หมายเหตุ : กระทู้นี้มีเพื่อนำเสนอความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการข่มขืน ไม่ได้มีเจตนาในการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก อาจมีการลบคอมเมนต์ที่แสดงความเห็นเชิง Blaming Victim หรือตรรกะวิบัติเพื่อความปลอดภัยของกระทู้เนื้อหาโดยย่อข่มขืน (Rape) เกิดขึ้นเยอะมากในแต่ละปี โดยปีที่แล้วนั้นมีเคสการข่มขืนอยู่ประมาณ 323,022 คดีทั่วโลก โดยแค่ในประเทศไทยนั้นมีอยู่ 4,636 คดี อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นที่รู้กันว่ายังมีอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ออกมาแจ้งความ ซึ่งคาดว่ายังไม่ได้แจ้งความอีกร้อยละ 87
ความคิดผิดๆ เกี่ยวกับการข่มขืน
โทษเหยื่อว่าแต่งตัวโป๊ การหันไปโทษเหยื่อ (Victim Blaiming) มักเกิดขึ้นเสมอ มักมีความคิดลักษณะนี้อยู่ในคนไทย เช่น คนกระทำก็มีอยู่แต่ก็ไปตีตราว่าเหยื่อสมยอม ไม่ก็บอกแต่งตัวโป๊จนไปยั่วคนที่วิปริตโรคจิต คนที่หื่นจนควบคุมไม่ได้
พระคุณที่สามไม่ผิด กรณีในไทยล่าสุดสะท้อนวิธีคิดการ “เอาความเป็นครู” มาแก้ต่างการข่มขืน ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความลักลั่นของการวัดความถูกต้องแบบสากลที่เข้ามาชนเข้ากับชุดความคิดความดีงามของอาชีพและหน้าที่ “ครู” ที่ถูกเน้นย้ำทำให้โรแมนติกอย่างเป็นพิเศษในประเทศไทย จนตกผลึกกับชุดความคิดที่ส่วนหนึ่งเต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมระหว่าง “ศิษย์” กับ “อาจารย์” ในแง่อำนาจและสิทธิมนุษยชน
ผู้ชายไม่เสียหาย กรณีเมื่อถูกข่มขืน อย่างในอเมริกานั้นก็มีการสำรวจหนึ่ง ระบุว่า 14% ของคนถูกข่มขืนที่รายงานเข้ามาเป็นผู้ชายและเด็กผู้ชาย และ 47% ของผู้ชายเคยถูกสัมผัสร่างกายโดยไม่ได้ยินยอม แต่มักไม่มีคนเชื่อหรือไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียความเป็นชาย ในไทยเองมีหลายครั้งที่เมื่อผู้ชายโดนข่มขืนกลับไม่ค่อยถูกไฮไลต์ และมักก็จะมีคนออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงตลกขบขัน เช่น “ผู้ชายคนนี้โชคดี” “ถือป็นกำไรไป มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ” หรือไม่เชื่อว่าผู้หญิงข่มขืนผู้ชาย เพราะมีความคิดว่า “เสียบเขา จะโดนกระทำได้ไง”
คู่รัก คู่สมรส ≠ ข่มขืน ในคนไทยส่วนหนึ่งยังมีความเชื่อว่าการแต่งงานคือการ ‘สมยอม’ ให้มีเพศสัมพันธ์ตราบเท่าที่การสมรสนั้นยังคงอยู่ ซึ่งส่งผลทำให้ผู้ที่ถูกข่มขืนไม่กล้าบอกใคร และคนภายนอกก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพราะมองว่าเป็นปัญหาภายในครอบครัว หรือ “เรื่องของผัวเมีย อย่ามายุ่ง”
ไม่บาดเจ็บแสดงว่าสมยอม มีการสัมภาษณ์พนักงานสอบสวนกว่า 10 นาย พบคำตอบว่า “ถ้าเกิดการข่มขืนจริงๆ ผู้เสียหายต้องมีบาดแผล หากการกระทำนั้นไม่ใช่การสมยอม ผู้เสียหายถูกผู้กระทำใช้กำลังบังคับและกด ผู้เสียหายก็ต้องมีบาดแผลนะ มันเป็นธรรมดาหากผู้เสียหายไม่ยอมและต่อสู้ก็ต้องมีรอยช้ำอะไรบ้าง ปรากฏขึ้นบ้าง”
ระวังแค่คนแปลกหน้า แต่ไม่ระแวงคนใกล้ตัว สถานการณ์ความรุนแรงทางเพศในไทย ปี 2017 พบว่า ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 53 เป็นคนรู้จักคุ้นเคยและคนในครอบครัวมากกว่าคนแปลกหน้า โดยเกิดจากความไว้ใจ อีกทั้งสถานที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดในที่พักผู้เสียหายด้วย ซึ่งวิเคราะห์ร่วมกับงานวิจัยอื่นๆ ว่าการแก้ไขการข่มขืนจึงควรต้องไปพิจารณาถึงความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ต่างและไม่เท่าเทียมกันของตัวบุคคลด้วย
อ่านคอนเทนต์เรื่องเพศอื่นๆ ได้ที่:
https://bit.ly/3crCq9mอ้างอิง
WPR:
https://bit.ly/2T1YTlNOur Resilience:
https://bit.ly/3dDzMh1UN Women:
https://bit.ly/2YZCZn8NAESV:
https://bit.ly/2xX65IwRefinery29:
https://r29.co/3fLi3pOIncontent:
https://bit.ly/2zBo5bLชุตินันทร์ ปราณีราษฎร์ รัฐศาสตร์ มธ.:
https://bit.ly/2YWgf7gภาพ:
https://bit.ly/2Z0Aa51เนื้อหาเต็มๆ https://web.facebook.com/photo?fbid=545394179485590&set=a.276495186375492