[quote/]ใครมันจะมาทำเรื่อยๆล่ะ lol อย่าเอามาตราฐานพวกฝึก รด มาเทียบกับทุกคนดิ. ตอนนี้ลองมาทำดิ. ถ้าคุณไม่ใช่ทหารหรือทำงานใช้แรงงาน อ้วกแตกแน่
เวลาป่วยบางอย่างโครงสร้างร่างกายอ่อนแอลงก็มีครับ. ผมเคยเป็นหวัด แล้วนั่งหลังงอเล่นเกมตามปรกติ ช่วง ม ปลาย จามที ข้อต่อเคลื่อน โดนให้นอนกับเตียงเป็นเดือน ห้ามเดิน... ไม่มีไข้ไม่ได้หมายความว่าร่างกายจะฟื้นนะทันทีนะ. ไม่มีคาถาฮีล
ผมนี่แหละครับทำเรื่อยๆ ไม่ได้ทำรอถูกลงโทษหรืออะไรนะ(ทำงานแล้ว ใครมันจะมาบ้าลงโทษ) แต่ทำไปเพื่อสุขภาพ แต่ก็พวกแนว squat, planking วิ่งอะไรแบบนี้
ผมสนับสนุนจขกท.ตรงแนวคิดทดสอบสมรรถภาพจริงจังนะครับ ทุก 1-2 เดือนไรงี้ ไม่ใช่ปีละครั้งแบบปัจจุบัน รู้ลิมิตตัวเอง ทำเป็นสถิติของตัวเองไว้ ถ้าโรงเรียนทำ data เก็บไว้ด้วยจะดีมากๆ เวลาครูจะลงโทษก็จะได้มีข้อมูลในการแย้งว่ากรูทำไม่ได้ กรูทำไม่ไหวโว้ย หรือบางคนทำได้แย่กว่าคนอื่นทั่วไป เค้าจะได้ไปหาสาเหตุเพิ่ม เป็นหอบ เป็นเลือดจาง ลิ้นหัวใจรั่วไรงี้ว่ากันไป บางเคสไม่มีอะไรไปกระตุ้นร่างกาย มันก็ไม่เจอโรคที่แฝงอยู่จริงๆนะ
แต่ก็นั่นแหละ ยาก ระบบแม่งโคตรห่วย ครูก็ระยำ หลักการก็ไม่ค่อยมี
[quote/]เรื่องลิมิตตัวเองนี่ถามจริงๆมีใครรู้จริงๆหรือว่าตัวเราตอนนั้นมีลิมิตเท่าไหร่ขนาดนักกีฬาฝึกมาหนักยังมีตายเลย
นักกีฬาสุดวิสัยจริงๆครับ ผมไม่ว่าพวกนั้นเลยซักคำ ร่างกายพวกนี้ train ประจำแล้ว เรื่องลิมิตตัวเองพวกนี้ผมว่ายิ่งกว่ารู้ สถิติตัวเองเก็บเป็นประจำ(อย่างนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลนี่เก็บ 40หลา, สถิติ benchpress ประจำ) มีการแพทย์ดูแลยอดเยี่ยมสม่ำเสมอแล้ว ที่เห็นในข่าวมันก็อยู่ช่วงเล่นธรรมดาเหมือนที่เคยเล่นมา แต่ดันแจ๊คพ็อตเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ
ที่ผมรู้สึกแย่และสมเพชคือคนไม่เคยออกกำลังกายแล้วฝืน เห็นคนอื่นทำได้ คิดว่าตัวเองก็ต้องทำได้ หรือคนที่ถูกลงโทษแล้วยังคิดว่าตัวเองไหวทั้งๆที่ไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยังดันทุรังต่อไป อันนี้ไม่รู้จะพูดไงจริงๆ
ผมก็ไปวิ่งมาราธอนพอสมควร เห็นคนฝืนจนเป็นลมก็เยอะแยะ คือเหนื่อยก็เดินก็ได้นะ ไม่มีใครว่าซักคำ -*-