาลุกหาผัว ???

หากคิดแบบมีเหตุมีผล นั่นก็ทำตัวยิ่งกว่าเด็กๆที่ไปโรงเรียบนประจำอีก

หรคือว่า คนที่แต่งงานกันแล้วจะไม่สามารถห่างกันได้เลยในบางเคส

คนที่ไม่สามารถห่างบ้านได้ก็ไม่สามารถห่างบ้านได้จริงๆ

ผมกำลังทำความเข้าใจเรื่องนี้


แต่อะไรที่อธิบายเรื่องหึงหวงได้ดีอาจจะมาจากที่ที่ผมไม่คาดคิดคือ การเมืองระหว่างประเทศ

ที่เรื่องหึงหวงกัลเกมส์การเมืองเหมือนกันคือ

ความหึงหวงเกิดขึ้นได้ ไม่เกี่ยววว่าจะมี"เจตนา" ที่จะนอกใจหรือไม่ ไม่เกี่ยว

ในทางการเมือง หากอีกฝ่ายมี"ศักยภาพ"พอที่จะนอกใจ แค่นั้นก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะดำเนินนโยบาบย ไล่เลขาหน้าห้องที่หน้าตาดีให้ออกไปจากจากบริษัท ไม่ว่าจะต้องขุดคุ้นการลาโดยไม่มีใบลา ในเคสไปทำฟันหรือเรื่องไร้สาระแค่ไหนก็ตาม

ตราบใดที่ไม่สามารถกำจัดความกังวลหรือ"ศักยภาพ"ในการเกิดอะไรบางอย่างที่ขัดผลประโยชน์ได้

ความหึงหวงหรือนโยบายทางการเมืองนั้นก็ยังคงอยู่


ไม่เชื่อว่าจะเข้าใจความหึงหวง ดราม่าได้มากขึ้น หากเรามองผ่านเลนส์ มุมมองการเมืองระหว่างประเทศ

พวกเขาคงเป็นนักการทูตหรือนักวิจารณ์ข่าวการเมืองได้ไปแล้ว :-X

คลับฟรายเดย์ อาจจะเป็นนักการเมืองและนักการทูตที่เก่งก็ได้ หากพวกเขาไม่คิดว่าตนเองเป็นตัวละครในนิยายรักดราม่า


เหมือนเรื่อง ยามาโมโต้ เทพบุตรจิตป่วนพูดว่า

ขอเพียงเอาพลังและความคิดสร้างสรรค์จากเรื่องโอตาคุ ไปทำอย่างอื่น แต่ละคนคงกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ไปแล้ว 8)

ช่วงนี้ชอบมีคนบอกว่า "คนที่เข้าใจผุ้หญิงคนนั้นคือคนที่โง่งมที่สุดในแผ่นดิน" ที่โกวเล้ง คนที่หย่ามาหลายครั้งพูดเอาไว้

หลักๆคือ ผมมองว่าการตัดสินใจน่ะมีเหตุผล ไม่ใช่ไร้เหตุผลหรอก

แต่แค่มีหลักการตัดสินใจออกไปในแนวการเมืองระหว่างประเทศเท่านั้นเอง ในเรื่องความสัมพันธ์ใต้สะดือนี่

คนเราปัจเจคบุคคลเป็นคนดีและมีเหตุผลอยู่ได้

แต่พอเกี่ยวพันกับคนหมู่มาก ผลประโยชน์และความอยากต่างๆจะทำให้คนหน้ามืดตามัว

อธิบายความสัมพันธฺแบบใหญ่อย่างการเมืองระหว่างประเทศ กับแย่งผัวแย่งเมียได้ในเวลาเดียวกัน

ว่าการมองจากผลประโยชน์ล้วนๆอย่างเดียวจะมีพฤติกรรมอย่างเดียวกันนั่นเอง


ผมพยายามทำความเข้าใจเรือ่งพวกนี้มากขึ้น แต่ยิ่งพยายามเข้าใจยิ่งรู้สึกรังเกียจมากขึ้นอย่างไรก็ไม่รู้

มันจะนำมาซึ่งแนวคิด

"การหลอกลวงไม่ผิดเป็นแค่เรื่องทางเทคนิคในวงการอย่างหนึ่ง คนถูกหลอกลวงต่างหากที่ผิด" ???

ซึ่งก็อธิบายสถานการณ์ของโลกปัจจุบันได้ดีพอพอกันล่ะครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2020, 01:28:35 PM โดย samuison »
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: raraniyay

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,582
  • ถูกใจแล้ว: 18892 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-454
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: ความรักความใคร่-บ่นเรื่องความหึงหวงหน่อยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2020, 01:15:52 PM »
ไม่เข้าใจคำถามครับ :o  ขอเป็นคำถามสั้นๆง่ายๆกว่านี้หน่อยท่าน 8)
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,978
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: ความรักความใคร่-บ่นเรื่องความหึงหวงหน่อยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2020, 01:28:03 PM »
ไม่เข้าใจคำถามครับ :o  ขอเป็นคำถามสั้นๆง่ายๆกว่านี้หน่อยท่าน 8)
แค่หาข้อมูลเรื่องแนวนิยายโรมานซ์น่ะครับ
ว่าหลายอย่างในเรื่อง คนอ่านจะด่าว่าไม่สมเหตุสมผล
แต่ผมพยายามจะทำความเข้าใจควงามไม่มีเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงที่ว่านั่้นล่ะครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,379
  • ถูกใจแล้ว: 2053 ครั้ง
  • ความนิยม: +191/-397
  • เพศ: ชาย
ความโรแมนซ์ ความรัก มันก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว หลายคนทำอะไรบ้าๆบอๆได้เพราะความรัก


ทั้งๆที่ทุกอย่างมันไปจบที่การเอาองคชาติไปยัดในวาไจน่าเข้าๆออกๆ เหมือนกัน
 

ออฟไลน์ TamaNeko

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 446
  • ถูกใจแล้ว: 192 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-22
เข้าใจผู้หญิงง่ายนิดเดียว  ถามพวกโฮสต์สิ  มันก็คือศาสตร์ๆนึง  ที่เอาไว้ทำความเข้าใจผู้หญิง  ก็เหมือนตอนที่ผู้ชายถามเพื่อนๆถึงวิธีจีบหญิง  ศาสตร์จีบหญิง  การเข้าหา  การเจ้าชู้แบบไม่ให้จับได้หรือบริหารฮาเร็ม


.คนเจ้าชู้  ถ้าโดนจับได้ต้องไม่รับ  ต้องยืนกระต่ายขาเดียว  ต่อให้หลักฐานชัดขนาดไหนก็ห้ามรับ  ห้ามเชื่อลดหย่อนโทษเมื่อยอมสารภาพ 


การเมืองระหว่างประเทศ  เราก็แค่สเกลลงมาเป็นหมู่บ้านสิ  จะทำให้เข้าใจแบบหยาบๆได้  ผู้นำประเทศก็คือหัวหน้าครอบครัว  ประชุมหมู่บ้านก็คือหัวหน้าครอบครัวต่างๆที่มีอธิปไตยเป็นของตนเองมาประชุมกัน  บางบ้านหลังใหญ่แต่คนน้อย(ออสฯ)   บ้านบางหลังรวมกลุ่มกันต่อรองบ้านที่เป็นลูกค้ารายใหญ่  บางบ้านมีสัญญาใจกับบ้านที่มีอิทธิพล  บางบ้านเริ่มมีอิทธิพลเลยเริ่มหาพวก  บางบ้านยุ่งอยู่กับการจัดระเบียบภายใน  เรื่องหึงหวงระหว่างบ้านแต่ละหลังเพราะมีข้อผูกมัดหรือม่ความอันตราย  เช่นบ้านรัสเซียหึงหวงบ้านที่เคยเป็นโซเวียต  กลุ่มบ้านยูโรรู้สึกเป็นพิษบ้านอังกฤษ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2020, 03:14:33 PM โดย TamaNeko »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
มังงะ หรือไลท์โนเวลญี่ปุ่น มันไม่มีหรอกครับ ในความเป็นจริงที่นางเอก 2 คน ส่งสารท้าดวลซึ่งๆหน้า ว่าจะแข่งความรักอย่างยุติธรรม


ความหึงหวง นักวิชาการชื่อว่า Pfifer and Wong ได้แบ่งเป็น 3 ขั้น
1.ความหึงหวงทางปัญญา เกิดจากสมองคิดวิเคราะห์ว่าคู่รักมีความสนใจสิ่งอื่นเช่นสิ่งของหรือคนอื่นนอกจากตน ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมว่าผู้หญิงถึงไม่ชอบให้แฟนเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เพราะผู้หญิงหึงหวงว่าเกมส์คอมจะแย่งคนรักไป(อันนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ แต่เป็นเรื่องจริง ผู้หญิงมักไม่รู้ตัว)
2.ความหึงหวงทางอารมณ์ เป็นความรู้สึกของการผสมหลายอารมณ์ เช่น โกรธ ผิดหวัง เสียใจ
3.ความหึงหวงทางพฤติกรม เป็นพฤติกรรมแสดงออกที่เกิดจากความหึงหวง เช่น การทำลายข้าวของ การทำร้ายคนรัก การใช้วาจาว่าร้ายคนรัก


ความหึงหวง คือ อารมณ์ที่ผสมผสานกันของมนุษย์เพื่อแสดงออกถึงความกลัว ความโกรธ ที่กำลังสูญเสียของๆตนเองไป เพราะของสิ่งนั้นเป็นสิ่งของที่ก่อให้เกิดสารเสพติดคือโดปามีน(สารความสุขที่หลั่งในสมองเวลามีความสุข) กล่าวสรุปคือ คนหึงหวงเกิดจากอาการกลัวลงแดงของสิ่งที่ทำให้เกิดสารโดปามีนหายไป สมองเลยสั่งให้ต้องป้องกันของสิ่งนั้นจะหายไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2020, 08:22:19 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ TakinBackMylove

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 271
  • ถูกใจแล้ว: 920 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-52
นักเขียนดังๆชอบใส่แนวคิดของตัวเองไป


โกวเล้งลอกโคนัน ดอยล์  แต่ใส่แนวคิดผู้หญิงของตัวเอง  บางอย่างฉากบรรยายเหมือนเปลี่ยนสถานที่


กิมย้มก็ลอกดูมาส์  แต่ผู้หญิงในนิยายดูมาส์ในสายตาคนเอเชียดูร่าน  ก็เปลี่ยน  ดูมาส์มันด่านโปเลียนที่ทำให้พ่อมันลำบาก  แต่นโปเลียนบางด้านเก่งมากจริงๆ ตอนจบเลยปล่อยวางความแค้น กิมย้งนี่ตัวร้ายจะทำความเลวต่างแบบ  ตัวหนึ่งหักหลัง  ข่มขื่นทำนองนี้  ให้คนมองตัวร้ายไม่ดี  ของดูมาส์มีมิติกว่า


เจเคลอกโทลคีนกับโคนัน ดอยล์  ช่วยแรกจะวางพล็อตเหมือนดอยล์  ใส่แฟนตาซีโทลคีน 


คึกฤทธิ์นี่หลายเรื่อง  หลายเรื่องนี่เรียกว่าแปลแล้วใส่ความคิดตัวเองไปดีกว่า


ญี่ปุ่นนี่หลายคน  เคโงะลอกโคนัน ดอยล์  ลอกวิธีเขียน แนวคิดบางอย่างลอกเบนจามิน  แฟรงคลิน 


มุราคามิลอกคาฟคา  วิกเตอร์ ฮูโก้  เออร์เวล


คนแต่งkanosubaลอกดอนกิโฆเต้  ช่วงบรรยายฉากตลกมันใช่เลย


ทมยันตีลอกแมรี่ คอลเรลลี  ไม่ใช่แค่เรื่องพิษสวาทนะบังเอิญเหมือนเรื่องเงาด้วย  ร่มฉัตรลอกคึกฤทธิ์  ใส่ความคิดตัวเองไป
ถ้าคิดว่าไม่ลอกลองอ่านตรง  ดิฉันไม่อยากพูดเท็จตรงนี้  ลองตีความดู
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_234212

ปัญหานี้จะไม่เกิดเรื่องถ้าอ่านหนังสือมาก  จะบอกให้นิยายที่แปลไทยบางทีใส่ความคิดคนแปลลงไปด้วย ต้นฉบับบางทีเห็นใจตัวร้าย  คนเขียนมันเชื่อได้เหรอ?  มันสอนให้คิด  ให้มีมิติ


พอแปลใส่ความคิดนิยายบางอย่างตัวละครไม่มีมิติเลย  ญี่ปุ่นมีลอกหลายคน  ติ่งมันชอบปกป้อง  เนื้อความหมายที่นิยายจะสื่อมันไปไม่ถึง 


คือจะบอกให้คนเขียนคิดยังไงนิยายก็เป็นแบบนั้น  เพราะใส่ความคิดตัวเองลงไป







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2020, 07:59:18 PM โดย TakinBackMylove »
 

