โลกแฟนตาซี/God ofwar/warhammer-จีนกับอินเดียนี่มีลักษณะประมาณไหนครับ?

[samuison]

ตามกระแส God of war ragnarok กับ warhammer III

ผมกำลังหาไอเดียอีกแล้วครับ

ไปเจอแนวคิด Ragnarok ในนิยายของฝรั่งเรื่องหนึ่งมา

ประมาณ Fimbulwinter ฤดูหนาวที่จะเป็นสัญญาณการมาถึงของแร็คนาร็อก

คนเขียนเล่นมุกประมาณว่า

อินเดียกับจีนนั้นมีเทพเจ้าคุมอยู่เหมือนกัน และไกอาที่มีกองทัพสัตว์ประหลาดก็ไม่น่าบุกดินแดนพวกนั้นได้

ว่าเทพเจ้าจีนเก่งกาจ แต่จะเก็บตัวอยู่ในดินแดนของตนเองไม่ออกมาเพ่นพ่านข้างนอก

หากตัวเอกจะรอดไปได้ ก็ต้องพึ่งตนเองหรือหนีออกจากยุโรป  ไปต่างแดนที่ไกอาและเทพเจ้าทางยุโรปเอื้อมมือไปไม่ถึง

แต่แน่นอนหนทางไปต่างแดนนั้นอันตรายและไม่แน่ว่าเทพเจ้าต่างแดนพวกนั้นอาจจะอันตรายกว่าไกอาเสียอีก

ทุกท่านมีแนวคิดอย่างไรบ้างครับ?

ตามระบบของเทพเจ้า God of War เครโตสก็เหมือนเล่นมุกว่า พวกเทพเจ้านอร์ส ไม่รู้ว่าเครโตสคือใครมาจากไหน

หากรู้คงระดมกองทัพมาฆ่าแล้วว่าอย่างนั้น

เจอิฝรั่งค่อนข้างเล่นมุกว่า เทพเจ้าดินแดนทางจีนนั้นออกจะ isolationism เก็บตัวไม่ค่อยออกมาจากดินแดนของตนเองน่ะครับ

ไปเจอเกมส์หนึ่งเล่นเป็นชาวโรมัน ได้บัฟค่าพลังพรจากเทพเจ้ามาส์ แต่หากไปปราบพวกชนต่างเผ่า พวกชนต่างเผ่าก็มีเทพเจ้าที่คอยบัฟพวกเขาเหมือนกัน

ว่าหากเราบุกไปตะวันออกทางประเทศจีนก็อาจจะเจอกับ Son of Heaven โอรสสวรรค์นั่นเองล่ะครับ

อินเดียที่เคยเจอคนบรรยายแนวนี้คือ ดินแดนทีเ่ต็มไปด้วยเทพเจ้า และเทพเจ้าแอคทีฟ ในโลกมนุษย์มาก
ทำให้พวกปีศาจต่างๆเคลือ่นไหวไมไ่ด้มากเท่าทางยุโรป ไม่ต้องกังวลไกอาส่งกองทัพไปบุก

เพราะพวกนี้มีคนอย่างกรรณะคอยคุ้มครองดินแดนอยู่และเกณฑ์ทหารมาได้ประมาณสิบล้านแบบมหาภารตะ

...

อาจจะดูสับสน แต่หากเราจะให้วีรชนแบบสไตล์ fate stay night มีตัวตนอยู่จริง มันก็ต้องประมาณนี้ใช่ไหมล่ะครับ?

ว่าจะต้องมีตัวละครบางตัวที่เิดนทางไปต่างประเทศกันบ้าง

อย่างชาวกรีก ไปเจอเทพเจ้าที่ตนเองนับถือในปางโรมันเมือ่ไปเยือนอาณาจักรโรม
หรือกิลกาเมธ บุกนรกเจอเปาบุ้นจิ้นที่คุมนรกอยู่

ไปเจอนักเขียนบางท่านใช้มุกว่า ให้เอาตามแผนที่และตำนานของโลกเลย แต่ใส่เวทมนตร์เข้าไป

เช่นสถานที่ที่มีตำนานอะไรก็ใหฟ้ที่นั่นมีเหตุการณ์ในตำนานนั้นเกิดขึ้นจริง

อะไรที่เป็นที่อันตรายในโลกความจริง เราก็เติมอันตรายเว่อๆแบบเหนือธรรมชาติเข้าไป
เช่น สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เราก็เล่นมุกว่า ที่จริงคือรอยแยกของมิติ ที่เห็นมีพายุและน้ำไหลวน ที่จริงเกิดขึ้นเพระาเทพเจ้าดปไซดอนกับเนปจูนร่วมมือกันพยายามปิดผนึกรอยแยกมิติไว้

พายุและหายนะที่มนุษย์เจอเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการพยายามปิดผนึกมิติเท่านั้น

ขั่วโลกเหนือที่ไม่มีมนุษย์เหยียบย่าง แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่ไปเยือน เพราะมีสัตว์ประหลาดคูธลูหลับไหลอยู่ที่นั่น ฯลฯ

ทุกท่านพอมีไอเดียอะไรบ้างไหมครับ?

ผมคุ้นๆว่านิยายคนไทย ทูตแห่งเซนทาเรีย เล่นมุกว่าจีนมีเวทย์กำลังภายในแนวที่แตกต่างไปจากพวกเรา

ตำนานเรื่องเล่าพระยาพิชัยของเรา
ก็บรรยายว่าพระยาพิชัยฝึกวรยุทธจา่กคณะงิ้วจีนมาก่อนเหมือนกันล่ะครับ
น่าสนใจเอามากๆในเรื่องของการครอสโอเวอร์ ข้ามเขตแดนกันพวกนี้

• Tweet

[Gandum]

จีนกับอินเดีย  พยายามสร้างโลกโดยอาศัยพื้นฐานตัวเอง(ประมาณว่า  จีนหรืออินเดีย  คิดว่า
ตัวเองก็เสมือนทวีปๆนึง  เพราะงั้นก็คือโลกอีกโลกนึง) 

[samuison]

จีนกับอินเดีย  พยายามสร้างโลกโดยอาศัยพื้นฐานตัวเอง(ประมาณว่า  จีนหรืออินเดีย  คิดว่า
ตัวเองก็เสมือนทวีปๆนึง  เพราะงั้นก็คือโลกอีกโลกนึง) 

