[quote/]
ก็เท่าที่ผมหาวิตามินซีก็เพราะจากข่าวอเมริกาส่งวิตามินซีไปให้จีนล่ะครับ
สถานการณ์ปัจจุบัน
อย่าพึ่งดูว่าแต่ละประเทศบอกว่าอะไร ให้ดูว่าแต่ละประเทศทำอะไรจะได้ข้อมูลที่แน่นอนกว่า
ถ้ามีการกักตุนหรือซื้อขายยาอะไรในระดับประเทศ
ให้เล็งอันนั้นไว้ก่อนเลยครับว่าชัวร์
..
อย่างที่บอก ผมไม่เรียกว่าสาบแช่งพวกแพทย์ของเราหรอก สาบแช่งมันช่วยอะไรใครไม่ได้ สถานการณ์มันมาถึงตอนนี้แล้ว
ไปเจอทฤษฎีหนึ่งว่า
คนที่คิดว่าภูมิคุ้มกันหมู่นั้นโง่เขลาอย่างยิ่ง
เพราะว่าผลกระทบจากการป่วยจะมีอยู่ตลอดไป เราอาจจะเห็นผลระยะยาวจากแนวคิดนี้ในอนาคตอันไม่ใกล่ไม่ไกลนี้ล่ะครับ
เรื่องภูมิคุ้มกันหมู่
ผมเคยเสนอแนวคิดที่ว่า
ถ้ามันทำได้จริง โกวิทก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แล้วหลังจากนั้นจะเกิดอะไรล่ะคนในท้องถิ่นไม่เป็น แต่คนต่างถิ่นมาก็ติดเชื้อไง แล้วจะเกิดอะไรขึ้น การท่องเที่ยวได้ชิบหายแน่ๆถ้ายารักษาอย่างเป็นทางการยังไม่มี วัคซีนยังไม่ได้ผล นี่ไม่รวมทัศนะคติที่คนต่างถิ่นต่างชาติจะมองเข้ามาอีก
เรื่องโรคจะอยู่ตลอดไป มันค่อนข้างจะแน่นอน เพราะประวัติศาสตร์มนุษย์เอาชนะโรคได้เพียงไม่กี่ชนิด อย่างโรคที่
ไทยบอกว่าหมดไปจากประเทศแล้ว แต่ก็ยังมีในประเทศอื่น อีกอย่างก็โรคมันย่อมปรับตัวเพื่อให้ตัวมันเองอยู่รอดเสมอ
ไข้หวัดเอย มาลาเรียเอย ฯลฯ
เรื่องรอดูอนาคต เราเอาประวัติศาสตร์โรคอุบัติใหม่มาเทียบเคียงได้เสมอ ถ้ายุคใหม่หน่อยก็ตอนช่วงวิตก
ไข้หวัดนก ตอนนั้นทั่วโลกวิตกจนถึงขนาดที่ว่าอุตสาหกรรมอาหารจะถึงคราวเป็นทิศทาง หรือที่ดังๆกว่านั้น ก็
โรคเอดส์ ตอนนั้นถึงขนาดมีลัทธิวันสิ้นโลกออกมาบอกว่านี่คือไวรัสที่พระเจ้า หรือซาตานก็ว่ากันไป เป็นผู้ส่งมา
เพื่อชำระล้างพวกผิดประเวณี ถึงขั้นวิเคราะห์ไปในเรื่องประวัติศาสตร์จารีต ความสำส่อนของเหล่าเทพ การอุบัติ
ศาสนาเพื่อสอนให้ประพฤติชอบในกาม
คิดๆดูแล้ว เคสโรคเอดส์เนี่ย ดังมากหลายอย่าง เป็นวาทะหลายอย่าง จนถึงขั้นเชื่อกันว่า สุดท้ายมนุษย์ทุกคน
จะติดเชื้อ อายุจะสั้น ถึงขั้นมนุษย์จะสูญพันธุ์ก็มีคนเชื่อเยอะแยะ สุดท้ายเจอมนุษย์เล่นแร่แปรธาตุ ให้ใช้วัสดุ
มาห่อหุ้ม มีเซ็กส์ด้วยถุงยาง ก็ยังมีคนเอ่ยว่า พระเจ้าคงจนใจ เรื่องการแพทย์ก็เช่นกัน ถึงขนาดเชื่อกันว่า
วิวัฒนาการด้านศัลย์แพทย์ ด้านผ่าตัด ที่ต้องใช้เลือด เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พึงประสงค์ให้มนุษย์มายุ่มยามใน
ขอบเขตของพระเจ้า วิตกเรื่องทางการทหาร การสงครามอีก เชื่อว่าเอดส์ทำให้ทุกคนเลิกทะเลาะกัน เพราะ
ถ้าเลือดกระเด็นโดน หรือมีบาดแผล จะทำให้ติดเชื้อ อันนี้ก็เชื่อว่าเป็นพระวจนะของพระเจ้า ที่ไม่อยากให้
มนุษย์ทำสงคราม
สรุป คนวิตกและ
เชื่อว่าเอดส์จะทำให้สิ้นโลก ถ้าไม่ยอมกลับไปประพฤติดี มีศีลธรรม เลิกเบาะแว้ง ตอนนั้นถ้า
มีคนใช้คำพูดว่า มัน
คือนิวนอร์มอลใหม่ของโลกก็ใช้คำนี้ได้ แต่สุดท้ายมันก็อีหรอบเดิม หลายๆพื้นที่ทั่วโลกก็
กลับไปลักษณะเดิม โรคอื่นๆมาแล้วก็จากไป หลงเหลือการเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยในหมู่มนุษย์ เอดส์เข้ามา
ก็ทำให้ถุงยางเป็นนิวนอร์มอลเล็กๆ โควิดก็ไม่ต่างหรอก ไข้หวัดก็ปรับสภาพอยู่กับเรามาตั้งกะนมนามกาเล ก็ไม่เห็น
จะวิตก โควิดไม่ใช่หวัด แต่โรคอื่นๆก็ไม่ใช่หวัดเช่นกัน มันก็ยังอยู่กับเรา