ออฟไลน์ TakinBackMylove

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 271
  • ถูกใจแล้ว: 920 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-52
ทำไมกดLinkของกระทู้ด้านบน  http://https//www.matichon.co.th/entertainment/news_234212  แล้งกลายเป็นเข้าwebพนัน   :D
กรรม  เอาคำว่า  ทมยันตี  ดิฉันไม่อยากพูดเท็จ  ไปค้นในgoogle  เดี๋ยวเจอ  ขอโทษด้วย
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,978
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
ความโรแมนซ์ ความรัก มันก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว หลายคนทำอะไรบ้าๆบอๆได้เพราะความรัก


ทั้งๆที่ทุกอย่างมันไปจบที่การเอาองคชาติไปยัดในวาไจน่าเข้าๆออกๆ เหมือนกัน

ผมพยายามมองทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติและกระบวนการน่ะครับ

ผู้หญิงชอบเล่นมุก "โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต"

กับ "หัวใจของผู้หญิงลึกลับเหมือนมหาสมุทร"
ซึ่งในฐานะนักวิทยาศษสตร์ เราไม่อาจยอมรับกระบวนการที่ว่านั้นได้ เพระาตีความว่าผู้หญิงเป็นแฟรี่ในนิยายไป
ไม่ใช่สัตว์โลกที่มีสมองและการต่อเส้นประสาทเช่นเดียวกับมนุษย์เพศชาย

เราจึงต้องศึกษาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์นั่นเอง
[quote/]
กรรม  เอาคำว่า  ทมยันตี  ดิฉันไม่อยากพูดเท็จ  ไปค้นในgoogle  เดี๋ยวเจอ  ขอโทษด้วย 

เปิดไปเจอโฆษณาเมหือนกันครับ ฮา

นักเขียนดังๆชอบใส่แนวคิดของตัวเองไป


โกวเล้งลอกโคนัน ดอยล์  แต่ใส่แนวคิดผู้หญิงของตัวเอง  บางอย่างฉากบรรยายเหมือนเปลี่ยนสถานที่


กิมย้มก็ลอกดูมาส์  แต่ผู้หญิงในนิยายดูมาส์ในสายตาคนเอเชียดูร่าน  ก็เปลี่ยน  ดูมาส์มันด่านโปเลียนที่ทำให้พ่อมันลำบาก  แต่นโปเลียนบางด้านเก่งมากจริงๆ ตอนจบเลยปล่อยวางความแค้น กิมย้งนี่ตัวร้ายจะทำความเลวต่างแบบ  ตัวหนึ่งหักหลัง  ข่มขื่นทำนองนี้  ให้คนมองตัวร้ายไม่ดี  ของดูมาส์มีมิติกว่า


เจเคลอกโทลคีนกับโคนัน ดอยล์  ช่วยแรกจะวางพล็อตเหมือนดอยล์  ใส่แฟนตาซีโทลคีน 


คึกฤทธิ์นี่หลายเรื่อง  หลายเรื่องนี่เรียกว่าแปลแล้วใส่ความคิดตัวเองไปดีกว่า


ญี่ปุ่นนี่หลายคน  เคโงะลอกโคนัน ดอยล์  ลอกวิธีเขียน แนวคิดบางอย่างลอกเบนจามิน  แฟรงคลิน 


มุราคามิลอกคาฟคา  วิกเตอร์ ฮูโก้  เออร์เวล


คนแต่งkanosubaลอกดอนกิโฆเต้  ช่วงบรรยายฉากตลกมันใช่เลย


ทมยันตีลอกแมรี่ คอลเรลลี  ไม่ใช่แค่เรื่องพิษสวาทนะบังเอิญเหมือนเรื่องเงาด้วย  ร่มฉัตรลอกคึกฤทธิ์  ใส่ความคิดตัวเองไป
ถ้าคิดว่าไม่ลอกลองอ่านตรง  ดิฉันไม่อยากพูดเท็จตรงนี้  ลองตีความดู
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_234212

ปัญหานี้จะไม่เกิดเรื่องถ้าอ่านหนังสือมาก  จะบอกให้นิยายที่แปลไทยบางทีใส่ความคิดคนแปลลงไปด้วย ต้นฉบับบางทีเห็นใจตัวร้าย  คนเขียนมันเชื่อได้เหรอ?  มันสอนให้คิด  ให้มีมิติ


พอแปลใส่ความคิดนิยายบางอย่างตัวละครไม่มีมิติเลย  ญี่ปุ่นมีลอกหลายคน  ติ่งมันชอบปกป้อง  เนื้อความหมายที่นิยายจะสื่อมันไปไม่ถึง 


คือจะบอกให้คนเขียนคิดยังไงนิยายก็เป็นแบบนั้น  เพราะใส่ความคิดตัวเองลงไป







 

ขอบคุณครับ สงสัยท่านจะหาว่าผมลอก catcher in the rye แน่ๆเพราะผมเขียนบ่นในหัวเสียเยอะ ฮา

ดองกิโฮเต้นี่ใช้เทคนิคอย่างไรครับ?
ผมว่ามันจะคล้ายๆกันเพราะดองกิโฮเต้เป็นเรื่องล้อเลียนแนวอัศวินขี่ม้าขาวนี่ครับ?

ล้อเลียนว่าที่ทำไปนั้นสูญเปล่าและทำให้ก่อความเดือดร้อนได้ ไม่แปลกที่ท่านจะมองว่าคล้ายกัน
มังงะ หรือไลท์โนเวลญี่ปุ่น มันไม่มีหรอกครับ ในความเป็นจริงที่นางเอก 2 คน ส่งสารท้าดวลซึ่งๆหน้า ว่าจะแข่งความรักอย่างยุติธรรม


ความหึงหวง นักวิชาการชื่อว่า Pfifer and Wong ได้แบ่งเป็น 3 ขั้น
1.ความหึงหวงทางปัญญา เกิดจากสมองคิดวิเคราะห์ว่าคู่รักมีความสนใจสิ่งอื่นเช่นสิ่งของหรือคนอื่นนอกจากตน ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมว่าผู้หญิงถึงไม่ชอบให้แฟนเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เพราะผู้หญิงหึงหวงว่าเกมส์คอมจะแย่งคนรักไป(อันนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ แต่เป็นเรื่องจริง ผู้หญิงมักไม่รู้ตัว)
2.ความหึงหวงทางอารมณ์ เป็นความรู้สึกของการผสมหลายอารมณ์ เช่น โกรธ ผิดหวัง เสียใจ
3.ความหึงหวงทางพฤติกรม เป็นพฤติกรรมแสดงออกที่เกิดจากความหึงหวง เช่น การทำลายข้าวของ การทำร้ายคนรัก การใช้วาจาว่าร้ายคนรัก