ขอบคุณครับท่านกันดำ
ผมไปอ่านเจอฝนแนว พิภพนิรันดรมั้่งก็เล่นมุกว่า โลกสร้างมาแบบผ้าที่ปะปะเอามาเชื่อมต่อกัน ไม่ได้เป็นวงกลมอย่างที่เขาหลอกลวง
ว่าเทพเจ้าสร้างโลกและเอามนุษย์มาในเขตตนเองเพื่อให้บูชาตนเอง และแบ่งแยกดินแดนกันปกครอง พยายามะจไม่ก้าวก่ายกันตั้งแต่ครั้งสงครามบรรพกาล

[Black7nos]

Warhammer
จีน = Cathay Empire
อินเดีย = ไม่น่าจะมีมั้ง

[samuison]

Warhammer
จีน = Cathay Empire
อินเดีย = ไม่น่าจะมีมั้ง

นั่นล่ะครับ จีนน่าจะปกครองด้วยมังกรแบบ warhammer นั่นล่ะอินเดียเคยี แฟนบุ๊คของ warhammer ทำเอาไว้ว่ามีปีศาจ เดมอน เทพเจ้าตัวเป็นๆปกครองเขตแดน มีเทพเจ้านับร้อยนับพันน่ะครับ เรียกว่า Ind
อยู่ห่างจากขั้วโลก วิทยาการควบคุมปีศาจจึงก้าวหน้ากว่าว่าอย่างนั้น

[Black7nos]

[quote/]นั่นล่ะครับ จีนน่าจะปกครองด้วยมังกรแบบ warhammer นั่นล่ะอินเดียเคยี แฟนบุ๊คของ warhammer ทำเอาไว้ว่ามีปีศาจ เดมอน เทพเจ้าตัวเป็นๆปกครองเขตแดน มีเทพเจ้านับร้อยนับพันน่ะครับ เรียกว่า Ind
อยู่ห่างจากขั้วโลก วิทยาการควบคุมปีศาจจึงก้าวหน้ากว่าว่าอย่างนั้น

แนะนำเล่น Total War : Warhammer III ที่กำลังจะออกปีหน้าเลยครับ เป็นครั้งแรกที ่Cathay จะได้ออกมา แม้แต่บอร์ดเกมส์ยังไม่มี




พึ่งออกมาสองคน
คนแรก มังกรเหล็ก Zhao Ming เป็น Lord ที่ปกครองทิศตะวันตกเปิดใจกว้างเรื่องการค้ากับคนต่างแดนรวมทั้งรับวิทยาการใหม่จาก Empire โดยเฉพาะพวกปืน ดินปืน รวมทั้งเวทย์สายโลหะ แต่เป็นลูกที่พ่อแม่ไม่รัก
คนสอง มังกรวายุ Miao Ying เป็น Lord ที่ปกครองทิศตะวันออก เป็นลูกสาวที่พ่อแม่รักที่สุด


Lord Cathay มีข้อดีตรงแปลงร่างเป็นมังกรได้ แน่ละเพราะเป็นทายาทมังกรโอรสสวรรค์

[Gandum]

^
^

มีเกล็ดอิงประวัติศาสตร์มั๊ยอ่ะท่าน  หรือว่าสร้างขึ้นมาล้วนๆ

[Black7nos]

^
^

มีเกล็ดอิงประวัติศาสตร์มั๊ยอ่ะท่าน  หรือว่าสร้างขึ้นมาล้วนๆ

Lore Cathay บริษัท Gameworkshop พึ่งสร้างครับ สร้างเพื่อ Total War : Warhammer III ที่กำลังจะออกปีหน้า ถ้าอยากรู้ Lore ก็ต้องเล่น Total War ครับ
เอาจริงๆ Warhammer กลับมาได้เพราะ Total War เลยนะครับ

[samuison]

[quote/]


แนะนำเล่น Total War : Warhammer III ที่กำลังจะออกปีหน้าเลยครับ เป็นครั้งแรกที ่Cathay จะได้ออกมา แม้แต่บอร์ดเกมส์ยังไม่มี
[img/]
[img/]


พึ่งออกมาสองคน
คนแรก มังกรเหล็ก Zhao Ming เป็น Lord ที่ปกครองทิศตะวันตกเปิดใจกว้างเรื่องการค้ากับคนต่างแดนรวมทั้งรับวิทยาการใหม่จาก Empire โดยเฉพาะพวกปืน ดินปืน รวมทั้งเวทย์สายโลหะ แต่เป็นลูกที่พ่อแม่ไม่รัก
คนสอง มังกรวายุ Miao Ying เป็น Lord ที่ปกครองทิศตะวันออก เป็นลูกสาวที่พ่อแม่รักที่สุด


Lord Cathay มีข้อดีตรงแปลงร่างเป็นมังกรได้ แน่ละเพราะเป็นทายาทมังกรโอรสสวรรค์


[youtube/]


[youtube/]

ขอบคุณครับท่าน อันที่จริงผมก็เอาแนวwqarhammer ,าดัดแปลงนั่นล่ะครับ
ว่าเผ่าแต่ละเผ่าจะมีจุดเด่นจุดด้อยไปกันคนละอย่าง
แต่ช่วงนี้ผมอยากเขียนแนวธีมฮีโร่กรีกหรือโรมันบ้างน่ะครับ
ที่พระเอกต้องทำตนเป็นโรมันชนที่ดี ในฐานะเจ้าของที่ดิน ต้องเดินทางไปโรมและเลือกตั้งเป็นทรีบูน
และเข้าหาเทพเจ้าต่างๆ
ให้นึกภาพจักรวรรดิเรื่องเกทที่มีบัฟเทพเจ้าจริงๆน่ะครับ
ชาวตะวันตกชอบแนวโรมันมาก เลยมักจะพยายามบัฟจักรวรรดิในเวลาเขียนแฟนฟิค ผมก็ว่าน่าสนใจดีมากๆ
..
อันที่จริงพลังนินจาของสคาเว่นก้ใบ้ว่ามาจาก คทเาตั้งแต่แรกแล้วนะครับ
หนูมี่ฝึกกำลังภายใน
ตามlore แวมไพร์บางตัวก็ฝึกวรยุทธ ทำให้สามารถคุมความกระหายเลือดได้ แต่ต้องควบคุมตนเองอย่างหนักนั่นเอง

[AlexW]

ถ้าจะสร้างโลกนิยายคล้ายๆเฟทก็พอมีไอเดียอยู่


อย่างที่ข้างบนว่าแต่ล่ะพื้นที่ก็มีเทพเจ้าประจำดินแดนนั้นๆคุมอยู่ และแต่ล่ะพื้นที่ก็มีธรรมชาติของพลังงานแตกต่างกันเช่น


จีน มีเทพมังกรปกครอง ทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยปราณมากกว่ามานา พวกเวทย์มนต์ที่ต้องใช้พลังมานาเลยใช้ไม่ได้ดีเท่าไหร่ กลับกันทำให้วิชาที่ใช้ปราณเป็นหลักเฟื่องฟูแทน


อินเดีย ออกแนวสมดุลย์เนื่องจากเป็นดินแดนที่มีทั้งเทพเจ้าและผู้รู้แจ้ง (พระพุทธเจ้า) ทำให้เป็นต้นกำเนิดวิชาต่างๆมากมาย เวทย์มนต์ก็ใช้ได้หลากหลาย ทั้งแบบขอยืมพลังจากวิญญาณเทพ หรือต่อท่อสูบมานาจากโลกโดยตรง (เข้าถึงปรมาตมัน) ทั้งวิธีใช้ปราณโดยแปลงจากมานาในบรรยากาศเป็นปราณผ่านวิชาจักระ หรือฝึกพลังจิตเพื่อแทรกแซงปรากฏการณ์ธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้มานาจากวิชากสิณ ฝึกพลังวิญญาณให้กล้าแข็งเทียบเท่าเทพเจ้าด้วยวิชาญาณ


ดินแดนพื้นที่ศาสนาคริสต์ มีทั้งเทพเจ้า บุตรแห่งเทพ และนักบุญ เป็นดินแดนที่มีพลังวิญญาณเทพในบรรยากาศสูง เกลียดการใช้เวทย์มนต์เพราะถือว่าพลังควบคุมเหนือธรรมชาติควรเป็นปาฏิหารย์จากพลังเทพเท่านั้น ถ้ามนุษย์สามารถสร้างปาฏิหารย์ได้เองจากเวทย์มนต์จะทำให้ศรัทธาต่อเทพลดลง และจะส่งผลให้พลังวิญญาณเทพในบรรยากาศลดลงด้วย 

[Rumia]

เอาจริงๆนะครับไอ้แฟนตาซียุคกลางความจริงมันอ้างอิงมาจากอินเดียหรือแถบอาหรับครับไม่ไช่จากยุคกลางในยุโรปจริงๆ เพราะระบบอัสวินรวมทังเวทและสัตว์ประหลาดทังหลายไม่อิงจากอินเดียก็แถบอาหรับทังนั้นครับ ที่อิงยุคกลางแถบยุโรปจริงๆมีแค่เซตติ้งเมืองแค่นั้นเลยครับ ระบบกิลในยุคกลางแถบยุโรปไม่มีเวทธาตุต่างๆรวมถึงการบินก็ไม่มีเอาจริงๆ แฟนตาซียุคกลางที่ว่านอกจากรูปแบบเมืองก็ไม่มีอะไรมาจากยุคกลางเลยครับ ถ้าไห้ผมบอกว่ายุคกลางของแถบยุโรปที่เป็นแฟนตาซีจริงๆมันคือแม่มดที่ไช้คำสาปแช่งกับทำยาแค่นั้นเลยครับ มีพวกนักบวชที่ออกเดินทางและกองทัพนักบวชไม่มีเวทมนต์ที่อลังการใดๆทังสิ้น ผมยกตัวอย่างที่โคตรดังอย่างตำนานดาบในหินเมอลินเองก็เป็นแค่นักมายากรไม่ไช่จอมเวท ในแฟนตาซียุคกลางจริงๆมีแค่คำสาปการทำนายการเยียวยาแค่นั้นเลยครับแม้แต่การปราบมังกรยังเป็นการสู้ด้วยดาบ
แต่การนำเข้านิยายจากอินเดียและอาหรับทำไห้มีการแต่งเรื่องแฟนตาซีไห้มีสีสันมากขึ้น ระบบต่างๆก็แทบจะลอกมาจากอาหรับและอินเดียที่นักเวทบินได้ มันมาจากการที่จอมเวทอินเดียอาหรับขี่พรมขี่ไม้กวาดบินนะครับ รวมทังระบบเวทธาตุต่างๆด้วยแน่นอนในยุคกลางยุโรปไม่มีกิลมีแต่ทหารรับจ้างกองโจร แต่อาหรับกับอินเดียมีกิลนะครับ
ถ้าอยากนึกภาพแฟนตาซีอินเดียหรืออาหรับนี่ง่ายมากครับแค่เปรี่ยนเป็นเมืองอินเดียหรืออาหรับเท่านั้นนอกนั้น เหมือนกันหมดเพราะแฟนตาซียุคกลางลอกมาจากอินเดียและอาหรับอีกที่คิดไม่ออกก็นึกภาพเกมปรินออฟเปอร์เชียครับ แฟนตาซียุคกลางชัดๆแค่เปรี่ยนเมืองเป็นแถบอาหรับ
ส่วนแฟนตาซีจีนก็พวกจอมยุทธเทพเซียนนั้นไงครับแต่ส่วนใหณ่ก็ยังอิงจากอินเดียและอาหรับอยู่ดี

[Black7nos]

ยุคกลางที่ส่วนใหญ่เอามา คือ ประมาณ AD. 1212 ครับ เป็นยุคที่ยุโรปเป็นระบบศักดินาแบบ Electoral Count หรือ Holy Roman Empire
ขณะที่อิสลามก็แผ่นอิทธิพลบริเวณอาหรับและเอเชียไมเนอร์รวมถึงแอฟริกาไปจนถึงบางส่วนของสเปน ขณะที่มองโกลเองก็เป็นยุคที่เจงกิสข่านพึ่งตาย


ใครนึกไม่ออกก็ Background ของ Kingdom Comes Deliverence ครับ เป็นยุคที่จักรวรรดิ์ Cuman ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ชนเผ่าเร่ร่อนเผ่าหนึ่ง(ญาติๆมองโกล)เรืองอำนาจและกำลังขยายอิทธิพลมายัง Hungary และ Bohemia





แถมสาวเผ่า Cuman

[samuison]

ถ้าจะสร้างโลกนิยายคล้ายๆเฟทก็พอมีไอเดียอยู่


อย่างที่ข้างบนว่าแต่ล่ะพื้นที่ก็มีเทพเจ้าประจำดินแดนนั้นๆคุมอยู่ และแต่ล่ะพื้นที่ก็มีธรรมชาติของพลังงานแตกต่างกันเช่น


จีน มีเทพมังกรปกครอง ทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยปราณมากกว่ามานา พวกเวทย์มนต์ที่ต้องใช้พลังมานาเลยใช้ไม่ได้ดีเท่าไหร่ กลับกันทำให้วิชาที่ใช้ปราณเป็นหลักเฟื่องฟูแทน


อินเดีย ออกแนวสมดุลย์เนื่องจากเป็นดินแดนที่มีทั้งเทพเจ้าและผู้รู้แจ้ง (พระพุทธเจ้า) ทำให้เป็นต้นกำเนิดวิชาต่างๆมากมาย เวทย์มนต์ก็ใช้ได้หลากหลาย ทั้งแบบขอยืมพลังจากวิญญาณเทพ หรือต่อท่อสูบมานาจากโลกโดยตรง (เข้าถึงปรมาตมัน) ทั้งวิธีใช้ปราณโดยแปลงจากมานาในบรรยากาศเป็นปราณผ่านวิชาจักระ หรือฝึกพลังจิตเพื่อแทรกแซงปรากฏการณ์ธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้มานาจากวิชากสิณ ฝึกพลังวิญญาณให้กล้าแข็งเทียบเท่าเทพเจ้าด้วยวิชาญาณ


ดินแดนพื้นที่ศาสนาคริสต์ มีทั้งเทพเจ้า บุตรแห่งเทพ และนักบุญ เป็นดินแดนที่มีพลังวิญญาณเทพในบรรยากาศสูง เกลียดการใช้เวทย์มนต์เพราะถือว่าพลังควบคุมเหนือธรรมชาติควรเป็นปาฏิหารย์จากพลังเทพเท่านั้น ถ้ามนุษย์สามารถสร้างปาฏิหารย์ได้เองจากเวทย์มนต์จะทำให้ศรัทธาต่อเทพลดลง และจะส่งผลให้พลังวิญญาณเทพในบรรยากาศลดลงด้วย 

ขอบคุณมทากครับ ที่ผมคิดไว้ก็ประมาณอย่างนั้นเหมือนกัน
แบบเดียวกับแนวเพอร์ซี่ย์แจ็กสันเองที่เป้นแนวยุคใหม่ ก็ยอมรับว่าเทพเจ้าแห่งความตาย อียิปต์กรีกโรมันต้องแบ่งๆโลกกันใช้ที่ท่านให้แต่ละทวีป มีแนวทางต่างกันก็น่าสนใจดีครับ
ผมมีแนวคิดที่คล้ายอย่างนี้ในแนวกลำังภายในเมหือนกัน ประมาณว่าประเทศที่แห้งแล้งกันดาร อาจจะเน้นการฝึกร่างกายหรือสายเลอืดพิเศษมากกว่า
อินเดียอาจจะมีคนชั้นต่ำจำนวนมาก แต่ไม่สำคัญ เพระากรรณะคนเดียวก็ชนะระถีได้กว่าล้านคน มีพลังมากเท่าคนล้านคนอยู่แล้ว
แนวทางคริสต์ ก็มีเทวทูตมิคาเอล โมเสส โซโลมอนที่ตอ่สัญยาณ วิวรณ์กับพรเจ้าได้โดยตรง ควบคุมปีศาจได้นับร้อยพัน
มีมุกให้เล่นเยอะ ปัญหาคือ พยายามอธิบายว่าทำไมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชนะไปเลยนั่นล่ะครับ
มุก isolationism ที่ไม่ชอบออกจากแดนตนเองก็ต้องมาwarhammer ก็เล่นมุกว่าแนวญี่ปุ่นนั้นรังเกียจคนต่างชาติ ไม่อยากให้เข้ามาในประเทศคอืการปิดประเทศนั่นเองครับ

ยุคกลางที่ส่วนใหญ่เอามา คือ ประมาณ AD. 1212 ครับ เป็นยุคที่ยุโรปเป็นระบบศักดินาแบบ Electoral Count หรือ Holy Roman Empire
ขณะที่อิสลามก็แผ่นอิทธิพลบริเวณอาหรับและเอเชียไมเนอร์รวมถึงแอฟริกาไปจนถึงบางส่วนของสเปน ขณะที่มองโกลเองก็เป็นยุคที่เจงกิสข่านพึ่งตาย
[img/]

ใครนึกไม่ออกก็ Background ของ Kingdom Comes Deliverence ครับ เป็นยุคที่จักรวรรดิ์ Cuman ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ชนเผ่าเร่ร่อนเผ่าหนึ่ง(ญาติๆมองโกล)เรืองอำนาจและกำลังขยายอิทธิพลมายัง Hungary และ Bohemia

[img/]

[img/]

แถมสาวเผ่า Cuman
[img/]

[img/]

[img/]

ขอบคุณครับ
ผมพยายามจะนึกภาพว่าสมัยก่อนไม่ใช่ชาติรัฐสมัยนี้ แต่นั่นคงแปลว่าศาสนาจะมีอิทธิพลมากกว่าเดิมนั่นเอง เพระาเป้นตัวประสานเข้าด้วยกันของคนที่อยู่ต่างพื้นที่นับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน
..นึกถึงประวัติศาสตร์หมิง
ที่ชาวเผ่าแม้วคือคนที่ดันจงรักภักดีมากที่สุดแม้ตอนที่หมิงจะล่มสลายเผ่าแม้วก็ยังคอยช่วย
อ่านจากจตำนานประมาณว่า มีความสัมพันะ์ดีมาตั้งแต่สมัยจุหยวนจางมั้ง?
ดำเนินนโยบายว่าแม้วอยู่ตามป่าตามเขาก็ให้อยู่ไป ทางการไม่ไปยุ่งมากนักว่างั้น

เอาจริงๆนะครับไอ้แฟนตาซียุคกลางความจริงมันอ้างอิงมาจากอินเดียหรือแถบอาหรับครับไม่ไช่จากยุคกลางในยุโรปจริงๆ เพราะระบบอัสวินรวมทังเวทและสัตว์ประหลาดทังหลายไม่อิงจากอินเดียก็แถบอาหรับทังนั้นครับ ที่อิงยุคกลางแถบยุโรปจริงๆมีแค่เซตติ้งเมืองแค่นั้นเลยครับ ระบบกิลในยุคกลางแถบยุโรปไม่มีเวทธาตุต่างๆรวมถึงการบินก็ไม่มีเอาจริงๆ แฟนตาซียุคกลางที่ว่านอกจากรูปแบบเมืองก็ไม่มีอะไรมาจากยุคกลางเลยครับ ถ้าไห้ผมบอกว่ายุคกลางของแถบยุโรปที่เป็นแฟนตาซีจริงๆมันคือแม่มดที่ไช้คำสาปแช่งกับทำยาแค่นั้นเลยครับ มีพวกนักบวชที่ออกเดินทางและกองทัพนักบวชไม่มีเวทมนต์ที่อลังการใดๆทังสิ้น ผมยกตัวอย่างที่โคตรดังอย่างตำนานดาบในหินเมอลินเองก็เป็นแค่นักมายากรไม่ไช่จอมเวท ในแฟนตาซียุคกลางจริงๆมีแค่คำสาปการทำนายการเยียวยาแค่นั้นเลยครับแม้แต่การปราบมังกรยังเป็นการสู้ด้วยดาบ
แต่การนำเข้านิยายจากอินเดียและอาหรับทำไห้มีการแต่งเรื่องแฟนตาซีไห้มีสีสันมากขึ้น ระบบต่างๆก็แทบจะลอกมาจากอาหรับและอินเดียที่นักเวทบินได้ มันมาจากการที่จอมเวทอินเดียอาหรับขี่พรมขี่ไม้กวาดบินนะครับ รวมทังระบบเวทธาตุต่างๆด้วยแน่นอนในยุคกลางยุโรปไม่มีกิลมีแต่ทหารรับจ้างกองโจร แต่อาหรับกับอินเดียมีกิลนะครับ
ถ้าอยากนึกภาพแฟนตาซีอินเดียหรืออาหรับนี่ง่ายมากครับแค่เปรี่ยนเป็นเมืองอินเดียหรืออาหรับเท่านั้นนอกนั้น เหมือนกันหมดเพราะแฟนตาซียุคกลางลอกมาจากอินเดียและอาหรับอีกที่คิดไม่ออกก็นึกภาพเกมปรินออฟเปอร์เชียครับ แฟนตาซียุคกลางชัดๆแค่เปรี่ยนเมืองเป็นแถบอาหรับ
ส่วนแฟนตาซีจีนก็พวกจอมยุทธเทพเซียนนั้นไงครับแต่ส่วนใหณ่ก็ยังอิงจากอินเดียและอาหรับอยู่ดี

ผมว่าอาหรับนี่คิดดิแนดนแห่งอารยธรรมโบราณเลยล่ะครับ ถนัดการค้าขาย วิทยาศาสตร์ต่างๆแนวจินนี่ ที่เวทย์จะตื่นตาตื่นใจมากกว่าผมพยายานึกภาพเผ่าบากีราก้าแบบใน  Berserk น่ะครับผมยังคาใจเลยว่า บากีราก้า ยอมให้ราชาตอนแรกฆ่าคนของตนเองได้อย่างไรเหมือนกัน
ยอดฝีมือของราชามิดแลนด์ไม่น่เาหลือแล้วหลังจากกำจัดกัซกับกองพันเหยี่ยวไปน่ะ

[Black7nos]

[quote/]ขอบคุณมทากครับ ที่ผมคิดไว้ก็ประมาณอย่างนั้นเหมือนกัน
แบบเดียวกับแนวเพอร์ซี่ย์แจ็กสันเองที่เป้นแนวยุคใหม่ ก็ยอมรับว่าเทพเจ้าแห่งความตาย อียิปต์กรีกโรมันต้องแบ่งๆโลกกันใช้ที่ท่านให้แต่ละทวีป มีแนวทางต่างกันก็น่าสนใจดีครับ
ผมมีแนวคิดที่คล้ายอย่างนี้ในแนวกลำังภายในเมหือนกัน ประมาณว่าประเทศที่แห้งแล้งกันดาร อาจจะเน้นการฝึกร่างกายหรือสายเลอืดพิเศษมากกว่า
อินเดียอาจจะมีคนชั้นต่ำจำนวนมาก แต่ไม่สำคัญ เพระากรรณะคนเดียวก็ชนะระถีได้กว่าล้านคน มีพลังมากเท่าคนล้านคนอยู่แล้ว
แนวทางคริสต์ ก็มีเทวทูตมิคาเอล โมเสส โซโลมอนที่ตอ่สัญยาณ วิวรณ์กับพรเจ้าได้โดยตรง ควบคุมปีศาจได้นับร้อยพัน
มีมุกให้เล่นเยอะ ปัญหาคือ พยายามอธิบายว่าทำไมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชนะไปเลยนั่นล่ะครับ
มุก isolationism ที่ไม่ชอบออกจากแดนตนเองก็ต้องมาwarhammer ก็เล่นมุกว่าแนวญี่ปุ่นนั้นรังเกียจคนต่างชาติ ไม่อยากให้เข้ามาในประเทศคอืการปิดประเทศนั่นเองครับ
[quote/]
ขอบคุณครับ
ผมพยายามจะนึกภาพว่าสมัยก่อนไม่ใช่ชาติรัฐสมัยนี้ แต่นั่นคงแปลว่าศาสนาจะมีอิทธิพลมากกว่าเดิมนั่นเอง เพระาเป้นตัวประสานเข้าด้วยกันของคนที่อยู่ต่างพื้นที่นับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน
..นึกถึงประวัติศาสตร์หมิง
ที่ชาวเผ่าแม้วคือคนที่ดันจงรักภักดีมากที่สุดแม้ตอนที่หมิงจะล่มสลายเผ่าแม้วก็ยังคอยช่วย
อ่านจากจตำนานประมาณว่า มีความสัมพันะ์ดีมาตั้งแต่สมัยจุหยวนจางมั้ง?
ดำเนินนโยบายว่าแม้วอยู่ตามป่าตามเขาก็ให้อยู่ไป ทางการไม่ไปยุ่งมากนักว่างั้น[quote/]
ผมว่าอาหรับนี่คิดดิแนดนแห่งอารยธรรมโบราณเลยล่ะครับ ถนัดการค้าขาย วิทยาศาสตร์ต่างๆแนวจินนี่ ที่เวทย์จะตื่นตาตื่นใจมากกว่าผมพยายานึกภาพเผ่าบากีราก้าแบบใน  Berserk น่ะครับผมยังคาใจเลยว่า บากีราก้า ยอมให้ราชาตอนแรกฆ่าคนของตนเองได้อย่างไรเหมือนกัน
ยอดฝีมือของราชามิดแลนด์ไม่น่เาหลือแล้วหลังจากกำจัดกัซกับกองพันเหยี่ยวไปน่ะ

ศาสนจักรมีอำนาจมากครับในยุคกลางไปจนถึงยุคเรเนซองหรือ ยุค Enlightenment (เรืองปัญญา)
ศาสนจักรเริ่มหมดอำนาจไปตอบที่ Byzantine Empire หรือ Eastern Roman Empire แตกถูกจักรวรรดิออตโตมันยึดได้


พอไบแซนไทน์แตก มันเลยเกิดการตั้งคำถามของชาวยุโรปว่าเราจะอยู่อย่างดักดาน ในขณะที่อิสลามนั้นมีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่า(ออตโตมันเอาชนะไบแซนไทน์และเป็นครั้งแรกของโลกที่เอาปืนใหญ่มาใช้)

ภาพจักรวรรดิ์ไบแซนไทน์ หรือ จักรวรรดิ์โรมันตะวันออก
ชาวยุโรปเลยเริ่มหวนไปค้นคว้าองค์ความรู้และรื้อฟื้นวิทยาการเดิมของกรีกและโรมันและมาพัฒนาต่อยอด ตอนนั้นแหละที่คนเริ่มเชื่อในศาสนจักรน้อยลง
ศาสนจักรไม่ได้เป็นทุกอย่างของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว และบางส่วนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับกิจการของศาสนจักรจนเกิดนิกายใหม่ๆ

[samuison]

[quote/]


ศาสนจักรมีอำนาจมากครับในยุคกลางไปจนถึงยุคเรเนซองหรือ ยุค Enlightenment (เรืองปัญญา)
ศาสนจักรเริ่มหมดอำนาจไปตอบที่ Byzantine Empire หรือ Eastern Roman Empire แตกถูกจักรวรรดิออตโตมันยึดได้


พอไบแซนไทน์แตก มันเลยเกิดการตั้งคำถามของชาวยุโรปว่าเราจะอยู่อย่างดักดาน ในขณะที่อิสลามนั้นมีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่า(ออตโตมันเอาชนะไบแซนไทน์และเป็นครั้งแรกของโลกที่เอาปืนใหญ่มาใช้)
[img/]
ภาพจักรวรรดิ์ไบแซนไทน์ หรือ จักรวรรดิ์โรมันตะวันออก
ชาวยุโรปเลยเริ่มหวนไปค้นคว้าองค์ความรู้และรื้อฟื้นวิทยาการเดิมของกรีกและโรมันและมาพัฒนาต่อยอด ตอนนั้นแหละที่คนเริ่มเชื่อในศาสนจักรน้อยลง
ศาสนจักรไม่ได้เป็นทุกอย่างของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว และบางส่วนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับกิจการของศาสนจักรจนเกิดนิกายใหม่ๆ

เรื่องวิทยาการน่าสนใจครับมีคนว่าโจนออฟอาร์ค เป็นแค่เชียร์ลีดเดอส์ คนบบางคนก็บอกว่าได้รับพรจากพระเจ้า แต่เจอแนวความคิดเห็นอีกอย่างหนึ่งว่าโจนที่จริงคือคนที่มีกลยุทธการรบที่เก่งมากๆต่างหากอาจจะเป็นพวกที่มีพรสวรรค์ในการมองภาพสามมิติจากอากาศรู้ว่าต้องใช้ปืนใหญ่จากตรงไหน
อาจจะเป็นตัวอย่างหนึ่งของสายศรัทธาที่ใช้เทคโนโลยีล่ะครับ
..
การออกแบบความเชือ่ผมว่าเป็นอะไรที่สำคัญมากๆเพระาส่งผลกระทบต่ออารยะธรรมแนวคิดของชนชาตินั้นๆไปอ่านเจอแนวคิดหนึ่งว่าที่ตอนแรกๆ ชาวฮั่นยังแพ้เซียงหนูก็เพระาชาวเซียงหนูนั้นมีวิธีจัดรุปแบบสำมะโนประชากรที่ก้าวหน้าใช้ได้เลย ทำให้ระดมคนได้มากกว่า

[nosta]

ใน warhammer จีนคือ Cathay ตามเม้นบนๆว่า


จุดเด่นคล้ายจีนยุคหมิง


เน้นป้องกันมีกำแพงเมืองจีน
ยูนิตเกราะหนัก ดินปืน แต่เพิ่ม automatron ขึ้นมาแถมมียูนิตบอลลูนอีก ดินปืนถือว่าดีที่สุดใน warhammer อันนี้วิจารณ์โดยdwarf เอง จุดด้อยคือไม่มีเครื่องจักรไอน้ำ
เป็นอาณาจักรมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุด ประชากรมากที่สุด แกร่งที่สุดในหมู่มนุษย์ สามารถใส่เดี่ยวกับ chaos ได้โดยไม่ต้องพึ่งเพื่อน
ใน warhammer3 โดนเนิร์ฟโดยให้เล่นได้แค่ 2 ใน 5 ของอาณาจักร

[samuison]

ใน warhammer จีนคือ Cathay ตามเม้นบนๆว่า


จุดเด่นคล้ายจีนยุคหมิง


เน้นป้องกันมีกำแพงเมืองจีน
ยูนิตเกราะหนัก ดินปืน แต่เพิ่ม automatron ขึ้นมาแถมมียูนิตบอลลูนอีก ดินปืนถือว่าดีที่สุดใน warhammer อันนี้วิจารณ์โดยdwarf เอง จุดด้อยคือไม่มีเครื่องจักรไอน้ำ
เป็นอาณาจักรมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุด ประชากรมากที่สุด แกร่งที่สุดในหมู่มนุษย์ สามารถใส่เดี่ยวกับ chaos ได้โดยไม่ต้องพึ่งเพื่อน
ใน warhammer3 โดนเนิร์ฟโดยให้เล่นได้แค่ 2 ใน 5 ของอาณาจักร

ก็นั่นล่ะครับผมสนใจเวทย์ที่ใช้ต่างไปด้วยเวทย์อันตรายมากใน warhammer ทุกคนนับถือวิทยาลัยเวทย์ที่สร้างโดยเอลฟ์ว่าถูกต้องแต่หากคาเทย์มีเวทย์แบบอื่นก็แสดงว่าเวทย์แบบเอลฟ์อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียวในการใช้เวทย์ต่างๆ
แสดงถึงความต่างทางวัฒนธรรม ที่ทางเทคนิค มันก็มีคนเป็นวรยุทธอยู่ แค่อาจะจไม่เหมาะกับธีมเอ็มไพร์ในแนวตะวันตกเท่านั้นเอง

[AlexW]

ต่อๆ


พื้นที่แถบทะเลทรายอย่างตะวันออกกลาง ส่วนที่ไม่มีเทพปกครองก็จะมีบรรยากาศเป็นมานาเข้มข้นสูง จนเกิดพวกภูติแบบจินหรือจินนี่ที่เป็นมานาที่มีชีวิต ซึ่งพวกภูติพวกนี้จะมีพลังเวทย์มนต์สูง ใช้เวทย์มนต์แปลกๆได้หลากหลายเหนือกว่ามนุษย์จนเกิดตำนานด้านเวทย์มนต์ของทางอาหรับ


พื้นที่เกาะบริเทน ก็คล้ายๆกันกับอาหรับ พื้นที่ที่ไม่มีเทพปกครองจะมีมานาเข้มข้นสูงจนเกิดภูติมากมายที่เป็นมานาที่มีชีวิต แต่มนุษย์ในพื้นที่กลับไม่ค่อยมีความรู้ด้านการใช้เวทย์มนต์จากมานาโดยตรง แต่หันไปพัฒนาวิธีสื่อสารกับภูติเพื่อขอให้ช่วยเหลือแทน จนสามารถพัฒนาอักษรรูนเพื่อใช้สื่อสารและขอยืมพลังจากภูติในการใช้เวทย์มนต์


พื้นที่เมโสอเมริกา ถูกปกครองโดยเทพมาร บรรยากาศจะมีไอจิตมารเข้มข้น ทำให้ผู้คนในพื้นที่นั้นถูกครอบงำและค่อนข้างป่าเถื่อนกระหายเลือด ชอบทำสงครามฆ่าฟันและจับมนุษย์ที่พ่ายแพ้มาทรมาณหรือสังหารเพื่อการบูชายัญแด่เทพมาร วิชาส่วนใหญ่ก็จะเน้นด้านคำสาป มนต์ดำที่ใช้พลังจากจิตมาร

[samuison]

ต่อๆ


พื้นที่แถบทะเลทรายอย่างตะวันออกกลาง ส่วนที่ไม่มีเทพปกครองก็จะมีบรรยากาศเป็นมานาเข้มข้นสูง จนเกิดพวกภูติแบบจินหรือจินนี่ที่เป็นมานาที่มีชีวิต ซึ่งพวกภูติพวกนี้จะมีพลังเวทย์มนต์สูง ใช้เวทย์มนต์แปลกๆได้หลากหลายเหนือกว่ามนุษย์จนเกิดตำนานด้านเวทย์มนต์ของทางอาหรับ


พื้นที่เกาะบริเทน ก็คล้ายๆกันกับอาหรับ พื้นที่ที่ไม่มีเทพปกครองจะมีมานาเข้มข้นสูงจนเกิดภูติมากมายที่เป็นมานาที่มีชีวิต แต่มนุษย์ในพื้นที่กลับไม่ค่อยมีความรู้ด้านการใช้เวทย์มนต์จากมานาโดยตรง แต่หันไปพัฒนาวิธีสื่อสารกับภูติเพื่อขอให้ช่วยเหลือแทน จนสามารถพัฒนาอักษรรูนเพื่อใช้สื่อสารและขอยืมพลังจากภูติในการใช้เวทย์มนต์


พื้นที่เมโสอเมริกา ถูกปกครองโดยเทพมาร บรรยากาศจะมีไอจิตมารเข้มข้น ทำให้ผู้คนในพื้นที่นั้นถูกครอบงำและค่อนข้างป่าเถื่อนกระหายเลือด ชอบทำสงครามฆ่าฟันและจับมนุษย์ที่พ่ายแพ้มาทรมาณหรือสังหารเพื่อการบูชายัญแด่เทพมาร วิชาส่วนใหญ่ก็จะเน้นด้านคำสาป มนต์ดำที่ใช้พลังจากจิตมาร

ขอบคุณครับท่าน ความจริงตำนานไอริลกับบริเตน พี่หมาคูกับสกาฮะก็ใกล้เคียงกันนั่นล่ะนะแนนวมีลายที่ตัวสักยันต์อะไรแถวนั้นก็มีผมเลยมองว่าที่จริงทางเทคนิคแล้วตำราอาถรรพ์ของพวกเรามาจากที่เดียวกัน
อย่างผมเคยเจอว่า การทำหงสืร่อนมังกรรำของเรา เหมือนกับตำราฝรั่งแนวหนัง midsomer เป๊ะเลย
...
แนวแอซแท็คน่าสนใจดีครับ ที่บูชาด้วยหัวใจ เติมเชือ้ไฟให้กับดวงอาทิตย์หากไม่เติมดวงอาทิตย์จะดับลงว่าอย่างนั้น นึกดูพวกสายนั้นนี่กลัวเอามากๆเลย

[AlexW]

[quote/]ขอบคุณมทากครับ ที่ผมคิดไว้ก็ประมาณอย่างนั้นเหมือนกัน
แบบเดียวกับแนวเพอร์ซี่ย์แจ็กสันเองที่เป้นแนวยุคใหม่ ก็ยอมรับว่าเทพเจ้าแห่งความตาย อียิปต์กรีกโรมันต้องแบ่งๆโลกกันใช้ที่ท่านให้แต่ละทวีป มีแนวทางต่างกันก็น่าสนใจดีครับ
ผมมีแนวคิดที่คล้ายอย่างนี้ในแนวกลำังภายในเมหือนกัน ประมาณว่าประเทศที่แห้งแล้งกันดาร อาจจะเน้นการฝึกร่างกายหรือสายเลอืดพิเศษมากกว่า
อินเดียอาจจะมีคนชั้นต่ำจำนวนมาก แต่ไม่สำคัญ เพระากรรณะคนเดียวก็ชนะระถีได้กว่าล้านคน มีพลังมากเท่าคนล้านคนอยู่แล้ว
แนวทางคริสต์ ก็มีเทวทูตมิคาเอล โมเสส โซโลมอนที่ตอ่สัญยาณ วิวรณ์กับพรเจ้าได้โดยตรง ควบคุมปีศาจได้นับร้อยพัน
มีมุกให้เล่นเยอะ ปัญหาคือ พยายามอธิบายว่าทำไมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชนะไปเลยนั่นล่ะครับ
มุก isolationism ที่ไม่ชอบออกจากแดนตนเองก็ต้องมาwarhammer ก็เล่นมุกว่าแนวญี่ปุ่นนั้นรังเกียจคนต่างชาติ ไม่อยากให้เข้ามาในประเทศคอืการปิดประเทศนั่นเองครับ
[quote/]
ขอบคุณครับ
ผมพยายามจะนึกภาพว่าสมัยก่อนไม่ใช่ชาติรัฐสมัยนี้ แต่นั่นคงแปลว่าศาสนาจะมีอิทธิพลมากกว่าเดิมนั่นเอง เพระาเป้นตัวประสานเข้าด้วยกันของคนที่อยู่ต่างพื้นที่นับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน
..นึกถึงประวัติศาสตร์หมิง
ที่ชาวเผ่าแม้วคือคนที่ดันจงรักภักดีมากที่สุดแม้ตอนที่หมิงจะล่มสลายเผ่าแม้วก็ยังคอยช่วย
อ่านจากจตำนานประมาณว่า มีความสัมพันะ์ดีมาตั้งแต่สมัยจุหยวนจางมั้ง?
ดำเนินนโยบายว่าแม้วอยู่ตามป่าตามเขาก็ให้อยู่ไป ทางการไม่ไปยุ่งมากนักว่างั้น[quote/]
ผมว่าอาหรับนี่คิดดิแนดนแห่งอารยธรรมโบราณเลยล่ะครับ ถนัดการค้าขาย วิทยาศาสตร์ต่างๆแนวจินนี่ ที่เวทย์จะตื่นตาตื่นใจมากกว่าผมพยายานึกภาพเผ่าบากีราก้าแบบใน  Berserk น่ะครับผมยังคาใจเลยว่า บากีราก้า ยอมให้ราชาตอนแรกฆ่าคนของตนเองได้อย่างไรเหมือนกัน
ยอดฝีมือของราชามิดแลนด์ไม่น่เาหลือแล้วหลังจากกำจัดกัซกับกองพันเหยี่ยวไปน่ะ

เรื่องที่ว่าทำไมไม่มีฝ่ายใดฝ่ายนึงชนะไปเลยแถได้ไม่ยาก ก็เพราะอยู่นอกอาณาเขตปกครองของเทพประจำถิ่นไง ขนาดในแดนมนุษย์ยังมีอาณาเขตจำกัดเป็นของตัวเอง ย่อมไม่ต้องพูดถึงโลกในมิติอื่น เช่น สวรรค์ที่เป็นที่อยู่ของเทพ ซึ่งมนุษย์ทุกเผ่าบอกเหมือนกันหมดว่าเป็นมิติที่มีตำแหน่งพื้นที่อยู่บนฟ้าของโลกมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็มีมิติที่มีตำแหน่งตั้งอยู่ใต้แผ่นดินของโลกมนุษย์ที่พวกวิญญาณเทพไม่ค่อยคิดที่จะไปอยู่กันก็จะกลายเป็นฐานของสิ่งที่ตรงข้ามกับเทพ เช่น พวกมารหรือปีศาจ ที่อำนาจของเทพไปไม่ถึง

[quote/]
ขอบคุณครับท่าน ความจริงตำนานไอริลกับบริเตน พี่หมาคูกับสกาฮะก็ใกล้เคียงกันนั่นล่ะนะแนนวมีลายที่ตัวสักยันต์อะไรแถวนั้นก็มีผมเลยมองว่าที่จริงทางเทคนิคแล้วตำราอาถรรพ์ของพวกเรามาจากที่เดียวกัน
อย่างผมเคยเจอว่า การทำหงสืร่อนมังกรรำของเรา เหมือนกับตำราฝรั่งแนวหนัง midsomer เป๊ะเลย
...
แนวแอซแท็คน่าสนใจดีครับ ที่บูชาด้วยหัวใจ เติมเชือ้ไฟให้กับดวงอาทิตย์หากไม่เติมดวงอาทิตย์จะดับลงว่าอย่างนั้น นึกดูพวกสายนั้นนี่กลัวเอามากๆเลย

 

แนวแอซแท็คก็แต่งเนื้อเรื่อง บอกว่าผู้คนพื้นที่นั้นไม่ได้กลัวแบบไม่มีเหตุผล แต่เคยเจอเหตุการณ์เทพมารดับดวงอาทิตย์ให้ดูมาแล้วจริงๆ ประมาณว่าใช้จิตมารปฏิเสธกฏธรรมชาติบางอย่างของโลกได้และสร้างกฏของตัวเองขึ้นมาในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง คล้ายๆเรียลลิตี้มาเบลในเฟท เช่นในกรณีของแอซแท็คก็โดน "ปฏิเสธแสงอาทิตย์" เพราะตัวตนของเหล่ามารก็คือสิ่งที่ปฏิเสธกฏเกณฑ์ต่างๆทั้งของเทพและของโลก