แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: Internal misogyny,Otome นิยายต่างๆ ทำไมผู้หญิงเกลียดกันเองได้มากขนาดนี้?  (อ่าน 2204 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
ก็อย่างที่ว่าล่ะครับ


internal misogyny คือความรู้สึกเหยียดแต่เหยียดเพศเดียวกันเองคือในที่นี้

ทำไมถึงดูถูกผู้หญิงว่าไร้สมอง? หรือในความรู้เสึกของคนอ่านหญิงที่มองเรื่องนิยายและ otome พวกนี้มองว่าคนที่ตนเองดูถูกไม่ใช่ตนเอง?


คือตอนนนี้ผมกำลังจะเขียนนิยายเล่นมุก otome game กำลังศึกษาพวกนี้อยู่ประมาณว่า พระเอกชาย isekai ไปต่างโลก แต่ไม่เคยเล่น otome เกมส์ที่เป็นเรื้อเรื่องของโลกนั้นมาก่อนเลยเข้าใจผิด ;D


คือ ทำให้นางเอก? ของเรื่องเป็นคนไร้สมองหรือ ชั่วร้ายต่างๆนานา มันมาจากไหนครับ?

คือแนวความคิด มาหยารัศมี-ดาวพระศุกร์แต่ดั้งเดิมหรือเปล่า?


หากเป็นคนดีจะยากที่จะแย่งเอาเจ้าชายมาครอง?์

และเกิดอาการเกลียดชังกันเองนี่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แม้กระทั่งผู้ชายสายนีโอนาซี  ยังไม่ดูถูกผู้หญิงได้เท่าที่ผู้หญิงวดูถูกกันเอง

เช่น เขียนแนววนิยายก็เขียนออกจะผู้หญิงนิสัยไร้สมอง แย่ยิ่งกว่าก๊วยพู๊ ก๊วยพู๊ยังดียังมีวรยุทธพอตัดแขนเอี้ยก้วยตอนบาดเจ็บได้ แต่นางเอก?ของเรื่องเหมือนไม่มีอะไรดีเลย ดีแต่ตอแหลไปวันวัน

ที่ผมว่าเป็นการดูถูกคือ..จะว่าไงดีล่ะ

ถึงที่สุด มักจะเขียนว่าองค์ชายต่างๆไม่ได้เลวร้ายในตนเองแค่คนโง่ที่ถูกหลอก...อาจจะแตกต่างกันไปแต่ก็ไม่ต่างกับคุณหลวงที่โดนนังนั่นหลอกใช้แต่ที่จริงเขาไปคนดี

หรือมุมมองของผู้ชายกับหญิงต่างกันในเคสนี้?

เราเป็นผู้ชายมองว่า โง่ถูกหลอก ไม่ใช่ชั่วโดยสันดานเลยดูเลวน้อยกว่า แต่ผู้หญิงดูต่างไปว่าชั่วโดยถูกหลอกนั้นเลวไม่ต่างกัน?

พูดง่ายๆคือ ผมมองว่าแม้แต่พวกนีโอนาซี ยังดูเป็นแฟมินิสม์ให้เครดิตผู้หญิงมากกว่า แนว otome หรือนักแต่งนิยายหญิงน่ะครับ

มันมีเรื่องตลกที่ผมเคยฟังมาคือ เคสดาชายคนหนึ่งน่ะครับประมาณทำผู้หญิงท้อง
ผมกับเพื่อนของผมด่าผูาย ส่วนแม่กลับด่าผู้หญิง

ประมาณว่า ผู้ชายังเด็กจะไปรู้อะไร ผู้หญิงไก่แก่แม่ปลาช่อนแล้ว คือเรามองผุ้ชายในมาตรฐานพฤติกรรมที่ควรจะมีสูงกว่าและตัดสินผู้ชายอย่างเข้มงวด

แต่ผู้หญิงด้วยกันจะตัดสินผู้หญิงเข้มงวดมากกว่าผู้ชายเอามากๆหรือเปล่าครับ?

ผลลงเอยก็คือ องค์ชายจะแค่ไอคิวต่ำ ไม่มีอันตรายอะไรด้วยตัวของพวกเขาเอง แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อนางเอกจอมตอแหลไปชักจู๔งมใให้องค์ชายไอคิวต่ำ ทำเรื่องบ้าๆบอๆเข้า
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ gundam666

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,852
  • ถูกใจแล้ว: 773 ครั้ง
  • ความนิยม: +72/-83
ส่วนนึงคือนางเอกเข้ามาขั้นกลางระหว่าง  ฝ่ายชายที่หมั่นแล้ว ย้ำ หมั้นกันแล้วว แล้วดันปักธงใส่ฝ่ายชาย ในมุมมองผ่านหญิงที่เป็นคู่หมั้นเค้าจะรู้สึกยังไง  ขณะเดียวกันต่อให้ฝ่่ายหญิงที่่เป็นคู่หมั้นจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ  ยิ่งถ้านางเอกเคยเป็นสามัญชนมาก่อนจู่ๆได้รับยศขุนนางแล้วมาเรียนหนังสือในโรงเรียนขุนนาง  ฝ่ายขุนนางที่อยู่มาก่อนก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดาแล้วถ้ายิ่งเข้าหาฝ่ายชายที่เป็นขุนนางระดับสูงไม่ก็ระดับองค์ชายทั้งๆที่ฝ่ายชายมีคู่หมั้นแล้วยิ่งน่าสงสัย  ถ้าเป็นในเกมส์จะแสดงให้เป็นเพียงด้านเดียวของเหรีญณเท่านั้น  แต่พอเป็นชีวิตจริง  มันอาจมีอะไรที่มืดมนมากกว่าที่เห็นก็ได้ ??? ???   
 

ออฟไลน์ topkun

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,571
  • ถูกใจแล้ว: 967 ครั้ง
  • ความนิยม: +33/-33
แนว Otome ให้นางเอกดั้งเดิม เป็นคนโง่ เป็นตัวร้าย เพราะคนจะได้เชียร์นางร้าย(นางเอกของเรื่อง) ให้สมหวัง ให้แก้แค้นนางเอกดั้งเดิม
.
คิดดู ถ้านางเอกดั้งเดิม แสนดี  เวลานางร้ายเอาคืน คนอ่านก็ลำบากใจที่จะเชียร์
.
ถ้าฉลาด ก็แต่งเรื่องยาก จะกลายเป็นแนวเฉือนคมไปแทน ให้โง่ไปซะ นางร้ายจะได้จัดการง่าย
.
ก็เหมือนกับการ์ตูนแนวแอคชั่น เมื่อมีตัวเอกก็ต้องมีตัวร้าย คนอ่านจะเชียร์ตัวเอก

 

ออฟไลน์ dlie

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 187
  • ถูกใจแล้ว: 72 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
  • เพศ: ชาย
เป็นผู้ชายไม่เข้าใจผู้หญิงหรอกครับ


ดูง่ายๆ ในประเทศเราก็ตบแย่ง ผู้ชายกัน ไม่ได้บอกว่าแย่งตรงๆ ก็แค่เมิงมองคนของกรุ อันนี้หลายคลิปแล้ว แรงๆทั้งนั้นทั้งตบทั้งจิกหัวรุม กระทืบ มีหมด มันมีมานานแล้วทั้งโลกแหละครับ
 

ออฟไลน์ touyoujin

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,348
  • ถูกใจแล้ว: 425 ครั้ง
  • ความนิยม: +16/-17
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักกะนิด
ดูนิยายฮาเร็มดิ หาตัวผู้สติดียากมาก ถ้าพระเอกนิสัยเป็นพ่อพระ ตัวร้ายก็ต้องรับบทมารร้าย ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะไม่ได้ตีกัน
โอโตเมะเกมก็เหมือนกันถ้าปั้นตัวเอกให้ดูบริสุทธิผุดผ่องแค่ไหน ตัวร้ายก็จะสติปัญญาอนาถามากขึ้นเท่านั้น ไม่งั้นมันจะไม่สมเหตุผลที่หนุ่มๆมารุมล้อม


ถ้าผู้แต่งโปรมากจริงๆก็คาตารีน่ารูทไปเลย เก็บมันทุกคนไม่เลือกเพศ แฮปปี้เอนดิ้ง 555


ส่วนเรื่องความต่างชายหญิง ในแง่นึงก็ไม่ต่างกันมั้ง

ผู้ชายที่ไม่ชินกับผู้หญิงจะไม่รู้ว่ากริยาผู้หญิงที่ทำกับตนมันมากกว่าปกติรึเปล่า เหมือนกรณีผู้หญิงที่ดูไม่ออกว่าผู้ชายที่มาช่วยเหลือมีอะไรแอบแฝงรึเปล่า
ส่วนมากจะรู้สึกแค่แปลกๆ แต่แน่นอนว่าเพศเดียวกันหรือผู้ที่สัมผัสไวจะดูออก
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกันนะ อยากจะโยงเรื่องการเมืองด้วย แต่ขอพูดไว้ก่อนเลย เพราะมันคือเหตุการจริงๆ ในโลกของเรา ประเทศของเรา

หลายปีก่อนเคยมี องค์การปกป้องสิทธิสตรี ออกมาโจมตีผู้หญิงคนนึงซึ่งถูกหาว่าทำตัวไม่เหมาะสมต่อเกียรติของผู้หญิง ทั้งๆ ที่จริงๆแล้วมันคือ dis credit  Fake-news ใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม

จนนักข่าวที่เป็นผู้ชายนี่แหละต้องมาทำข่าวแบบแจกแจงเหตุการณ์เพื่อให้เห็นที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ขนาดเขาเป็นผู้ชายเขายังเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา

แล้วมีการอธิบายต่อถึงลักษณะนิสัยของผู้หญิงซึ่งเป็นมาตั้งแต่อดีตกาล โดยรวมแล้วคือผู้หญิงด้วยกันนี่แหละ พวกคุณ disruption กันเองมาตั้งแต่โบราณแล้ว
นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมผู้ชายเขาถึงได้ครองโลกอยู่จนถึงทุกวันนี้

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักกะนิด
ดูนิยายฮาเร็มดิ หาตัวผู้สติดียากมาก ถ้าพระเอกนิสัยเป็นพ่อพระ ตัวร้ายก็ต้องรับบทมารร้าย ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะไม่ได้ตีกัน
โอโตเมะเกมก็เหมือนกันถ้าปั้นตัวเอกให้ดูบริสุทธิผุดผ่องแค่ไหน ตัวร้ายก็จะสติปัญญาอนาถามากขึ้นเท่านั้น ไม่งั้นมันจะไม่สมเหตุผลที่หนุ่มๆมารุมล้อม


ถ้าผู้แต่งโปรมากจริงๆก็คาตารีน่ารูทไปเลย เก็บมันทุกคนไม่เลือกเพศ แฮปปี้เอนดิ้ง 555


ส่วนเรื่องความต่างชายหญิง ในแง่นึงก็ไม่ต่างกันมั้ง

ผู้ชายที่ไม่ชินกับผู้หญิงจะไม่รู้ว่ากริยาผู้หญิงที่ทำกับตนมันมากกว่าปกติรึเปล่า เหมือนกรณีผู้หญิงที่ดูไม่ออกว่าผู้ชายที่มาช่วยเหลือมีอะไรแอบแฝงรึเปล่า
ส่วนมากจะรู้สึกแค่แปลกๆ แต่แน่นอนว่าเพศเดียวกันหรือผู้ที่สัมผัสไวจะดูออก
ตามความเข้าใจของผมถ้าอ่านมาไม่ผิด
บากะรีน่านี่ปักธงไม่เลือกจริงๆ ทำเอาอีกคนถึงขั้นกะจะให้คู่หมั่นตัวเองหาทางแต่งกับ บากะรีน่า ส่วนตัวเองเป็นน้อยก็ได้ 
สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2019, 04:52:54 PM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ tidday2521

  • เทพแรร์
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,212
  • ถูกใจแล้ว: 4703 ครั้ง
  • ความนิยม: +133/-102
  • ...ร่องนมและซอกอก...
จะดีจะร้ายยังไง .... ถ้ารูปแบบความสัมพันธ์มันถูกกำหนดมาอย่างชัดเจนมาแล้วล่ะก็

ฝ่ายที่ไปแย่งของของคนอื่นกันหน้าด้านๆ แล้วเอาข้ออ้างว่าก็เรารักกัน นั่นแหละที่ผมเห็นว่าฝ่ายนั้นแหละชั่วร้ายสุด
แล้วยิ่งไปแย่งแฟนแย่งคู่หมั้นของคนโน้นคนนี้ไปทั่ว แล้วอ้างว่าเพราะพวกรักกัน นั่นแหละที่โคตรชั่วเลย

ถึงจะบอกว่าฝ่ายที่โดนแย่งไป เป็นคนนิสัยไม่ดี นิสัยเสียหรือขั่วร้ายยก็ตาม ส่วนตัวผมคงมองว่าพวกนี้เลวทรามต่ำช้าไม่ลง...
(หากพวกนี้ไม่ได้แอบไปเล่นชู้เหมือนกันน่ะ .....)
เพราะงั้นในบางมุมมองแล้ว คือไอ้โอโตเมะเกมอะไรเนี่ย มันยังกับสนับสนุนว่าการ NTR และเล่นชู้กับผัวชาวบ้านเป็นเรื่องที่สมควรงั้นแหละ
ส่วนฝ่ายที่มั่นคงหนักแน่น ไม่คิดจะคบชู้ ถึงพื้นฐานจะนิสัยส่วนอื่นเสีย แต่การวีนแตกเพราะว่าโดนตีท้ายครัวกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมควรซะงั้น

เพราะงั้นตามรูปแบบดั้งเดิมที่นางเอกเป็นนางเอก และนางร้ายเป็นนางร้ายกันจริงๆ ...
คนแต่งเขาถึงได้ยัดให้นางเอกเป็นคนดีจนซื่อ และนางร้ายก็ยัดความเลวร้ายให้จนรู้สึกว่าก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนั้นน่ะ...

เพราะฉะนั้นท่านอย่าคาดหวังเอาความเป็นจริงมาประกอบจะดีกว่าน่ะ .... ถ้าจะเขียนนิยายก็เลือกเอาตามถนัดเถอะ
ให้ตายยังไง ผู้ชายก็ไม่มีทางเข้าใจผู้หญิงทั้งหมดหรอก ...แม้แต่เพศเดียวกันเองก็เถอะ

ไม่งั้นก็แต่งแบบเรื่อง ตกหลุมรักคุณหนูตัวร้าย ก็ได้ .... ไม่ก็พังรูทไปเลยแบบท่านเอลิซ่า จะหักดิบชนรูทไปตรงๆ แบบบากะริน่าเลยก็ได้


ชักเข้าใจอารมณ์ของโนซากิแล้ว ที่ไม่อยากเอาพวกนางเอกโอโตเมะเกม มาเป็นแบบให้มามิโกะแล้ว...
 ;D
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,524
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
      ผมกลับมองตรงข้ามนะ ผู้หญิงนะสามัคคีกันจนเรียกร้องสิทธิในการใช้ผู้ชายเป็นทาสได้ ถึงค่อยมาตีกันเองเพื่อแบ่งผลประโยชน์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ ผลประโยชน์ของผู้หญิงถูกกระทบ ก็จะรวมตัวกันอย่างสามัคคีถล่มผู้ชาย ต่างกับผู้ชายที่มัวแต่ตีกันเอง ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเฟมินิสต์ สนับสนุนการใช้แรงงานทาสผู้ชายเพื่อเป็นแต้มต่อในการจีบสาวเท่านั้น


      มียุคไหนที่ผู้หญิงเสียเปรียบจริงๆบ้าง ในอดีต ผู้หญิงต้องยอมเชื่อฟังผู้ชาย แต่ผู้ชายต้องหาเลี้ยงซึ่งลำบากกว่ามาก และต้องปกป้องผู้หญิงและประเทศ ซึ่งก็คือไม่มีสิทธิที่จะมีชีวิต ผู้หญิงมักจะโวยเรื่องที่ผู้ชายมีหลายเมียแต่ผู้หญิงทำไม่ได้ แต่มันเกิดจากที่ผู้ชายต้องตายจากสงครามจนสัดส่วนน้อยกว่าผู้หญิงมาก ถ้าไห้สลับกันผู้หญิงออกรบ แล้วมีผัวได้หลายคนแบบอเมซอนเชื่อเหอะส่วนใหญ่ไม่เอา


         ปัจจุบันพอสงครามลดลงผู้หญิงก็เริ่มเรียกร้องสิทธิเท่าเทียม ต่างฝ่ายต่างผัวเดียวเมียเดียว ผู้หญิงไม่ต้องเชื่อฟังผู้ชายแต่ก็ทำงานหาเงินช่วยครอบครัวพอๆกันกับผู้ชาย ผู้หญิงไม่ต้องการผู้ชายมาเป็นทาสสุภาพบุรุษ เลดี้เฟิร์ส อันนี้คือฝรั่งที่เค้าเท่าเทียมกันจริง
 
         แต่ในไทยนะมีปัญหา คือผู้หญิงไม่ได้ต้องการความเท่าเทียมแต่ต้องการประโยชน์สูงสุดไห้ตััวเอง ผู้หญิงไม่ต้องเชื่อผู้ชาย ผู้หญิงทำร้ายผู้ชายคือน่ารัก ถ้ากลับกันคือหน้าตัวเมีย ผู้ชายต้องสุภาพบุรุษ รับใช้ผู้หญิง ต้องหาเงินเลี้ยง ถึงจะแมน เวลามีเรื่องก็ผู้ชายตาย  เงินรายได้ทั้งหมดควรเก็บที่ฝ่ายหญิง งานหมั้นงานแต่ง ผู้ชายออกหมด เพื่ออนุรักษณ์วัฒนธรรมไทยอันดีงาม


       ยกตัวอย่างการเหยียดเพศ เช่น ผู้ชายขอเลิกคือหลอกฟัน ผู้หญิงขอเลิกคือมีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดไห้ตัวเองได้ ผู้ชายเกาะแดกแมงดา ผู้หญิงเกาะแดกธรรมดา ผู้หญิงนอกใจโดนผู้ชายซ้อม ด่าผู้ชาย ผู้ชายนอกใจโดนผู้หญิงขับรถชนตาย ด่าผู้ชาย ผู้ชายต้องเลี้ยง รับใช้ แต่ผู้หญิงไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะเท่าเทียมกัน   ถ้าผู้หญิงตรวจสอบผู้ชายเป็นเพราะรัก ถ้าผู้ชายตรวจสอบผู้หญิงคือเลว  ถ้าผู้หญิงอ้างว่าท้องกะใครคือต้องงยอมรับแต่งงานทันทีไม่งั้นเลว ถ้าขอตรวจ  dna นี่โครตรเลว แต่พวกที่อ้างท้องกะดารานักร้องหลายคนตรวจไม่ตรง หลายคนไม่ยอมตรวจจนโดนฟ้องศาลถึงสารภาพว่าไม่ได้ท้องกับคนนี้ แต่ก็ยังมีเฟมินิสต์รุมถล่มดาราที่เป็นข่าวอยู่เลย ทั้งที่ผู้หญิงก็สารภาพเพื่อหลบศาลไปแล้ว หรือถ้าโดนกุ๊ยหลอก ก็ต้องออกมาดราม่าว่าผู้ชายเลวทุกคน ผู้หญิงมันไม่เหยียดผู้หญิงหรอกแต่มันเหยียดผู้ชาย ที่เลวหนักกว่านั้นคือผู้ชายเฟมินิสต์จะเหยียดผู้ชายด้วยกันเองด้วยเพื่อรับใช้ผู้หญิง
 


        ส่วนเรื่องนิยายผู้หญิงต่างๆ ผู้หญิงตัวเอกจะเก่ง ส่วนผู้หญิงตัวร้ายจะเลวบ้าง โง่บ้าง
        ไม่ต่างกะนิยายผู้ชายอ่านเท่าไหร่ เพราะเห็นตัวเอกเก่ง แล้ว ผู้ชายที่เหลือ ต้องเลวหรือ โง่ ไห้พระเอกกระทืบเล่น ส่วนผู้หญิง มักจะสวย เก่งและดีเพื่อมาเข้าฮาเร็ม
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: MClasher

ออฟไลน์ Flady

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 432
  • ถูกใจแล้ว: 821 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-15
ก็น้า~ เพราะว่าไม่ว่าใครๆจะในนิยายหรือชีวิตจริงต่างก็ต้องการให้ความถูกต้องยืนอยู่ข้างตัวเองยังไงล่ะ (Moral High ground)  ;)
การแสดงออกของเพศชายกับเพศหญิงอาจจะต่างกันมากก็จริงแต่เนื้อแท้เรื่องนี้ยังคล้ายๆกันอยู่
คือการจะหาความถูกต้องใส่ตัว วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือกดคนอื่นให้ต่ำลงไป เค้าไม่ได้หาว่าผู้หญิงด้วยกันไม่ดีอย่างเดียว เค้าบอกด้วยว่าตัวเค้านั้นจะไม่ทำอย่างนั้น
มีแค่พวกสมองไม่ปกตินิดหน่อยเท่านั้นแหละที่จะไม่มีอาการอย่างนี้เลยน่ะ


คนเราน่ะ ส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่หรือว่าจริงๆแล้วทำไปเพราะอะไรกันแน่  :P
LN&Manga Connoisseur(ฝึกหัด) (แต่งตั้งตัวเอง)
อยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดบริการแนะนำ(กึ่งยัดเยียด)อาหาร(นิยาย/มังงะ)
 

ออฟไลน์ warakornboy

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 471
  • ถูกใจแล้ว: 182 ครั้ง
  • ความนิยม: +14/-9
ถ้าสังเกตตามช่วงเวลาที่ยังมีระบบทาสอยู่ + นโยบายเพิ่มประชากร
1.  หากเป็นช่วงปลอดสงคราม;  การแต่งงานเพื่อแรงงานราคาถูก - เกษตรกรรมถือว่ามีประสิทธิภาพและสมดุลที่สุดแล้ว  ขณะที่ประวัติศาสตร์เริ่มเข้าหา Arab Agricultural Revolution (8 -13th century)  ซึ่งช่วยลดแรงงานลงมาก  หน้าที่ผลิตประชากรก็เลยถูกลดความสำคัญผู้หญิงเลยเข้าหางานฝีมือแทน

2.  ช่วงสงครามหลัง Industrial revolution เป็นต้นมา;  Women’s right ก็เข้าถึงอยู่แล้ว  ซึ่งเป็นความขัดแย้งเล็กๆที่ไม่ถึงขนาดลบหมู่บ้านหายเป็นแถบๆเหมือนสมัย Medieval ซึ่งเป็นความเสียหายที่รุนแรง  ปัญเรื่องงานไม่เพียงพอเลยผลักดันให้เกิดการเรียกร้องอย่างอื่นเพิ่ม  เหมือนกับที่ EU - Asia พากันล้มหรือลดอำนาจระบอบกษัตริย์เพราะเชื่อว่าฟุ่มเฟือย  และทำเอาระบบการเมืองพิการหมด

3.  ถ้ากล่าวถึงสังคมผู้หญิงที่ยก Feminism มาอ้างบ่อยๆจะพบว่า;  เดิมทีมันเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ Intrasexual Competition ของผู้หญิงเท่านั้น  ซึ่งเทียบได้กับการแข่งขันด้านพละกำลังและความเป็นเพศของผู้ชาย  ซี่งหมดไปตั้งแต่ช่วงใกล้ๆปฏิวัติอุตสาหกรรม  แล้วก็การศึกษากับทำอาชีพเลี้ยงตัวได้รับความนิยมมากว่า  ดังนั้นสังคมผู้หญิงขณะนั้นก็ได้ดำเนินรอยตามเพศตรงข้ามพร้อมกับผ่าน Racism อย่างมั่นคง  เราจึงเห็นได้ว่า Nerd ในเพศนี้มากขึ้นเรื่อยๆ  สังคมสนับสนุนการศึกษาและความสามารถในงานประกอบอาชีพมากขึ้นจนทำให้ค่านิยมของผู้หญิงคล้อยตามผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งใครที่คิดถึงแต่ค่านิยมก่อนหน้านี้สังคมใหม่จะมองว่าล้าสมัยและไม่มีชประโยชน์


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2019, 09:49:40 PM โดย warakornboy »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
ส่วนนึงคือนางเอกเข้ามาขั้นกลางระหว่าง  ฝ่ายชายที่หมั่นแล้ว ย้ำ หมั้นกันแล้วว แล้วดันปักธงใส่ฝ่ายชาย ในมุมมองผ่านหญิงที่เป็นคู่หมั้นเค้าจะรู้สึกยังไง  ขณะเดียวกันต่อให้ฝ่่ายหญิงที่่เป็นคู่หมั้นจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ  ยิ่งถ้านางเอกเคยเป็นสามัญชนมาก่อนจู่ๆได้รับยศขุนนางแล้วมาเรียนหนังสือในโรงเรียนขุนนาง  ฝ่ายขุนนางที่อยู่มาก่อนก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดาแล้วถ้ายิ่งเข้าหาฝ่ายชายที่เป็นขุนนางระดับสูงไม่ก็ระดับองค์ชายทั้งๆที่ฝ่ายชายมีคู่หมั้นแล้วยิ่งน่าสงสัย  ถ้าเป็นในเกมส์จะแสดงให้เป็นเพียงด้านเดียวของเหรีญณเท่านั้น  แต่พอเป็นชีวิตจริง  มันอาจมีอะไรที่มืดมนมากกว่าที่เห็นก็ได้ ??? ???   
มันจะมาที่มีมุกนางเอกในนิยายไทยนะครับ ไม่ otomeg จะพูดเหมือนกันว่า
"ฉันจะหลีกทางให้ ฉันไม่แย่งของของใคร" แต่ผลก็อย่างที่เห็นล่ะครับว่า คู่หมั้นก็ถอนหมั้นที่เคยหมั้นกันไว้
ความจริง Otome ก็แค่ต่างกันแค่บริบทแต่ธีมคล้ายกันเอามากๆน่ะ
เป็นผู้ชายไม่เข้าใจผู้หญิงหรอกครับ


ดูง่ายๆ ในประเทศเราก็ตบแย่ง ผู้ชายกัน ไม่ได้บอกว่าแย่งตรงๆ ก็แค่เมิงมองคนของกรุ อันนี้หลายคลิปแล้ว แรงๆทั้งนั้นทั้งตบทั้งจิกหัวรุม กระทืบ มีหมด มันมีมานานแล้วทั้งโลกแหละครับ
เรื่องตบแย่งผู้ชาย ผมเคยอ่านเรื่องสั้นของไอแซคอาซิมอฟน่ะครับว่า
ในโลกที่ผู้ชายตายเกือบหมดเหลือแต่ผู้หญิง
ผู้ชายคนนั้นจะตกเป็นของผู้หญิงที่ร่างกายบึกบึนที่สุด ฮา :P
ไม่ใช่เกิดเหตุการณ์ฮาเร็มแบบการ์ตูนมังกะแต่อย่างใด
ฝรั่งก็เคยเขียนแนว แบบ world end harem แต่ชื่อเรื่อง Y The Last Man ที่ผู้ชายตายหมดแต่เขียนแบบซีเรียสเอามากๆ

ว่าสังคมผู้ชายตายหมดก็ยังมีสงคราม แก่งแย่งกันอยู่เหมือนเดิม
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักกะนิด
ดูนิยายฮาเร็มดิ หาตัวผู้สติดียากมาก ถ้าพระเอกนิสัยเป็นพ่อพระ ตัวร้ายก็ต้องรับบทมารร้าย ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะไม่ได้ตีกัน
โอโตเมะเกมก็เหมือนกันถ้าปั้นตัวเอกให้ดูบริสุทธิผุดผ่องแค่ไหน ตัวร้ายก็จะสติปัญญาอนาถามากขึ้นเท่านั้น ไม่งั้นมันจะไม่สมเหตุผลที่หนุ่มๆมารุมล้อม


ถ้าผู้แต่งโปรมากจริงๆก็คาตารีน่ารูทไปเลย เก็บมันทุกคนไม่เลือกเพศ แฮปปี้เอนดิ้ง 555


ส่วนเรื่องความต่างชายหญิง ในแง่นึงก็ไม่ต่างกันมั้ง

ผู้ชายที่ไม่ชินกับผู้หญิงจะไม่รู้ว่ากริยาผู้หญิงที่ทำกับตนมันมากกว่าปกติรึเปล่า เหมือนกรณีผู้หญิงที่ดูไม่ออกว่าผู้ชายที่มาช่วยเหลือมีอะไรแอบแฝงรึเปล่า
ส่วนมากจะรู้สึกแค่แปลกๆ แต่แน่นอนว่าเพศเดียวกันหรือผู้ที่สัมผัสไวจะดูออก
ผมมองว่าแต่ละคนก็พอรู้อยู่น่ะครับ มั้ง?
ในแง่ของความสามารรถและทักษะผู้ชายความสามารรถในการอ่านสีหน้าแววตาน้อยกว่าผู้หญิงอย่างมาก หรือทักษะการจับความหมายที่แฝงในคำพูดนั้นต่ำกว่า
ปัญหาคือ
ผมเคยเจอเคสประมาณว่า ผู้หญิงก็ชอบผู้ชายที่ล้อมรอบและจะเกิดอาการเขม่นกันขึ้นมาเลย หากผู้ชายที่ล้อมรอบตนเองอยู่ตั้งเยอะ มีบางคนไปตามผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
ทั้งที่ไม่ได้อะไรกันมาก่อน แต่แค่นั้นก็นับเป็นชนวนทำให้เกลียดกันได้แบบโดยไม่มีเหตุผลเลย
อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกันนะ อยากจะโยงเรื่องการเมืองด้วย แต่ขอพูดไว้ก่อนเลย เพราะมันคือเหตุการจริงๆ ในโลกของเรา ประเทศของเรา

หลายปีก่อนเคยมี องค์การปกป้องสิทธิสตรี ออกมาโจมตีผู้หญิงคนนึงซึ่งถูกหาว่าทำตัวไม่เหมาะสมต่อเกียรติของผู้หญิง ทั้งๆ ที่จริงๆแล้วมันคือ dis credit  Fake-news ใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม

จนนักข่าวที่เป็นผู้ชายนี่แหละต้องมาทำข่าวแบบแจกแจงเหตุการณ์เพื่อให้เห็นที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ขนาดเขาเป็นผู้ชายเขายังเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา

แล้วมีการอธิบายต่อถึงลักษณะนิสัยของผู้หญิงซึ่งเป็นมาตั้งแต่อดีตกาล โดยรวมแล้วคือผู้หญิงด้วยกันนี่แหละ พวกคุณ disruption กันเองมาตั้งแต่โบราณแล้ว
นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมผู้ชายเขาถึงได้ครองโลกอยู่จนถึงทุกวันนี้

[quote/]
ตามความเข้าใจของผมถ้าอ่านมาไม่ผิด
บากะรีน่านี่ปักธงไม่เลือกจริงๆ ทำเอาอีกคนถึงขั้นกะจะให้คู่หมั่นตัวเองหาทางแต่งกับ บากะรีน่า ส่วนตัวเองเป็นน้อยก็ได้  [spoiler/]
ผมพยายามสร้างระบบในหัวขึ้นมาในการมองอารยธรรมมนุษย์น่ะครับ
เคยมองอารยธรรมที่ทำเป็นเควสต์แล้วรู้สึกน่าสนใจ

คือ โดยทักษะแล้วผู้หญิงมีสกิบลมากกว่าผุ้ชายในการสื่อสาร การสังเกตสีหน้าแววตา ภาษากายและคำศัพท์ รวมไปถึงทักษะการเข้าสังคม การแชร์ข้อมูลระหว่างกลุ่มดีกว่าผู้ชายมาก

หากดูตามค่าสถานะตัวละคร ในสังคมที่มีอารยธรรม ผู้หญิงควรจะครองอำนาจได้อย่างง่ายดายจากการสร้างคอนเนคชั่น แต่ทำไมถึงทำไม่สำเร็จ?
ผู้ชายี่โง่มากกว่าในเรื่องคำศัพท์การสื่อสารต่างๆด้อยกว่าผู้หญิงประมาณสามเท่า ทำไมถึงรวมกลุ่มการทำงานได้ดีกว่า?
ตามประวัติศาสตร์ เผ่าที่ผู้หญิงครองอำนาจไม่ใช่เรื่องแปลกในต้นอารยธรรม ผู้หญิงเป็นหัวหน้าชนเผ่านั้นเป็นเรื่องปกติ

ผมมีทฤษฎีประมาณเรื่องแนวความคิดของหุ่นยนต์ กฎสามข้อน่ะครับ

ที่หุ่นยนต์ต้องทำตามกฎต่างๆ คือการควบคุมตนเอง แต่หุ่นยนต์ที่ฉลาดจะสามารถแหกกฎได้

ผมมองในด้านนี้ว่า ผู้หญิงฉลาดมากในการตีความความหมายและฉลาดมากกว่าผู้ชายในเรื่องสังคม ทำให้รวมตัวกันได้ยากกว่า อัจฉริยะจะละเมิดกฎเสมอ
ผู้ชายโง่ๆ อาจจะเรียกว่าตามๆกันไป มึงมาพาโวยไม่คิดมาก ทำให้รวมกลุ่มกันทำเรื่องบ้าๆ ไร้สาระ แม้จะไม่มีประโยนชน์อะไรเลยได้ดีกว่า
ผมเคยเล่นเควสต์ประมาณว่าอยากสร้างหุ่นที่ฉลาดเพื่อจะเะดพิ่มการผลิต

แต่ดดน GM บอกว่า หุ่นที่ฉลาดเพราะมันฉลาดนั่นล่ะ มันถึงจะทำงานให้น้อยที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะมันไม่ต้องการงานที่มากขึ้น
ยิ่งฉลาด ก็จะยิ่งคำนวณผลได้ผลเสียมากกว่า

เป้าหมายที่จะสร้างหุ่นยนต์ที่ฉลาดมาทำงานรับใช้จึงไม่สามารถกระทำได้
สร้างหุ่นยนต์ที่โง่ลงมา ความคิดสร้างสรรค์น้อย ยังจะทำงานตามปรกติไม่หลบเลี่ยงมากกว่า
จะดีจะร้ายยังไง .... ถ้ารูปแบบความสัมพันธ์มันถูกกำหนดมาอย่างชัดเจนมาแล้วล่ะก็

ฝ่ายที่ไปแย่งของของคนอื่นกันหน้าด้านๆ แล้วเอาข้ออ้างว่าก็เรารักกัน นั่นแหละที่ผมเห็นว่าฝ่ายนั้นแหละชั่วร้ายสุด
แล้วยิ่งไปแย่งแฟนแย่งคู่หมั้นของคนโน้นคนนี้ไปทั่ว แล้วอ้างว่าเพราะพวกรักกัน นั่นแหละที่โคตรชั่วเลย

ถึงจะบอกว่าฝ่ายที่โดนแย่งไป เป็นคนนิสัยไม่ดี นิสัยเสียหรือขั่วร้ายยก็ตาม ส่วนตัวผมคงมองว่าพวกนี้เลวทรามต่ำช้าไม่ลง...
(หากพวกนี้ไม่ได้แอบไปเล่นชู้เหมือนกันน่ะ .....)
เพราะงั้นในบางมุมมองแล้ว คือไอ้โอโตเมะเกมอะไรเนี่ย มันยังกับสนับสนุนว่าการ NTR และเล่นชู้กับผัวชาวบ้านเป็นเรื่องที่สมควรงั้นแหละ
ส่วนฝ่ายที่มั่นคงหนักแน่น ไม่คิดจะคบชู้ ถึงพื้นฐานจะนิสัยส่วนอื่นเสีย แต่การวีนแตกเพราะว่าโดนตีท้ายครัวกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมควรซะงั้น

เพราะงั้นตามรูปแบบดั้งเดิมที่นางเอกเป็นนางเอก และนางร้ายเป็นนางร้ายกันจริงๆ ...
คนแต่งเขาถึงได้ยัดให้นางเอกเป็นคนดีจนซื่อ และนางร้ายก็ยัดความเลวร้ายให้จนรู้สึกว่าก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนั้นน่ะ...

เพราะฉะนั้นท่านอย่าคาดหวังเอาความเป็นจริงมาประกอบจะดีกว่าน่ะ .... ถ้าจะเขียนนิยายก็เลือกเอาตามถนัดเถอะ
ให้ตายยังไง ผู้ชายก็ไม่มีทางเข้าใจผู้หญิงทั้งหมดหรอก ...แม้แต่เพศเดียวกันเองก็เถอะ

ไม่งั้นก็แต่งแบบเรื่อง ตกหลุมรักคุณหนูตัวร้าย ก็ได้ .... ไม่ก็พังรูทไปเลยแบบท่านเอลิซ่า จะหักดิบชนรูทไปตรงๆ แบบบากะริน่าเลยก็ได้


ชักเข้าใจอารมณ์ของโนซากิแล้ว ที่ไม่อยากเอาพวกนางเอกโอโตเมะเกม มาเป็นแบบให้มามิโกะแล้ว...
 ;D
โนซากิ บรรลุเรื่องการเข้าใจผู้หญิงแล้วครับ
เขียนการ์ตูนเน้นความรู้สึก ไมต้องการเหตุผลอะไรมากมายแบบการ์ตูนโชวเน็น
ให้ความรักและความหวังกับสาวน้อยก็พอ

..
เรื่องการเป็นคนดีของนางร้ายนี่ มันคือเงื่อนไขของการทานผลไม้ต้องห้ามในการแย่งผู้ชายจริงๆครับ
ผู้ชายที่ดี ไม่มีคู่หมั้น มันไม่น่าดึงดูดใจเท่าหรือไม่ก็ไม่รู้

ผมเห็นต่างในเรื่องการไม่พยายามทำความเข้าใจน่ะครับ
เพระอย่างที่บอกผมพยายามมองคนเป็นเครื่องจักรชีวะ ผู้หญิงก็แค่เครื่องจักรชีวะไม่ต่างกับผู้ชาย แค่จะมีโปรแกราซอฟแวร์ต่อวงจรต่างกันไป แต่ยังอยู่ในตรรกะที่เข้าใจได้

      ผมกลับมองตรงข้ามนะ ผู้หญิงนะสามัคคีกันจนเรียกร้องสิทธิในการใช้ผู้ชายเป็นทาสได้ ถึงค่อยมาตีกันเองเพื่อแบ่งผลประโยชน์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ ผลประโยชน์ของผู้หญิงถูกกระทบ ก็จะรวมตัวกันอย่างสามัคคีถล่มผู้ชาย ต่างกับผู้ชายที่มัวแต่ตีกันเอง ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเฟมินิสต์ สนับสนุนการใช้แรงงานทาสผู้ชายเพื่อเป็นแต้มต่อในการจีบสาวเท่านั้น


      มียุคไหนที่ผู้หญิงเสียเปรียบจริงๆบ้าง ในอดีต ผู้หญิงต้องยอมเชื่อฟังผู้ชาย แต่ผู้ชายต้องหาเลี้ยงซึ่งลำบากกว่ามาก และต้องปกป้องผู้หญิงและประเทศ ซึ่งก็คือไม่มีสิทธิที่จะมีชีวิต ผู้หญิงมักจะโวยเรื่องที่ผู้ชายมีหลายเมียแต่ผู้หญิงทำไม่ได้ แต่มันเกิดจากที่ผู้ชายต้องตายจากสงครามจนสัดส่วนน้อยกว่าผู้หญิงมาก ถ้าไห้สลับกันผู้หญิงออกรบ แล้วมีผัวได้หลายคนแบบอเมซอนเชื่อเหอะส่วนใหญ่ไม่เอา


         ปัจจุบันพอสงครามลดลงผู้หญิงก็เริ่มเรียกร้องสิทธิเท่าเทียม ต่างฝ่ายต่างผัวเดียวเมียเดียว ผู้หญิงไม่ต้องเชื่อฟังผู้ชายแต่ก็ทำงานหาเงินช่วยครอบครัวพอๆกันกับผู้ชาย ผู้หญิงไม่ต้องการผู้ชายมาเป็นทาสสุภาพบุรุษ เลดี้เฟิร์ส อันนี้คือฝรั่งที่เค้าเท่าเทียมกันจริง
 
         แต่ในไทยนะมีปัญหา คือผู้หญิงไม่ได้ต้องการความเท่าเทียมแต่ต้องการประโยชน์สูงสุดไห้ตััวเอง ผู้หญิงไม่ต้องเชื่อผู้ชาย ผู้หญิงทำร้ายผู้ชายคือน่ารัก ถ้ากลับกันคือหน้าตัวเมีย ผู้ชายต้องสุภาพบุรุษ รับใช้ผู้หญิง ต้องหาเงินเลี้ยง ถึงจะแมน เวลามีเรื่องก็ผู้ชายตาย  เงินรายได้ทั้งหมดควรเก็บที่ฝ่ายหญิง งานหมั้นงานแต่ง ผู้ชายออกหมด เพื่ออนุรักษณ์วัฒนธรรมไทยอันดีงาม


       ยกตัวอย่างการเหยียดเพศ เช่น ผู้ชายขอเลิกคือหลอกฟัน ผู้หญิงขอเลิกคือมีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดไห้ตัวเองได้ ผู้ชายเกาะแดกแมงดา ผู้หญิงเกาะแดกธรรมดา ผู้หญิงนอกใจโดนผู้ชายซ้อม ด่าผู้ชาย ผู้ชายนอกใจโดนผู้หญิงขับรถชนตาย ด่าผู้ชาย ผู้ชายต้องเลี้ยง รับใช้ แต่ผู้หญิงไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะเท่าเทียมกัน   ถ้าผู้หญิงตรวจสอบผู้ชายเป็นเพราะรัก ถ้าผู้ชายตรวจสอบผู้หญิงคือเลว  ถ้าผู้หญิงอ้างว่าท้องกะใครคือต้องงยอมรับแต่งงานทันทีไม่งั้นเลว ถ้าขอตรวจ  dna นี่โครตรเลว แต่พวกที่อ้างท้องกะดารานักร้องหลายคนตรวจไม่ตรง หลายคนไม่ยอมตรวจจนโดนฟ้องศาลถึงสารภาพว่าไม่ได้ท้องกับคนนี้ แต่ก็ยังมีเฟมินิสต์รุมถล่มดาราที่เป็นข่าวอยู่เลย ทั้งที่ผู้หญิงก็สารภาพเพื่อหลบศาลไปแล้ว หรือถ้าโดนกุ๊ยหลอก ก็ต้องออกมาดราม่าว่าผู้ชายเลวทุกคน ผู้หญิงมันไม่เหยียดผู้หญิงหรอกแต่มันเหยียดผู้ชาย ที่เลวหนักกว่านั้นคือผู้ชายเฟมินิสต์จะเหยียดผู้ชายด้วยกันเองด้วยเพื่อรับใช้ผู้หญิง
 


        ส่วนเรื่องนิยายผู้หญิงต่างๆ ผู้หญิงตัวเอกจะเก่ง ส่วนผู้หญิงตัวร้ายจะเลวบ้าง โง่บ้าง
        ไม่ต่างกะนิยายผู้ชายอ่านเท่าไหร่ เพราะเห็นตัวเอกเก่ง แล้ว ผู้ชายที่เหลือ ต้องเลวหรือ โง่ ไห้พระเอกกระทืบเล่น ส่วนผู้หญิง มักจะสวย เก่งและดีเพื่อมาเข้าฮาเร็ม
ผมค่อนข้างเห็นด้วยใในเรื่องของการรวมกลุ่มกันเพื่อเรียกร้องสิทธิประโยชน์นะครับผมไม่มองแง่ร้ายในเรื่องนั้นะ ประชาธิปไตยคือระบบของพรรคมารที่ให้จ้าเกาะ จ้าวถ้ำ จอมมารแห่ยุคคุมเชิงกันเอง มากกว่าที่จะเชื่อเรื่องผู้นำวื่อสัตย์
ให้ตั้งกลุ่มผลประโยชน์มากๆกลุ่มจะดีกว่าหากเราคำนวณในภาพรวม
การแตกออกจากกลุ่ม ขัดแย้งกันไม่ใช่เรื่องผิดพลาด แต่คือการออกแบบของระบอบประชาธิปไตยว่าผลประโยชน์กระทบ ข้าก็ไม่ขอเดินร่วมกับเอ็ง
มันจึงเป็นที่มาของการแตกกลุ่มต่างๆล่ะครับว่าแฟมินิสม์จะมีกลุ่มที่แตกออกมาเสมอเมื่อจำนวนขยายไปถึงจำนวนหนึ่ง
ยิ่งมีกลุ่มผลประโยชน์มากก็จะยิ่งควบคุมสังคมได้ยาก
ผมเคยเจอ คนอเมริกาพูดประมาณว่า ชอบระบอบอเมริกาอย่างหนึ่งมีความแฟรืแบบแปลกๆ เจ้าของโรงงานรถยนต์ไม่ใช่น้องชายของราชาที่พอเรียกร้องอะไร รัฐบาลต้องทำตาม
หากเขาอยากเรียกร้องอะไร เขาต้องจ่ายเงินสินบนเช่นเดียวกับทุกกลุ่มอิทธิพลในประเทศ ???
ก็น้า~ เพราะว่าไม่ว่าใครๆจะในนิยายหรือชีวิตจริงต่างก็ต้องการให้ความถูกต้องยืนอยู่ข้างตัวเองยังไงล่ะ (Moral High ground)  ;)
การแสดงออกของเพศชายกับเพศหญิงอาจจะต่างกันมากก็จริงแต่เนื้อแท้เรื่องนี้ยังคล้ายๆกันอยู่
คือการจะหาความถูกต้องใส่ตัว วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือกดคนอื่นให้ต่ำลงไป เค้าไม่ได้หาว่าผู้หญิงด้วยกันไม่ดีอย่างเดียว เค้าบอกด้วยว่าตัวเค้านั้นจะไม่ทำอย่างนั้น
มีแค่พวกสมองไม่ปกตินิดหน่อยเท่านั้นแหละที่จะไม่มีอาการอย่างนี้เลยน่ะ


คนเราน่ะ ส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่หรือว่าจริงๆแล้วทำไปเพราะอะไรกันแน่  :P
นี่คือสิ่งที่ผมเห้นต่างไปครับ
ผมได้อิทะิพลมาจากพวกเอทิสม์น่ะครับ
เลยพยายามมองมนุษย์เป็นเครื่องจักรไบดอ มากกว่าที่จะถือคติว่า "หัวใจของผู้หยิงเป้ฯความลับดุจมหาสมุทร" หรืออะไรพวกนั้น แต่พยายามอธิบายในพื้นฐานของเครื่องจักรชีวะ ว่ามีที่มาที่ไปอย่า่งไร
ผู้ชายแค่มีโครงสร้างร่างกายที่ออกแปบบให้ใช้แรงงานมากกว่า ผู้หญิงควรจะเก่งกว่าในด้านทักษะทางสังคม วิทยาศาสตร์ก็พิสุจนืเรื่องความสามารถในด้านคำศัพท์ต่างๆ
ผู้หญิงเหนือกว่ามาก แต่ทำไมสภาพสังคมถึงเป็นอย่างปัจจุบันนี้?

ถ้าสังเกตตามช่วงเวลาที่ยังมีระบบทาสอยู่ + นโยบายเพิ่มประชากร
1.  หากเป็นช่วงปลอดสงคราม;  การแต่งงานเพื่อแรงงานราคาถูก - เกษตรกรรมถือว่ามีประสิทธิภาพและสมดุลที่สุดแล้ว  ขณะที่ประวัติศาสตร์เริ่มเข้าหา Arab Agricultural Revolution (8 -13th century)  ซึ่งช่วยลดแรงงานลงมาก  หน้าที่ผลิตประชากรก็เลยถูกลดความสำคัญผู้หญิงเลยเข้าหางานฝีมือแทน

2.  ช่วงสงครามหลัง Industrial revolution เป็นต้นมา;  Women’s right ก็เข้าถึงอยู่แล้ว  ซึ่งเป็นความขัดแย้งเล็กๆที่ไม่ถึงขนาดลบหมู่บ้านหายเป็นแถบๆเหมือนสมัย Medieval ซึ่งเป็นความเสียหายที่รุนแรง  ปัญเรื่องงานไม่เพียงพอเลยผลักดันให้เกิดการเรียกร้องอย่างอื่นเพิ่ม  เหมือนกับที่ EU - Asia พากันล้มหรือลดอำนาจระบอบกษัตริย์เพราะเชื่อว่าฟุ่มเฟือย  และทำเอาระบบการเมืองพิการหมด

3.  ถ้ากล่าวถึงสังคมผู้หญิงที่ยก Feminism มาอ้างบ่อยๆจะพบว่า;  เดิมทีมันเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ Intrasexual Competition ของผู้หญิงเท่านั้น  ซึ่งเทียบได้กับการแข่งขันด้านพละกำลังและความเป็นเพศของผู้ชาย  ซี่งหมดไปตั้งแต่ช่วงใกล้ๆปฏิวัติอุตสาหกรรม  แล้วก็การศึกษากับทำอาชีพเลี้ยงตัวได้รับความนิยมมากว่า  ดังนั้นสังคมผู้หญิงขณะนั้นก็ได้ดำเนินรอยตามเพศตรงข้ามพร้อมกับผ่าน Racism อย่างมั่นคง  เราจึงเห็นได้ว่า Nerd ในเพศนี้มากขึ้นเรื่อยๆ  สังคมสนับสนุนการศึกษาและความสามารถในงานประกอบอาชีพมากขึ้นจนทำให้ค่านิยมของผู้หญิงคล้อยตามผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งใครที่คิดถึงแต่ค่านิยมก่อนหน้านี้สังคมใหม่จะมองว่าล้าสมัยและไม่มีชประโยชน์



ประมาณอย่างไหนครับ?
อย่างที่บอกว่าเคสที่ดาราทำผู้หญิงท้อง

ผมกับเพื่อนด่าดาราผู้ชายกันมาก แต่พวกแอม่ทีอายุเยอะกลับไม่ชอบผู้หญิง
เห้นหน้าดาราคนหนึ่งก็บอกว่าตอแหล นักข่าวต่างๆนานา ฮา

นึกถึงเรื่องพระครุมิซึโอะ ที่ผมงงว่าเกิดพอะไรขึ้น แต่แม่กลับตอบว่าเรื่องผู้หญิงได้ในตอนที่สึกนั่นล่ะ คนเรามันมีไม่เกี่เรื่องจริงๆล่ะนะ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ warakornboy

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 471
  • ถูกใจแล้ว: 182 ครั้ง
  • ความนิยม: +14/-9
[quote/]มันจะมาที่มีมุกนางเอกในนิยายไทยนะครับ ไม่ otomeg จะพูดเหมือนกันว่า
"ฉันจะหลีกทางให้ ฉันไม่แย่งของของใคร" แต่ผลก็อย่างที่เห็นล่ะครับว่า คู่หมั้นก็ถอนหมั้นที่เคยหมั้นกันไว้
ความจริง Otome ก็แค่ต่างกันแค่บริบทแต่ธีมคล้ายกันเอามากๆน่ะ
[quote/]
เรื่องตบแย่งผู้ชาย ผมเคยอ่านเรื่องสั้นของไอแซคอาซิมอฟน่ะครับว่า
ในโลกที่ผู้ชายตายเกือบหมดเหลือแต่ผู้หญิง
ผู้ชายคนนั้นจะตกเป็นของผู้หญิงที่ร่างกายบึกบึนที่สุด ฮา :P
ไม่ใช่เกิดเหตุการณ์ฮาเร็มแบบการ์ตูนมังกะแต่อย่างใด
ฝรั่งก็เคยเขียนแนว แบบ world end harem แต่ชื่อเรื่อง Y The Last Man ที่ผู้ชายตายหมดแต่เขียนแบบซีเรียสเอามากๆ

ว่าสังคมผู้ชายตายหมดก็ยังมีสงคราม แก่งแย่งกันอยู่เหมือนเดิม
[quote/]
ผมมองว่าแต่ละคนก็พอรู้อยู่น่ะครับ มั้ง?
ในแง่ของความสามารรถและทักษะผู้ชายความสามารรถในการอ่านสีหน้าแววตาน้อยกว่าผู้หญิงอย่างมาก หรือทักษะการจับความหมายที่แฝงในคำพูดนั้นต่ำกว่า
ปัญหาคือ
ผมเคยเจอเคสประมาณว่า ผู้หญิงก็ชอบผู้ชายที่ล้อมรอบและจะเกิดอาการเขม่นกันขึ้นมาเลย หากผู้ชายที่ล้อมรอบตนเองอยู่ตั้งเยอะ มีบางคนไปตามผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
ทั้งที่ไม่ได้อะไรกันมาก่อน แต่แค่นั้นก็นับเป็นชนวนทำให้เกลียดกันได้แบบโดยไม่มีเหตุผลเลย
[quote/]
ผมพยายามสร้างระบบในหัวขึ้นมาในการมองอารยธรรมมนุษย์น่ะครับ
เคยมองอารยธรรมที่ทำเป็นเควสต์แล้วรู้สึกน่าสนใจ

คือ โดยทักษะแล้วผู้หญิงมีสกิบลมากกว่าผุ้ชายในการสื่อสาร การสังเกตสีหน้าแววตา ภาษากายและคำศัพท์ รวมไปถึงทักษะการเข้าสังคม การแชร์ข้อมูลระหว่างกลุ่มดีกว่าผู้ชายมาก

หากดูตามค่าสถานะตัวละคร ในสังคมที่มีอารยธรรม ผู้หญิงควรจะครองอำนาจได้อย่างง่ายดายจากการสร้างคอนเนคชั่น แต่ทำไมถึงทำไม่สำเร็จ?
ผู้ชายี่โง่มากกว่าในเรื่องคำศัพท์การสื่อสารต่างๆด้อยกว่าผู้หญิงประมาณสามเท่า ทำไมถึงรวมกลุ่มการทำงานได้ดีกว่า?
ตามประวัติศาสตร์ เผ่าที่ผู้หญิงครองอำนาจไม่ใช่เรื่องแปลกในต้นอารยธรรม ผู้หญิงเป็นหัวหน้าชนเผ่านั้นเป็นเรื่องปกติ

ผมมีทฤษฎีประมาณเรื่องแนวความคิดของหุ่นยนต์ กฎสามข้อน่ะครับ

ที่หุ่นยนต์ต้องทำตามกฎต่างๆ คือการควบคุมตนเอง แต่หุ่นยนต์ที่ฉลาดจะสามารถแหกกฎได้

ผมมองในด้านนี้ว่า ผู้หญิงฉลาดมากในการตีความความหมายและฉลาดมากกว่าผู้ชายในเรื่องสังคม ทำให้รวมตัวกันได้ยากกว่า อัจฉริยะจะละเมิดกฎเสมอ
ผู้ชายโง่ๆ อาจจะเรียกว่าตามๆกันไป มึงมาพาโวยไม่คิดมาก ทำให้รวมกลุ่มกันทำเรื่องบ้าๆ ไร้สาระ แม้จะไม่มีประโยนชน์อะไรเลยได้ดีกว่า
ผมเคยเล่นเควสต์ประมาณว่าอยากสร้างหุ่นที่ฉลาดเพื่อจะเะดพิ่มการผลิต

แต่ดดน GM บอกว่า หุ่นที่ฉลาดเพราะมันฉลาดนั่นล่ะ มันถึงจะทำงานให้น้อยที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะมันไม่ต้องการงานที่มากขึ้น
ยิ่งฉลาด ก็จะยิ่งคำนวณผลได้ผลเสียมากกว่า

เป้าหมายที่จะสร้างหุ่นยนต์ที่ฉลาดมาทำงานรับใช้จึงไม่สามารถกระทำได้
สร้างหุ่นยนต์ที่โง่ลงมา ความคิดสร้างสรรค์น้อย ยังจะทำงานตามปรกติไม่หลบเลี่ยงมากกว่า
[quote/]
โนซากิ บรรลุเรื่องการเข้าใจผู้หญิงแล้วครับ
เขียนการ์ตูนเน้นความรู้สึก ไมต้องการเหตุผลอะไรมากมายแบบการ์ตูนโชวเน็น
ให้ความรักและความหวังกับสาวน้อยก็พอ

..
เรื่องการเป็นคนดีของนางร้ายนี่ มันคือเงื่อนไขของการทานผลไม้ต้องห้ามในการแย่งผู้ชายจริงๆครับ
ผู้ชายที่ดี ไม่มีคู่หมั้น มันไม่น่าดึงดูดใจเท่าหรือไม่ก็ไม่รู้

ผมเห็นต่างในเรื่องการไม่พยายามทำความเข้าใจน่ะครับ
เพระอย่างที่บอกผมพยายามมองคนเป็นเครื่องจักรชีวะ ผู้หญิงก็แค่เครื่องจักรชีวะไม่ต่างกับผู้ชาย แค่จะมีโปรแกราซอฟแวร์ต่อวงจรต่างกันไป แต่ยังอยู่ในตรรกะที่เข้าใจได้

[quote/]
ผมค่อนข้างเห็นด้วยใในเรื่องของการรวมกลุ่มกันเพื่อเรียกร้องสิทธิประโยชน์นะครับผมไม่มองแง่ร้ายในเรื่องนั้นะ ประชาธิปไตยคือระบบของพรรคมารที่ให้จ้าเกาะ จ้าวถ้ำ จอมมารแห่ยุคคุมเชิงกันเอง มากกว่าที่จะเชื่อเรื่องผู้นำวื่อสัตย์
ให้ตั้งกลุ่มผลประโยชน์มากๆกลุ่มจะดีกว่าหากเราคำนวณในภาพรวม
การแตกออกจากกลุ่ม ขัดแย้งกันไม่ใช่เรื่องผิดพลาด แต่คือการออกแบบของระบอบประชาธิปไตยว่าผลประโยชน์กระทบ ข้าก็ไม่ขอเดินร่วมกับเอ็ง
มันจึงเป็นที่มาของการแตกกลุ่มต่างๆล่ะครับว่าแฟมินิสม์จะมีกลุ่มที่แตกออกมาเสมอเมื่อจำนวนขยายไปถึงจำนวนหนึ่ง
ยิ่งมีกลุ่มผลประโยชน์มากก็จะยิ่งควบคุมสังคมได้ยาก
ผมเคยเจอ คนอเมริกาพูดประมาณว่า ชอบระบอบอเมริกาอย่างหนึ่งมีความแฟรืแบบแปลกๆ เจ้าของโรงงานรถยนต์ไม่ใช่น้องชายของราชาที่พอเรียกร้องอะไร รัฐบาลต้องทำตาม
หากเขาอยากเรียกร้องอะไร เขาต้องจ่ายเงินสินบนเช่นเดียวกับทุกกลุ่มอิทธิพลในประเทศ ???
[quote/]
นี่คือสิ่งที่ผมเห้นต่างไปครับ
ผมได้อิทะิพลมาจากพวกเอทิสม์น่ะครับ
เลยพยายามมองมนุษย์เป็นเครื่องจักรไบดอ มากกว่าที่จะถือคติว่า "หัวใจของผู้หยิงเป้ฯความลับดุจมหาสมุทร" หรืออะไรพวกนั้น แต่พยายามอธิบายในพื้นฐานของเครื่องจักรชีวะ ว่ามีที่มาที่ไปอย่า่งไร
ผู้ชายแค่มีโครงสร้างร่างกายที่ออกแปบบให้ใช้แรงงานมากกว่า ผู้หญิงควรจะเก่งกว่าในด้านทักษะทางสังคม วิทยาศาสตร์ก็พิสุจนืเรื่องความสามารถในด้านคำศัพท์ต่างๆ
ผู้หญิงเหนือกว่ามาก แต่ทำไมสภาพสังคมถึงเป็นอย่างปัจจุบันนี้?

[quote/]
ประมาณอย่างไหนครับ?
อย่างที่บอกว่าเคสที่ดาราทำผู้หญิงท้อง

ผมกับเพื่อนด่าดาราผู้ชายกันมาก แต่พวกแอม่ทีอายุเยอะกลับไม่ชอบผู้หญิง
เห้นหน้าดาราคนหนึ่งก็บอกว่าตอแหล นักข่าวต่างๆนานา ฮา

นึกถึงเรื่องพระครุมิซึโอะ ที่ผมงงว่าเกิดพอะไรขึ้น แต่แม่กลับตอบว่าเรื่องผู้หญิงได้ในตอนที่สึกนั่นล่ะ คนเรามันมีไม่เกี่เรื่องจริงๆล่ะนะ



ย่อความเกินไปหน่อยสินะขออภัย;  Female intrasexual competition เป็น Subset ของ Mate choice ของมนุษย์  ตรงที่ว่าการเลือกเพศตรงข้ามที่มีความเป็นผู้ชายมากๆเป็นของเก่า  อันนี้เรียกว่า Female short-term mating strategy เพราะหาง่ายมาก  และไม่รับประกันความมั่นคงในชีวิตสมรส


ขณะที่ Long-term mating strategy  มันจะมีทุกอย่างที่กล่าวมา + ความั่นคงทางการเงิน + ศักยภาพในการเลี้ยงดูลูก + ทุกอย่างที่จะส่งผลในฐานะพ่อที่ดีและความสัมพันธ์ที่ยาวนาน  ผลสรุปหลายอย่างได้สมมุติฐานมาว่า; ผู้หญิงอยากจะจีบสามีได้เรื่อยๆถึงแม้จะมีลูกไปตั้งกี่คนก็ตามเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของความเยาว์วัยในคู่แต่งงานนั้นด้วย 


ผู้ชายที่สามารถทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงได้คือ  หน้าค่อนไปทาง Feminine แต่ร่างกายแข็งแรงสุขภาพดีและรักในการงานที่ผู้หญิงไปร่วมได้  ซึ่งหายากกว่าประเภท Punk & workaholic มาก เมื่อพวกเธอมองผู้ชายแบบนี้เท่านั้นที่เป็นทรัพยกาประชากรที่มีจำนวนต่อผุ้หญิงน้อยถึง  1/100,000จึงเกิดการแข่งขันกลุ่มผู้หญิงนี้เอง


ส่วน Racism นั้นหมายถึง;  การกลั่นแกล้งในเรื่องค่านิยมที่ไม่ดีในสังคมของผู้หญิง  ที่เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการลดค่า - ทำลายคู่แข่ง  อย่างที่เห็นประปราย  บางคู่มีความเชื่อใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากเกินไป  ผู้ชายก็มีแนวโน้มที่จะไม่เปลี่ยนคู่อย่างเด็ดขาด
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
อืม แนวคิดหลายๆ อย่างในโลกเรามันเริ่มเปรี่ยนไปตอนช่วง ล่าอณานิคม ปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยเฉพาะตอนช่วงที่ล่าอณานิคมที่ ชาวตะวันตกเอาค่านิยมแบบตะวันตกมาเผยแพร่นั่นแหละนะ
แนวคิดการปฏิบัติกับผู้หญิง สมัยก่อนนั่นเรียกได้ว่า แย่มากในระดับดีกว่าสัตว์เลี้ยงนิดหน่อย เลยด้วยซ้ำ ดูได้จากบรรทึกประวัติศาสตร์สารคดีเก่าๆ ที่เคยออกนำเสนออ่ะนะ  เรียกได้ว่ามีวัฒนธรรม
ไม่มากเท่าไรที่ยกให้ผู้หญิงมีสถานะ เท่าเทียมกับผู้ชาย   


          ค่านิยมเรื่องผัวเดียวเมียเดียวนี่ถ้าผมจำไม่ผิดมันมาจากตอนช่วงล่าอณานิคมนั่นแหละที่ เขาเอาศาสนามาเผยแพร่ด้วย แน่นอนว่าประเทศที่เหนือกว่าทั้่งเทคโน และอำนาจย่อมมีผลต่อแนวคิด
ว่าพฤติกรรม นั้นๆ เป็นเรื่องดีหรือสิ่งที่ควรทำ พอเห็นนานๆ เข้า นานวันเข้า คนเราเลยรับมันเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

 

ออฟไลน์ tidday2521

  • เทพแรร์
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,212
  • ถูกใจแล้ว: 4703 ครั้ง
  • ความนิยม: +133/-102
  • ...ร่องนมและซอกอก...
เห็นต่างเพราะมองมนุษย์เป็นเหมือนจักรกลชีวะ แต่ไม่มองหลักการการสร้างบุคลิกภาพรายย่อยแบบสุ่มเลยรึไงท่าน (เอ่อ..หน่วยประมวลผลซิน่ะ)

ที่ไม่เข้าใจเป็นเพราะพยายามที่ทำความเข้าใจนั่นแหละ เลยยิ่งห่างไกลจากบทสรุปและความเข้าใจที่แท้จริงน่ะ...
อย่างนี้สุดท้ายก็เหมือนเห็นแต่เปลือกเท่านั้น และก็เหมือนกับจะเอาแต่ยืนยันหัวชนฝาว่าเปลือกคือเนื้อที่แท้จริงนั่นแหละ


ไอ้มุกแย่งคู่หมั้น จะใช้ก็ได้อยู่ เพียงแต่ต้องสร้างเงื่อนไขให้หนักหนาพอที่จะไม่รู้สึกขัดแย้งเวลาที่โดนถอนหมั้นน่ะ

โดนมอมยา อย่างของคุณหนูไอรีสก็ถือว่าโอเค มุกนี้ผ่าน ....

หมั้นเพราะหน้าที่ แต่พอเจอคนถูกใจเลยบอกถอนหมั้น อันนี้ก็โอเค

หรือจะเลวร้ายชนิดเกินรับไหวอย่างคุณหนูเรย์กะ กับคุณหนูคาตารินะ ก่อนเกิดใหม่จนฝ่ายชายทนไม่ไหวอันนี้ก็โอเค
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2019, 10:13:30 AM โดย tidday2521 »
 

ออฟไลน์ AlexW

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 324
  • ถูกใจแล้ว: 139 ครั้ง
  • ความนิยม: +16/-30
ลองหา Otome game หรือเกมจีบหนุ่มภาษาอังกฤษมาลองเล่นเองแล้วอ่านเนื้อเรื่องดูสิครับ ตัวอย่างเช่น

https://store.steampowered.com/app/303290/OZMAFIA/

https://store.steampowered.com/app/977460/Steam_Prison/

https://store.steampowered.com/app/865830/Psychedelica_of_the_Ashen_Hawk/

เล่นสัก 2-3 เกม แล้วลองวิเคราะห์เนื้อเรื่องดู  ;D

หรือไม่ก็ลองดูอนิเมที่สร้างจากเนื้อเรื่องเกมแนวนี้ดูอย่าง Code: Realize หรือ Amnesia เคยเห็นมีคนทำซับไทยอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2019, 01:55:36 PM โดย AlexW »
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,584
  • ถูกใจแล้ว: 18893 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-454
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
แต่จุดบอดที่นิยายกลับชาติไปเกิดเป็นนางร้ายส่วนมากไม่ยอมอธิบายก็คือนิสัยกับความเป็นผู้ใหญ่ครับ. ตัวเอกถ้าตายตอน17แล้วไปเริ่มตั้งแต่เป็นทารกกว่าที่จะ17อีกรอบคุณเธออายุ34แล้วนะเออ.  ;D   แต่ส่วนมากก็ยังมีนิสัยเด็กกว่าพระเอกที่อายุแค่17ปีด้วยซ้ำไป
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
อืม แนวคิดหลายๆ อย่างในโลกเรามันเริ่มเปรี่ยนไปตอนช่วง ล่าอณานิคม ปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยเฉพาะตอนช่วงที่ล่าอณานิคมที่ ชาวตะวันตกเอาค่านิยมแบบตะวันตกมาเผยแพร่นั่นแหละนะ
แนวคิดการปฏิบัติกับผู้หญิง สมัยก่อนนั่นเรียกได้ว่า แย่มากในระดับดีกว่าสัตว์เลี้ยงนิดหน่อย เลยด้วยซ้ำ ดูได้จากบรรทึกประวัติศาสตร์สารคดีเก่าๆ ที่เคยออกนำเสนออ่ะนะ  เรียกได้ว่ามีวัฒนธรรม
ไม่มากเท่าไรที่ยกให้ผู้หญิงมีสถานะ เท่าเทียมกับผู้ชาย   


          ค่านิยมเรื่องผัวเดียวเมียเดียวนี่ถ้าผมจำไม่ผิดมันมาจากตอนช่วงล่าอณานิคมนั่นแหละที่ เขาเอาศาสนามาเผยแพร่ด้วย แน่นอนว่าประเทศที่เหนือกว่าทั้่งเทคโน และอำนาจย่อมมีผลต่อแนวคิด
ว่าพฤติกรรม นั้นๆ เป็นเรื่องดีหรือสิ่งที่ควรทำ พอเห็นนานๆ เข้า นานวันเข้า คนเราเลยรับมันเข้ามาโดยไม่รู้ตัว


โดยส่วนตัวแล้วผมสนับสนุนผัวเดียวเมียเดียวนะ
มองว่าที่ศาสนจักรแนะนำบทบัญยัติหลายประการมีไว้เพื่อความสงบสุขของสังคม
ผัวเดียวเมียเดียวคือระบบที่สมดุลย์ที่สุดในการเลี้ยงดูบลุตรที่เกิดมา
คนรวยมีทรัพยากรมากกว่าในการเลี้ยงดูภริยาจำนวนมาก แต่สังคมที่มีชายหนุ่มจำนวนมากที่ไม่มีภริยาจะก่อความรุนแรงได้ง่ายกว่า
ผู้หญิงถ้าหากว่ากันตรงๆ ก็มีทางเลือกที่จะเป็นเมียน้อยผู้ชายรวยๆมากกว่าลำบากกับผู้ชายจนๆในสมัยก่อน
แต่พอแนะนำวัฒนธรรมสามีภริยาเดียว ก็โดนสังคมกดดันจนตัดทางเลือกนั้นไป เป็นการลดปัญหาความขัดแย้งแบบอีเย็นในครอบครัวด้วย
ลองหา Otome game หรือเกมจีบหนุ่มภาษาอังกฤษมาลองเล่นเองแล้วอ่านเนื้อเรื่องดูสิครับ ตัวอย่างเช่น

https://store.steampowered.com/app/303290/OZMAFIA/
[youtube/]

https://store.steampowered.com/app/977460/Steam_Prison/
[youtube/]

https://store.steampowered.com/app/865830/Psychedelica_of_the_Ashen_Hawk/
[youtube/]

เล่นสัก 2-3 เกม แล้วลองวิเคราะห์เนื้อเรื่องดู  ;D

หรือไม่ก็ลองดูอนิเมที่สร้างจากเนื้อเรื่องเกมแนวนี้ดูอย่าง Code: Realize หรือ Amnesia เคยเห็นมีคนทำซับไทยอยู่
ขอบคุณครับ
ผมกะจะเล่นมุกว่าพระเอกบ้าหนังจีนแต่ดันมาอยู่ในโลก otome จอมมาร เจ้าชาย คู่หมั้น แต่ไม่สนพล้อตเหล่านั้นเลย แก้ปัญหาต่างๆในเรื่องได้โดยไม่ตั้งใจ :P
แต่จุดบอดที่นิยายกลับชาติไปเกิดเป็นนางร้ายส่วนมากไม่ยอมอธิบายก็คือนิสัยกับความเป็นผู้ใหญ่ครับ. ตัวเอกถ้าตายตอน17แล้วไปเริ่มตั้งแต่เป็นทารกกว่าที่จะ17อีกรอบคุณเธออายุ34แล้วนะเออ.  ;D   แต่ส่วนมากก็ยังมีนิสัยเด็กกว่าพระเอกที่อายุแค่17ปีด้วยซ้ำไป
ผมเคยดูนิยาย/หนังไทยมั้ง ที่พระเอกคือพ่อของนางเอกตายแล้วเกิดใหม่กะจะสานสัมพันธ์กับแฟนเก่าตนเองอีกครั้งหลัีจากความทรงจำคืนมา
แต่พอมีปัญหาก็ดันปรึกษาแม่ของตนเองในชาตินี้ ที่ก็เป็นคนรุ่นเดียวกับตนเองนั่นล่ะหากนับอายุในชาติก่อน
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องต้องการสื่ออะไร

หากผมตายไปตอนนี้และเกิดใหม่เป็นเด็กเจ็ดขวบ ผมก็ไม่คิดว่าจะปรึกษาปัญหาเรื่องการกลับชาติมาเกิดกับเพื่อนที่อายุเท่ากันแล้วจะมีน้ำหนักการตัดสินใจมากขนาดนั้น

หรือคิดอีกที เรื่องอายุอาจจะเป็นความฝันของสาวๆก็ได้ครับ สาว OL อายุสามสิบย กลับชาติมาเกิดอายุรวมก็ 47 ได้กินเด็กหนุ่มๆอายุ 17 ปีคงฟินไปอีกแบบมั้ง
เห็นต่างเพราะมองมนุษย์เป็นเหมือนจักรกลชีวะ แต่ไม่มองหลักการการสร้างบุคลิกภาพรายย่อยแบบสุ่มเลยรึไงท่าน (เอ่อ..หน่วยประมวลผลซิน่ะ)

ที่ไม่เข้าใจเป็นเพราะพยายามที่ทำความเข้าใจนั่นแหละ เลยยิ่งห่างไกลจากบทสรุปและความเข้าใจที่แท้จริงน่ะ...
อย่างนี้สุดท้ายก็เหมือนเห็นแต่เปลือกเท่านั้น และก็เหมือนกับจะเอาแต่ยืนยันหัวชนฝาว่าเปลือกคือเนื้อที่แท้จริงนั่นแหละ


ไอ้มุกแย่งคู่หมั้น จะใช้ก็ได้อยู่ เพียงแต่ต้องสร้างเงื่อนไขให้หนักหนาพอที่จะไม่รู้สึกขัดแย้งเวลาที่โดนถอนหมั้นน่ะ

โดนมอมยา อย่างของคุณหนูไอรีสก็ถือว่าโอเค มุกนี้ผ่าน ....

หมั้นเพราะหน้าที่ แต่พอเจอคนถูกใจเลยบอกถอนหมั้น อันนี้ก็โอเค

หรือจะเลวร้ายชนิดเกินรับไหวอย่างคุณหนูเรย์กะ กับคุณหนูคาตารินะ ก่อนเกิดใหม่จนฝ่ายชายทนไม่ไหวอันนี้ก็โอเค
ความแกตกต่างของบุคลิกนั่นอยู่ในการคาดการณ์แลฃ้วครับ
นิสัยช่างสังเกตจะช่วยในการอัพไอคิวขึ้นหรือการสนใจหาความรู้ก็เช่นกัน
แต่ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับแนวไซไฟ ประมาณว่า อนาคตประวัติศาสตร์ ยิ่งคนจำนวนมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งำคนวณการกระทำของคนง่ายกว่าการคำนวณปัจเจคบุคคล

การตีความคนหนึ่งอาจเข้าใจผิดได้ง่ายมากๆเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ท่านว่าเข้าใจผิวเผินนั้นถู๔กแอล้วครับ

แต่การมองคนจำนวนมากนั้นต่างอกไป เขาถึงมองว่าการมองคนจำนวนมากนั้นง่ายกว่าการมองปัจเจคบุคคลครับ
คนคนเดียวนั้นฉลาด คนรวมกลุ่มกันโง่เขลา
การตีความเป็นเครื่องจักรชีวะคือการมองพฤติกรรมแบบกลุ่มน่ะครับ จะคำนวณได้ง่ายมากกว่า
ปัจเจคชนไม่สามารถเอาชนะกลุ่มคนได้ ยกเว้นคนคนนั้นจะเป็นอัจฉริยะที่นานๆจะโผล่มาสักที
หากพูดแบบเฟทคือคนอย่างกิลกามธ เซเบอร์ นั่นล่ะครับ
คนที่เปลี่ยนแปลงสังคมที่ตนอยู่ได้ แต่คนประเภทนั้นไม่ใช่หาได้ตามต้นไม้


ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการบอกว่าพยายามเข้าใจจะไม่เข้าใจครับ
มองว่า "โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต" "หัวใจของผู้หญิงลึกล้ำเหมือนมหาสมุทร" เป็นการละทิ้งความพยายามในการสร้างสมมติฐานและการทดลองไป
ตั้งสมมติฐานทดลองอาจจะผิดพลาด
แต่คนที่ไม่ตั้งสมมติฐานหรือทดลองก็จะไม่มีวันพิสูจน์ความจริงได้เลย

ที่ท่านพูดก็ไม่ต่างกับเคสมาหยารัศหมี ดาวพระศุกร์นั่้นล่ะครับในเรื่องของการเกินความรับไหวจึงถอนหมั้นผมถึงบอกว่าแม้่จะผ่านกำแพงทางด้านภาษา มันมีธีมหลักที่เหมือนกันที่ก้าวข้ามกำแพงภาษาและวัฒนธรรมได้

ก็มาเรื่องที่ผมว่านั่นล่ะครับ
ผู้ชายกลายเป้นคนที่มองว่าดีกว่า แค่โง่ไป ไม่ค่อยจะมีคนที่เลวจริงๆ
แต่ผู้หญิงนั้นตอแหลเสียจนเหนื่อยใจเลย


http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก