เบรคไม่ได้หรอกครับ เพราะสาวต่ายมาในยุค ที่มีความเท่าเทียมและเรียกร้องสิทธิ
หากสาวต่ายจะลงทีมชาติ ใครจะกล้ามาค้านบอกว่า" โอลิมบิคเป็นกีฬาของมนุษย์" รับรองคนที่บอกยังงี้ โดนประนามแน่นอน
แถมสาวต่ายกลุ่มแรก มาเป็นเมียๆพวกทหาร ดังนั้น เมื่อมีการรวมกลุ่ม สิทธิเสียงมาเต็มแน่นอน
ต่อมา พวกสาวต่ายหากไม่ใช่เมียนายทหาร ก้อเป็นพวกนางแบบ หรือนักกีฬา
ใครจะมากล้าเบรคกลุ่มคนพวกนี้ล่ะครับ มันประมาณเบรคไม่ให้นักกีฬาผิวดำลงแข่งกรีฑา เพราะว่าเอาชนะได้ตลอดเลย
พูดถึงแต่เรื่องสาว นี่ลืมกันไปแล้วใช่ไหมเนี่ยว่า ออร์ค ก็อบลบิน โทรค ที่ถูกจับเป็น เนี่ยถูกส่งไปเมกา
ยุ่นให้สิทธิพลเมืองกับสาวต่ายแล้ว แล้ว พวกออร์ค ก็อบลิน โทรล จะได้สิทธิพลเมืองเมกา หรือกรีนการ์ดไหมเนี่ย
ประเด็น tipping point จุดหักเหที่ผมว่าล่ะครับ
ผมว่าท่านมีความเชื่ออำนาจนิยมในการเมืองโลกความจริงแต่ยังมีอุดมคติอยู่มากในเคสชาติพันธุ์แฟนตาซีนะครับ
เอากันตามตรง ท่านคิดว่าคนที่กุมอำนาจอยู่ตามปรกติจะสามารถยอมให้อำนาจหรือสมดุลย์ของตนเองเสียหรือ?
คำว่า"อำนาจเก่า"น่ะ ไม่ใช่คำที่ตำหนิใครคนใดคนหนึ่ง แต่มันคือวัฏจักรของอำนาจและการปกครองว่าคนที่มีอำนาจปัจจุบันไม่ยอมเสียมันไป
สิทธิเสรีภาพหรือความเป็นมทนุษย์ มัสนไม่ได้ผลอย่างที่เราคิดหรอก
ให้ดูกรณีบ้านเราเป็นต้นที่ท่านเข้าข้างรัฐบาลมากกว่ามองว่าคนยเรียกร้องเผาบ้านเผาเมืองนั่นล่ะ
กระต่ายจะเผาบ้านเผาเมืองจริงไหมไม่รู้ในอนาคต แต่การกล่าวหาโจมตีพวกเธอต้องออกมาแนวนั้นแน่นอนในช่วงที่มีจุกวิกฤติ จุดหักเหที่ผมว่าเกิดขึ้นว่าจะเกิดอาการการเมืองเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาอำนาจเดิมให้คงอยู่หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้น
นึกภาพการปกครองสมัยก่อนคือ "รัฐบาลโดยมีผู้ชี้นำ" "อภิรัฐมนตรี" หรือ "สวแต่งตั้ง" ที่ สภาสูงของคนมีอำนาจมากกว่าสภาของคนชั้นล่าง
อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ตำหนิการเมืองในปัจจุบันหรือว่าใคร
ในอดีตกาล มันเหมือนหนังที่ฉายซ้ำกันน่ะครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากสังคมมีการเปลี่ยนแปลงมันต้องมี"ความหนิด" ของสังคมที่ชะลอกดารเปลี่ยนแปลงไว้
จากที่การเมืองสร้างมิตรภาพระหว่างกลุ่มแปลกๆขึ้นมา
การมาของกระต่ายอาจจก่อให้เกิดการร่วมมือระหว่าง นีโอนาซีกับเฟมินิสม์หัวรุนแรงขึ้นก็สามารถเกิดขึ้นได้
ว่าไปทำไมท่านถึงเชื่อว่าจะไม่มีการใช้อำนาจบังคับริดรอนสิทธิของคนที่เข้ามาจากต่างโลกล่ะครับ?
หรือจะบอกว่ากระต่ายมีคุณภาพมากกว่าโรฮิงญ่า?
ก็อาจจะจริงที่ท่านมองว่าโรฮิงญ่าเป็นขยะ สร้างภาระแก่ภาษี ญี่ปุ่นไม่ยอมรับผู้อพยพไว้ก็ฉลาดแล้ว
แต่หากพิจารณากันจริงๆ
กระต่ายก็ขาดความรู้ เป็นได้แค่แรงงานชั้นต่ำหากมองในภาพรวม
หรือทำงานในด้านธุรกิจบันเทิงและการบริการ
ซึ่งปัญหามีแน่เพราะงานแบบนั้นกำลังจะมาแทนที่ด้วยเครื่องจักร
นั่นคือปัญหาที่พวกผู้ใช้แรงงานโมโหพวกผู้อพยพที่มาตัดราคาค่าแรงของพวกเขาให้ต่ำลงนั่นล่ะครับ