ความหึงหวง คือ อารมณ์ที่ผสมผสานกันของมนุษย์เพื่อแสดงออกถึงความกลัว ความโกรธ ที่กำลังสูญเสียของๆตนเองไป เพราะของสิ่งนั้นเป็นสิ่งของที่ก่อให้เกิดสารเสพติดคือโดปามีน(สารความสุขที่หลั่งในสมองเวลามีความสุข) กล่าวสรุปคือ คนหึงหวงเกิดจากอาการกลัวลงแดงของสิ่งที่ทำให้เกิดสารโดปามีนหายไป สมองเลยสั่งให้ต้องป้องกันของสิ่งนั้นจะหายไป 

ผมพยายามมองตามหลักการเมืองคือ "ทรัพยากร"น่ะครับ

"เวลาของสามี"ก็คือทรัพยากรอย่างหนึ่ง และอาจจะเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดของมนุษย์ก็ว่าได้
ไม่แปลกที่ต้องทำทกอย่างเพื่อชิงทรัพยากรที่ว่านั้น เพื่อรักษาสถานะของภริยาเอาไว้ได้

จ้าวฮาเร็มอย่างพระพุทธเจ้ายังต้องย้ำเลยว่า ต้องยกย่องภริยา หาทรัพย์สิน แก้วแหวน เครื่องใช้และยกย่องให้เกียรติ

หากมองในแนวการเมืองคือการใช้เงินซื้อใจและให้ตำแหน่งเพื่อควบคุมพฤติกรรมของคนนั่นเอง

เข้าใจผู้หญิงง่ายนิดเดียว  ถามพวกโฮสต์สิ  มันก็คือศาสตร์ๆนึง  ที่เอาไว้ทำความเข้าใจผู้หญิง  ก็เหมือนตอนที่ผู้ชายถามเพื่อนๆถึงวิธีจีบหญิง  ศาสตร์จีบหญิง  การเข้าหา  การเจ้าชู้แบบไม่ให้จับได้หรือบริหารฮาเร็ม


.คนเจ้าชู้  ถ้าโดนจับได้ต้องไม่รับ  ต้องยืนกระต่ายขาเดียว  ต่อให้หลักฐานชัดขนาดไหนก็ห้ามรับ  ห้ามเชื่อลดหย่อนโทษเมื่อยอมสารภาพ 


การเมืองระหว่างประเทศ  เราก็แค่สเกลลงมาเป็นหมู่บ้านสิ  จะทำให้เข้าใจแบบหยาบๆได้  ผู้นำประเทศก็คือหัวหน้าครอบครัว  ประชุมหมู่บ้านก็คือหัวหน้าครอบครัวต่างๆที่มีอธิปไตยเป็นของตนเองมาประชุมกัน  บางบ้านหลังใหญ่แต่คนน้อย(ออสฯ)   บ้านบางหลังรวมกลุ่มกันต่อรองบ้านที่เป็นลูกค้ารายใหญ่  บางบ้านมีสัญญาใจกับบ้านที่มีอิทธิพล  บางบ้านเริ่มมีอิทธิพลเลยเริ่มหาพวก  บางบ้านยุ่งอยู่กับการจัดระเบียบภายใน  เรื่องหึงหวงระหว่างบ้านแต่ละหลังเพราะมีข้อผูกมัดหรือม่ความอันตราย  เช่นบ้านรัสเซียหึงหวงบ้านที่เคยเป็นโซเวียต  กลุ่มบ้านยูโรรู้สึกเป็นพิษบ้านอังกฤษ   

ขอบคุณครับ
แสดงว่าคนเจ้าชู้นี่แนะนำมาเหมือนกัน

พ่อผมบ่นไทเกอร์วู๊ดใหญ่ว่ามึงจะยอมรับทำไมฟะ ???

ผมแซวพ่อว่า ขุนแผนนี่มีความสุขจริงๆเรอะพ่อ?

แต่ผมพยายามศึกษาพวกโฮสต์กับพิมป์แมงดาไว้น่ะครับ

แนวความคิดในการบริหารกิจการตามท้องถนนของพวกเขาเปิดหูเปิดตามาก

ว่าประชาธิปไตยไม่มีอยู่จริงในครัวเรือน เราต้องมอบอำนาจ กระบี่อาญาสิทธิ์ให้กับ bottom bitch ในการควบคุมคนอื่นๆ
แต่เราต้องเป็นคนคอยคุมกุญแจกระเป๋าเงินของบ้านไว้
ซึ่งระบบจะเป็นที่ว่า bottom bitch จะต้องมาขอการอนุมัติจาก pimp อีกทีหนึ่งเวลาต้องการอะไร

พูดได้ห้าวมากเลยครับพวกนี้ว่า

"เขาสามารถเปลี่ยนคนทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือเป็นแม่ชีเทเรซ่ามาเป็นคุณตัวให้เขาได้ ขอเพียงแตต้องใช้เวลากับพวกนั้นมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆเท่านั้นเอง"

อายุมากขึ้นผมเริ่มพยายามศึกษทักษะการสื่อสารมากขึ้นล่าะครับ

ว่ามันคือศาสตร์ที่จริงแล้วเป็นวิทยาศาสตร์มากๆ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TakinBackMylove

ออฟไลน์ bhasuk

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 338
  • ถูกใจแล้ว: 169 ครั้ง
  • ความนิยม: +9/-7
ถ้าท่านทำได้จริง  ผู้หญิงส่วนมากก็พร้อมอุทิศ  เพราะท่านมอบสิ่งที่พวกเธอต้องการให้แลว   ....  มันก็ไม่ตางจากเราชิญคนเข้ามาสวามิภักดิ์นั่นแหละ  บางคนต้องการเงิน(พวกนี้น่าเลียด)  บางคนต้องการกินเกียรติ  บางคนถูกปลูกฝังมา  หาดีๆก็จะเจอ  ผู้หญิงก็เช่นกันครับ  ในเมื่อเรามอบสิ่งที่เธออยากได้  มันก็ย่อมกิฟแอนแทค


แต่ระวังคนที่ยอมกินดีขม  รอก่อการณ์ใหญ่หล่ะกัน  ผู้หญิงประเภทนี้  เลี้ยงทหารพันวันใช้งานวันเดียว  ^^
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,978
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
ถ้าท่านทำได้จริง  ผู้หญิงส่วนมากก็พร้อมอุทิศ  เพราะท่านมอบสิ่งที่พวกเธอต้องการให้แลว   ....  มันก็ไม่ตางจากเราชิญคนเข้ามาสวามิภักดิ์นั่นแหละ  บางคนต้องการเงิน(พวกนี้น่าเลียด)  บางคนต้องการกินเกียรติ  บางคนถูกปลูกฝังมา  หาดีๆก็จะเจอ  ผู้หญิงก็เช่นกันครับ  ในเมื่อเรามอบสิ่งที่เธออยากได้  มันก็ย่อมกิฟแอนแทค


แต่ระวังคนที่ยอมกินดีขม  รอก่อการณ์ใหญ่หล่ะกัน  ผู้หญิงประเภทนี้  เลี้ยงทหารพันวันใช้งานวันเดียว  ^^
ผมไม่ใช่สายเจ้าชู้ครับ
ลองวิเคราะห์ดูจากที่หลายคนบอก

ผู้หญิงมองความรักเป็นเรื่อง mind game เอามากๆ
ส่วนผู้ชายยังเข้าใจผิดว่าเป็นความโรแมนติคอยู่ไม่มองว่าเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งแบบอาชีพหรือทักษะอย่างอื่น
คนที่พอเข้าใจเรื่องนี้มีแค่ระดับ พระพทธเจ้า โฮสต์และพิมป์เท่านั้นเอง
ที่มองว่าเป้นศาสตร์และทักษะวิชา ไม่ใช่เรื่องของความโรแมนติค
แบบเดียวกับที่ขันทีในวังให้ความรู้ขชันทีรุ่นใหม่ว่าจะดูแลฮ่องเต้อย่างไรให้มอำนาจใหญ่โตได้
มีีประโยคหนึ่งคือ
"ปล่อยให้พระองค์ทำตามใจ อย่าได้ให้ใกล้ชิดกับบัณฑิตตที่มีความรู้" คือประโยคที่สรุปจากประสบการณ์
พิมป์ก็เจอเหตุการณ์แบบเดียวกับที่ท่านว่ามานั่นล่ะครับ

อะไรที่เคยบอกความลับ ความทรู้สึกส่วนตัวของตนให้ bottom bitch ฟังจะย้อนกลับมาหาตนเอง
ความลับมีค่ามากๆ เก็บไว้กับตัวผู้ชายไม่เคยเข้าใจข้อนี้ ยกเว้นผู้ชายเจ้าชู้ ที่พวกนั้นเข้าใจพอสมควรว่า mind game เล่นกันอย่างไร
กับโฮสต์หรือพิมป์ ที่เป็นมืออาชีพ
และพระพุทธเจ้าที่ไปอีกสเต็ปหนึ่งว่ามันไร้สาระทั้งหมดนั่นล่ะ แต่ก็ถ่ายทอดเคล็ดวิชาการครองเรือนมาให้คนธรรมดาได้ใช้กัน ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ bhasuk

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 338
  • ถูกใจแล้ว: 169 ครั้ง
  • ความนิยม: +9/-7
 

ออฟไลน์ TakinBackMylove

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 271
  • ถูกใจแล้ว: 920 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-52
[quote/]

ผมพยายามมองทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติและกระบวนการน่ะครับ

ผู้หญิงชอบเล่นมุก "โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต"

กับ "หัวใจของผู้หญิงลึกลับเหมือนมหาสมุทร"
ซึ่งในฐานะนักวิทยาศษสตร์ เราไม่อาจยอมรับกระบวนการที่ว่านั้นได้ เพระาตีความว่าผู้หญิงเป็นแฟรี่ในนิยายไป
ไม่ใช่สัตว์โลกที่มีสมองและการต่อเส้นประสาทเช่นเดียวกับมนุษย์เพศชาย

เราจึงต้องศึกษาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์นั่นเอง
[quote/]

เปิดไปเจอโฆษณาเมหือนกันครับ ฮา

[quote/]

ขอบคุณครับ สงสัยท่านจะหาว่าผมลอก catcher in the rye แน่ๆเพราะผมเขียนบ่นในหัวเสียเยอะ ฮา

ดองกิโฮเต้นี่ใช้เทคนิคอย่างไรครับ?
ผมว่ามันจะคล้ายๆกันเพราะดองกิโฮเต้เป็นเรื่องล้อเลียนแนวอัศวินขี่ม้าขาวนี่ครับ?

ล้อเลียนว่าที่ทำไปนั้นสูญเปล่าและทำให้ก่อความเดือดร้อนได้ ไม่แปลกที่ท่านจะมองว่าคล้ายกัน
[quote/]

ผมพยายามมองตามหลักการเมืองคือ "ทรัพยากร"น่ะครับ

"เวลาของสามี"ก็คือทรัพยากรอย่างหนึ่ง และอาจจะเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดของมนุษย์ก็ว่าได้
ไม่แปลกที่ต้องทำทกอย่างเพื่อชิงทรัพยากรที่ว่านั้น เพื่อรักษาสถานะของภริยาเอาไว้ได้

จ้าวฮาเร็มอย่างพระพุทธเจ้ายังต้องย้ำเลยว่า ต้องยกย่องภริยา หาทรัพย์สิน แก้วแหวน เครื่องใช้และยกย่องให้เกียรติ

หากมองในแนวการเมืองคือการใช้เงินซื้อใจและให้ตำแหน่งเพื่อควบคุมพฤติกรรมของคนนั่นเอง

[quote/]

ขอบคุณครับ
แสดงว่าคนเจ้าชู้นี่แนะนำมาเหมือนกัน

พ่อผมบ่นไทเกอร์วู๊ดใหญ่ว่ามึงจะยอมรับทำไมฟะ ???

ผมแซวพ่อว่า ขุนแผนนี่มีความสุขจริงๆเรอะพ่อ?

แต่ผมพยายามศึกษาพวกโฮสต์กับพิมป์แมงดาไว้น่ะครับ

แนวความคิดในการบริหารกิจการตามท้องถนนของพวกเขาเปิดหูเปิดตามาก

ว่าประชาธิปไตยไม่มีอยู่จริงในครัวเรือน เราต้องมอบอำนาจ กระบี่อาญาสิทธิ์ให้กับ bottom bitch ในการควบคุมคนอื่นๆ
แต่เราต้องเป็นคนคอยคุมกุญแจกระเป๋าเงินของบ้านไว้
ซึ่งระบบจะเป็นที่ว่า bottom bitch จะต้องมาขอการอนุมัติจาก pimp อีกทีหนึ่งเวลาต้องการอะไร

พูดได้ห้าวมากเลยครับพวกนี้ว่า

"เขาสามารถเปลี่ยนคนทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือเป็นแม่ชีเทเรซ่ามาเป็นคุณตัวให้เขาได้ ขอเพียงแตต้องใช้เวลากับพวกนั้นมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆเท่านั้นเอง"

อายุมากขึ้นผมเริ่มพยายามศึกษทักษะการสื่อสารมากขึ้นล่าะครับ

ว่ามันคือศาสตร์ที่จริงแล้วเป็นวิทยาศาสตร์มากๆ

รูปแบบ  แต่ใส่วัฒนธรรมต่างกัน


ชื่อข้างบนทำจริงๆ  บ้านเราแปลนิยายตัดบางส่วนออกไป  ถ้าตัวเต็มใช่เลย  บางคนได้อิทธิพล  นานๆทีจะมีนักเขียนที่หลุดพ้นเป็นแบบตัวเองได้ซะที  หลายคนอ่านงานรู้เลยว่าเอามาจากไหน


แต่ภาษานักเขียนต้นแบบมันโบราณ  ถ้าไม่โบราณยังไงก็เบอร์ต้นๆได้อยู่ดี


 

ออฟไลน์ bhasuk

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 338
  • ถูกใจแล้ว: 169 ครั้ง
  • ความนิยม: +9/-7
ไม่แปลกหรอก  เป็นผม  ผมก็แปลนิยายเข้าจริตตัวเอง  อย่างเดธแฟล็กมังงะ  ผมด่าสาดเสียเทเสียเลย  เพราะไม่เข้าจริตตัวเอง  การแปลนิยายมันก็งี้แหละท่าน  เผลอๆผมคิดว่ามันสำคัญซะด้วยซ้ำ  ที่จริตคนแปลควรมี  คคห.ส่วนตัวล้วนๆนะ  ^^  อ๊ะ!  แน่นอนมันเป็นทัศนคติที่ผิด  แปลสมัครเล่น  คิดว่ามันเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง  ส่วนแปลแบบอาชีพ  อันนี้ไม่รู้  ผมโง่  ^^
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,978
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
mind game??   โน 

อย่างที่ท่านฝาสุกเคยบอกว่าตนเองเป็นแนวลุกสาวดยุก มีรอยยิ้มเฉือดเฉือนในสังคมน่ะครับ ???

ผมพยายามจะถอดสมการการติดต่อสื่อสารทางสังคมมาชั่วชีวิตของผม เพระาผมออกแนวกึ่งๆออทิสติคเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นหนักเท่าหลายคนที่หลุดโลกไปแล้ว
ผมยังพอเข้าใจความสำคัญของการเข้าสังคมอยู่บ้างทางทฤษฎี

ไม่แปลกหรอก  เป็นผม  ผมก็แปลนิยายเข้าจริตตัวเอง  อย่างเดธแฟล็กมังงะ  ผมด่าสาดเสียเทเสียเลย  เพราะไม่เข้าจริตตัวเอง  การแปลนิยายมันก็งี้แหละท่าน  เผลอๆผมคิดว่ามันสำคัญซะด้วยซ้ำ  ที่จริตคนแปลควรมี  คคห.ส่วนตัวล้วนๆนะ  ^^  อ๊ะ!  แน่นอนมันเป็นทัศนคติที่ผิด  แปลสมัครเล่น  คิดว่ามันเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง  ส่วนแปลแบบอาชีพ  อันนี้ไม่รู้  ผมโง่  ^^ 

มันเปลี่ยนความหมายของตัววรรณกรรมไป

ให้ได้สำนวนและความหมายตามที่เราต้องการ

[quote/]
รูปแบบ  แต่ใส่วัฒนธรรมต่างกัน


ชื่อข้างบนทำจริงๆ  บ้านเราแปลนิยายตัดบางส่วนออกไป  ถ้าตัวเต็มใช่เลย  บางคนได้อิทธิพล  นานๆทีจะมีนักเขียนที่หลุดพ้นเป็นแบบตัวเองได้ซะที  หลายคนอ่านงานรู้เลยว่าเอามาจากไหน


แต่ภาษานักเขียนต้นแบบมันโบราณ  ถ้าไม่โบราณยังไงก็เบอร์ต้นๆได้อยู่ดี


 

ผมว่าเพราะท่านอ่านเยอะเลยมองเทคนิคหลายๆอย่างออกจากงานวรรณกรรม

ส่วนคนที่อ่านน้อยก็จะลอกแบบ ได้รับอิทธิพลมาจากงานที่ตนเองอ่านมา

อย่างผมเองก็ออกแนวไลท์โนเวล

มองว่าที่จริงการเขียนให้น้อย ภาษาง่าย ไม่ต้องบรรยายมากแต่ให้เรื่องไปได้ก็เป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งเช่นกัน

อาจจะตรงกันข้ามกับแนวคิดสมัยก่อนเรื่องการบรรยายโวหาร อย่้างละเอียด

แต่หลักๆคือ สื่อที่คนอ่านชอบออกมาได้ก็พอแล้ว

ซามูเอลแจ็กสันแซวไว้ดีว่า

ไม่มีโอกาสพูดว่า นี่ไม่ใช่บทที่ผมต้องการ เพราะคุณจะไม่ได้บทเลย

หรือบางคนที่งานที่ตนเองตั้งใจมากกลับไม่ได้รับความนิยม งานที่ตนเองเขียนเล่นๆ คนอ่านดันชอบมาก ร้องเอาอีก เอาอีก ???

ผมคิดว่าเราต้องรักษาบาลานวืตรงจุดนี้ด้วย

อย่างตอนเขียนหนังสือกฎหมาย ผมเคยแซวๆกับเพื่อว่า
ระดับปรมาจารย์ความรู้ขั้นสุงน่ะ
ปล่อยให้ปรมาจารย์กับคนที่ฉลาดหลุดโลกไปแล้วที่มีไม่กี่คนอ่านเถอะ

พวกเราทำให้คนที่ไม่เก่งที่มีจำนวนมากกว่ามหาศาลอ่านก็พอแล้ว

แน่นอนก็อาจโดนดูถูกว่าเป็นงานตลาด

แต่ผมมองเสมอว่า งานตลาดที่เหนือทุกผู้คนในตลาดได้นั้นเก่งมากๆ

อารมณ์ประมาณ มีอาวุธพิสดารมากมายในยุทธจักร แต่อาวุธที่คนนับถือที่สุดคือกระบี่เพราะใช้แพร่หลายมากที่สุด
เก่งที่สุดในมือกระบี่ก็ได้ยอมรับว่าเป็นที่สุดในจำนวนคนหมู่มากที่สุด ยอมรับเป็นการทั่วไป

กับ

อีกแนวทางหนึ่งที่แซวกันเรื่อง เฟอรรี่ เขียนแนวหูแมว คนรูปร่างสัตว์
ที่ฝรั่งมีส่วนเป็นสัตว์มากกว่าแนวหูแมวของทางตะวันออก

ที่นักเขียนหลายคนไม่ใช่สายเฟอรี่เลย แต่ก็ต้องเขียนเพระาพวกนี้เงินหนา ???

เท่าที่ผมจำได้ นักแสดงคนหนึ่งใช้ระบบนี้คือ


รับงานฮอลลี่วุ้ดเพื่อเงินนั่นล่ะ แต่เอาเงินที่ได้ ไปลงทุนกับวงแสดงละครเวทีของตนเอง

รับงานตลาดเพื่อเงิน ยอมเสียงานที่ได้มาจากกงานตลาดเพื่อศิลปะ :P

รักษาบาลา่นซ์ให้ได้
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ TakinBackMylove

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 271
  • ถูกใจแล้ว: 920 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-52
[quote/]

อย่างที่ท่านฝาสุกเคยบอกว่าตนเองเป็นแนวลุกสาวดยุก มีรอยยิ้มเฉือดเฉือนในสังคมน่ะครับ ???

ผมพยายามจะถอดสมการการติดต่อสื่อสารทางสังคมมาชั่วชีวิตของผม เพระาผมออกแนวกึ่งๆออทิสติคเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นหนักเท่าหลายคนที่หลุดโลกไปแล้ว
ผมยังพอเข้าใจความสำคัญของการเข้าสังคมอยู่บ้างทางทฤษฎี

[quote/]

มันเปลี่ยนความหมายของตัววรรณกรรมไป

ให้ได้สำนวนและความหมายตามที่เราต้องการ

[quote/]

ผมว่าเพราะท่านอ่านเยอะเลยมองเทคนิคหลายๆอย่างออกจากงานวรรณกรรม

ส่วนคนที่อ่านน้อยก็จะลอกแบบ ได้รับอิทธิพลมาจากงานที่ตนเองอ่านมา

อย่างผมเองก็ออกแนวไลท์โนเวล

มองว่าที่จริงการเขียนให้น้อย ภาษาง่าย ไม่ต้องบรรยายมากแต่ให้เรื่องไปได้ก็เป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งเช่นกัน

อาจจะตรงกันข้ามกับแนวคิดสมัยก่อนเรื่องการบรรยายโวหาร อย่้างละเอียด

แต่หลักๆคือ สื่อที่คนอ่านชอบออกมาได้ก็พอแล้ว

ซามูเอลแจ็กสันแซวไว้ดีว่า

ไม่มีโอกาสพูดว่า นี่ไม่ใช่บทที่ผมต้องการ เพราะคุณจะไม่ได้บทเลย

หรือบางคนที่งานที่ตนเองตั้งใจมากกลับไม่ได้รับความนิยม งานที่ตนเองเขียนเล่นๆ คนอ่านดันชอบมาก ร้องเอาอีก เอาอีก ???

ผมคิดว่าเราต้องรักษาบาลานวืตรงจุดนี้ด้วย

อย่างตอนเขียนหนังสือกฎหมาย ผมเคยแซวๆกับเพื่อว่า
ระดับปรมาจารย์ความรู้ขั้นสุงน่ะ
ปล่อยให้ปรมาจารย์กับคนที่ฉลาดหลุดโลกไปแล้วที่มีไม่กี่คนอ่านเถอะ

พวกเราทำให้คนที่ไม่เก่งที่มีจำนวนมากกว่ามหาศาลอ่านก็พอแล้ว

แน่นอนก็อาจโดนดูถูกว่าเป็นงานตลาด

แต่ผมมองเสมอว่า งานตลาดที่เหนือทุกผู้คนในตลาดได้นั้นเก่งมากๆ

อารมณ์ประมาณ มีอาวุธพิสดารมากมายในยุทธจักร แต่อาวุธที่คนนับถือที่สุดคือกระบี่เพราะใช้แพร่หลายมากที่สุด
เก่งที่สุดในมือกระบี่ก็ได้ยอมรับว่าเป็นที่สุดในจำนวนคนหมู่มากที่สุด ยอมรับเป็นการทั่วไป

กับ

อีกแนวทางหนึ่งที่แซวกันเรื่อง เฟอรรี่ เขียนแนวหูแมว คนรูปร่างสัตว์
ที่ฝรั่งมีส่วนเป็นสัตว์มากกว่าแนวหูแมวของทางตะวันออก

ที่นักเขียนหลายคนไม่ใช่สายเฟอรี่เลย แต่ก็ต้องเขียนเพระาพวกนี้เงินหนา ???

เท่าที่ผมจำได้ นักแสดงคนหนึ่งใช้ระบบนี้คือ


รับงานฮอลลี่วุ้ดเพื่อเงินนั่นล่ะ แต่เอาเงินที่ได้ ไปลงทุนกับวงแสดงละครเวทีของตนเอง

รับงานตลาดเพื่อเงิน ยอมเสียงานที่ได้มาจากกงานตลาดเพื่อศิลปะ :P

รักษาบาลา่นซ์ให้ได้
ไม่จริง  หนังสือคณิตของเกาส์อ่านง่ายกว่าหนังสือเรียนอีก  อัจฉริยะมากสร้างสมการเป็นตั้งแต่เจ็ดขวบ 


หนังสือนิวตันก็อ่านง่าย  แบบว่าอ่านแล้วเอาโจทย์มาทำได้เลยไม่ต้องมีครู  หนังสือเรียนของไทยสอนไม่เข้าใจ


เราว่าไม่ยากงานเขียน  เราเขียนสิบตอนคนอ่านในเด็กดีตามอ่านสามร้อยกว่าคนละ  แต่ละคนล้วนมีทริค  คนนี้แนวไหนยังไงจับทริคได้เลย


ถ้าอ่านเบอร์ต้นๆของโลกบ่อย งานเขียนในไทยนี่ถือว่าง่ายมาก  มันมีหนังสือสอนทริคด้วย  สตีเฟน คิงคนหนึ่งมั้งที่มีหนังสือสอนทริคเป็นภาษาไทย  คนอื่นหาไม่ได้เลย

ไม่แปลกหรอก  เป็นผม  ผมก็แปลนิยายเข้าจริตตัวเอง  อย่างเดธแฟล็กมังงะ  ผมด่าสาดเสียเทเสียเลย  เพราะไม่เข้าจริตตัวเอง  การแปลนิยายมันก็งี้แหละท่าน  เผลอๆผมคิดว่ามันสำคัญซะด้วยซ้ำ  ที่จริตคนแปลควรมี  คคห.ส่วนตัวล้วนๆนะ  ^^  อ๊ะ!  แน่นอนมันเป็นทัศนคติที่ผิด  แปลสมัครเล่น  คิดว่ามันเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง  ส่วนแปลแบบอาชีพ  อันนี้ไม่รู้  ผมโง่  ^^ 

แต่ความรู้สึกเวลาอ่านจะต่างกัน  ยกตัวอย่างพระรามฆ่าศัตรูในตอนเพลี่ยงพล้ำ  กับพระรามฆ่าศัตรูเมื่อศัตรูสู้ไม่ไหว


ความรู้สึกคนอ่านมันต่างกัน  ฆ่าศัตรูในตอนเพลี่ยงพล้ำ  เหมือนฉวยโอกาส


ฆ่าศัตรูเมื่อศัตรูสู้ไม่ไหว  คือแพ้สู้ไม่ได้


ความจริงคือพระรามสู้กับยักษ์  สู้ไปมายักษ์ลุกไม่ขึ้น  พระรามเลยเอาศรยิงตาย


เด็กนะ  ส่วนใหญ่คิดเองไม่ค่อยได้  โตมาจะคิดได้  มันสอนเด็กให้ฉวยโอกาส  อันนี้จำได้ว่าสมัยก่อนเรียนตอนประถม 


ความรู้สึกมันต่างกัน  อันหนึ่งฉวยโอกาส  อันหนึ่งสู้ยิบตา 
 
คนที่คิดวิเคราะห์คือคนอ่าน  การสื่อพลาด  ความหมายผิดไปเลย  อันนี้คือในทางวงการนักแปลนะ


การอ่านมันส่งผลต่อความคิดคนด้วย  ต่างประเทศนี่เรื่องใหญ่มาก  บ้านเราแฟนคลับปกป้องเกิน
 

ออฟไลน์ TakinBackMylove

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 271
  • ถูกใจแล้ว: 920 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-52
ไม่หลุดโลกหรอก  คนอ่านนิยายเชื่อมต่อกัน  ผมเคยจะลาเบียวเมื่อกว่าสองปีก่อน  แต่เพราะสนุก  และผมไม่ใช่ระดับลูกดยุค  แต่ตอนนี้คงลาเบียวจริงๆหล่ะ  เอาเป็นว่าตอนนี้ผมถือโอกาศลาหล่ะกัน(อย่าเชื่อ)  ก่อนนี้มีความทรงจำดีๆมากมาย  ทั้งคิดเชิญดาบแดงมางานอุ่นไอรัก  ทั้งคิดโอกาศช่วยเพื่อนสมาชิก  ทั้งคิดตรองอย่าเข้าไปยุ่ง  ให้มองแบบแนชชั่นนอลก็พอ  โชคดีครับ  กูดลัคครับ  ได้เวลาแล้ว  สนุกมาก  ขอบคุณ  @samuison  //อย่าเชื่อ  ยัยนี่แม
แปลไทยหลายคนบิดไปจากต้นฉบับมากๆเลย
 

ออนไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,199
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
ผมบอกคำเดียวไม่ต้องพยายามเข้าใจความรักไม่มีเหตุผลยิ่งชิงรักหักสวาทเเย่งผัวคนเดียวกันจากบรรดาเมียๆยิ่งไร้เหตุผล บวกการเมืองเข้าไปอีกปาสมองทิ้งได้เลยส่วนไอ้คำคมที่ว่าถ้าโอตาคุเอาพลังสร้างสรรไปทำอย่างอื่นทุกคนจะยิ่งใหญ่นะ บอกตามตรงโคตรละเมอเหมือนเอาสุดยอดนักวิททีโคตรเก่งแต่ร่างกายอ่อนแอเพราะอ่านหนังสือกับทดลองเยอะ แล้วบอกว่าถ้าคุณไปเล่นกีฟาไม่มาวิจัยนะคุณเป็นแชมป์โลกไปแล้ว มันแค่มีโอกาสเป็นไปได้ครับแต่ถ้าคนๆนั้นทำแต่ความเป็นจริงคือไม่มีทางครับคนชอบสนใจเรื่องหนึ่งและทุมเทกับมันจนเป็นมาสเตอร์ ไห้มันไปทำในสิ่งที่มันไม่สนใจไม่ชอบหรือเกลียดมันจะไปรอดเหรอแค่คิดก็ไม่มีทางทำได้แล้วครับ

ออฟไลน์ cyberstein

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 150
  • ถูกใจแล้ว: 66 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-5
เหตุผลง่ายๆ คือคนแต่งไม่เคารพในตัวละครที่สร้างแค่นั้นหละเรื่องไม่สมเหตุสมผลเลยเกิดขึ้น

พวกคนแต่งเทพๆ จะมีการวางบุคลิก นิสัย และ อื่นๆ ของตัวละคร ชัดเจน และเขาจะถือว่าตัวละครเหล่านี้มีตัวตนเป็นของตัวเอง การเดินเรื่องจะอิงจากนิสัยตัวละครเหล่านั้นเป็นหลักมันเลยดูสมเหตุสมผล
ส่วนพวกที่มือไม่ถึง จะบังคับให้ตัวละครแสดงออกตามที่ตัวเองต้องการ เหมือนสร้างตัวละครมาแล้วไม่เห็นหัวตัวละครตัวเองอยากจะให้ทำอะไรก็ได้ ความไม่สมเหตุสมผลก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TakinBackMylove

ออฟไลน์ raraniyay

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 76
  • ถูกใจแล้ว: 31 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-1
โรแมนติก อาจเป็นคำอธิบาย ที่ไว้ใช้หลอกตัวเองของคนเรา เขาหล่อ,สวย(พันธุกรรมที่ดี) คนคนนี้โกหกฉันไม่ได้ฉันจับเขาได้(ความวางใจ) คนคนนี้รวย(เงิน) คนคนนี้ใส่ใจเรา(ความวางใจ) คนใจดี(มีคนช่วยงาน) เขาซื่อตรง(ไม่อยากโดนหลอกไม่เสียง) เขาไม่นอกใจฉันหลอก(คุณเสียงคุณคิดว่าเขาต้องการอะไรจสกคุณมาก ไม่ก็ เขามีต้นทุนที่ดี) หรือก็คือโรอมนติกอาจจะเป็นการหลอกกันไปกันมา สลับกันระหว่างหลอกตัวเราเองว่าเราไม่ได้ต้องการทรัพยากรจากเขา กับหลอกคู่ขิงเราว่าเรารักเขาก็ได้ โดยหวังว่าจะได้รับความเชื่อใจคืนมา
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก