แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คิดว่ารถไฟฟ้าจะมาแบบ100หรือเกือบ100เปอร์เซ็นในกี่ปี  (อ่าน 2370 ครั้ง)

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
เห็นญี่ปุ่น อเมริกา ประกาศว่าจะเลิกผลิตรถใช้น้ำมันแบบเก่าภายใน 2030
พี่จีนน่าจะขยับช้าหน่อย แต่ยอมให้เฮีย iron man เข้าไปขายได้ การ copy&develope ของจีนน่าจะไม่นาน แถมจีนยังมีของผลิตชิพที่จำเป็นต้องใช้ใน EV มากกว่าที่อื่นอีก
ยุโรป ลงทุนในกลุ่ม ESG เพิ่มขึ้นทุกปี


บ้านเราก็คงดีเลย์กว่าชาวบ้านเขาซัก 10 ปี จริงๆถ้าประเทศอื่นเขา EV กันหมด ยังไงบ้านเราก็ต้องขยับตาม ผมก็ว่าจะรอรถ tesla นี่หล่ะ รอมันเข้าแล้วอยู่ในราคาที่พอรับได้ก่อน


ว่าแต่พวกประเทศเศรษฐีน้ำมันในอีก 30 ปีนี่จะเป็นยังไงนะ  :)


ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าไม่ใช้น้ำก็ต้องใช้ไฟฟ้าแทน แล้วจะผลิตไฟฟ้าจาก ไหนให้พอกับปริมาณไฟที่ต้องการเพิ่มขึ้น


นิวเคลียร์ ผลิตได้เยอะจริง แรงจริง แต่แพง กับระวังโกโก้คลั๊นซ์
พลังงานน้ำ ก็ต้องใช้น้ำปั่นไฟ คิดว่ามีน้ำมากพอจะมาแทนในส่วนที่เพิ่มขึ้นไหม  ประมาณการกันว่า โลกกำลังเข้าสู่ภาวะขาดน้ำจืดอยู่นะ
พลังงานแดด  ก็ต้องใช้พื้นที่เพิ่มอีก มีที่ทางเพิ่มพอหรือไม่


และสุดท้าย ซึ่งจริงๆ ควรเป็นตัวแรก   โรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล (ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ)
คือคำตอบที่ง่ายโครต ลงทุนไม่มาก แต่ปั่นไฟได้ดังใจนึง อยากจะปั่นน้อยปั่นมากทำได้ไม่ยุ่งยาก
และขอยกเรื่องการประสิทธิภาพการเปรี่ยนแปลงเป็นพลังงาน  ของระบบเผาไหม้แบบจุดระเบิด(น้ำมัน)
เครื่องยนต์แบบลูกสูป ให้ประสิทธิภาพที่ 20-30% จากพลังงานของเชื้อเพลิง
เครื่องแบบแบบเทอไบน์เจ็ต ให้สูงสุด ที่ 44%   
(เครื่องยนต์เทสล่าให้ประสิทธิภาพที่สูงสุดที่ 95-99% แต่ยังไม่มีใครเอามาทำได้จริงในเชิงพานิชย์)
เอาง่ายๆ คือโรงไฟฟ้าแบบฟอสซิล ถูกง่าย คุ้มทุนไวที่สุด แต่มันจะต่างจากเดิมตรงไหน
ในเมื่อแค่ ปชช. เลิกใช้น้ำมัน  แต่เอาน้ำมันมาผลิตไฟฟ้า ไว้ชาร์จใส่รถแทน
(อาจมีค่าการสูญเสียพลังงานในการผลิต เทียบกันแล้วอาจจะผลิตคาร์บอนได้มากกว่า การใช้รถน้ำมันอีกด้วยซ๊ำล่ะมั้ง


หรือว่า อนาคต จะมีการใช้ไฟฟ้าปั่นไฟฟ้าขึ้นมาได้กันแนะ (ผิดหลักการอนุรักษณ์พลังงานกับ เทอร์โมไดนามิก)
แต่เทสร่า เคยกล่าวเอาไว้ว่า   
เครื่องผลิตพลังงานฟรี นั้นไม่อนุญาติให้มีขายในตลาด
บางทีมันอาจมีจริงๆ ก็ได้ล่ะมั้ง 

 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,202
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
เอาจริงๆผมว่าเอามาไช้ในไทยค่าไฟฟ้ากับค่าน้ำมันราคาอาจไม่ต่างกันมากเพราะต้องเปิดแอร์แรง บวกอัตตราการเก็บค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้ารถไฟฟ้ายิ่งไช้คุณอาจต้องจ่าค่าไฟหนักกว่าค่าน้ำมัน เว้นแต่จะมีมิเตอร์แยกจ่ายเฉพาะรถอย่างเดียวซึ่งรัฐไม่น่ายอม(ปล.คุณสามารถขอมิเตอร์แยกได้จากการไฟฟ้าแต่การคิดค่าไฟจะไม่เหมือนเดิม แต่จะทวีคูนค่าไฟเข้าไปอีกเหมือนคุณจ่ายค่าไฟคอนโดจะมีค่าเช่าต่อหน่่วยเพิ่มเข้าไปอีก ผมขอติดตังมิเตอร์ถนนคนเดินไช้ไฟอาทิตละ1ครังขายของแค่7ชัวโมงมีแค่เตาวาเฟิล5ตัวที่ไม่เปิดตลอดกับหลอดไฟ1ดวงค่าไฟเดือนละหลายพัน)
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
[quote/]


ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าไม่ใช้น้ำก็ต้องใช้ไฟฟ้าแทน แล้วจะผลิตไฟฟ้าจาก ไหนให้พอกับปริมาณไฟที่ต้องการเพิ่มขึ้น


นิวเคลียร์ ผลิตได้เยอะจริง แรงจริง แต่แพง กับระวังโกโก้คลั๊นซ์
พลังงานน้ำ ก็ต้องใช้น้ำปั่นไฟ คิดว่ามีน้ำมากพอจะมาแทนในส่วนที่เพิ่มขึ้นไหม  ประมาณการกันว่า โลกกำลังเข้าสู่ภาวะขาดน้ำจืดอยู่นะ
พลังงานแดด  ก็ต้องใช้พื้นที่เพิ่มอีก มีที่ทางเพิ่มพอหรือไม่


และสุดท้าย ซึ่งจริงๆ ควรเป็นตัวแรก   โรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล (ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ)
คือคำตอบที่ง่ายโครต ลงทุนไม่มาก แต่ปั่นไฟได้ดังใจนึง อยากจะปั่นน้อยปั่นมากทำได้ไม่ยุ่งยาก
และขอยกเรื่องการประสิทธิภาพการเปรี่ยนแปลงเป็นพลังงาน  ของระบบเผาไหม้แบบจุดระเบิด(น้ำมัน)
เครื่องยนต์แบบลูกสูป ให้ประสิทธิภาพที่ 20-30% จากพลังงานของเชื้อเพลิง
เครื่องแบบแบบเทอไบน์เจ็ต ให้สูงสุด ที่ 44%   
(เครื่องยนต์เทสล่าให้ประสิทธิภาพที่สูงสุดที่ 95-99% แต่ยังไม่มีใครเอามาทำได้จริงในเชิงพานิชย์)
เอาง่ายๆ คือโรงไฟฟ้าแบบฟอสซิล ถูกง่าย คุ้มทุนไวที่สุด แต่มันจะต่างจากเดิมตรงไหน
ในเมื่อแค่ ปชช. เลิกใช้น้ำมัน  แต่เอาน้ำมันมาผลิตไฟฟ้า ไว้ชาร์จใส่รถแทน
(อาจมีค่าการสูญเสียพลังงานในการผลิต เทียบกันแล้วอาจจะผลิตคาร์บอนได้มากกว่า การใช้รถน้ำมันอีกด้วยซ๊ำล่ะมั้ง


หรือว่า อนาคต จะมีการใช้ไฟฟ้าปั่นไฟฟ้าขึ้นมาได้กันแนะ (ผิดหลักการอนุรักษณ์พลังงานกับ เทอร์โมไดนามิก)
แต่เทสร่า เคยกล่าวเอาไว้ว่า   
เครื่องผลิตพลังงานฟรี นั้นไม่อนุญาติให้มีขายในตลาด
บางทีมันอาจมีจริงๆ ก็ได้ล่ะมั้ง 

 

เอาจริงๆผมว่าเอามาไช้ในไทยค่าไฟฟ้ากับค่าน้ำมันราคาอาจไม่ต่างกันมากเพราะต้องเปิดแอร์แรง บวกอัตตราการเก็บค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้ารถไฟฟ้ายิ่งไช้คุณอาจต้องจ่าค่าไฟหนักกว่าค่าน้ำมัน เว้นแต่จะมีมิเตอร์แยกจ่ายเฉพาะรถอย่างเดียวซึ่งรัฐไม่น่ายอม(ปล.คุณสามารถขอมิเตอร์แยกได้จากการไฟฟ้าแต่การคิดค่าไฟจะไม่เหมือนเดิม แต่จะทวีคูนค่าไฟเข้าไปอีกเหมือนคุณจ่ายค่าไฟคอนโดจะมีค่าเช่าต่อหน่่วยเพิ่มเข้าไปอีก ผมขอติดตังมิเตอร์ถนนคนเดินไช้ไฟอาทิตละ1ครังขายของแค่7ชัวโมงมีแค่เตาวาเฟิล5ตัวที่ไม่เปิดตลอดกับหลอดไฟ1ดวงค่าไฟเดือนละหลายพัน)


ไม่ว่าปัญหาจะคืออะไรก็ตาม แต่มันจะมาแน่นอน
ในต่างประเทศมาแล้ว ในไทยก็กำลังเตรียมเข้าสู่
นโยบายรัฐถกกันไปแล้ว
บ.รถต่างๆ โชว์รถเปิดจองแล้ว


ถ้าจะบอกว่าไม่มาง่ายๆ ก็แปลว่ามองว่า
รบ. ไม่มีความสามารถ ในการผลักดัน
บ. รถชั้นนำ เปิดตัวไปงั้นๆ
ปั้มชาร์ตที่กำลังสร้าง และสร้างไปแล้วนับร้อยๆสาขาและที่เตรียมจะสร้าง เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า


คือ รถ ev ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายประเมินว่ามันมาแน่ๆ
ไอ้ปัญหาทุกอย่างถึงมี แต่รัฐก็ต้องดันแน่นอน
ทุกฝ่ายเค้าก็รู้ปัญหาและก็มีทางแก้แน่นอน


เพราะแทบทุกประเทศชั้นนำกระแสมาหมด
การเปลี่ยนแปลงมันขึ้นกับเวลาแค่นั้น


ถ้าคิดว่าค่าไฟมีปัญหาแน่นนอน
บ.แท็กซี่ เค้าดีลกันไปแล้ว ถ้ารถไฟฟ้าไม่คุ้ม
ค่าไฟเติม ที่มาแทนน้ำมัน เค้าคงไม่ซื้อหรอก


ส่วนเรื่องพลังงานไฟฟ้า กฟผ เค้าก็คงมีแผนสร้าง โรงไฟฟ้ามารองรับอยู่แล้ว
เพราะมันไม่ใช่ว่า จะตู้ม ทุกคนทิ้งรถเก่าแห่ซื้อ ev


มันจะทะยอยๆเปลี่ยน โรงไฟฟ้าก็ทะยอยสร้างๆ
แทบทุก บ.เกี่ยวกับผลิตไฟฟ้า เค้ามีแผนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่แทบทุกปีครับ


อย่าง บ. รถไฟฟ้าสัญชาติไทย เห็นข่าวว่า โรงงานแบตเตอร์รี่กำลังจะพร้อมผลิตปีนี้แล้ว
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
สรุปไว้หัวมูเลยล่ะกัน ในความเห็นผม
โลกนี้มันไม่อะไรง่ายไม่ มันต้องมีปัญหาไม่มากก็น้อยนั่นแหละ


บ.ใหญ่ ดีลกันแล้วพลาดไม่ได้เหรอครับ  :)
สมัยทักกี้ ทำมือถือ ดีลกันพลาด เรื่องอุปกรณ์ พอพิจารณาดีๆ อย่างละเอียดแล้วต้องใช้อุปกรณ์เป็น 2 เท่าของดีลแรก ล่อซะแทบเจ๊ง ดียังกู้สถานะการได้
เครื่องบินรุ่นนึง ของ บ.การบินประเทศนึง(ทุกประเทศที่ซื้อนั่นแหละ) ซี้อกันมาแล้วแต่สุดท้ายจอดทิ้งกันเพราะคำนวนแล้วบินไม่คุ้มค่าน้ำมัน

โอกาศพลาดมันมีได้เสมอ ขอแค่พิจารณาปัจจัยให้ครบถ่วนมันลดภาระการแก้ปัญหาได้

ตัวอย่างโครงการบ.ใหญ่ระดับโลก พลาดกันก็เพียบ

และผมไม่ได้บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่มันต้องใช้เวลา
เรื่องการใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมัน จะลดโลกร้อนได้ ?  คิดว่าเลิกใช้น้ำมันขับรถแล้วจะใช้อะไรผลิตไฟเติมรถต่อล่ะ
คำตอบง่ายๆ สุดก็พลังงานฟอสซิลนั่นแหละ แต่มันจะช่วยลดโลกร้อนได้ไหม
 :) :) :)

นายมาครง นายกฝรั่งเศษ จะดัน EV ลดการใช้พลังงานฟอสซิลจะได้ลดโลกร้อน
 โดยขึ้นราคาน้ำมันให้คนเลิกใช้ ผลเป็นไง โดนประท้วงกันหนักข้ามปี ซะจนประเทศเละขนาดไหน
แถมหวังดีจะปิดเตาไฟฟ้านิวเครียลงเยอะๆ ลดขยะรังษี ยุโรปนี่ไฟมันจะพอใช้ไหม   
แถมตอนนี้ ยุโรปกำลังดีเรื่องก๊าซธรรมชาติกับรัสเซียอยู่ อีก เขาอาก๊าซไปทำอะไรบ้างนะ
 ;D ;D ;D

ถ้าบอกว่าการใช้รถไฟฟ้าเป็นการช่วยโลกละก็ ผมอยากบอกหลาย คนไปว่า
วางสมอง แล้วตั้งถุงกาวดีๆ ก่อนนะ ?   เลิกใช้พลังงานฟอสซิลทั้งหมดเลยคือคำตอบ
แต่มันเป็นไปไม่ได้  เพราะสุดท้ายการเลิกใช้รถน้ำมัน ก็ต้องใช้ไฟฟ้า แล้วไฟ้าจะปั่นจากที่ไหน
โรงไฟฟ้านิวเครีย นี่คือคำตอบที่เหมาะแต่ก็ไม่เอากัน
แล้วจะทำยังไงได้นอกจากโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล(น้ำมันกับกาซ)
ซึ่งง่ายไว ต้นทุนต่ำคืนทุนไวโครตๆ   ยังไงก็หนีโรงไฟฟ้าในกลุ่มฟอสซิลไปไม่ไกลแน่นอน

แค่ย้ายปัญหาไปนอกสายตา แล้วรู้สึกฟิน  นี่มันแค่ความกระแดะส่วนตัวเท่านั้นแหละ 


 :) 

ถึงเวลาอะไรจะต้องเปรี่ยนมันก็เปรี่ยนไปเองเรื่อยๆ นั่นแหละ
ราคาตอนนี้หลายคนยังมองว่าไม่ค่อยคุ้มค่าที่จะซื้อกัน
แต่ทำแบบจีน ราคามันจะถูกลงมา  คือบ.จีนแห่งนึง ขายแต่รถ EV
ส่วนแบตให้เช่า ตัดราคาแบตออกไปแล้ว ถูกลงเยอะๆๆๆ มาก ค่าเช่าแบตคำนวนแล้ว
ก็ถูกกว่าน้ำมันรายเดือน เลยกลายเป็นว่าขายดี มาก จนคนเขามองว่าน่าจะแข่งกับ tesla ได้เลย




เหมือนนโยบาย รถเก่าเอาไปแลกรถใหม่ ของบางประเทศ  คนที่เข้าใจ  เขาก็บอกว่า
ใครเอาไปแลกก็โง่  เพราะมันไม่ได้รถใหม่มาใช้ทันทีแต่ ได้แค่ส่วนลด แล้วต้องไปผ่อนต่ออีกจะเป็น 10 ปี ;D
 รดเก่าอายุตามที่กำหนด  เอาไปขายมือ 2 ยังได้ราคามากกว่าส่วนลดเยอะเป็นเท่าตัว
แต่ใครเอารถไปแลก นี่   :) :) :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2021, 09:52:59 AM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
ก็รอดูกันไปครับ เพราะปีนี้ ปีหน้ามันก็ยังไม่บูมหรอก ปั้มรองรับยังมีแค่ไม่กี่ร้อยสาขาเอง
ปั้มน้ำมันปตท. ตอนนี้มีราวๆ 2300 สาขา ส่วน บ.ที่ทำปั้มรถ ev เจ้านึงมีแผนสร้าง ราวๆ 500 สาขา


ส่วนเรื่องราคารถ ถ้าใครเคยดูสเปคมือถือตั้งแต่ 10 ปีก่อน
จะเห็นว่า ความจุแบตมือถือ จะน้อยกว่าปัจจุบัน 3-4 เท่า ทั้งที่ขนาดใกล้เคียงกัน
ส่วนราคามือถือ เมื่อ 10 ปีก่อนคงลดลงราว 10 เท่าได้


รถ ev ที่เราเห็นปีนี้ กับอีก 5 ปีข้างหน้า 10 ปีข้างหน้า แน่นอนว่าคนละเรื่องแน่นอน


แน่นอนว่ายักษ์ก็พลาดได้ แต่ รบ.ทั่วโลกคิดไปทิศทางเดียวกัน
นักลงทุนที่มีทีมวิเคราะห์ วิจัย เห็นไปทางเดียวกัน
บ.ผู้ผลิต แทบทุกเจ้าเห็นไปทิศทางเดียวกัน
ผู้ใช้ในหลายๆประเทศให้การตอบรับที่ดี


ถ้าเป็นแค่ความอยากของนักการเมือง มันยังคงจะพอคิดไปทางอื่นได้
แต่นี่ ทุกฝ่ายเห็นไปทิศทางเดียวกันหมด ทั้งคนผลิตทั้งคนออกกฏหมาย ทั้งนายทุน
ต่อให้รถยังแพงเกินไปคนไม่สน รบ.ก็จะต้องมีนโยบายเอาภาษีประชาชนไปอุดหนุนแน่นอนครับ


ไม่เชื่อไปดูโซล่าเซล์ลได้ครับ แต่ก่อนแพงมากๆ ปั่นไฟไปก็ไม่คุ้ม แต่รัฐก็มีตังอุดหนุนจนได้เกิด
พอปัจจุบัน ราคาลงไปเยอะมากๆ จน รง.ไฟฟ้าโซล่าเซล์ลเต็มไปหมด


ข้อมูลอดีตปัจจุบันอนาคต ผู้เชี่ยวชาญเค้าถกกันจบไปแล้วครับว่า ตกลงลุย
ต่อให้อยากซื้อรถใช้น้ำมัน แต่ถ้า บ.รถ กับรบ.ฮั้วกัน รถใข้น้ำมันก็จะไม่มีให้ซื้อ อาจจะซื้อมือ 2 ได้ แต่วันนึงมันก็จะหาไม่ได้แล้ว


สรุป ไทยอาจจะช้ากว่าชาวบ้าน แต่ก็จะเป็นไปตามกระแสโลกแน่นอน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
อย่าตีความเห็นผมผิดไปครับ ไม่ใช่ว่าผมต่อต้าน EV แต่
ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ใช่ของที่จะมาแทนกันโดยเร็ววันแค่ไม่กี่ปี

นึกสภาพเอาว่าว่าตอนนี้มันยังแพงกว่ารถน้ำมันมาก กระแสมาก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องตามกระแสครับ
ซื้อมาต้องดูสิ่งแวดล้อมตัวเองด้วยว่า คุ้มเหมาะไหม

เพราะการตามกระแสโดยไม่ดูรอบตัวเกินไปอาจเจ็บกระเป๋าตัง

เพราะยังไง การใช้ไฟฟ้ามันคือการลดการพึ่งพาภายนอก ยังไงก็ผลิตเองภายในกันได้
มีข้อดีเยอะ แต่ส่วนตัวผมมองว่าเทคโนตอนนี้ ยังสูงไม่พอที่จะดันไฟฟ้ามาแทนน้ำมันทั้งหมด



เรื่องหาซื้อหรือหาซ่อมไม่ได้ ในอนาคตของรถน้ำมันผมว่าไม่นา
ดูจากเทคโนในตอนนี้ที่โลกเรามี แล้ว บ้านเราไม่มีแต่ต่างประเทศเขามีกัน
คืออีกหน่อย ต่อให้ไม่ผลิต แต่ถ้ามีแบบแปลนหรือ ขนาดที่แน่นอน สร้างเองเลยนะครับอันนี้จริงๆ เลยนะ

ถ้าจำไม่ผิด เคยดูว่าในอเมริกา มันยังเคยมีคนสร้าง เครื่องบินรุ่นที่ไม่ผลิตไปแล้วออกมาได้ (แต่ตกคนสร้างรอดนะหนีไปด้วยเพราะลงจอดกลาง hi way)



แต่ในความเห็นผม พลังงานฟอสซิลจะไม่ตายครับ  เพราะเรายังใช้พลังงานไฟฟ้าปั่นสร้างไฟฟ้าขึ้นมาไม่ได้
ฟอสซิลมันถูกตอบโจทย์ มากที่สุดในเวลานี้  ยกเว้นแต่ว่ามีเทคโนการสร้างพลังงานแบบใหม่ขึ้นมา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2021, 11:27:01 AM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
อย่าตีความเห็นผมผิดไปครับ ไม่ใช่ว่าผมต่อต้าน EV แต่
ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ใช่ของที่จะมาแทนกันโดยเร็ววันแค่ไม่กี่ปี

นึกสภาพเอาว่าว่าตอนนี้มันยังแพงกว่ารถน้ำมันมาก กระแสมาก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องตามกระแสครับ
ซื้อมาต้องดูสิ่งแวดล้อมตัวเองด้วยว่า คุ้มเหมาะไหม

เพราะการตามกระแสโดยไม่ดูรอบตัวเกินไปอาจเจ็บกระเป๋าตัง

เพราะยังไง การใช้ไฟฟ้ามันคือการลดการพึ่งพาภายนอก ยังไงก็ผลิตเองภายในกันได้
มีข้อดีเยอะ แต่ส่วนตัวผมมองว่าเทคโนตอนนี้ ยังสูงไม่พอที่จะดันไฟฟ้ามาแทนน้ำมันทั้งหมด



เรื่องหาซื้อหรือหาซ่อมไม่ได้ ในอนาคตของรถน้ำมันผมว่าไม่นา
ดูจากเทคโนในตอนนี้ที่โลกเรามี แล้ว บ้านเราไม่มีแต่ต่างประเทศเขามีกัน
คืออีกหน่อย ต่อให้ไม่ผลิต แต่ถ้ามีแบบแปลนหรือ ขนาดที่แน่นอน สร้างเองเลยนะครับอันนี้จริงๆ เลยนะ

ถ้าจำไม่ผิด เคยดูว่าในอเมริกา มันยังเคยมีคนสร้าง เครื่องบินรุ่นที่ไม่ผลิตไปแล้วออกมาได้ (แต่ตกคนสร้างรอดนะหนีไปด้วยเพราะลงจอดกลาง hi way)



แต่ในความเห็นผม พลังงานฟอสซิลจะไม่ตายครับ  เพราะเรายังใช้พลังงานไฟฟ้าปั่นสร้างไฟฟ้าขึ้นมาไม่ได้
ฟอสซิลมันถูกตอบโจทย์ มากที่สุดในเวลานี้  ยกเว้นแต่ว่ามีเทคโนการสร้างพลังงานแบบใหม่ขึ้นมา




ถ้าพูดถึง เมื่อไหร่จะน่าซื้อ ตอนนี้สามารถซื้อรถใช้น้ำมันวันนี้ ยันรถใหม่กลายเป็นรถเก่าก็ยังใช้ได้แน่นอน


ส่วนใครที่อยากซื้อไว้รอเห็นปั้มชาร์ตมีมากพอก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรีบ
ซื้อมาแพงๆยังไม่เป็นปัญหาเท่า ซื้อมาแล้วหาที่ชาร์ตยาก เสียเวลาจนกลับไปใช้รถน้ำมัน ;D
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
เหมือนแถวบ้านเคยเชื่อ เกษตร ปลูกพืชทดแทน แต่หาที่ขายไม่ได้
 ;D ;D ;D
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,584
  • ถูกใจแล้ว: 18893 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-454
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
ก่อนที่จะไปพูดถึงรถไฟฟ้าตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์2จังหวะก็ยังมีคนใช้งานอยู่เลยนะครับ เหม็นควันสุดๆไปเลยละท่าน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185


ปั้ม ปตท. ขายหุ้นระดมทุนละ 25% ได้ตังผมไปละ ;D
ถามว่าปั้ม ปตท.สเกลระดับไหน ก็พอๆกับเซ็นทรัล 2 แสนล้าน
แต่ก็ไม่ต้องรีบ ของพวกนี้ซื้อรถช้าๆคุ้มกว่า
 

ออฟไลน์ natask

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,649
  • ถูกใจแล้ว: 635 ครั้ง
  • ความนิยม: +46/-23
  • เพศ: ชาย
  • หาไม่เจอหรือเธอว์มีดุ้น
ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเกิดเร็วขนาดนั้น
2021-2030  EV อยู่ในช่วงพัฒนา ปั๊มน้อย รถแบบเก่ายังใช้งานได้แต่คนรุ่นใหม่น่าจะทำทาง EV หมดแล้ว เครื่องแบบเก่าน่าจะไม่ได้พัฒนาเพิ่มมากนัก
2031-2040 บางประทศเลิกผลิตรถแบบเก่า หลังจากนี้คนซื้อรถใหม่จะเป็นEV ทั้งหมด บ้านเราก็น่าจะเป็น EV ซัก 25% การพัฒนาเครื่องแบบเก่าหมดยุค อาจจะมีฐานการผลิตอยู่แต่น่าจะทยอยลดลง
2041-2050 ต่างประเทศเกิน 70% น่าจะเป็น EV หมด ส่วนบ้านเราไม่ผลิตรถแบบเก่าแล้ว รถแบบเก่าน่าจะยังมีวิ่งอยู่คงเป็นรุ่นค้างสต็อคกับรถที่ใช้มานาน
2061-2070 ต่างประเทศ full ev บ้านเราใช้เกิน 75%
2070+ EV ทั้งหมด
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,202
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
คนที่เห็นค้านไม่ไช่ไม่ยอมรับรถไฟฟ้าครับแค่บ้านเรามีหลายด้านที่ไม่พร้อมจะเป็นรถที่ทุกคนจะเปรี่ยนมาไช้แบบ100% ส่วนตัวผมเห็นว่าเป็นของเล่นคนรวยกับของที่มีคนช่วยผ่อนภาระหรือมีข้อเสนอพิเศษเช่นคนขับเเท็กซี่ เหตุผลหลักๆคือราคาครับซื้อรถมามันยังต้องมีปัมจ่ายไฟจะไช้ในบ้าต้องเปรี่ยนมิเตอร์แถมขอมิเตอร์แยกไม่ได้อีก(แต่ถ้าคุณรวยคุณสามารถซื้อบ้านติดกันสองหลังมีมิเตอร์2อันได้ซึ่งวีธีการถ้าไม่รวยในระดับหนึ่งทำไม่ได้) และอีกเหตุผลที่หลักไม่แพ้กันคือเวลาครับน้ำมันเข้าปัมแบบไม่เหลือสักหยดเติมแค่3~5นาทีผมต่อไห้รอคิวอีกนานๆเลยเต็มที่ก็ไม่เกินครึ่งชัวโมง แต่รถไฟฟ้าต่อไห้ไม่รอคิวเติมที่1ชัวโมงอับและถ้ามีปัมจริงคุณจะไปเติมจริงเหรอผมว่ารอกันเป็นวัน ดังนั้นมันจึงเหมาะกับคนรวยและพวกที่มีดีลพิเศษเท่านั้นต่อไห้มันประหยัดน้ำมัน แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือราคาซื้อและติดตังและเวลาครับ

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
คนที่เห็นค้านไม่ไช่ไม่ยอมรับรถไฟฟ้าครับแค่บ้านเรามีหลายด้านที่ไม่พร้อมจะเป็นรถที่ทุกคนจะเปรี่ยนมาไช้แบบ100% ส่วนตัวผมเห็นว่าเป็นของเล่นคนรวยกับของที่มีคนช่วยผ่อนภาระหรือมีข้อเสนอพิเศษเช่นคนขับเเท็กซี่ เหตุผลหลักๆคือราคาครับซื้อรถมามันยังต้องมีปัมจ่ายไฟจะไช้ในบ้าต้องเปรี่ยนมิเตอร์แถมขอมิเตอร์แยกไม่ได้อีก(แต่ถ้าคุณรวยคุณสามารถซื้อบ้านติดกันสองหลังมีมิเตอร์2อันได้ซึ่งวีธีการถ้าไม่รวยในระดับหนึ่งทำไม่ได้) และอีกเหตุผลที่หลักไม่แพ้กันคือเวลาครับน้ำมันเข้าปัมแบบไม่เหลือสักหยดเติมแค่3~5นาทีผมต่อไห้รอคิวอีกนานๆเลยเต็มที่ก็ไม่เกินครึ่งชัวโมง แต่รถไฟฟ้าต่อไห้ไม่รอคิวเติมที่1ชัวโมงอับและถ้ามีปัมจริงคุณจะไปเติมจริงเหรอผมว่ารอกันเป็นวัน ดังนั้นมันจึงเหมาะกับคนรวยและพวกที่มีดีลพิเศษเท่านั้นต่อไห้มันประหยัดน้ำมัน แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือราคาซื้อและติดตังและเวลาครับ



เท่าที่ฟังเรื่องชาร์ทที่ปั้มผมไม่ได้เจอของจริงนะไม่รู้


แต่เค้าบอกว่าไปติดตั้งที่ชาร์ทตามห้างครับ
คิวเข้าผ่านแอพ คือพูดง่ายๆจอดชาร์ทแล้วเดินเล่นห้างรอครับ


ผมก็ไม่รู้นะครับว่ามีการบังคับคิวยังไงในห้างเพราะไม่เคยใช้
เพราะถ้าไม่บังคับเดี๋ยวมีพวกจอดแช่เพราะห้างหาที่จอดยาก


ส่วนต้องซื้อที่ชาร์ทติดบ้านคงไม่ขนาดนั้น
เว้นแต่อยู่ต่างจังหวัดแล้วไม่ใช่เมืองใหญ่
เพราะตามหัวเมืองหลักๆมีปั้มแน่นอนครับ


แต่ตอนนี้เห็นปั้มแทบทั้งหมดอยู่แถวๆกทม. และจังหวัดรอบๆ
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,202
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
[quote/]


เท่าที่ฟังเรื่องชาร์ทที่ปั้มผมไม่ได้เจอของจริงนะไม่รู้


แต่เค้าบอกว่าไปติดตั้งที่ชาร์ทตามห้างครับ
คิวเข้าผ่านแอพ คือพูดง่ายๆจอดชาร์ทแล้วเดินเล่นห้างรอครับ


ผมก็ไม่รู้นะครับว่ามีการบังคับคิวยังไงในห้างเพราะไม่เคยใช้
เพราะถ้าไม่บังคับเดี๋ยวมีพวกจอดแช่เพราะห้างหาที่จอดยาก


ส่วนต้องซื้อที่ชาร์ทติดบ้านคงไม่ขนาดนั้น
เว้นแต่อยู่ต่างจังหวัดแล้วไม่ใช่เมืองใหญ่
เพราะตามหัวเมืองหลักๆมีปั้มแน่นอนครับ


แต่ตอนนี้เห็นปั้มแทบทั้งหมดอยู่แถวๆกทม. และจังหวัดรอบๆ
ผมถึงบอกว่ามันไม่เหมาะจะเอามาแบบ100%ไงครับมีกี่อาชีพเองที่มีเวลาว่างมากขนาดเอารถไปชาร์ตในห้างเดินช็อปรอได้ทุกวัน เหตุผลที่รถไฟฟ้ามันชนะรถน้ำมันไม่ได้สักที่เพราะข้อจำกัดด้านความสะดวกในการไช้ต่างหากครับ ถ้ารวยจริงหรือทำอาชีพที่ต้องมีจุดเติมไฟอย่างแท็กซี่ไม่มีปัณหาครับเพราะรวยติดเครื่องจ่ายที่บ้านชิวเหมือนของเล่นอยู่แล้ว และอาชีพเฉพาะเช่นเเท็กซี่มันก็ต้องมีจุดเติมระหว่างรอพักรถอย่างแน่นอน แต่รถในกรุงมีมากกว่าสิบล้านคันนะครับเอาสิบล้านคันมาจอดในห้างทัวกรุงรอไฟเต็มผมว่ายังไม่พอจอดด้วยซ้ำ เอาจริงๆตอนนี้แค่ที่จอดเฉยๆยังไม่พอเลยเเล้วจะเอารถที่ต้องเติมไฟแทบทุกวันไปไว้ไหน รถน้ำมันเติมที่เดียวอยู่ได้เป็นอาทิตหรือว่าง่ายๆมันเติมที่แค่5นาที่แต่วิงได้นานกว่ารถไฟฟ้าเป็นสิบเท่า ในขณะที่รถไฟฟ้าเติมที่เป็นชัวโมงแต่วิงได้แค่1ในสิบเท่านั้นคือด้วยเทคโนฯในขณะนี้ มันยังไม่เหมาะกับคนไทยครับเอาแค่เหมาะไม่ได้พูดถึงปัณหาอื่นๆเช่นเปรี่ยนแล้วพลังงานไฟฟ้าจะพอไหมหรือการซ่อมอะไรต่างๆ เอาแค่เติมไฟทุกวันกับเติมน้ำมันอาทิตละครังผมว่าไม่มีใครเลือกเติมไฟทุกวันหรอกครับ ถ้าเทคโนฯมันดีขึ้นเช่นชาร์ตได้ไวค่าติดตังในบ้านถูกรัฐยอมปล่อยมิเตอร์สำหรับรถเท่านั้นแยกต่างหากนี่ถึงจะมีสิทธเปรี่ยนเป็นรถไฟฟ้า100% สำหรับตอนนี้ผมว่าไม่มีหวังครับรถไฟฟ้ายังห่างไกลจากสังคมคนชั้นกลางมากเกินไปเป็นภาระที่พวกเค้ายังรับไม่ไหว
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
[quote/]
ผมถึงบอกว่ามันไม่เหมาะจะเอามาแบบ100%ไงครับมีกี่อาชีพเองที่มีเวลาว่างมากขนาดเอารถไปชาร์ตในห้างเดินช็อปรอได้ทุกวัน เหตุผลที่รถไฟฟ้ามันชนะรถน้ำมันไม่ได้สักที่เพราะข้อจำกัดด้านความสะดวกในการไช้ต่างหากครับ ถ้ารวยจริงหรือทำอาชีพที่ต้องมีจุดเติมไฟอย่างแท็กซี่ไม่มีปัณหาครับเพราะรวยติดเครื่องจ่ายที่บ้านชิวเหมือนของเล่นอยู่แล้ว และอาชีพเฉพาะเช่นเเท็กซี่มันก็ต้องมีจุดเติมระหว่างรอพักรถอย่างแน่นอน แต่รถในกรุงมีมากกว่าสิบล้านคันนะครับเอาสิบล้านคันมาจอดในห้างทัวกรุงรอไฟเต็มผมว่ายังไม่พอจอดด้วยซ้ำ เอาจริงๆตอนนี้แค่ที่จอดเฉยๆยังไม่พอเลยเเล้วจะเอารถที่ต้องเติมไฟแทบทุกวันไปไว้ไหน รถน้ำมันเติมที่เดียวอยู่ได้เป็นอาทิตหรือว่าง่ายๆมันเติมที่แค่5นาที่แต่วิงได้นานกว่ารถไฟฟ้าเป็นสิบเท่า ในขณะที่รถไฟฟ้าเติมที่เป็นชัวโมงแต่วิงได้แค่1ในสิบเท่านั้นคือด้วยเทคโนฯในขณะนี้ มันยังไม่เหมาะกับคนไทยครับเอาแค่เหมาะไม่ได้พูดถึงปัณหาอื่นๆเช่นเปรี่ยนแล้วพลังงานไฟฟ้าจะพอไหมหรือการซ่อมอะไรต่างๆ เอาแค่เติมไฟทุกวันกับเติมน้ำมันอาทิตละครังผมว่าไม่มีใครเลือกเติมไฟทุกวันหรอกครับ ถ้าเทคโนฯมันดีขึ้นเช่นชาร์ตได้ไวค่าติดตังในบ้านถูกรัฐยอมปล่อยมิเตอร์สำหรับรถเท่านั้นแยกต่างหากนี่ถึงจะมีสิทธเปรี่ยนเป็นรถไฟฟ้า100% สำหรับตอนนี้ผมว่าไม่มีหวังครับรถไฟฟ้ายังห่างไกลจากสังคมคนชั้นกลางมากเกินไปเป็นภาระที่พวกเค้ายังรับไม่ไหว


มันก็ไม่ถึงขั้นชาร์ตทุกวันหรอกครับ ถ้า fast charge จะตกราวๆ 180+ กม./ชม.


ถ้า rapid charge จะราวๆ  350+  กม./ชม. เฉพาะรถ tesla


ข้อเสียมันไม่ใช่เรื่องชาร์ตช้าอะไรเท่าไหร่หรอกผมว่า
แต่ที่ทำให้ผมยังไม่คิดซื้อคือระยะทางที่ขับได้มากกว่า


คือถ้าจะขับกลับบ้าน ตจว. ได้คือต้องไปชาร์ทกลางทาง
จากพักรถจะกลายเป็นพักนอนแทน ;D

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 31, 2021, 12:27:20 AM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,002
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
คิดว่าเคยเล่าไว้แล้วนะ เห็นในข่าวว่า โตโยต้าน กำลังผลิตแบ็ตที่ใช้เวลาชาร์จราวๆ 90 วิเต็ม 100%




สมัยทำงานโรงงานเคยมีข่าวว่า อิสราเอล เคยคิดค้นแบ็ตที่ ชาร์จได้เร็วในระดับ เดียวกับเต็มน้ำมัน แต่ข้อเสียแม่งคือพังง่าย เพราะ ขั้วแผ่นธาตุมันใกล้กันมาในระดับโมเลกุล เลยอ่ะนะ
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,202
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
และปัณหาหลักจริงๆของไทยที่โคตรจะไม่พร้อมไช้คือไม่มีบริการสาธรณะที่สะดวกและเป็นระบบครับ คือแค่กรุงเทพเมืองเดียวมีคนไช้รถเยอะกว่าณี่ปุ่นทังประเทศอีก(แต่ณี่ปุ่นซื้อรถมากกว่าไทยนะเพราะเหตุผลด้านเวลาการไช้งานรถ1คันมีระยะเวลาจำกัดหมดเเล้วต้องทิ้งซื้อใหม่รถยิ่งเก่าภาษียิ่งแพง) ว่าง่ายๆคือไทยมีรถมากเกินไปครับสัดส่วนต่อประชากรแทบจะทุกคนมีรถ1คัน ในขณะที่ประเทศที่พร้อมเปรี่ยนเป็นรถไฟฟ้ามีบริการสาธรถะพร้อมจำนวนรถส่วนบุคคลไม่มาก รถส่วนตัวเป็นแค่ทางเลือกแต่ไทยถ้าไม่มีรถส่วนตัวแทบจะเดินทางไม่ได้เลย จำนวนที่ต้องเปรี่ยนมันมากเกินไปครับแค่ที่จอดรอชาร์ตไฟคำนวนเล่นๆผมยังเหนื่อย แล้วถ้าเปรี่ยนจริงคนที่ไม่มีความสามารหาตังมาเปรี่ยนได้ก็ไม่มีระบบอื่นมารองรับ ผมบอกตามตรงแค่แก้กฏหมายไห้บังคับเปรี่ยนรถเก่าด้วยวีธีนุ่มนวลอย่าภาษีรถเก่าแพงเพื่อลดปริมาณลดไทยยังไม่มีปัณญาทำได้เลสครับ แล้วจะไห้เปรี่ยนเป็นรถไฟฟ้าแบบ100%บอกตามตรงฝันในฝันอีกที่เลยครับ ไทยเป็นประเทศโลกที่3ครับเป็นประเทศที่มีความพร้อมต่ำยิ่งกว่าพม่ามาเลย์ตอนนี้อาจจะต่ำยิ่งกว่าลาวอีก ไทยไม่มีความพร้อมตังแต่พลังงานไฟฟ้าที่จะเอามาจ่ายพื้นที้ที่จะจ่ายพลังงานระบบขนส่งที่รองรับการเปรี่ยนผ่านก็ยังไม่พร้อม  แค่ระบบขนส่งปกติยังไม่พร้อมเลยคือว่าง่ายๆไทยไม่มีความพร้อมอะไรเลย ถ้าจะบอกว่าความพร้อมที่มีผมเห็นแค่ขายรถไฟฟ้าแค่นั้นเลยนอกเหนือจากนั้นไม่ติดลบก็เป็น0ผมถึงบอกไงว่าตอนนี้จะเปรี่ยน100%ยังเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้คนที่จะไช้รถไฟฟ้าได้ต้องมีต้นทุนสูงในระดับหนึ่งไม่ก็เป็นอาชีพเฉพาะเท่านั้น เเละความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะเปรี่ยน100%ยังไม่มีครับ เหมือนรถไฟไทยนั้นเเหละครับจะสร้างทางรถไฟเชื่อมถึงกันทัวประเทศทังง่ายกว่ามีความพร้อมทุกอย่าง ที่ดินก็มีพร้อมเส้นทางก็ทำไว้หมดเเล้วเทคโนโลยี่ถึงจนเลยมาไกลแล้วแต่ท่านว่าจะเสร็จตอนไหนครับ อันนี้ง่ายยิ่งกว่าเปรี่ยนรถไฟฟ้าหลายล้านเท่าเลยนะ

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,251
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
ปั๊มชาร์จเยอะแล้วไง ? กฟผ มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มแล้วไง?
แต่ถ้าคนแต่ละพื้นที่กับ NGO มันค้านหัวชนฝา ไม่เอาโรงไฟฟ้าเพิ่ม แล้วจะสร้างยังไง?

จะเอาไฟจากไหนมาป้อน ปั๊มไฟฟ้าที่ว่า?? ที่วางแผนจะขยายไปทั่วประเทศ อย่างน้อยๆก็ต้อง 30 ปีอย่างต่ำอ่ะถึงจะได้ทั่วประเทศจนกว่าจะหาพลังงานทดแทนที่ผลิตไฟฟ้าได้ โดยไม่เจอคนด่า คนประท้วง...

อย่าลืมว่าคนไทยมันติดนิสัยคิดค้นวิจัยเองไม่เป็นต้องรอนำเข้าจากต่างประเทศตลอด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 31, 2021, 07:08:19 AM โดย gaiar33 »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
ปั๊มชาร์จเยอะแล้วไง ? กฟผ มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มแล้วไง?
แต่ถ้าคนแต่ละพื้นที่กับ NGO มันค้านหัวชนฝา ไม่เอาโรงไฟฟ้าเพิ่ม แล้วจะสร้างยังไง?

จะเอาไฟจากไหนมาป้อน ปั๊มไฟฟ้าที่ว่า?? ที่วางแผนจะขยายไปทั่วประเทศ อย่างน้อยๆก็ต้อง 30 ปีอย่างต่ำอ่ะถึงจะได้ทั่วประเทศจนกว่าจะหาพลังงานทดแทนที่ผลิตไฟฟ้าได้ โดยไม่เจอคนด่า คนประท้วง...

อย่าลืมว่าคนไทยมันติดนิสัยคิดค้นวิจัยเองไม่เป็นต้องรอนำเข้าจากต่างประเทศตลอด





โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ไปตั้งอยู่ลาวกับพม่าครับ
ก็ไม่รู้ทำไม ngo ไม่ไปค้าน ;D


สมัยนี้เค้าไม่วิจัยเอง 100% ครับ อยากได้เทคโนโลยีอะไร ก็ไปซื้อ บ.มาเลยง่ายกว่า
คือเป็นเจ้าของร่วมไปเลย คุณผลิตส่วนนึง ฉันอีกส่วนนึง


แบบมือถือนั่นแหล่ะครับ 1 เครื่อง แต่ต้องใช้ บ. ร่วมผลิตกันนับสิบ


เอาจริงๆหลายบ. เค้าก็วิจัยเองนะ แต่ด้วยความที่มันไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเลยคิดว่าเค้าไปซื้อมาหมด
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,251
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
่นั่นละครับ ตลกดีมะ  มีแต่คนประท้วงห้ามสร้างโรงไฟฟ้าในไทย จนเรา ต้องไปพึ่งโรงไฟฟ้าจากลาว ให้เขาส่งกลับมาขายไทย  ;D แล้วก็ชอบไปว่าเขาด้วยนะ ลาวกระจอก ลูกเบ๊จีน
ลองเขาไม่ช่วยส่งไฟฟ้ากลับมาบ้านเราบ้างดูสิ พวกจังหวัดตามตะเข็บจะเอาไฟฟ้าที่ไหนใช้กันพอ 8)

 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก