อัพ Luck 99999999 ครับ ปรมาจารย์หอกท่านหนึ่งเคยสอนไว้ เก่งให้ตาย ก็ชิบหายได้เพราะLuck E กว่าจะเงยหน้าอ้าปากได้ ก็ต้องย้ายคลาส ถถถถ
กับอีกเคสนึง โอตาคุติดเกมมีเงินใช้เหลือเฟือเพราะดวงดี แค่อยู่เฉยๆ ใช้เสียงหัวใจเต้นแรงๆ ก็ทำให้อีกฝ่ายวิ่งหนีหายไปได้เพราะมโนไปไกล
ค่าอื่น ช่างมัน
ในเกมส์แนวก็อบลินมันไม่มีค่า luck ให้อัพโดยตรงน่ะครับ
อาจจะมี feat ความสามารถ Luck ได้
แต่หากมีจริงก็น่าจะเป็นค่าแรกๆที่คนอัพเลยล่ะครับ ฮา
เอาแบบเกมส์
Luck ให้แค่การทำแดมเมจตีคริติคัล
แต่หากมันส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิต เป็นอะไรที่สำคัญเอามากๆ
มันขึ้นกับค่าอื่นๆด้วยในโลกนั้น
อย่างถ้า int9999999 มันทำให้เทพได้จริง
แต่ไม่ใช่ว่าสุดท้ายก็แพ้สกิลอยู่ดีอย่าง กันเวทย์
รึ agi 999999 ถ้ามันทำให้รู้สึกเหมือนหยุดเวลา
ไม่ใช่แบบว่าเวลาวิ่งถึงไวแต่แค่ระยะสั้น เพราะต้องอัพ stamina str จะได้มีแรงเคลื่อนที่ด้วย
สรุปเอาจริงๆถ้ารู้เงื่อนไขค่าพลังก็คงวางแผนได้อยู่
แต่ถ้าอยู่โลกปัจจุบัน คงอัพ charm พุ่งกับ luck 9999999
ในแนวดันเจี้ยนก็อบลิน
กันเวืทย์ก็เป็นสกิลเวทย์อย่างหนึ่งครับ
พวกเทพๆนั้นแก้ทางของอย่างนั้นกันได้อยู่แล้ว
ท่านต้องมองก่อนครับว่าไอ้พวกที่ก็อบลินมันตีกันอยู่คือพวกกระจอกน่ะ
พวกที่เทพๆอายุหลายร้อยหรือพันปี
มันจะมีสกิลบิดเบบืิอนโชคชะตา หรือขี้โม้เป็นเทพที่ควบคุมกาลเวลากันไปเทือกนั้น
..
[quote/] เซเบอร์บอก"ดวงตูก็ไม่ดีเฟ้ย ภาคซีโร่เจอตัวพ่อเก่งแต่นิสัยห่วย ภาคต่อมาเจอลูกห่วยแตกนิสัยก็น่ารำคาญ"
ตอบจริงๆก็หน้าตาดีพอจีบสาวติดแต่ขอดวงกับความฉลาดเยอะๆจะได้ไม่ซวยกับโดนเขาหลอกเอา
ถ้าแต้มมีจำกัดคงอัพแค่ไห้หนาตาปกติมีสเน่นิดหน่อยเท่านั้นที่เหลือไปลงค่าต่อสู้หมด เพราะถ้าแต้มมีจำกัดสเน่น้อยไปจะเหมือนลุงต่างโลกที่คุยกับใครไม่ได้เลย มากไปจะเหมือนลุงโลลิที่มีแต่คนตามจีบตามฉุด พลังต่อสู้สำคัญกว่าหน้าตาแต่จะไห้แย่ไปเลยก็ไม่ไหวเอาสเน่แบบกลางๆพลังต่อสู้สูงดีกว่า
แบ่งครึ่งๆเขาเรียกว่าไม่ optimal choice
ไม่ใช่ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างตัวละครน่ะครับ
ประมาณว่ายิ่งค่าสถานะสูงเพิ่มมาแค่หนึ่งในค่าที่สูงอยู่แล้วจะมีคุณค่ามากกว่าเพิ่มมาแค่หนึ่งในค่าสถานะต่ำกว่ามาก
ที่ผมยกบาร์ดหรือเมจมาเพราะเป็นอะไรที่ชัดเจนกว่าน่ะครับว่า
ต่อให้วางแผนอะไรไม่เก่งแค่ไหน
ขอเพียงทุ่มไปที่ cha หากเป็นบาร์ดหรือทุ่มไปที่ int หากเป็นเมจก็เรียกว่าอย่างน้อยก็ไม่เรียกว่าผิดพลาด
การกระจายค่าความสามารถเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำเทื่าไรนัก
ประมาณ monk ที่โดนฮ็อบก็อบลินตบ
ในทางเทคนิคก็เหมือนกับทุกอาชีพเท่าเทียมกันแต่ความจริงไม่ใช่
อย่าง monk นี่ต้องมีค่าพวก str พลัง dex ความแม่นยำ wis ความศรัทธา/ปัญญา
ต้องมีหลายค่าประกอบกันจึงจะแสดงประสิทธิภาพของอาชีพออกมาได้อย่างเต็มที่
เรียกว่าเหมือนกับการอัพแร็คก็ได้ครับล
การที่เราแบ่งค่าอย่างนั้นจะทำให้โดนมองอย่างดูถูกได้
สังคึมมมันสนับสนุนคนเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพราะแต้มมันมีจำกัดน่ะครับ
ผมนึกถึงมุกนี้ที่ผมเคยโรลเพลย์เป็นเมจในจักรวาลนาสุ
ว่ามีวิชามากมายสารพัดให้เราเล่าเรียน
แต่หากการะจายการเรียยนรู้ไปเราก็จะแค่ระดับธรรมดาในหลายๆศาสตร์
แต่หากทุ่มเทไปที่การควบคุมลม
เราก็จะเก่งขนาดสามารถเอาชนะโทคิโอมิหรือเคย์เนธในการควบคุมลมนั้นได้
ว่าทุ่มเทไปเลยจะมีค่ามากกว่า
..
นั่นแบบเมคคานิคหรือระบบเกมส์
แต่หากเอาแบบโลกของความจริงคือคนธรรมดาทำไม่ได้อย่างนั้นในการอัพค่าาสถานะแบบบ้าเลือด
คนธรรมดาจะเรียนไปทั่ว เช่นวิชาพิษ ยาแก้พิษ การสะกดรอย การวางกับดัก อาวุธปรปะภทต่างๆ
คนที่เอาตัวรอดด้วยตัวคนเดียวได้อย่างยาวนานคือคนอย่างเฮียกัซในเบอร์เซิร์กที่หากสังเกตดีดีแกจตะเก่งหลายอย่างๆมากๆ
เช่นรู้ว่ามุนไพรอะไรแก้พิษได้ ห้ามเลือดรักษาบาดแผลให้ตนเองได้ ไหวพริบก็ดี
คือคนที่รอดมาได้ในโลกความเป็ํนจริงคือคนที่เชี่ยวชาญหลายด้าน
แต่หากแต้มสกิลมีจำกัด
คนที่อัพตนเองเสียจนสามารถสะกดจิตคนได้แบบเล่าปี่หรือท่านปรมาจารย์เตียวก๊ก
ที่พูดทีเดียวสามารถเอาชาวบ้านมาเป็นพลทหารได้นับพันคน อย่างนั้นน่ะครับ