การที่คณะราฐฎร์ทำการปฏิวัติมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ ถ้าไม่สำเร็จคือตายกันหมดหรืออาจตายทั้งโคตรได้เลย
ถามว่าถ้าเป็นท่านถ้าต้องการผลประโยชน์อย่างเดียว ไม่มีส่วนของอุดมการณ์ด้วยเลย เป็นท่านจะเสี่ยงทำมั้ย
ใช่ครับ คณะราษฎรก่อการหลายคนพูดเหมือนง่าย แต่จริงๆยากมากนะครับ แล้วไม่มีผู้ใหญ่คนไหน Support เลย
มันคือการเอาคอพาดเขียง พลาดคือโดนประหารชีวิต แถมคุณทราบหรือไม่ว่า
จริงๆการที่มีกลุ่มคนก่อการพยายามจะปฏิวัติการปกครอง ตั้งแต่สมัย ร.5 ถึง ร.7 นี่หลายครั้งมากนะครับ แล้วล้มเหลวกันมามากมาย ล้มเหลวก็คือโดนประหาร
สมัย ร.5 มีกบฏผู้มีบุญ, กบฏ 4 บาท, กบฏเงี้ยว, กบฏแขก 7 หัวเมือง, กบฏแพร่
สมัย ร.6 ก็มีกบฏ ร.ศ.130(อีกชื่อหนึ่งคือกบฏหมอเหล็ง)
แถมในสมัย 2475 นั้น 4 + 1 + 1 ทหารเสือคณะราษฎร อันได้แก่ พระยาพหลพลพยุหเสนา พระยาทรงสุรเดช พระยาฤทธิอัคเนย์ พระยาศรีสิทธิสงคราม พระประศาสน์พิทยายุทธ และหลวงพิบูลสงคราม
พวกเขาเป็นแค่นายทหารชั้นผู้น้อยในกองทัพอยู่เลย คือแทบจะไม่มีอำนาจในการสั่งการกองพันเสียด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับครั้งที่ผ่านๆมา คือ แม่งแทบเป็นไปไม่ได้
แต่ที่ทำสำเร็จ มี 2 ปัจจัย
1. พระองค์เจ้าบวรเดช ผู้มีอำนาจทางทหาร นั้นแสดงความไม่พอใจที่ไม่เพิ่มเงินเดือนให้ลูกน้องทหารด้วยการลาออก ทางราชสำนักจึงเพ่งเล็งไปที่พระองค์เจ้าบวรเดชแทน
2. พระยาทรงสุรเดช มีตำแหน่งเป็นครูฝึก แล้วในกลุ่มทั้งหมดพระยาทรงสุรเดชมีความฉลาดด้านกลยุทธมากที่สุด แผนการก่อการจะพูดได้ว่าสำเร็จเพราะเขาก็ไม่ถือว่าเกินเลย
เขาหลอกให้ทหารคิดว่าเป็นการฝึกซ้อม แล้วได้พาทหารรวมทั้งรถถังเข้ามายึดอำนาจ ในตอนแรกพระยาทรงสุรเดชตั้งใจปฏิวัติในวันที่ ร.7 อยู่กรุงเทพฯ พูดง่ายๆว่า
พระยาทรงสุรเดชกะจะฆ่า ร.7 + ราชวงศ์หมดเลย แต่คณะราษฎรคนอื่นหลายคนห้ามไว้ คือ พระยาฤทธิอัคเนย์ อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ และ พระยาพหลพลพยุหเสนา
ทำให้เปลี่ยนแผนมาทำการปฏิวัติในวันที่ ร.7 ไม่อยู่กรุงเทพฯ ซึ่ง ร.7 ตอนนั้นอยู่วังไกลกังวล ณ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทรงกำลังเล่นกอล์ฟอยู่ไม่รู้ข่าวที่กรุงเทพฯ
เนื่องจากโดนคณะราษฎรฝ่ายพลเรือน ตัดสายโทรเลขทั้งหมด