The Fool แน่นอนครับเพราะตัวเลข 0 มันมีความหมายเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถกลายเป็นเลขอะไรก้ได้ แถม 0 ยังพ้องกับคำว่าสูญที่สื่อถึงดับสูญสิ้นสูญได้ด้วย
แถมความหมายของไพ่ใบนี้คือ "อิสระภาพ" พลังที่จะอยู่เหนือขอบเขตใดๆได้ในนิยายที่ผมแต่งเป็นพลังที่สามารถลบล้างพลังตรงๆได้แบบเชิงคอนเซิรป์เลย วัดกันที่
ปริมาณพลังกันรวดๆไม่มีคุณสมบัติแพ้ทางชนะทางหรือผลใดๆทั้งนั้นหักล้างทิ้งได้หมด
The World เป็นอีกใบที่ทัดเทียมกับ The Fool ได้ถ้าฟูลคือพลังนอกกรอบเวิรล์ก็คือพลังในกรอบทีแผ่ล้นกรอบออกมา เพราะความหมายของมันคือความสมบูรณ์พร้อม
ในนิยายที่เคยแต่งก็เป็นพลังท่เป้นเชิงคอนเซิรป์ในแง่ของความสมบูรณ์ของนางเอกคือรักษาและการป้องกัน ของตัวร้ายคือพลังทำลายที่ทำลายถึงแก่นในทันที
และยังมีคุณสมบัติในการสร้างกฏของตัวเองอีก 1 กฏด้วย นางเเอกคือส่งมอบพลังที่มีให้คนที่เลือก ตัวร้ายสร้างพลังจำแลงของอาร์คาน่าทุกใบขึ้นมา
อีกสองใบที่น่าสนใจก็คือ Death พลังของความตาย และ Judgement ที่เป็นพลังของชีวิต เพราะเดทหมายถึงการเริ่มต้นใหม่(ตายแล้วเกิดใหม่)แต่จัสเมนต์จะหมายถึง
การคืนชีพ(กลับคืนมามีชีวิตใหม่)
ในครูกับปราสาทรอยฟ้าพระเอกก็ใช้codename ว่าthe fool ส่วนthe world สามารถหยุดเวลาได้
อันนี้มันแล้วแต่คุณสมบัติพิเศษของแต่ละคนน่ะ ว่าจะได้โค็ดเน็มอันไหนเพราะเบอร์นาร์ดสมัยหนุ่มๆก็ได้ สเตรง เพราะตอนหนุ่มๆใช้แบล็คอาร์ตเป็นล่ำเป้นสัน
มีชื่อเสียงเลืองนามในฐานะผู้ใช้แบล็คอาร์ทที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง(ศาสตร์เวทย์ที่อัดพลังเวทย์ธาุหลักลงร่างกายแล้วโจมตี) พอแก่ตัวลงมาเล่นแบล็คอารืตไม่ค่อยไหวแล้ว
ก้เลยหันมาเล่นกลยุทธ์ตุกติกเลยได้โค็ดเน็ม เฮอร์มิต ที่บ่งบอกถึงชายชราผุ้มากด้วยปัญญาและประสบการณ์เหมาะกับสไตล์เล่นแท็คติคกลปืนคาบศิลาและด้ายเหล้ก
คริสก้ได้ ไฮเอโรแฟรนท์ เพราะความรอบรู้ในสาสต๊ณ์เชิงเวทย์อย่างละเอียด อัลเฟรดได้ สตาร์ จากทักษะการซุ่มยิงและเท็คนิคเวทย์สุดแพรวพราว รีเอลได้ แชเรียล
เพราะวิชาต่อสุ้บุกตะลุยราวกับรถศึก จาทิสก้ได้ จัสติส เพราะความแม่นยำในข้อมูล เซริก้าได้เพราะกับ เดอะ เวิรล์ ที่หมายถึงความสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ส่วนเกล็นมีทักษะ
ความสามารถที่ใช้ทำให้เวทมนตืไร้ผลได้ และยังมีศาสตร์วิชาหลายแขง(ส่วนมากเรียนมาจากเบอร์นาร์ดทั้งนั้น) เลยเหมาะกับ เดอะ ฟูล