แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony  (อ่าน 5601 ครั้ง)

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 03:50:02 PM »
ให้ดูเล่นๆ เพิ่งปรับพอร์ทราวๆ 70% ปีนี้ตัวเลขเลยไม่เยอะ
แถมตัวที่ซื้อเยอะๆล่าสุดขาดทุนนิดหน่อยด้วย


ทุกตัวไม่มีตัวไหนถือเกิน 10 ปีนะ
ตั้งแต่  ea ลงไปมีแค่ ah ที่ถือเกิน 2 ปี
รองลงมาก็ ea jasif ถือปีกว่า ที่เหลือ ถือไม่เกินครึ่งปี

ส่วน sena ขึ้นไป ถือเกิน 3 ปีแต่ไม่เกิน 10 
เพราะเปิดพอร์ตมาราวๆ 8-9 ปี ได้มั้ง
ลองผิดลองถูกมาเยอะกว่าจะได้แนวทางก็ขาดทุนไปเยอะ ;D
[spoiler/]

ส่วนที่ซื้อช่วงแถวๆก่อนโควิด บางตัวขายหมูไปละ อย่าง synex ขายราวๆ 10 บาทวันนี้ 26 :'(
ไม่ก็จ้องนานไปหน่อย เจอวิ่งไปไม่กล้าเข้าแม่มวิ่งต่อจนได้แต่มอง :'(


เป็นปกติครับที่จะขาดทุนบ้าง แต่โดยรวมตามธรรมชาติหุ้นมันจะขึ้นไปเรื่อยๆเอง ถ้าธุรกิจมันมีอนาคตไม่โดน Disrupt มันก็ขึ้นได้เรื่อยๆ เป็นธรรมชาติของมัน


บางตัวผมซื้อก็ขาดทุนเหมือนกัน แต่พอมองปันผล+การเติบโตในอนาคต มันก็พอถูไถอยู่ในเกณฑ์พอรับได้
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: deaddy

ออฟไลน์ redxsword

  • เจ้าสำนักหมี
  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,230
  • ถูกใจแล้ว: 22046 ครั้ง
  • ความนิยม: +1614/-194
  • เพศ: ชาย
  • ของแท้ต้องมีรูปฮีจังอยู่ที่ปก
    • สำนักกฎหมายเอสแอนด์เอ็น
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 07:00:09 PM »
เพื่อนผมก็ทำตามนี้แหละครับตอนนี้หนี้ท่วมหัวเลย รอวันโดนฟ้องล้มละลายอย่างเดียว


การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ!  8)


ถ้าไม่งั้นก็จงอยู่อย่างพอเพียง อย่าเผยอข้ามชนชั้น กระทำการเกินตัว  ;D
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ trash

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 359
  • ถูกใจแล้ว: 274 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 07:06:54 PM »
[quote/]


การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ!  8)


ถ้าไม่งั้นก็จงอยู่อย่างพอเพียง อย่าเผยอข้ามชนชั้น กระทำการเกินตัว  ;D

เทรนด์ทำธุรกิจสมัยนี้  ถ้ามัวแต่ศึกษา  ศึกษาๆๆๆๆๆๆ  คนที่กล้าเสี่ยง  เขาก็เอาไปแดกแหละ
ธุรกิจยุคนี้  เป็นแนวทำไปแก้ไป  ทำแป๊ก  รีบทำสตาร์ทอัพตัวใหม่ป้อนตลาด  มันเป็นเทรนด์
ของยุค 
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 07:32:39 PM »
ตอนนี้ส่วนตัว ลงทุนกับร่างกายตัวเองก่อนแหละ 


ซื้อเวทเซ็ท 20 โลมาล่ะ
เล็งกระทะเคลือบ(เกี่ยวกันตรงไหน ? เนื่องจากต้องควบคุมอาหาร แดกโปรตีนเยอะ ราคาถูกสุดที่หาได้คือไข่ (เฉลี่ยลูกละ2บาท เลยต้องหา อุปกรณ์ปรุงสักหน่อย))


อยากได้สปริงหักแบบไฮโดรลิก กับพาวเวอร์บอลอีกอัน
หลังๆ งบพอ คงไปต่อที่ กระสอบทรายกับเครื่องกรรเชียง


ถึงจะเคยบอกว่าผมมันบ้าเล่นเกม แต่ก็เล่นเกมเก่าๆ อยู่นะไม่ได้ซื้อเกมใหม่มานานเอาการล่ะ  แถมการ์ดจอขึ้นราคาตอนนี้เกมคอม หยุดยาวๆ


ปล. เห็นผลเอาการ น้ำหนักลงมาที่ 100 หลังจากเกินไป เยอะมานานมาก
แถมบูทยางที่เคย แน่นมากเมื่อก่อนอยู่ๆ แม่งก็หลวมเฉยเลย
[quote/]

เทรนด์ทำธุรกิจสมัยนี้  ถ้ามัวแต่ศึกษา  ศึกษาๆๆๆๆๆๆ  คนที่กล้าเสี่ยง  เขาก็เอาไปแดกแหละ
ธุรกิจยุคนี้  เป็นแนวทำไปแก้ไป  ทำแป๊ก  รีบทำสตาร์ทอัพตัวใหม่ป้อนตลาด  มันเป็นเทรนด์
ของยุค 


กล้าเสี่ยงก็ต้องรู้จัก หาทางถอยไว้บ้าง แต่ส่วนมากหลายๆ คนไม่ค่อยมองทางถอยรอไว้ก่อนด้วย เลยเละทีหลัง หรือบางที่จัดการปัญหาไม่ได้ เจ๊งไปก็เยอะ แถวบ้านผมเห็นเจ๊งมาก็มีอยู่นะ  เซฟโซนมันไปได้เรื่อยๆ แค่ว่าถ้าหวังมากกว่านั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2021, 08:18:02 PM โดย sariora123 »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: deaddy, Black7nos

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 08:31:55 PM »
[quote/]

เทรนด์ทำธุรกิจสมัยนี้  ถ้ามัวแต่ศึกษา  ศึกษาๆๆๆๆๆๆ  คนที่กล้าเสี่ยง  เขาก็เอาไปแดกแหละ
ธุรกิจยุคนี้  เป็นแนวทำไปแก้ไป  ทำแป๊ก  รีบทำสตาร์ทอัพตัวใหม่ป้อนตลาด  มันเป็นเทรนด์
ของยุค 


ความเสี่ยงน่ะรับได้ แต่ไม่ใช่เสี่ยงสูงแบบตายกันไปข้างนึง


อย่างคนไทย  99% ชอบลงทุนในอัตราเสี่ยงระดับ
โอกาสสำเร็จ 50% 30%....1%....0.xxx%


คือมันมีเยอะมากที่เสี่ยงแค่ โอกาสสำเร็จ 90%+
ผลตอบแทนหลายเท่า แค่มันเสียเวลานาน
แบบนี้ไม่ชอบกัน


นู่นได้เสียทุกวัน ทุกครึ่งเดือน
แทงเต็งไม่เอา นู่น สเตป 6-7
ทั้งที่ส่วนใหญ่ทายถูกเกินครึ่ง ถ้าแทง เต็ง 7 คู่เผลอๆรวยไปละ ถ้าแทงมาตลอด
แต่ดันชอบโอกาสเสียเกือบ 100% แต่ได้ทีเยอะๆ


หรือสลาก ถ้าแทงทุกเบอร์ก็จะขาดทุนไปอย่างเยอะ น่าจะราวๆ 30-40%


คนแม่มชอบเสี่ยงกันจะตาย แต่สุดท้ายเจ๊งยับกันทั้งนั้น

พออีกกลุ่มก็ไม่เสี่ยงเลย ดอกเบี้ยปันผลเท่านั้น


จริงๆความเสี่ยงคือความไม่รู้
หลายคนแม่มไม่เคยสำรวจตลาด ไม่มีแผนอะไรเลย
ลงทุนทำไปก่อนเดี๋ยวก็รู้เอง.. :(


อย่างร้านเย็นตาโฟแผงลอยที่นึง 2 ร้านติดกัน
ร้านนึงคนแน่นเข้าคิวรอ อีกร้านตบยุง :( 
คือจะดื้อไปทำไมฟะ ไม่เปลี่ยนก็ย้ายสิ
แม่มเห็นทนเปิดได้ตั้งหลายปี


ธุรกิจน่ะ แค่แผนมันต้องรุ่งแล้ว แถมต้องวางแผนเผื่อพลาดด้วย
ความเสี่ยงน่ะคือผลลัพธ์จริงๆ เช่น ทำไปแล้ว ผิดแผนเพราะโควิด รึน้ำท่วมใหญ่ไรงี้


เจอบางคนทำธุรกิจแบบเหมือนเดินบนเส้นเชือกข้ามตึก
พลาดทีก็ตกมาเจ็บหนัก หรือตายเลย แต่ไปไวมาก
แทนที่จะยอมเดินลงบันไดมา แล้วเดินลงพื้นแบบไม่เสี่ยง
แล้วค่อยเดินเข้าอีกตึกไป


คือจริงอยู่ การเดินบนเส้นเชือกข้ามตึกทำให้ไปไวมาก
แต่ถ้าจะเดินไปไกลๆ ทำหลายรอบ สุดท้ายก็พลาดอยู่ดี
แล้วพลาดทีคือหมดโอกาสไปเลย


อย่างพวกคนรวยระดับโลกเค้าทำกันน่ะ
สร้างแผนธุรกิจมาเป็น สิบๆอย่าง ทำหลายอย่าง
จ่ายงบทดลองไปนิดหน่อย พอทำท่าจะรุ่ง
ก็ระดมทุนจากคนอื่นมาขยายกิจการ
ตังไม่พอก็ขอเพิ่ม พอดูแล้วกำไรไม่เร้าใจ ก็ขายให้คนอื่นต่อ
ถ้ารุ่งก็ทำต่อ


มันจะไม่รวยได้ไง ตอนเสี่ยงสูงใช้ตังน้อย
ตอนขยาย ใช้ตังคนอื่น
พออยู่ตัวก็เก็บเกี่ยว พอเริ่มไม่รุ่งก็ขายทิ้ง
พอมีตัง ก็ไปมองหาอะไรใหม่ๆทำ


ส่วนคนจน อะไรก็ได้ขอให้ได้ตัง พอรุ่งก็ดีใจ
พอทำกำไรก็ยึดติด พอเป็นขาลง ก็ไม่คิดจะปล่อย
สุดท้ายก็ตายไปพร้อมกิจการ :o
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 10:14:40 PM »
ถ้า ธุรกิจที่มีความเสี่ยง สูงล่ะก็ดู อีลอนเป็นตัวอย่างได้ครับ


ถ้าผมจำไม่ผิดคืออีลอน ที่รวยมาครั้งแรกเลยเพราะ ขาย paypal ให้อเมซอน


ในยุคนั้นคนยังไม่ค่อยชอบมี บัตรเครดิต หรือบางคนไม่อยากมีเลยเพราะเหมือนโดนตรวจสอบได้
เขาเลยใช้ paypal กันอเมซอนตอนแรกก็รับ paypal แต่พอเห็นว่าคนจ่ายเงินง่านเจ้านี่เยอะมาก  เสียค่าทำเนียมนิดๆ หน่อยก็จริงแต่จำนวนครั้งมันเยอะมาก ซื้อแม่มเลยดีกว่า
อีลอนเลยได้เงินไปราวๆ 1000 ล้าน ได้ตังมาก็เอาส่วนนึงไปทำจรวด อีกส่วนไปทำรถไฟฟ้า   ไอ้เรื่องทำจรวด นี่มีแต่คนด่ากันทั้งนั้นว่าเจ้งแน่ๆ


เอาเข้าจริงก็เกือบเจ๊งนะครับ คือยิงจรวดระเบิดจนหมดตัว ไปสำเร็จตอนที่มีเศรษฐีคนนึง
ให้ทุนทำให้มายิงจรวดต่อได้อีกนิด รอบนี้แหละสำเร็จ  แถมต่อยอด บ.ตัวเองโดยการจะทำ เน็ตดาวเทียม ที่กสทช. บ้านเรากำลังขวางอยู่นี่แหละ
แต่ในมุมมองผม เปิดใช้งานกันเต็มที่เมื่อไร ขวางไม่อยุ่แน่นอนสุดท้ายต้องเปิดให้ใช้แน่ๆ
เพราะ การสื่อสารระหว่าประเทศ ไกลๆ กันมากในระดับข้ามทวีปข้ามทะเล มีข้อจำกัดเรื่องการลากสายเพิ่ม เน็ต starlink เต็มประสิทธิภาพเมื่อไร แก้เรื่องนี้ได้ล่ะก็ยังไงเราก็ต้องไหใช้ตามอยู่ดีนั่นแหละ
   ตอนนี้เปิดโรงงานรถไฟฟ้า โรงงานแบต ไหนจะเตรียมตัวเปิดบ.ขนส่งอีก(อีลอนวางแผน ให้อีกหน่อยรถไฟฟ้า เอามาทำแท๊กซี่ไร๊คนขับ)
   กลายเป็นว่าอีลอนกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกไปแล้วนะเวลานี้  ปีหน้าแกจะส่งเที่ยวบินจรวดไปดวงจันทร์(ยังไม่ส่งคนจริงๆไป แต่ก็คงไม่นานหลอกถ้าทดสอบสำเร็จ)
   อีก5 ปีหลังจากนั้นจะส่งจรวดไปดาวอังคาร
    ดูแล้วอีลอนนี่ยังไปได้อีกไกลแฮะ

ซึ่งการลงทุนแบบอีลอนนี่เรียกได้ว่าเสี่ยงกันแบบ YOLO เลยนะครับ
เป็นเราๆท่านๆ จะกล้าเสี่ยงไหมกับการเอาเงิน 1000 ล้านไปทุ่มกับธุรกิจที่
อาจจะไม่ประสปความสำเร็จสูงมากอย่างการยิงจรวดสู่อวกาศ
     นาซ่าทุ่มงบเกือบๆ 20000 ล้าน USD ในเวลา10กว่าปี 20ปี
     แต่อีลอนทำได้ในงบ แค่ 1 ใน10 ของนาซ่า 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2021, 10:22:36 PM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มีนาคม 04, 2021, 11:54:19 PM »
ถ้า ธุรกิจที่มีความเสี่ยง สูงล่ะก็ดู อีลอนเป็นตัวอย่างได้ครับ


ถ้าผมจำไม่ผิดคืออีลอน ที่รวยมาครั้งแรกเลยเพราะ ขาย paypal ให้อเมซอน


ในยุคนั้นคนยังไม่ค่อยชอบมี บัตรเครดิต หรือบางคนไม่อยากมีเลยเพราะเหมือนโดนตรวจสอบได้
เขาเลยใช้ paypal กันอเมซอนตอนแรกก็รับ paypal แต่พอเห็นว่าคนจ่ายเงินง่านเจ้านี่เยอะมาก  เสียค่าทำเนียมนิดๆ หน่อยก็จริงแต่จำนวนครั้งมันเยอะมาก ซื้อแม่มเลยดีกว่า
อีลอนเลยได้เงินไปราวๆ 1000 ล้าน ได้ตังมาก็เอาส่วนนึงไปทำจรวด อีกส่วนไปทำรถไฟฟ้า   ไอ้เรื่องทำจรวด นี่มีแต่คนด่ากันทั้งนั้นว่าเจ้งแน่ๆ


เอาเข้าจริงก็เกือบเจ๊งนะครับ คือยิงจรวดระเบิดจนหมดตัว ไปสำเร็จตอนที่มีเศรษฐีคนนึง
ให้ทุนทำให้มายิงจรวดต่อได้อีกนิด รอบนี้แหละสำเร็จ  แถมต่อยอด บ.ตัวเองโดยการจะทำ เน็ตดาวเทียม ที่กสทช. บ้านเรากำลังขวางอยู่นี่แหละ
แต่ในมุมมองผม เปิดใช้งานกันเต็มที่เมื่อไร ขวางไม่อยุ่แน่นอนสุดท้ายต้องเปิดให้ใช้แน่ๆ
เพราะ การสื่อสารระหว่าประเทศ ไกลๆ กันมากในระดับข้ามทวีปข้ามทะเล มีข้อจำกัดเรื่องการลากสายเพิ่ม เน็ต starlink เต็มประสิทธิภาพเมื่อไร แก้เรื่องนี้ได้ล่ะก็ยังไงเราก็ต้องไหใช้ตามอยู่ดีนั่นแหละ
   ตอนนี้เปิดโรงงานรถไฟฟ้า โรงงานแบต ไหนจะเตรียมตัวเปิดบ.ขนส่งอีก(อีลอนวางแผน ให้อีกหน่อยรถไฟฟ้า เอามาทำแท๊กซี่ไร๊คนขับ)
   กลายเป็นว่าอีลอนกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกไปแล้วนะเวลานี้  ปีหน้าแกจะส่งเที่ยวบินจรวดไปดวงจันทร์(ยังไม่ส่งคนจริงๆไป แต่ก็คงไม่นานหลอกถ้าทดสอบสำเร็จ)
   อีก5 ปีหลังจากนั้นจะส่งจรวดไปดาวอังคาร
    ดูแล้วอีลอนนี่ยังไปได้อีกไกลแฮะ

ซึ่งการลงทุนแบบอีลอนนี่เรียกได้ว่าเสี่ยงกันแบบ YOLO เลยนะครับ
เป็นเราๆท่านๆ จะกล้าเสี่ยงไหมกับการเอาเงิน 1000 ล้านไปทุ่มกับธุรกิจที่
อาจจะไม่ประสปความสำเร็จสูงมากอย่างการยิงจรวดสู่อวกาศ
     นาซ่าทุ่มงบเกือบๆ 20000 ล้าน USD ในเวลา10กว่าปี 20ปี
     แต่อีลอนทำได้ในงบ แค่ 1 ใน10 ของนาซ่า 


อีลอนขอตังคนอื่นมาร่วมลงทุนเน้อ ถึงจะล้มก็ไม่ได้ล้มคนเดียว
ไม่เชื่อดูอัตราถือหุ้นได้ อีลอนถือครึ่งเดียวเอง


เผื่อบางคนไม่รู้ เวลาการขายหุ้นให้นักลงทุนที มันเหมือนเอารายได้ล่วงหน้ามาเป็นเงินสด
อย่าง ปั้ม ptt รอบนี้ขายหุ้นด้วยราคากำไรในอนาคต 20+ ปีได้


อีลอนก็คงคล้ายๆกัน ตั้ง บ. มา ทำๆไปซักพัก พอเป็นรูปเป็นร่าง ก็ระดมทุนเทียบเท่ากำไรเป็นสิบๆปี
เช่น สมมุติ ลงทุนตั้ง บ. 100 ล้าน ทำไป 2-3 ปี พอเป็นรูปเป็นร่าง
ขายหุ้น 10% มาขยายกิจการ พอทำไปซักพักก็ขายอีกๆ
ขาย ครั้งแรก อาจจะได้ตัง 100 ล้าน
ครั้งต่อมา 300 ล้าน ต่อมา 1000 ล้าน


คือเวลาเจ๊ง อีลอนจะเจ๊งแค่ 100 ล้าน แต่คนอื่นเจ๊งเป็นพันล้าน
พอ บ.ทำกำไร ก็ขายไปจนตอนนี้ถือแค่ 54%


ถ้าเป็นแบบคนไทยเก่าๆทำธุรกิจคือ ME้ๆ เวลาล้มๆคนเดียว เวลาได้ๆคนเดียว
แล้วโตโครตช้า ต่างกับแบบระดมทุน


สมมุติ ทุกทุน 10 บาท จะได้กำไร 1 บาทต่อปี
ตั้งต้นที่ทุน 1 ล้าน


สมมุติ ลงทุน 1 ล้าน ME้ 15 ปี คิดโดยใช้โปแกรมผ่อนบ้าน ดอก 6% ผ่อนเดือนละ 9000
รวม 1.6 ล้าน


กำไรจาก 1 ล้าน จะได้ 1 แสนต่อปี ผ่อน 1.08 แสน
ครบ 15 ปี มีทุน 2 ล้าน เงินสดจากกำไรราว 1.5 ล้าน


สมมุติผ่านไป 5 ปีME้เพิ่ม 5 แสน 10 ปีอีก 5 แสน


รวมทุน 3 ล้าน ตังอีกราว 1.5 ล้าน


แต่พอใช้วิธีขอตังนักลงทุนด้วยการขายหุ้น
ทำ 1 ปี กำไร 1 แสน ขายครั้งแรก 10% ที่ราคาล่วงหน้ากำไร 15 ปี ได้ตัง 1.5 แสน ถือหุ้นลดลงเหลือ 90%
ปี 2 ทุนเป็น 1.15 ล้าน กำไร 1.035  ขาย อีก 10% ได้ตัง 1.725 แสน  หุ้น 81%
ปี 3 ทุนเป็น 1.3225 กำไร 1.071 วนอีก 0.1984  0.729%
ปี 4 ทุน 1.5209 กำไร 1.109  วนไป 0.2281   0.656%
ปี 5 1.7490 กำไร 1.147  วนอีก 0.2624   0.59%
ปี 6 2.0113 กำไร 1.187 แสน
ทุน 2.0113 หุ้นที่เหลือคือ 0.9^5= 59 % :o 
ขายหุ้นไป 5 ครั้ง ครั้งละ 10% มีทรัพย์สินเหลือ 1.1877 ล้าน  เงินสดอีก  6.549 แสน จาก 6 ปี


ขายหุ้นรัวๆ แต่กิจการโตขึ้นเรื่อยๆซะงั้น แถมมีกำไรอีก เพราะ ขายไปจนทุนโตเท่าตัว
แต่เหลือ หุ้น 59%  จากที่ควรหายไป 50% แถมกำไรที่ได้แบ่งมา ได้ 6.5 แสน จากที่ควรเป็น 6 แสน


แล้วสูตรขายหุ้นนี่ ทำไปพร้อมๆกับกู้ได้อีก
แถมออกหุ้นกู้ เสียดอกลดลงไปอีก


เรียกว่าสูตรการหาตังของคนรวยมันไปไวกว่า พวกชาวบ้านเยอะ
นี่คิดกู้ที่ 6% นะ คนธรรมดากู้ดอกแพงกว่า 6% อีก
หุ้นกู้บาง บ. คิด 3% งี้ แถมอยากได้หุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น ก็ออกหุ้นกู้เพิ่มทุนมั่ง
ออกข่าวปั่น ทุบ ซื้อขายแบบรู้ข่าววงในอีก


แม่ม ผู้บริหารหลายคนมันเลยรวยไวไง มีข้อได้เปรียบรายย่อย รึ sme เยอะมาก
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มีนาคม 05, 2021, 12:02:08 AM »
จำไม่ค่อยได้มาก เห็นว่า อีลอน มีเงินราวๆ 1000 ล้านUSD
เอาไปลงกับ เทสล่า 300 ลงกับสเปชX 700


แต่รวมๆ แล้วค่าทดลอง วิจัยจนสำเร็จ หมดเงินไปราวๆ  1000 กว่าล้าน
(อันนี้ฟังมาจากคนของนาซ่าที่ออกมาบ่น องค์กรตัวเอง)
เพราะจรวดแบบลงจอดหรือ ร่อนลองนิ่มๆ ได้เคยเสนอไปแล้วแต่หัวหน้าตีตกไป
 

ออฟไลน์ ricca chan

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 150
  • ถูกใจแล้ว: 26 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-53
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มีนาคม 05, 2021, 04:09:12 PM »
[quote/] อีลอนขอตังคนอื่นมาร่วมลงทุนเน้อ ถึงจะล้มก็ไม่ได้ล้มคนเดียว
ไม่เชื่อดูอัตราถือหุ้นได้ อีลอนถือครึ่งเดียวเอง


เผื่อบางคนไม่รู้ เวลาการขายหุ้นให้นักลงทุนที มันเหมือนเอารายได้ล่วงหน้ามาเป็นเงินสด
อย่าง ปั้ม ptt รอบนี้ขายหุ้นด้วยราคากำไรในอนาคต 20+ ปีได้


อีลอนก็คงคล้ายๆกัน ตั้ง บ. มา ทำๆไปซักพัก พอเป็นรูปเป็นร่าง ก็ระดมทุนเทียบเท่ากำไรเป็นสิบๆปี
เช่น สมมุติ ลงทุนตั้ง บ. 100 ล้าน ทำไป 2-3 ปี พอเป็นรูปเป็นร่าง
ขายหุ้น 10% มาขยายกิจการ พอทำไปซักพักก็ขายอีกๆ
ขาย ครั้งแรก อาจจะได้ตัง 100 ล้าน
ครั้งต่อมา 300 ล้าน ต่อมา 1000 ล้าน


คือเวลาเจ๊ง อีลอนจะเจ๊งแค่ 100 ล้าน แต่คนอื่นเจ๊งเป็นพันล้าน
พอ บ.ทำกำไร ก็ขายไปจนตอนนี้ถือแค่ 54%


ถ้าเป็นแบบคนไทยเก่าๆทำธุรกิจคือ กู้ๆ เวลาล้มๆคนเดียว เวลาได้ๆคนเดียว
แล้วโตโครตช้า ต่างกับแบบระดมทุน


สมมุติ ทุกทุน 10 บาท จะได้กำไร 1 บาทต่อปี
ตั้งต้นที่ทุน 1 ล้าน


สมมุติ ลงทุน 1 ล้าน กู้ 15 ปี คิดโดยใช้โปแกรมผ่อนบ้าน ดอก 6% ผ่อนเดือนละ 9000
รวม 1.6 ล้าน


กำไรจาก 1 ล้าน จะได้ 1 แสนต่อปี ผ่อน 1.08 แสน
ครบ 15 ปี มีทุน 2 ล้าน เงินสดจากกำไรราว 1.5 ล้าน


สมมุติผ่านไป 5 ปีกู้เพิ่ม 5 แสน 10 ปีอีก 5 แสน


รวมทุน 3 ล้าน ตังอีกราว 1.5 ล้าน


แต่พอใช้วิธีขอตังนักลงทุนด้วยการขายหุ้น
ทำ 1 ปี กำไร 1 แสน ขายครั้งแรก 10% ที่ราคาล่วงหน้ากำไร 15 ปี ได้ตัง 1.5 แสน ถือหุ้นลดลงเหลือ 90%
ปี 2 ทุนเป็น 1.15 ล้าน กำไร 1.035  ขาย อีก 10% ได้ตัง 1.725 แสน  หุ้น 81%
ปี 3 ทุนเป็น 1.3225 กำไร 1.071 วนอีก 0.1984  0.729%
ปี 4 ทุน 1.5209 กำไร 1.109  วนไป 0.2281   0.656%
ปี 5 1.7490 กำไร 1.147  วนอีก 0.2624   0.59%
ปี 6 2.0113 กำไร 1.187 แสน
ทุน 2.0113 หุ้นที่เหลือคือ 0.9^5= 59 % :o 
ขายหุ้นไป 5 ครั้ง ครั้งละ 10% มีทรัพย์สินเหลือ 1.1877 ล้าน  เงินสดอีก  6.549 แสน จาก 6 ปี


ขายหุ้นรัวๆ แต่กิจการโตขึ้นเรื่อยๆซะงั้น แถมมีกำไรอีก เพราะ ขายไปจนทุนโตเท่าตัว
แต่เหลือ หุ้น 59%  จากที่ควรหายไป 50% แถมกำไรที่ได้แบ่งมา ได้ 6.5 แสน จากที่ควรเป็น 6 แสน


แล้วสูตรขายหุ้นนี่ ทำไปพร้อมๆกับกู้ได้อีก
แถมออกหุ้นกู้ เสียดอกลดลงไปอีก


เรียกว่าสูตรการหาตังของคนรวยมันไปไวกว่า พวกชาวบ้านเยอะ
นี่คิดกู้ที่ 6% นะ คนธรรมดากู้ดอกแพงกว่า 6% อีก
หุ้นกู้บาง บ. คิด 3% งี้ แถมอยากได้หุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น ก็ออกหุ้นกู้เพิ่มทุนมั่ง
ออกข่าวปั่น ทุบ ซื้อขายแบบรู้ข่าววงในอีก


แม่ม ผู้บริหารหลายคนมันเลยรวยไวไง มีข้อได้เปรียบรายย่อย รึ sme เยอะมาก


พอดีงงน่ครับตรงที่ว่า ptt ขายหุ้นปั้มด้วยราคากำไรในอนาคต 20 คือยังไงครับอธิบายทีครับ
และงงอีกตรงที่คุณบอกว่าลงทุน1ล้าน กำไร10เปอเซ็น  ME้มา1ล้าน ดอก6เปอร์เซ็น ผ่อนเดือนละ9000 ในปีนึงต้องผ่อน1.08แสน และกำไร1 แสนผ่านไป15ปีมีทุน2ล้าน เงินสด จากกำไร1.5ล้าน ถราหน่อยครับทำไมทุน1ล้านงอกมาเป็น2 ล้าน ใน15ปีจะบอกได้กำไรก็ไม่ใช่เพราะว่ากำไรปีละ1แสนไปอยู่ตรงเงินสดจากกำไร1.5ล้านแล้ว  :-X


ปล.ถามเพิ่มหน่อยครับทั้งคุณและคุณ balck7nos ที่ว่าขอคืนภาษี ณ.ที่จ่ายคืออะไรครับและภาษีหัก ณ.ที่จ่ายคืออะไรทำขอคืนได้
ปล2.คุณศึกษาเรื่องการลงทุนจากหนังสือเล่มไหนครับ(คุณ black 7nos ด้วย)
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มีนาคม 05, 2021, 05:26:25 PM »
[quote/]


พอดีงงน่ครับตรงที่ว่า ptt ขายหุ้นปั้มด้วยราคากำไรในอนาคต 20 คือยังไงครับอธิบายทีครับ
และงงอีกตรงที่คุณบอกว่าลงทุน1ล้าน กำไร10เปอเซ็น  กู้มา1ล้าน ดอก6เปอร์เซ็น ผ่อนเดือนละ9000 ในปีนึงต้องผ่อน1.08แสน และกำไร1 แสนผ่านไป15ปีมีทุน2ล้าน เงินสด จากกำไร1.5ล้าน ถราหน่อยครับทำไมทุน1ล้านงอกมาเป็น2 ล้าน ใน15ปีจะบอกได้กำไรก็ไม่ใช่เพราะว่ากำไรปีละ1แสนไปอยู่ตรงเงินสดจากกำไร1.5ล้านแล้ว  :-X


ปล.ถามเพิ่มหน่อยครับทั้งคุณและคุณ balck7nos ที่ว่าขอคืนภาษี ณ.ที่จ่ายคืออะไรครับและภาษีหัก ณ.ที่จ่ายคืออะไรทำขอคืนได้
ปล2.คุณศึกษาเรื่องการลงทุนจากหนังสือเล่มไหนครับ(คุณ black 7nos ด้วย)


เวลาเรายื่นแสดงภาษี ภงด 90/91 มันจะมีให้กรอกว่าเรามีลดหย่อนภาษีอะไรบ้าง จริงๆ Seach ใน Google หลายที่อาจจะเอียดกว่า





อันแรกคือการลดหย่อนที่เกิดจากค่าครองชีพ ตรงส่วนนี้รัฐจะไม่นำมาคิด





อันที่่ 2 คือ การลดหย่อนที่เกิดจากรัฐสนับสนุนให้ประชาชนลงทุนและเก็บออม เช่น การซื้อประกันชีวิต และ การลงทุนในกองทุน ได้แก่ RMF(Retirement Mutual Fund) การซื้อประกันชีวิต


เพื่อในยามแก่เฒ่าจะได้มีเงินส่วนนี้ดูแลตนเองได้


อันที่ 3 การบริจาค แต่การบริจาคนั้นต้องมีใบเสร็จ ใบเสร็จตัวนี้เอาไปลดหย่อนภาษีได้
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ trash

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 359
  • ถูกใจแล้ว: 274 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มีนาคม 05, 2021, 05:49:47 PM »
[quote/]


เวลาเรายื่นแสดงภาษี ภงด 90/91 มันจะมีให้กรอกว่าเรามีลดหย่อนภาษีอะไรบ้าง จริงๆ Seach ใน Google หลายที่อาจจะเอียดกว่า


[img/]


อันแรกคือการลดหย่อนที่เกิดจากค่าครองชีพ ตรงส่วนนี้รัฐจะไม่นำมาคิด


[img/]


อันที่่ 2 คือ การลดหย่อนที่เกิดจากรัฐสนับสนุนให้ประชาชนลงทุนและเก็บออม เช่น การซื้อประกันชีวิต และ การลงทุนในกองทุน ได้แก่ RMF(Retirement Mutual Fund) การซื้อประกันชีวิต


เพื่อในยามแก่เฒ่าจะได้มีเงินส่วนนี้ดูแลตนเองได้


อันที่ 3 การบริจาค แต่การบริจาคนั้นต้องมีใบเสร็จ ใบเสร็จตัวนี้เอาไปลดหย่อนภาษีได้
[img/]

งั้นเสริมให้  แต่ถ้าใครไม่อยากออกตัวว่าเป็นบุคคลที่
ศรัทธาในพรรคการเมืองใด  ก็ไม่ต้องกรอกนะ  คือ
เมื่อเราจ่ายภาษี  เราสามารถนำภาษีของเราไปบริจาคก
พรรคการเมืองได้  รู้สึกว่าตอนนี้จะหลักร้อยบาท  อันนี้คือ
นำภาษีเพียวๆของเราให้พรรคการเมืองนะ  ไม่ใช่ลดหย่อน


สำหรับลดหย่อน  ถ้าเราบริจาคเกินหลักร้อย  ก็ให้นำตรงนั้น
มาเป็นค่าลดหย่อน  แต่ลดหย่อนได้ไม่เกินบริจาคหมื่นบาท
แต่ว่า....  ถ้าเราไม่กังวลเงินทอง  เราสามารถบริจาคมากกว่า
หมื่นได้นะเออ  แต่จะไม่ได้ลดหย่อนอ่ะ  อันนี้เก็ตและตามทันมั๊ย

สูงสุดจำไม่ได้  แต่ถ้ายอดเงินยังไม่อัพเดท  บริจาคบุคคล
สามารถทำได้สูงสุดสิบล้าน  นิติบุคคลห้าล้านหน่ะ  อันนี้ต้อง
รวมกับที่ไปบริจาคในกรณีที่พรรคหาทุนด้วยนะเออ  ระวังตรงนี้ไว้

กฏหมายบริจาค  มีมากกว่าที่คิด  เยอะแยะซ่อนเงื่อน  อยู่ที่ตีความ
เพราะกฏหมายไทย  มักบัญญัติไว้กำกวม  ^^
 

ออฟไลน์ trash

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 359
  • ถูกใจแล้ว: 274 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มีนาคม 05, 2021, 06:06:54 PM »
[quote/]


พอดีงงน่ครับตรงที่ว่า ptt ขายหุ้นปั้มด้วยราคากำไรในอนาคต 20 คือยังไงครับอธิบายทีครับ
และงงอีกตรงที่คุณบอกว่าลงทุน1ล้าน กำไร10เปอเซ็น  กู้มา1ล้าน ดอก6เปอร์เซ็น ผ่อนเดือนละ9000 ในปีนึงต้องผ่อน1.08แสน และกำไร1 แสนผ่านไป15ปีมีทุน2ล้าน เงินสด จากกำไร1.5ล้าน ถราหน่อยครับทำไมทุน1ล้านงอกมาเป็น2 ล้าน ใน15ปีจะบอกได้กำไรก็ไม่ใช่เพราะว่ากำไรปีละ1แสนไปอยู่ตรงเงินสดจากกำไร1.5ล้านแล้ว  :-X


ปล.ถามเพิ่มหน่อยครับทั้งคุณและคุณ balck7nos ที่ว่าขอคืนภาษี ณ.ที่จ่ายคืออะไรครับและภาษีหัก ณ.ที่จ่ายคืออะไรทำขอคืนได้
ปล2.คุณศึกษาเรื่องการลงทุนจากหนังสือเล่มไหนครับ(คุณ black 7nos ด้วย)

ผมจะใบ้ปริศนาให้  ME้หนึ่งล้านผ่อนสิบห้าปีหน่ะ  ดอก6%ต่อปีมันคือหกหมื่น 
ME้ล้านจ่ายจ่ายล้านหกแสนนิดๆเมื่อครบสัญญาสิบห้าปีหน่ะท่าน  เก็ตตรงนี้มั๊ย

เอาแค่สิบปี  ถ้าได้10%  มันก็เกือบๆล้านหกแสนedit:สองล้านหกแสนหล่ะเน้อ  ถ้าสิบห้าปีหน่ะ
มันราวสามล้าน  เพราะงั้น  ต้นทุนคือล้านหก  คุณกำไรราวล้านสี่ล้านห้า
ไม่เชื่อลองคำนวณ  ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 05, 2021, 06:11:47 PM โดย trash »
 

ออฟไลน์ blakaros

  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,187
  • ถูกใจแล้ว: 5529 ครั้ง
  • ความนิยม: +250/-181
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มีนาคม 05, 2021, 11:09:24 PM »
[quote/]


พอดีงงน่ครับตรงที่ว่า ptt ขายหุ้นปั้มด้วยราคากำไรในอนาคต 20 คือยังไงครับอธิบายทีครับ
และงงอีกตรงที่คุณบอกว่าลงทุน1ล้าน กำไร10เปอเซ็น  กู้มา1ล้าน ดอก6เปอร์เซ็น ผ่อนเดือนละ9000 ในปีนึงต้องผ่อน1.08แสน และกำไร1 แสนผ่านไป15ปีมีทุน2ล้าน เงินสด จากกำไร1.5ล้าน ถราหน่อยครับทำไมทุน1ล้านงอกมาเป็น2 ล้าน ใน15ปีจะบอกได้กำไรก็ไม่ใช่เพราะว่ากำไรปีละ1แสนไปอยู่ตรงเงินสดจากกำไร1.5ล้านแล้ว  :-X


ปล.ถามเพิ่มหน่อยครับทั้งคุณและคุณ balck7nos ที่ว่าขอคืนภาษี ณ.ที่จ่ายคืออะไรครับและภาษีหัก ณ.ที่จ่ายคืออะไรทำขอคืนได้
ปล2.คุณศึกษาเรื่องการลงทุนจากหนังสือเล่มไหนครับ(คุณ black 7nos ด้วย)
เรื่องลดหย่อนภาษี  ลองดูแอพ itax ครับ   น่าจะสะดวกดี    เหมาะกับพวกมือใหม่



ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้   เนื่องจากยื่นมาหลายรอบจนรู้วิธีละ
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 12:05:39 AM »
[quote/]


พอดีงงน่ครับตรงที่ว่า ptt ขายหุ้นปั้มด้วยราคากำไรในอนาคต 20 คือยังไงครับอธิบายทีครับ
และงงอีกตรงที่คุณบอกว่าลงทุน1ล้าน กำไร10เปอเซ็น  กู้มา1ล้าน ดอก6เปอร์เซ็น ผ่อนเดือนละ9000 ในปีนึงต้องผ่อน1.08แสน และกำไร1 แสนผ่านไป15ปีมีทุน2ล้าน เงินสด จากกำไร1.5ล้าน ถราหน่อยครับทำไมทุน1ล้านงอกมาเป็น2 ล้าน ใน15ปีจะบอกได้กำไรก็ไม่ใช่เพราะว่ากำไรปีละ1แสนไปอยู่ตรงเงินสดจากกำไร1.5ล้านแล้ว  :-X


ปล.ถามเพิ่มหน่อยครับทั้งคุณและคุณ balck7nos ที่ว่าขอคืนภาษี ณ.ที่จ่ายคืออะไรครับและภาษีหัก ณ.ที่จ่ายคืออะไรทำขอคืนได้
ปล2.คุณศึกษาเรื่องการลงทุนจากหนังสือเล่มไหนครับ(คุณ black 7nos ด้วย)


อ้อ ME้เพิ่มมาลงทุนไง ครับที่บอกว่า ทุน 1 ล้าน ME้ อีก 1 ล้าน


เพราะผมต้องการให้มีตั้งต้น 1 ล้าน จาก 2 แบบ คือ
บ.ต้น 1 ล้าน ME้ 1 ล้าน กับ ต้น 1 ล้าน กับขายหุ้นเพิ่มทุนจนเป็น 2 ล้าน


ส่วนการขายหุ้นด้วยกำไรในอนาคตคือ
เวลาประเมิณมูลค่ากิจการว่าควรขายเท่าไหร่ดี นักลงทุนเค้าไม่ได้สนว่าทุนเท่าไหร่เป็นหลัก
เช่น บ.A มีโรงงาน+ที่ดิน มูลค่า 1000 ล้าน มีหุ้น 1000 ล้านหุ้นตกหุ้นละบาท
เขาจะได้ไม่ได้ขาย หุ้นละบาทหรือ 10 บาทจากตรงมูลค่าทรัพย์สินครับ


แต่เขาจะดูว่า บ. มีกำไรต่อปีเท่าไหร่
เช่น บ.A มีกำไร 100 ล้านบาท มี 1000 ล้านหุ้น จะตกราคาหุ้นละ 0.1 บาทต่อหุ้น
แล้วเค้าจะประเมิณว่า ในปีถัดๆไป บ.จะมีโกาสเติบโตสูงแค่ไหน ถ้าเป็น บ.ประเภทตะวันตกดิน
หรือก็คือ แม่มไม่รุ่งหรอก มีแต่จะหายไปจากตลาด แต่ก็ทำกำไรอยู่ เขาก็อาจจะซื้อที่ pe 8
หรือ ราคา/กำไร = 8 คือ 0.8 บาทต่อหุ้น


แต่ถ้า บ. มีแผนที่จะเจริญเติบโตแล้วแนวโน้มดีมากๆ อย่างหุ้น tesla ตอนนี้เขาซื้อขายกันที่ pe 888
หรือราวๆ 888 ปีจะคืนทุน โดยอิงจากราคา และกำไรในปีก่อน
แต่ที่เค้าซื้อแพงๆ เพราะ บ. มันเติบโตไวครับ


พูดง่ายๆ เวลาซื้อหุ้นเขาจะประเมินว่านานแค่ไหนถึงจะคืนทุนที่ลงไป แต่หลายๆ บ. มีการเจริญเติบโตในทุกๆปี
ทำให้เขาใช้ตัวชีวัดที่ P/E ratio  Price/Earning Per Share (ราคา หารด้วย กำไรสุทธิต่อหุ้น) โดย P/E Ratio เป็นตัวบอกว่า ถ้าเราซื้อหุ้นที่ราคาเท่านี้ ตอนนี้ เราจะได้ทุนคืนในอีกกี่ปี หากบริษัทยังทำกำไรได้เท่าเดิมในทุกๆ ปี


โดยบ. ที่มีกำไรดีแต่ไม่มีการเติบโต pe ก็จะต่ำ ปันผลก็อาจจะสูง
แต่ บ. แนวโน้มดี pe ก็จะสูง ปันผลมักจะต่ำ เพราะเค้าซื้อราคาที่รวมอนาคตไปแล้ว

เพราะงั้น ptt ที่เขาขาย หุ้นปั้มหรือ or (oil and retail) จะมีกำไร 0.9 บาท/หุ้น มั้งถ้าผมจำไม่ผิด
แต่เขาขาย 18 บาท ก็จะตกที่ 18/0.9 = 20 ปีคืนทุน


คำนวนเรื่องการเงินก็สนุกไปอย่างครับอย่างถ้ากู้ดอก 9% ไปลงทุน 20 ปี
เอาปันผลแค่ 5% ก็กำไรแล้วครับ จะได้กำไรราวๆ 3 แสน

แต่ถ้า 10 ปี จะกำไรราวๆ 3 หมื่น
แต่ถ้า บ.มีการเติบโตนี่แหล่ะกำไรเต็มๆ ;D


ปล.ลืมเรื่องยื่นภาษีไปเลย ปีก่อนดันให้เวลาโครตเยอะ ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2021, 12:28:58 AM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 08:45:28 AM »
[quote/]


พอดีงงน่ครับตรงที่ว่า ptt ขายหุ้นปั้มด้วยราคากำไรในอนาคต 20 คือยังไงครับอธิบายทีครับ
และงงอีกตรงที่คุณบอกว่าลงทุน1ล้าน กำไร10เปอเซ็น  กู้มา1ล้าน ดอก6เปอร์เซ็น ผ่อนเดือนละ9000 ในปีนึงต้องผ่อน1.08แสน และกำไร1 แสนผ่านไป15ปีมีทุน2ล้าน เงินสด จากกำไร1.5ล้าน ถราหน่อยครับทำไมทุน1ล้านงอกมาเป็น2 ล้าน ใน15ปีจะบอกได้กำไรก็ไม่ใช่เพราะว่ากำไรปีละ1แสนไปอยู่ตรงเงินสดจากกำไร1.5ล้านแล้ว  :-X


ปล.ถามเพิ่มหน่อยครับทั้งคุณและคุณ balck7nos ที่ว่าขอคืนภาษี ณ.ที่จ่ายคืออะไรครับและภาษีหัก ณ.ที่จ่ายคืออะไรทำขอคืนได้
ปล2.คุณศึกษาเรื่องการลงทุนจากหนังสือเล่มไหนครับ(คุณ black 7nos ด้วย)

@ricca chan
วิธีการหาทุนหลักๆ มันมี 2 แบบ
1.กู้เงิน หรือ เป็นหนี้
2.ระดมทุน


วิธี 1.1 กู้เงินจากธนาคาร
สมมุติว่าเรามีทุนอยู่ 1 ล้านบาท เป็นเงินสด 1 ล้านบาท ต้องการซื้อที่ดินเพื่อสร้างร้านค้า 2 ล้าน ในเมื่อทุนเราไม่พอ เราก็จำเป็นต้องกู้หรือยืมเงินจากธนาคารอีก 1 ล้านบาท รวมกันเรามีเงินสด 2 ล้านบาท เท่านี้เราก็จะซื้อที่ดินราคา 2 ล้านบาทได้ และเราจะต้องหาเงิน 1 ล้านบาทมาคืนธนาคารในภายหลัง ซึ่งเมื่อคืนครบเราก็จะมีส่วนของทุนเท่ากับ 2 ล้านบาท ที่ดินก็จะเป็นของเรา 100%


วิธี 1.2 ออกหุ้นกู้
สมมุติเหมือนเดิมคือเรามีเงินทุนอยู่ 1 ล้านบาท ต้องการซื้อที่ดิน 2 ล้านบาท ในเมื่อเราทุนไม่พอและไม่อยากกู้ธนาคาร(เพราะดอกเบี้ยธนาคารมันแพงกว่า ปัจจุบันประมาณ 5.75-6.25%) สิ่งที่เราทำก็คือการออกตั๋วหุ้นกู้ ตั๋วหุ้นกู้ก็คือการที่เราขอกู้เงินกับคนทั่วไปเป็นหมู่มากแทน ยกตัวอย่างผมก็จะออกตั๋วหุ้นราคา 1 บาท จำนวน 1 ล้านหุ้น ดอกเบี้ย 3% รวมมูลค่ารวม 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยมูลค่า 30,000 บาท คนที่สนใจอยากจะได้กำไรจากดอกเบี้ยเขาก็จะมาซื้อหุ้นกู้จากผมไป ส่วนผมก็จะได้เงินกู้ เมื่อครบกำหนดเวลา ผมก็จะต้องเอาเงินต้นมาคืนพร้อมดอกเบี้ย


วิธี 2 การระดมทุน หรือ ขายหุ้น
เหมือนเดิมคือผมมีเงินทุน 1 ล้านบาท ต้องการซื้อที่ดิน 2 ล้านบาท ผมมีเงินไม่พอและก็ไม่อยากกู้ธนาคาร ไม่อยากออกหุ้นกู้ เพราะเสียดอกเบี้ย ผมมีทางเลือกอีกวิธีหนึ่งคือการให้คนอื่นเข้ามาร่วมทุน หรือ ที่เรียกกันว่าการขายหุ้นนั่นเอง ผมก็จะไปเชิญชวนเพื่อนผมชื่อ A และ B มาร่วมลงทุนกับผม โดยนาย A กับ นาย B ยินดีที่จะร่วมทุนกับผม โดยพวกเขาออกเงินช่วยลงทุนคนละ 500,000 บาท เมื่อระดมทุนสำเร็จ สัดส่วนเงินสดที่มีก็จะเป็น
ผมมี 1 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของ 2 ล้านบาท
นาย A มี 5 แสนบาท คิดเป็น 25% ของ 2 ล้านบาท
นาย B มี 5 แสนบาท คิดเป็น 25% ของ 2 ล้านบาท


จากนั้นก็ไปซื้อที่ดิน โดยที่ดินนี้ก็จะมีส่วนความเป็นเจ้าของเท่ากับเงินทุนที่ระดมกันลงไป ผมก็จะมีความเป็นเจ้าของที่ดินนี้ 50% นาย A 25% และ นาย B 25% ตามลำดับ


ทีนี้กรณีที่ผมเอาที่ดินไปเปิดร้านอาหารและได้กำไรมา 1 แสนบาท กำไร 1 แสนบาทนี้(หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ) ผมก็จะต้องเอากำไรนี้มาแบ่งปันตามสัดส่วนของความเป็นเจ้าของ ดังนี้
ผมก็จะได้กำไร 5 หมื่นบาท คิดเป็น 50% ของกำไร 1 แสนบาท
นาย A ก็จะได้กำไร 2.5 หมื่นบาท คิดเป็น 25% ของกำไร 1 แสนบาท
นาย B ก็จะได้กำไร 2.5 หมื่นบาท คิดเป็น 25% ของกำไร 1 แสนบาท


ส่วนการศึกษาการลงทุน ถ้าพื้นฐานที่ง่ายที่สุดและเป็น Basic ที่สุด คือ คุณต้องศึกษาบัญชีพื้นฐาน คุณต้องเข้าใจคำว่า งบดุล(Balance Sheet) งบกำไร-ขาดทุน(Profit-Loss Statement) เพราะ 2 งบนี้มันดูได้หมดเลยว่าบริษัทไหนเป็นอย่างไร และใช้ได้กับทุกการลงทุน อ่านงบการเงินให้เป็นสำคัญที่สุด เพราะทุกบริษัทซึ่งจดทะเบียนนิติบุคคลมีหน้าที่ส่งบัญชีประจำปีให้แก่รัฐและต้องผ่านผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่เรียกกันว่า Audit


ผมจะอธิบายพื้นฐานงบดุล(Balance Sheet)



จำสมการนี้ไว้ให้ดี และเป็นจริงตลอดกาล คือ ทรัพย์สิน(Asset) = หนี้สิน(Liabilities) + ส่วนของความเป็นเจ้าของหรือทุน(Equities) ดังในตาราง
จำไว้ว่าผลรวมของขาซ้าย จะต้องเท่ากับผลรวมของขวาตลอด ถ้าไม่เท่าคือทำผิด เพราะมันคือสมการ ซ้าย-ขวาจะต้องเท่ากันเสมอ


ขาขวา คือ "ที่มาของเงินทุน" ไม่ว่าจะกู้เงินมา ออกหุ้นกู้ ระดมทุนหรือ แม้แต่ควักเงินจากกระเป๋าตัวเองก็ตาม
ขาซ้าย คือ "เอาเงินทุนไปทำอะไร" เช่น ยังเก็บเป็นเงินสดไม่ได้ทำอะไร เอาไปซื้อรถยนต์ เอาไปซื้อที่ดิน เอาไปซื้ออุปกรณ์สิ่งของจิปาถะจะต้องอยู่ช่องซ้าย


ซ้าย-ขวา จะต้องเท่ากันตลอดกาล


ถ้าสองข้างไม่เท่ากัน มี 2 กรณี 1.ลงบัญชีผิด 2.โกงคอรัปชั่น


เพื่อความเข้าใจผมมีคนที่อาจจะอธิบายได้ดีกว่าผม


อันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะ แต่ธนาธรเขาอธิบายงบดุลอย่างง่ายๆ และเป็นพื้นฐานของทุกธุรกิจไม่ว่าจะเล็กใหญ่ คุณต้องเข้าใจงบดุล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2021, 09:22:10 AM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 11:39:53 AM »
ผมอธิบายสายเงินกู้หมวกกันน็อคละกัน
ที่ว่ายิ่งมีเงินจะได้ของถูกได้กำไรนั้นเรื่องจริง
ME้หมวกกันน็อคหนึ่งหมื่ยนบาทหักดอกก่อนหนึ่งพันบ้านและก็บร้อยละยี่สิบต่อเดือน ผ่อนจ่ายกันไร้ที่สิ้นสุด
..
ขณที่ชนชั้นกลาง รูดบัตรเครดิต รูปปรื๊ดวงเงินแสนหนึ่งหากใช้คืนได้ภายในกำหนดไม่เสียดอกเบี้ยหากมีวินับการเงินที่ดี
แต่หากป้าที่ME้หมวกกันน็อคไม่ทำงานก็ขาดส่งดดนหมวกกันน็อคตบกลิ้งกลางตลาด
...
ชาวประชาจะกูเงินธรนาคารก็อกเบี้ย 15% แต่ต้องมีสินทรัพย์ทำตามหลักการของธนาคารการมีดอกเบี้ย 6% นั้นเรียกว่าได้เปรียบชาวบ้านอย่างมากๆแต่มีไว้เพื่อสนับสนุนให้คนลงทุนเพราะมีคคนอธิบายว่า ตลาดทุนเหมือนจักรยานอาจจะมองว่ามันคือการหลอกลวงแต่ความจริง เราต้องปั่นมันต่อไปเรื่อยๆมันถึงจะทรงตัวอยู่ได้ไม่ล้มลงความเชื่อมันจึงสำคัญมากเพราะมันแปลงเป็นเงินได้จริงๆนั่นเอง ???
..
อันที่จริงผมพอเข้าใจธนาคารนะไปอยู่ทางศาล โยนงานให้ทนาย ลุกหนี้รอ้งห่มร้องไห้ ธนาคารก็เครียดไมไ่ด้เงินคืน

ธนาคารด่าทักษิณมากๆ ที่หใ้พวกที่เป็นแม่ค้าส้มคำมีแค่ร้านค้ากู้เพราะกลายเป็นหนี้เสียแต่ผมมองว่ามันอาจจะเป็นทางเดียวที่ให้แม่ค้าพวกนี้รอดมือหมวกกันน้อคมาได้
ประชาธิปัติย์นโยบายต่างกับทักษิณคือให้จูงมือเงินกู้นอกระบบแปลงเป็นหนี้ME้ในระบบ ธนาคารแบกภาระหนี้ไว้เองว่างั้น ใจดีกับเงินกุ้นอกระบบมากๆต่างกับทักษิณ

ซึ่งหากให้ผมเล่าจากที่เคยได้ยินมาเงินกูจากในระบบก็เอาไปใช้พวกนอกระะบบนั่นล่ะคนที่ขาดทุนจะขาดทุนตลอดไป คนที่กำไรจะกำไรมากขึ้นคนที่มีทุนจะชนะในเกมส์ของทุนนิยม ;D
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 04:31:39 PM »
ME้นอกระบบไม่แน่ะนำจริงๆ  คือถ้ากิจการมันแย่จริงๆ
ควรไปหางานเป็นลูกจ้างก่อน แล้วกิจการที่ทำเป็นงานเสริมพอ


คือถ้ากิจการมันดีคงไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ
นอกระบบเหมาะกับพวกมีเงินเดือนมั่นคง แล้วเกิดเหตุจำเป็นเร่งด่วน


พวกรายได้ไม่คงที่ กิจการส่วนตัวระดับเล็กๆอย่าเด็ดขาด
หลายคนคำนวนกำไรกิจการผิด สุดท้ายจะหมดตัวเอา


เท่าที่เห็นพวกเปิดกิจการเล็กๆแล้วคำนวนกำไรผิดคือ
ไม่ได้คำนวนค่าแรงตัวเอง กับไม่ได้หักค่าเสื่อม
นึกว่าได้กำไรเยอะจริงๆไม่ใช่ สุดท้ายแค่พออยู่พอกิน
แต่พอไปกู้นอกระบบนี่เละเลย
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 06:02:34 PM »
กู้นอกระบบไม่แน่ะนำจริงๆ  คือถ้ากิจการมันแย่จริงๆ
ควรไปหางานเป็นลูกจ้างก่อน แล้วกิจการที่ทำเป็นงานเสริมพอ


คือถ้ากิจการมันดีคงไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ
นอกระบบเหมาะกับพวกมีเงินเดือนมั่นคง แล้วเกิดเหตุจำเป็นเร่งด่วน


พวกรายได้ไม่คงที่ กิจการส่วนตัวระดับเล็กๆอย่าเด็ดขาด
หลายคนคำนวนกำไรกิจการผิด สุดท้ายจะหมดตัวเอา


เท่าที่เห็นพวกเปิดกิจการเล็กๆแล้วคำนวนกำไรผิดคือ
ไม่ได้คำนวนค่าแรงตัวเอง กับไม่ได้หักค่าเสื่อม
นึกว่าได้กำไรเยอะจริงๆไม่ใช่ สุดท้ายแค่พออยู่พอกิน
แต่พอไปกู้นอกระบบนี่เละเลย


อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ @deaddy ครับ อย่ากู้นอกระบบครับ ดอกเบี้ยแพงกว่าธนาคารเสียอีก และเสี่ยงกว่า


ถ้ากู้เพื่อสภาพคล่อง ผมแนะนำกู้ธนาคารตามปกติดีกว่าครับ แต่ต้องหาอะไรค้ำประกัน


พยายามกู้ให้ได้ระยะยาวๆ ครับ ถึงแม้โดยรวมอาจจะจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าแบบระยะสั้น


แต่ในแง่ของงบ Cashflow(งบกระแสเงินสด) มันจะดีกว่ามากครับ ถ้าระยะเวลาคืนเงินต้นมันสั้น งบ Cashflow จะแอ่นท้องช้างได้


และนำไปสู่การ Short เงินที่จะจ่าย Suppliers และเมื่อไหร่ Suppliers หรือ Subcontractor ฟ้องร้อง ก็ Gameover ครับ


ธุรกิจจะเจ๊งได้มีแค่ 2 กรณี ครับ
1.ส่วนของทุน หรือส่วนของความเป็นเจ้าของ เท่ากับ 0 หรือ ติดลบ แบบเคสการบินไทยที่ผมลงรูป
2.ผิดนัดชำระหนี้ คือการคืนเงินต้นไม่ทันกำหนดเวลา ไม่ว่าจะเป็นหนี้ระยะสั้น เช่น เจ้าหนี้ Suppliers หรือ Subcontractors หรือ หนี้ระยะยาวอย่างเงินกู้ธนาคาร ถ้าผิดนัดชำระหนี้ โดนฟ้องก็จบครับ


ดังนั้นผู้บริหารจำเป็นต้องดู Cashflow และ Final Forecast ตลอดสัญญาจ้าง/เนื้องานนั้นๆ



วิธีทำ งบ Cashflow(งบกระแสเงินสด) คือ เอารายรับ กับ รายจ่าย มาพล็อตกราฟเป็นเดือนๆเลย และดูเงินสะสมว่ามีสถานะเป็นอย่างไร อย่างตัวอย่างนี้จะเห็นว่า เดือน April 2018 จะติดลบ คุณก็ต้องคิดแล้วว่า คุณจะทำอย่างไรกับเดือน April 2018


วิธี 1
คุณเจรจากับเจ้าหนี้ของคุณ ขอจ่ายคืนเฉพาะเดือนนี้ Delay หน่อย ถ้าเรา Credit โอเค และ เจ้าหนี้เราสายป่านยาว เขาก็จะยอมตกลงกับเรา


วิธี 2
คุณต้องพยายามเก็บรายได้ให้เร็วยิ่งขึ้น หรือเก็บเงินจากลูกหนี้ของคุณ(เช่น เจ้าของงานให้ออกเงินงวดงานเร็วขึ้น)


หรือ ใช้วิธีการแบ่งการจ่ายเป็นส่วนๆ เช่น ค่า Material on Site 70% ค่า Installment 30% จากสัญญาเดิมที่เป็น Material+Installment 100% มันก็จะทำให้แก้ปัญหาให้รายรับเราได้มาเร็วขึ้น (รายรับเท่าเดิม แค่ได้ไวขึ้น)


วิธี 3 ขอกู้ธนาคารสินเชื่อหมุนเวียน หรือ ME้เงินเพื่อสภาพคล่อง อันนี้ดอกเบี้ยจะแพงหน่อย(แพงกว่าปกติ) และธนาคารอาจจะบังคับให้บริษัทเราเอาบางอย่างค้ำประกัน เช่น เงินค่าประกันผลงาน(Retention) เป็นต้น


วิธี 4 การควบคุมค่าใช้จ่าย โดยการใช้ Subcontractor ทำงานที่เราไม่ถนัด เราจะเปลืองรายจ่ายมาก เอางานนี้ให้ผรม.ย่อยทำแทนเราจะดีกว่า แถมเราควบคุมรายจ่ายง่าย จากสัญญาที่ทำกับผรม.ย่อย
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 08:43:42 PM »
กู้นอกระบบไม่แน่ะนำจริงๆ  คือถ้ากิจการมันแย่จริงๆ
ควรไปหางานเป็นลูกจ้างก่อน แล้วกิจการที่ทำเป็นงานเสริมพอ


คือถ้ากิจการมันดีคงไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ
นอกระบบเหมาะกับพวกมีเงินเดือนมั่นคง แล้วเกิดเหตุจำเป็นเร่งด่วน


พวกรายได้ไม่คงที่ กิจการส่วนตัวระดับเล็กๆอย่าเด็ดขาด
หลายคนคำนวนกำไรกิจการผิด สุดท้ายจะหมดตัวเอา


เท่าที่เห็นพวกเปิดกิจการเล็กๆแล้วคำนวนกำไรผิดคือ
ไม่ได้คำนวนค่าแรงตัวเอง กับไม่ได้หักค่าเสื่อม
นึกว่าได้กำไรเยอะจริงๆไม่ใช่ สุดท้ายแค่พออยู่พอกิน
แต่พอไปกู้นอกระบบนี่เละเลย
คอมเมนท์ว่าไงครับที่ท่านอภิสิทธิ์ให้จูงมือกันไปเข้าธนาคาร ธนาคารจะแบกรับไว้ด้วยดอกปรกติมนุษยชน? ???
ไหฟนไหนอยากจะแบกรับขนาดนั้นให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับประชาชนตั้งแต่แรกจะดีกว่า
...
จำแนวหนังจีน
"ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง"ในเจาะเวลาหาจิ๋นซีได้ไหมครับ?

usury ที่มันร้ายแรงเป็นข้อห้ามศาสนาคริสต์ก็เพระาเป็นอย่างเดียวที่ทำให้พระเยซูปรี๊ดแตกตามตำนาน เอาแส้ไล่ฟาดชาวบ้านที่มาหาเงินในโบสถ์ ???
แต่ก็นั่นล่ะในฐานะธนาคารไม่ชอบชาวบ้านที่จะไม่มีหลักประกัน
แต่ถามว่าทำไมไม่ให้เงินกู้ชาวบ้านสักหนึ่งหมใื่นบาทต่อคน ดอก 6% ต่อปีกันบ้าง?
ก็เพระากลัวหนี้สูญอันนั้นเข้าใจแต่สังคมที่ให้จูงคนออกเงินกู้นอกระบบเข้าธนาคารให้รํฐแบกรับภาระไว้ มันเป็นสังคมแบบไหนกัน?
พฤติกรรมของวายร้ายในนิยาย กลายเป็นพฤติการณืที่เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Sasageyo

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 387
  • ถูกใจแล้ว: 340 ครั้ง
  • ความนิยม: +19/-24
Re: SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มีนาคม 06, 2021, 09:00:16 PM »
[quote/]คอมเมนท์ว่าไงครับที่ท่านอภิสิทธิ์ให้จูงมือกันไปเข้าธนาคาร ธนาคารจะแบกรับไว้ด้วยดอกปรกติมนุษยชน? ???
ไหฟนไหนอยากจะแบกรับขนาดนั้นให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับประชาชนตั้งแต่แรกจะดีกว่า
...
จำแนวหนังจีน
"ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง"ในเจาะเวลาหาจิ๋นซีได้ไหมครับ?

usury ที่มันร้ายแรงเป็นข้อห้ามศาสนาคริสต์ก็เพระาเป็นอย่างเดียวที่ทำให้พระเยซูปรี๊ดแตกตามตำนาน เอาแส้ไล่ฟาดชาวบ้านที่มาหาเงินในโบสถ์ ???
แต่ก็นั่นล่ะในฐานะธนาคารไม่ชอบชาวบ้านที่จะไม่มีหลักประกัน
แต่ถามว่าทำไมไม่ให้เงินกู้ชาวบ้านสักหนึ่งหมใื่นบาทต่อคน ดอก 6% ต่อปีกันบ้าง?
ก็เพระากลัวหนี้สูญอันนั้นเข้าใจแต่สังคมที่ให้จูงคนออกเงินกู้นอกระบบเข้าธนาคารให้รํฐแบกรับภาระไว้ มันเป็นสังคมแบบไหนกัน?
พฤติกรรมของวายร้ายในนิยาย กลายเป็นพฤติการณืที่เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วอย่างนั้นหรือ?


ประเทศเราสถาบันการเงินมักเพลย์เซฟ  เอาง่ายๆ  เมื่อปีที่แล้ว  ออมสินไม่ยอมปล่อยกู้
กลัวคนจนเบี้ยวหนี้  ทั้งๆที่  ประเทศที่ต่ำกว่าไทยเช่นฟิลิปปินส์  ปล่อยกู้ให้แม่บ้านทอผ้า
เพราะเขารู้  เขารู้ว่าคนจน  ถ้าให้เขากู้เงินน้อยๆ  แค่หลักพันหลักหมื่นบาท  พวกเนี้ยหน่ะ
จะรักษาเครดิตยิ่งชีพ  เพราะกลัวกู้ไม่ได้อีก

ลองดูประเทศอื่น  เอาประเทศพัฒนาแล้ว  เอาประเทศไหนดี??  ญี่ปุ่นดีกว่า  ญี่ปุ่นก็มี
เงินกู้ฉุกเฉินไม่กี่เยน  แต่ใครก็สามารถกู้ได้

หลักการคิดของข้าราชการไทย  มันต้องเอาแส้ตี  เอาหวายลง  สมัยนายกฯคนนึง  ก็เคย
คิดจะเอาเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยแพง  มาให้รัฐทำเอง  ทำแข่งกับนายทุนเงินกู้  สุดท้ายเป็นไง
ไม่รู้ทำอีท่าไหน  โดนห้ามทำ  รัฐบาลต่อมาก็ไม่คิดจะทำ

คนจนหน่ะ  เงินกู้สามพันห้าพัน  เขารักษาเครดิตมากนะ  เพราะถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย 
จะดอกเบี้ยแพงเท่าไร  เขาก็ยอม

ผมมีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับตวาดใส่ออมสิน  ธกส.  ธนาคารอาคารสงเคราะห์
มาตอนนี้  ดันเอาเงินเหลือจากโครงการที่ควรจะปล่อยสินเชื่อให้พ่อค้าแม่ค้า  ให้คน
ประสบภัยโควิดเมื่อปีที่แล้ว  ดันเอามาปล่อยให้ลูกค้าชั้นดี  แบบไร้เงื่อนไขซะงั้น
เพราะเพลย์เซฟ  แต่มันผิดวัตถุประสงค์  ต้นปีจำกันได้มั๊ย  ใครที่เคยเป็นลูกค้าออมสิน
แค่คลิ๊กเล่นๆกู้เงินโครงการหมื่นบาท  ห้าหมื่นบาท  ที่เอาไว้ให้คนประสบภัยโควิด
ดันอนุมัติผ่านรวดเร็ว  ส่วนตาสีตาสา  ขอแค่หมื่นบาท  ร้านอาหารตามสั่งขอแค่หมื่นบาท
ดันไม่ผ่าน

หลักการและกรอบความคิดพวกเขาโบราณมากๆ  เอาเงินไปถลุงโฆษณาสร้างภาพลักษณ์
ในสื่อซะงั้น  ทั้งสามธนาคารที่กล่าวมาเลย  มีก็แต่กรุงไทย  แต่กรุงไทยจะแบกคนเดียวก็ไม่ไหว
ไทยพาณิชย์ก็รู้ๆอยู่
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก