เพิ่งได้มีโอกาสดูจนจบ เรื่องนี้ผมชอบช่วงแรก ๆ มาก การดำเนินเรื่องน่าสนใจ แต่ละตอนจะจบตอนในช่วงเนื้อเรื่องที่ให้อารมณ์ค้างคาแบบ WTF !! น่าสนใจว่าจะเป็นยังไง (อย่างตอนที่ 3 นี่ จบลงที่หัวหน้าเชิญ สส. ที่เป็นผู้ต้องสงสัย มารับฟังการสืบสวนของพระเอกซะงั้น ในใจผมคิดเลยว่า โดนเล่นแล้วไงล่ะมึง !!!)
ทุกอย่างดูดี แม้จะเวอร์ไปบ้างที่ความสามารถที่ดูเหนือมนุษญ์ของนางเอก (ขอเรียกนางเอกนะแม้ว่าบทเธอจะเป็นตัวร้าย เพราะเธอคือตัวดำเนินเรื่องหลักฝ่ายหญิง) จนกระทั่ง 2 ตอนสุดท้าย
ส่วนตัวคิดว่าผกก. เรื่องนี้พยายามสร้างให้ล้ำเกินไป พยายามยัดปรัชญาเยอะ ๆ จนสุดท้ายไม่รู้จะไปทางไหนดี มันเลยดูจับจด ลักลั่น ไปไม่สุดสักทาง
ถ้าดำเนินเรื่องเป็นแค่ Mystery ลึกลับสืบสวนไขปริศนา เหมือนช่วงแรก ๆ จะดีกว่า ตั้งแต่ตอนที่มี FBI เข้ามาเกี่ยวรู้สึกได้เลยว่าพยายามเล่นใหญ่เกิน จนคุมเรื่องไม่อยู่
ด้านพัฒนาการของตัวละครโดยเฉพาะพระเอกเหมือนจะดูด้อยลงเรื่อย ๆ จากที่ดูยึดมั่นคุณธรรมในตอนแรก กลายมาเป็นสงสัยความดีชั่วไปซะทุกอย่าง (จริงอยู่ว่าพระเอกย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าต้องไม่หยุดหาคำตอบว่าความถูกต้องคืออะไร) แต่ถึงขนาดมาตั้งคำถามเรื่องผิดถูกดีชั่วในสิ่งที่ตนทั่วไปรู้กันดีอยู่แล้ว ผมว่าขัดกับลักษณะพระเอกในตอนแรกมาก คนที่ดูมั่นคงมีจุดยืนขนาดนั้น ไม่น่าจะมากลายเป็นโลเลขนาดนี้ (ผมมองว่าบุคลิกแบบพระเอกที่ควรเป็นคือ อาจจะโลเลในวิธีการหรือรายละเอียดได้ แต่หลักการต้องไม่สั่นคลอน)
และตอนที่ 11 นี่คืออารมณ์ โคตรจะ WTF !!!!!! ผู้นำประเทศมหาอำนาจมาประชุมถกกันเรื่องดี/ชั่วเนี่ยนะ !!! พวกแกว่างมากใช่ม้ะ ! แล้วแสดงท่าทีขึงขังว่าจะไม่ยอมรับกฏหมายสนับสนุนการฆ่าตัวตาย แม้จะต้องทำสงครามกับประเทศอื่นนี่มันอะร้ายยยยย !!! ประเด็นแค่นี้มันต้องแสดงความขึงขังยึดมั่นในจุดยืนขนาดนี้เลยเหรอ ? ผู้นำประเทศหลุดปากเรื่องสงครามกันง่าย ๆ แบบนี้ โคตรจะไม่เมคเซนต์เลย
สรุป เป็นเรื่องที่เริ่มต้นได้น่าสนใจแต่จบด้วยความผิดหวัง สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้คืองานภาพ ดีไซน์ตัวละครนี่อย่างงามทั้งชายหญิง (หลงเสน่ห์นางเอกกับผู้ช่วยสาวของพระเอก เสียดายมีบทออกโคตรน้อยกันทั้งคู่) แม้กระทั่งคนแก่ในเรื่องนี้ผมว่ายังดูดีเลย
ปล.
https://www.thecinemaholic.com/babylon-season-2/มีข่าวว่าอาจมีซีซั่น 2 ถ้าเสียงตอบรับดี แต่คิดว่าไม่น่ามีแล้วล่ะ !!