ตรงกลางมันก็มีแบบพวกสังคมนิยมแบบรัฐสวัสดิการของพวกแสกนดิเนเวียไง คือควบคุมไม่ให้คนรวยรวยเกินไปเก็บภาษีมันหนักๆ แล้วเอาเงินเข้ารัฐเอาไปช่วยคนจน ในระยะยาวมันดีตรงคนไม่กระเสือกกระสนมากทำมากโดนภาษีมาก ใช้ชีวิตชิวๆได้ แบบเปิดคาเฟ่หรือบาร์เที่ยงปิด5โมงงี้ ทำแค่พอกินไม่ต้องแข่งอะไรมาก ซึ่งยุโรปไปต่างจังหวัดเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วพวกนี้ก็มีตัง อำนาจต่อร้องก็เพียบร้านสะดวกซื้อแบบอย่าหวังได้เกิด แรงงานต่างๆอำนาจต่อร้องเพียบ สหภาพแรงงานแข็งปัก ซึ่งมันดีกว่าทุนนิยมแบบกินรวบแบบนี้มาก ของไทยร้านของชำตายเรียบ CP กินตั้งแต่ต้นของต้นน้ำยันปลายน้ำ กินทั้งสายหลายสายด้วย แล้วก็กลายเป็นประเทศเหลื่อมล้ำอันดับ1ของโลกงี้
ใช่ครับคนที่ผมเคยคุยประมาณ สวีเดน ทำงานสองอย่าง มีเงินคืนภาษี ซื้อเครื่องคอมใหม่ว่ากันไป
สวัสดิการดี ไม่ได้แปลว่าทำให้คนขี้เกียจ
ของไทยเราไม่เปิดกว้างจริงนี่ล่ะครับ
ผมเคยตอบใน สปช.ว่าไทยแบบผสมเน้นไปทางสังคมนิยมเพราะ ทรัพยากรในมือรัฐมากกว่า
แต่อาจารย์ให้ผิด เพราะต้องตอบว่าเน้นไปในทางทุนนิยม
ที่เห็นกันอยํ ผมมองว่าไม่ใช่ทุนนิยมแบบอเมริกาล่ะครับ
ไม่ได้บอกว่าแบบอเมริกาไม่มีข้อเสีย เพราะแข่งขันกันสูงมาก ต้องใข้ศักยภาพสูงใครแพ้ก็ตาย
แต่ปัจจุบัน แค่โอกาสที่จะต่อสู้ยังไม่มี
ผมยกตัวอย่าง eyeshield มาเพราะ คนเขียนน่าจะได้รับแนวคิดจากอเมริกา
มองอเมริกาประมาณคนขี้อวด บ้าบอ แต่ก็แฟร์เอามากๆในการตัดสินคะแนน
เห็นได้จากตอนแข่งกับทีมอเมริกาที่มอนตะได้คะแนนตอนแข่งกับบัดช์
อิทธิพลแนวคิดนั้นเห็นได้ชัดจริงจากเนื้อเรื่อง
ทำเอาผมเริ่มเชื่อทฤษฎีสมคบคิดหลายๆอย่างเลยล่ะครับ ฮา
ดีแล้วครับที่รวมความกล้าเพื่อที่จะตั้งกระทู้ที่เปิดโอกาสให้คนวิจารณ์กันได้เต็มที่ ไม่ต้องพูดให้เข้าใจง่านจนลืมสาระที่อยากแจงไผเกือบหมด
หัวข้อนี้กำลังถามสั้นๆว่า ‘ประเทศที่คนมีการศึกษาเฉลี่ยสูงอยู่แล้ว จะไม่ต้องการอัจฉริยะหรือผู้นำอุดมการณ์รุ่นผลิตจำนวนมากงั้นหรือ’ อันนี้ต้องตีความสถานภาพของ 2 ฝ่ายโดยมีจีนเป็นกลางนะครับ
USA; เป็นกลุ่มผู้ต่อต้าน British empire และกลุ่มคนอพยพจำนวนมากเป็น european ภายหลังจึงมี africa + asian เข้ามาด้วย ต้องการยุติสงครามแย่งชิงทวีปสุดท้ายที่เป็นจุดชึ้ขาดอำนาจทางการเมืองทั่วโลกได้เลย ด้วยทำให้เป็น True neutral และสนใจแต่การบำรุงกับสร้างกฎหมายขึ้นมาภายใต้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพขอฃ Invidual สูงสุด + การค้าทั่วโลก
Japan; ตั้งแต่ยุคสมัยจักรวรรดิ - ปัจจุบัน มีเป้าหมายเริ่มแรกแค่รวมประเทศแล้วล่าอาณานิคมคืนจากคู่แค้นมากมายโดยเฉพาะชาว Europe หลังสงครามจบลงประเทศนี้ก็ไม่คิดก่อเรื่องอะไรอีกต่อไป + ทำให้ทันโลกและ USA (คิดว่าด้วยนโยบายเพิ่มประชากรเพื่อภาษีมหาศาล) เศรษฐกิจโดยเฉลี่ยในปัจจุบันถือว่าสามารถทำให้ชาวบ้านธรรมดาเป็นเศรษฐีน้อยได้ง่ายๆเลย ถ้าไม่ฟุ่มเฟือย แต่ด้วยภาวะประชากรล้นพื้นที่รุนแรงมากๆ ทำให้ Population decline มาเร็วกว่าประเทศอื่นและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะยับยั้ง
ประชากรเลยถูกสอนให้ทำตัวเองจากมนุษย์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบและซื่อสัตย์ + เจตนาดีต่อสังคมของตัวเอง พูดๆไปแล้วมันคือการสร้างคุณค่าให้ตัวเองเพื่อจะไม่ทำให้ชีวิตส่วนตัวนั้นเลยร้ายเกินไป กับสังคมอุตสาหกรรมและพนักงานมันต่างกันเกินไป โดยเฉพาะกับที่ใดก็ตามที่เกิดภาวะ Overpopulation การโทษสมาชิกร่วมงานนั้นมันผิดยิ่งกว่าอีกนะ สังคมต่างหากที่ควรจะเอาใจใส่และรักคนพวกนี้มากกว่านี้
ลักษณะนี้ทำนองก็คล้ายๆจีนสมัยหลังสงคราม 5 รัฐประชากรทุกคนล้วนเป็นคนมีเหตุผลและความรับผิดชอบ ผลงานนี้เป็นผลสำเร็จจากภาวะปลอดสงครามและพัฒนาสังคมครับ
ผมว่าญีาปุ่นนั้นมีข้อดีหลายอย่างและน่าขื่นชมเรื่องวินัย
ผมจำได้ว่ามีแข่งกีฬาที่ฝรั่งเศส ลงข่าวว่าคนญี่ปั่นเก็บขยะกลับไปและทำความสะอาดห้องน้ำสะอาด
เป็นที่ชื่นชมเป็นอย่างมาก
แต่มันก็มีข้อเสียเช่นกล่าวไปแล้ว
อเมริกาก็มีข้อเสีย หลายอย่างก็บ้าบอมากเพราะแนวคิดเสรี
แต่ลองเปรียบเทียบกันก็อย่างที่ท่านส่าเรื่องประขากรลด
อเมริกาดูบ้าบอสารพัด แต่มันยังพอมีความหวังกับอนาคตน่ะครับ
ญี่ปั่นมีความหวังแค่จะตายไปต่างโลกเอาท่าเดียว
นารุโตะ เป็นโฮคาเงะ แต่ไม่มีความสุขกับมันนี่ทำเอาผมคิดเรื่องค่านิยมของญี่ปุ่นอย่างจริงจังเลย